อุบาสิกายอดนักสร้างบารมี ตอนที่ 3

        ภายหลังจากที่เทพบุตรใหม่ได้ฟังเรื่องราวของตัวเอง ในช่วงที่แปรเปลี่ยนจากกายมนุษย์ละเอียดที่เป็นผู้หญิงมาเป็นกายเทพบุตร ไปเมื่อวานนี้ ท่านก็ไม่คาดคิดว่า เรื่องราวของตนจะส่งผลทำให้เหล่ากายละเอียด รวมถึงเทวดาในชั้นต่างๆทั้งที่มีวิมานอยู่บนพื้นมนุษย์ไปจนถึงดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ ต่างโกลาหลโจษขานกันไปทั่วขนาดนี้ เพราะว่าในช่วงนั้น เทพบุตรใหม่ไม่ได้สนใจหรือสังเกตสิ่งอื่นใดเลย นอกจากการรูปกายใหม่ของตัวเอง และเหล่าบริวารที่มาพร้อมกับเทวรถ อีกทั้ง ในช่วงนั้นใจของเทพบุตรใหม่กำลังจดจ่อที่จะเดินทางกลับมาที่วัดพระธรรมกาย ท่านจึงไม่ได้สังเกตสิ่งรอบข้างว่า...ในตอนนั้นมีอะไรเกิดขึ้น

 

 

 

        ดังนั้น เมื่อเทพบุตรใหม่ได้ยินว่าเรื่องของตัวเองเป็นที่โจษจันและกล่าวขานกันไปทั่ว ความปลื้มปีติใจอย่างสุดประมาณก็พลันบังเกิดขึ้นอยู่ภายในใจของเทพบุตรใหม่ในทันที เพราะท่านไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า เรื่องราวการสร้างบารมีของตัวเองจะเป็นที่กล่าวขานจนไปถึงหมู่ของชาวสวรรค์ชั้นดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ท่านคิดอยู่เสมอว่า “ตัวเองเป็นเพียงจุดสว่างจุดเล็กๆที่มาร่วมสร้างบารมีกับหมู่คณะเท่านั้น แต่มาในวันนี้ เรื่องราวของตัวเองกลับเป็นที่กล่าวขานในหมู่ของชาวสวรรค์ โดยเฉพาะชาวสวรรค์ชั้นดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ” ซึ่งเทพบุตรใหม่รู้สึกปลื้มปีติและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ตัวเองได้รับเกียรติถึงขนาดนี้

 

 

 

 

        หลังจากที่เทพบุตรใหม่ (อุบาสิกาปราณี) ได้เดินแบบตัวลอยๆขึ้นไปนั่งอยู่บนรัตนบัลลังก์ที่ตั้งอยู่ตรงกลางเทวรถแล้ว ด้วยความที่ท่านได้ตั้งจิตมาแต่ไกลตั้งใจมาแต่ต้นว่า “ถ้าหากตัวท่านละจากโลกนี้แล้ว ท่านจะต้องมาที่วัดเพื่อแสดงความเคารพ และน้อมสักการะต่อมหาธรรมกายเจดีย์ กอปรกับบุญในตัวของท่านก็ได้น้อมให้เกิดความรู้สึกนี้เช่นกัน (ในความเป็นจริงแล้ว การมาวัดเพื่อแสดงความเคารพ และน้อมสักการะต่อมหาธรรมกายเจดีย์นั้น เทพบุตรใหม่ก็เคยได้ยินได้ฟังจากกรณีศึกษากฎแห่งกรรม (Case Study) และปรโลกนิวส์หลายๆเรื่อง มาก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแต่ในครั้งนี้ บุญในตัวของเทพบุตรใหม่ได้น้อมให้เกิดความรู้สึกอยากที่จะทำขึ้นมาเอง)

 

        เมื่อเป็นเช่นนี้ เทพบุตรใหม่จึงไม่รอช้า รีบมุ่งหน้าตรงมาที่วัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นดินแดนที่ท่านทุ่มเทชีวิตสร้างบารมีมายาวนานกว่า 24 ปี เพื่อเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์ ครั้นเทพบุตรใหม่ได้มาถึงวัดพระธรรมกายแล้ว ท่านก็ได้ทำตามหลักวิชชาที่ได้ศึกษามาจากโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ด้วยการนำเทวรถของตนเวียนประทักษิณรอบเขตพื้นที่วัด และนำเทวรถมาเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์ เป็นจำนวนทั้งหมดสามรอบ หลังจากนั้น เทพบุตรใหม่จึงได้นำเทวรถมาจอดไว้ที่บริเวณด้านหน้ามหาธรรมกายเจดีย์

 

 

 

 

        หลังจากที่เทพบุตรใหม่ได้นำเทวรถมาจอดไว้ที่บริเวณด้านหน้ามหาธรรมกายเจดีย์แล้ว ท่านได้นั่งสมาธิตามหลักวิชชาที่พระเถระที่ท่านเคารพรักอย่างสูงสุดได้เคยสอนเอาไว้ และได้ตรึกระลึกนึกถึงบุญทุกๆบุญที่ตัวเองได้เคยสั่งสมเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อเทพบุตรใหม่ได้เห็นภาพแห่งการสร้างบารมีที่ตัวเองได้เคยสั่งสมเอาไว้มากเข้า...มากเข้า ก็ทำให้ท่านยิ่งรู้สึกปลื้มปีติใจมากขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งก็เป็นผลทำให้กายของท่านผ่องใสและสว่างไสวหนักมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม

 

 

 

 

        ในระหว่างที่เทพบุตรใหม่กำลังนั่งสมาธิ และตรึกระลึกนึกถึงบุญ อยู่บริเวณด้านหน้ามหาธรรมกายเจดีย์อยู่นั้น ท่านก็ได้ยินชื่อของตัวเองถูกประกาศรายนามเป็นเจ้าภาพผู้ร่วมบุญไฟส่องสว่างมหาธรรมกายเจดีย์ และในทันทีที่สิ้นเสียงการประกาศรายนาม ความปลื้มปีติใจก็ได้แผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กายของเทพบุตรใหม่ จนเป็นผลทำให้ภาพของบุญจากการสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว ที่ท่านได้ทุ่มเทแรงกายและแรงใจอย่างเต็มที่เต็มกำลัง กล่าวคือ ทั้งที่ทำด้วยตัวเอง และไปบอกบุญคนอื่น รวมแล้วกว่า 145 องค์ ได้ย้อนมาปรากฏให้เทพบุตรใหม่ได้เห็นอย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็ส่งผลทำให้ท่านยิ่งรู้สึกปลื้มปีติเบิกบานในบุญเป็นอย่างมากแบบแบบทับทวีไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งเทพบุตรใหม่มีความรู้สึกปลื้มปีติเบิกบานในบุญมากขึ้นเท่าไหร่ ท่านก็ยิ่งรู้สึกอยากที่จะพบ อยากที่จะเจอ และอยากที่จะกราบบุคคลผู้เป็นต้นบุญที่ช่วยชี้แนะหนทางสว่างให้กับท่านมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งก็คือ พระเถระที่เทพบุตรใหม่รักและเคารพอย่างสูงสุด

 

 

 

        ดังนั้น เมื่อช่วงเวลาที่เทพบุตรใหม่กำลังรอคอยมาถึง ด้วยความที่ท่านอยากจะมาพบกับบุคคลที่ท่านเคารพรักอย่างสูงสุด ท่านจึงไม่รอช้า...รีบเคลื่อนเทวรถไปที่โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา (ศาลาจาตุมหาราชิกา วัดพระธรรมกาย) ในทันที ครั้นถึงแล้ว เทพบุตรใหม่ก็ได้เข้าไปนั่งรอพระเถระด้วยอาการสงบเสงี่ยมสง่างาม อยู่บริเวณด้านหน้าโต๊ะของพระเถระ เมื่อพระเถระเข้ามาภายในโรงเรียนแล้ว เทพบุตรใหม่ก็ได้ก้มลงกราบพระเถระด้วยความเคารพรักและนอบน้อมอย่างสูงสุด จากนั้น เทพบุตรใหม่ก็ตั้งใจนั่งฟังธรรมจากพระเถระไปพร้อมกับเพื่อนๆนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิททยา

 

 

 

 

        ในระหว่างที่เทพบุตรใหม่กำลังฟังธรรมอยู่นั้น ท่านมีความรู้สึกเกิดขึ้นมาในใจอย่างน้อย 3 อย่าง ได้แก่

 

1.เทพบุตรใหม่รู้สึกปลื้มปีติใจ และซาบซึ้งในพระคุณของพระเถระที่ท่านเคารพรักอย่างสูงสุด เพราะถ้าไม่มีพระเถระองค์นี้ เหตุการณ์ในวันนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

 

2.เทพบุตรใหม่รู้สึกอยากที่จะมีชีวิตอยู่สร้างบารมีกับหมู่คณะและเพื่อนนักสร้างบารมี ต่อไปอีกนานๆ

 

3.เทพบุตรใหม่กำลังรอคอยที่จะฟังเรื่องราวของตัวเองจากพระเถระอย่างใจจดใจจ่อ

 

        เมื่อพระเถระเดินทางกลับแล้ว เทพบุตรใหม่ก็ได้ขึ้นไปนั่งอยู่บนเทวรถของตัวเองตามเดิม จากนั้นก็ได้เคลื่อนเทวรถกลับไปจอดไว้ที่บริเวณด้านหน้ามหาธรรมกายเจดีย์ เพื่อนั่งสมาธิและตรึกระลึกนึกทบทวนบุญของตัวเองต่อ

 

 

 

 

        ในระหว่างที่เทพบุตรใหม่กำลังนั่งสมาธิทบทวนบุญของตัวเองอยู่ที่บริเวณหน้ามหาธรรมกายเจดีย์อยู่นั้น ก็ได้มีพระธรรมกายไปหาเทพบุตรใหม่ที่เทวรถ เมื่อเทพบุตรใหม่ได้เห็นพระธรรมกายมาหาแล้ว ด้วยความที่ตัวท่านก็กำลังรอคอยพระธรรมกายอยู่เช่นเดียวกัน ท่านจึงรู้สึกปลื้มปีติใจเป็นอย่างมาก และท่านก็ไม่รอช้า รีบก้มลงกราบพระธรรมกายด้วยความเคารพนอบน้อมในทันที

 

 

 

 

        จากนั้น พระธรรมกายก็ได้ให้โอวาทกับเทพบุตรใหม่ว่า “ขอให้เทพบุตรใหม่อย่าได้ประมาท แม้ว่าในตอนนี้วิบากกรรมกาเมฯที่เป็นวิบากกรรมหลักๆจะหลุดออกไป จนทำให้เทพบุตรใหม่ได้แปรเปลี่ยนมาเป็นกายเทพบุตรแล้วก็ตาม แต่ถึงกระนั้นเศษแห่งวิบากกรรมกาเมฯที่เทพบุตรใหม่ได้เคยทำเอาไว้ในหลายๆภพชาติก่อนๆโน้น ก็ยังคงหลงเหลือและคอยตามส่งผลอยู่ตลอดเวลา อุปมาเหมือนการเทน้ำออกจากภาชนะ แม้เราจะเทน้ำออกจนหมด แต่ตัวภาชนะก็ยังคงมีหยดน้ำเล็กๆหลงเหลืออยู่ เพราะฉะนั้น เทพบุตรใหม่ก็ต้องตั้งใจนั่งสมาธิตามหลักวิชชาที่พระเถระได้สอนเอาไว้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้วิบากกรรมในอดีตชาติได้ช่องตามมาส่งผล และในตอนนี้ เทพบุตรใหม่ก็มีโอกาสที่ดีในการที่จะประพฤติปฏิบัติธรรมได้อย่างเต็มที่ เพราะไม่ได้มีความเจ็บป่วยเข้ามารุมเร้าเหมือนอย่างตอนที่ยังเป็นมนุษย์อยู่” ซึ่งเทพบุตรใหม่ก็ได้กราบขอบพระคุณพระธรรมกาย แล้วก็รับปากกับพระธรรมกายว่า จะปฏิบัติตามที่พระธรรมกายบอกทุกประการ

 

 

 

 

        ก่อนที่พระธรรมกายจะกลับ เทพบุตรใหม่ได้ฝากสาส์นแห่งความรักและความคิดถึง มาถึงพระเถระรูปหนึ่งว่า “ลูกขอกราบแทบเท้าขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างสูง ที่ได้เมตตาพร่ำสอนให้ลูกได้รู้จักกับเส้นทางการสร้างบารมี อีกทั้งยังได้เมตตาสอนธรรมะให้กับลูก ในตอนนี้ ลูกรู้สึกดีใจมากๆที่ได้เปลี่ยนจากกายของผู้หญิงมาเป็นกายเทพบุตรตามที่ลูกได้ตั้งความปรารถนาเอาไว้ และในตอนนี้ ลูกได้เห็นผลแห่งบุญด้วยทิพยจักษุของตัวลูกเองแล้วว่า บุญมีจริงและให้ผลมากมายอย่างที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อบอกจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเทวรถหรือเหล่าบริวารที่ต่างก็มีความละเอียดประณีต และงดงามกว่าที่ลูกเคยคิดเอาไว้เป็นอย่างมาก ลูกขอสัญญาว่า ลูกจะไม่ละทิ้งคำสั่งสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และจะตั้งใจนั่งสมาธิอย่างเต็มที่ตามหลักวิชชาที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้สอนเอาไว้”

 

 

 

 

        อีกทั้ง เทพบุตรใหม่ก็ได้ฝากสาส์นแห่งความรักและความปรารถนาดี มาถึงเพื่อนนักสร้างบารมีทุกๆคนด้วยว่า ขอกราบขอบพระคุณพระอาจารย์ และเพื่อนนักสร้างบารมีทุกๆคน ที่คอยประคับประคองและดูแลตัวท่านเป็นอย่างดีมาโดยตลอด จนกระทั่งมาถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ซึ่งท่านก็อยากให้ทุกๆคนได้ใช้โอกาสในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ สั่งสมบุญสร้างบารมีและรับบุญที่หมู่คณะมอบหมายให้อย่างเต็มที่เต็มกำลัง และให้ทำอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน อย่างไม่มีข้อแม้  ข้ออ้างและเงื่อนไข “ว่าอย่างไรก็ให้ว่าตามกัน”...

 

 

 

 

        ขอให้พระอาจารย์และเพื่อนนักสร้างบารมีทุกๆคน อย่าได้เจ็บ อย่าได้ป่วย และให้อยู่รับบุญช่วยงานพระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อและหมู่คณะไปนานๆ ให้ทุกๆคนตั้งใจรักษาศีลและประพฤติพรหมจรรย์ให้ดี และที่สำคัญ ขอให้เพื่อนนักสร้างบารมีทุกๆคนหมั่นนั่งสมาธิทุกๆวัน อย่าได้ประมาทหรือดูเบาเป็นอันขาด เพราะการนั่งสมาธิมีความสำคัญมากจริงๆที่จะทำให้เราได้พบกับที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริงภายในของตัวเราเอง...

 

 

 

 

        หากเพื่อนนักสร้างบารมีทุกๆคน ได้สั่งสมบุญตามอย่างที่เทพบุตรใหม่ได้บอกเอาไว้ เมื่อถึงเวลาที่เราจะละจากโลก ทุกๆคนก็จะได้มาเป็นเทพบุตรเหมือนอย่างท่านในตอนนี้ ที่มีความสุขมากมายเกินจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ แต่ถึงอย่างไร ก็ให้ทุกๆคนอยู่สร้างบารมีกันไปนานๆก่อน เพราะตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ เราก็ควรจะรักษาทุกลมหายใจของเราให้เป็นไปเพื่อการสั่งสมบุญสร้างบารมี และขอให้พี่ๆน้องๆนักสร้างบารมีทุกคน ตั้งใจสั่งสมบุญสร้างบารมีแทนท่านด้วย เมื่อทำบุญทุกๆบุญแล้ว ก็ให้หมั่นอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งมาให้ท่านบ่อยๆ เพราะท่านอยากจะมีส่วนร่วมในบุญทุกๆบุญของหมู่คณะ ไม่อยากจะพลาดบุญใดบุญหนึ่งเลย และก็ขออนุโมทนาบุญทุกๆบุญกับเพื่อนนักสร้างบารมีทุกๆคนด้วย

 

 

 

 

        ในตอนนี้ ภายในใจของเทพบุตรใหม่ก็ได้เต็มเปี่ยมไปด้วยภาพของบุญ ภาพของมหาปูชนียาจารย์ และภาพขององค์พระธรรมกายภายใน อยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้เทพบุตรใหม่มีความรู้สึกแช่มชื่น เบิกบาน และปลื้มปีติใจแบบทับทวีไม่มีที่สิ้นสุด และในระหว่างนี้ ก่อนที่เทพบุตรใหม่จะเดินทางกลับไปสู่วิมานของตัวเองที่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ ท่านก็จะไปร่วมพิธีฟังสวดพระอภิธรรมสรีระร่างของตัวเอง และรอที่จะอยู่ร่วมประกอบพิธีชำระร่างของตัวเอง ในวันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ.2554

 

 

 

โปรดติดตามตอนต่อไป...อุบาสิกายอดนักสร้างบารมี ตอนที่ 4