คนรวยที่แท้จริง


[ 16 มิ.ย. 2554 ] - [ 18260 ] LINE it!

 
 
คนรวยที่แท้จริง
 
  
มหาเศรษฐ๊อันดับต้นๆของโลก
 
มหาเศรษฐ๊อันดับต้นๆของโลก
 
 
         ตำแหน่ง “มหาเศรษฐี”  มักเป็นที่ชื่นชมสนใจของคนในโลก  ทุกปีจะมีการจัดอันดับ “ความรวย”  ออกแสดงทางสื่อหลายค่ายด้วยกัน  บางท่านคงปรารถนาว่า  สักวันเราได้ไปยืนอยู่ในตำแหน่งนั้นบ้าง  แต่ ณ วันนี้  แม้เรายังไม่รวยเงินทองก็ไม่เป็นไร  ขอให้เราหมั่นสร้างมหาทานบารมีต่อไป  สักวันเมื่อบุญเต็มเปี่ยมก็จะได้เป็นมหาเศรษฐีแน่นอน
 
         ในทัศนะเรื่องความรวย  พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ตรัสว่า  ความรวยทรัพย์นั้น  ยังเป็นความรวยที่ไม่มั่นคง  ไม่ใช่ความรวยที่แท้จริง  เพราะว่านี่เป็นเพียงผลจากความรวยอริยทรัพย์  คือ  คุณความดี  หากรวยกุศลความดีก็หวังได้ว่าจะเป็นผู้รวยทรัพย์แน่นอน  แต่หากจนอริยทรัพย์ คือ ความดีเสียแล้ว  ก็ปิดหนทางรวยทรัพย์ในอนาคต  หรือแม้แต่ทรัพย์ในปัจจุบันก็รักษาไว้ไม่ได้  ดังใน อุคคสูตร  ว่า
 
         ในทัศนะเรื่องความรวย  พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ตรัสว่า  ความรวยนั้น  ยังเป็นความรวยที่ไม่มั่นคง  ไม่ใช่ความรวยที่แท้จริง  เพราะว่านี้เป็นเพียงผลจากความรวยอริยทรัพย์  คือ  คุณความดี  หากรวยกุศลความดีก็หวังได้ว่าจะเป็นผู้รวยทรัพย์แน่นอน  แต่หากจนอริยทรัพย์ คือ ความดีเสียแล้ว  ก็ปิดหนทางรวยทรัพย์ในอนาคต  หรือแม้แต่ทรัพย์ในปัจจุบันก็จะรักษาไว้ไม่ได้
 
         ครั้งหนึ่ง  ราชมหาอำมาตย์ชื่อว่า  อุคคะเข้าไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงที่ประทับ  และได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
 
        “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  น่าอัศจรรย์  ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  ไม่เคยมีมา  โดยเหตุที่มิคารเศรษฐีผู้เป็นหลานโรหณเศรษฐีเป็นผู้มั่นคั่ง  มีทรัพย์มาก  มีโภคสมบัติมากถึงเพียงนี้”
 
          พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า  “ดูก่อนอุคคะ  ก็มิคารเศรษฐีหลานโรหณเศรษฐีมั่งคั่ง  มีทรัพย์มาก  มีโภคสมบัติมากสักเท่าไร”
 
          “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  มีทองแสนลิ่ม  จะกล่าวไปไยถึงเงิน”
 
          “ดูก่อนอุคคะ  ทรัพย์นั้นมีอยู่แล  เรามิได้กล่าวว่าไม่มี  แต่ทรัพย์นั้นเป็นของอันตราย  ด้วยไฟ  น้ำ  พระราชา  โจร  ทายาทผู้ไม่เป็นที่รัก
 
 
บุคคลที่สมบรูณ์ด้วยอริยทรัพย์ภายใน
 
บุคคลที่สมบรูณ์ด้วยอริยทรัพย์ภายใน
 
 
          ดูก่อนอุคคะ  ทรัพย์ ๗ ประการนี้แล  ไม่ทั่วไปแก่ไฟ  น้ำ  พระราชา  โจร  ทายาทผู้ไม่เป็นที่รัก ๗ ประการเป็นไฉน  ทรัพย์ คือ ศรัทธา ๑ ศีล ๑ หิริ ๑ โอตัปปะ ๑  สุตะ ๑ จาคะ ๑ ปัญญา ๑ “
 
ผู้ใดจะเป็นสตรี  หรือบุรุษก็ตาม
มีทรัพย์ ๗ ประการนี้ คือ
ศรัทธา ศีล หิริ โอตัปปะ สุตะ จาคะ และปัญญา
ผู้นั้นแลเป็น “คนมีทรัพย์มาก”
ใครๆ ไม่พึงชนะได้ทั้งในเทวโลกและมนุษยโลก
เพราะฉะนั้น  ผู้มีปัญญา
เมื่อระลึกนึกถึงคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ควรหมั่นประกอบศรัทธา ศีล
ความเลื่อมใสและการเห็นธรรม
 
          เมื่อบุคคลสมบรูณ์ด้วยอริทรัพย์  ก็จะเป็นเหตุแห่งการสั่งสมบุญกุศลไปตลอดอายุขัย  เป็นการสะสมทรัพย์ที่แท้จริง คือ “บุญ”  ข้ามชาติไปได้  ดังใน ปิยสูตร ว่า
 
สัตว์ผู้จะต้องตายในโลกนี้
ทำกรรมอันใด  คือบุญและบาปทั้ง ๒ ประการ
บุญและบาปนั้นแลเป็นสมบัติของเขา
ทั้งเขาจะนำเอาบุญและบาปนั้นไปได้
อนึ่ง  บุญและบาปนั้นย่อมติดตามเขาไป
ดุจเงาติดตามตัวไป ฉะนั้น
เพราะฉะนั้น  บุคคลควรทำกรรมดี
สะสมไว้เป็นสมบัติในโลกหน้า
เพราะบุญเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในโลกหน้า
 
 
เป้าหมายของการลงมาเกิดบนโลกมนุษย์
 
เป้าหมายของการลงมาเกิดบนโลกมนุษย์
 
 
          ดังนั้น  แม้ปัจจุบันบางท่านจะ จนทรัพย์  แต่ก็อย่าให้จนความดี  เพราะนั่นยังสามารถทำเป้าหมายการมาเกิดเป็นมนุษย์  คือ  การสร้างบารมี  ให้สำเร็จได้  และในอนาคตเราจะเป็นผู้ที่รวยทั้งภายนอกและภายใน  คือ  เป็น “มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ  ค้ำจุนพระพุทธศาสนา”  อย่างแน่นอน
 
 
 
แรงบันดาลใจจากพระไตรปิฎก
โดยพระมหาเถระ รุ่นปี พ.ศ. 2534 หน้า  115 - 118
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เกิดในโลก  แต่ไม่ติดในโลกเกิดในโลก แต่ไม่ติดในโลก

หากเดินทางผิด  แม้เก่งเท่าไหร่ก็ไม่ถึงเป้าหมายหากเดินทางผิด แม้เก่งเท่าไหร่ก็ไม่ถึงเป้าหมาย

กว่าจะรู้จักกันกว่าจะรู้จักกัน



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

แรงบันดาลใจจากพระไตรปิฎก