เสียงกระซิบจากภายใน


[ 11 ม.ค. 2550 ] - [ 18262 ] LINE it!

ผลปฏิบัติธรรม 
ของ 
มาร์กิตต้า (สวิตเซอร์แลนด์) 
 
 
    ฉันชื่อ มาร์กิตต้า อายุ 48 ปี เป็นชาวสวิต มีอาชีพเป็นจิตแพทย์และเป็นครูสอนส่วนบุคคล จุดมุ่งหมายในการทำงานของฉัน คือช่วยให้คนไข้ เอาชนะปัญหาทางด้านจิตใจที่เกิดจากปัญหาส่วนตัว ครอบครัว และการดำรงชีวิตในสังคม และอีกส่วนที่ฉันชำนาญคือ ช่วยสอนให้ผู้ปกครองรับมือกับลูกๆ และเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี รวมถึงการสอนให้ผู้ปกครองรู้จักเป็นแบบอย่างที่ดีด้วย 
 
    ฉันก็สอนได้ทุกคน แต่พอถึงเวลาของตัวฉันเองล่ะ เพราะในปี พ.ศ.2545 มีจุดหักเหครั้งใหญ่ในชีวิต ฉันได้หย่ากับสามีเป็นครั้งที่ 2 ของชีวิต ฉันทุกข์ใจมากเหลือเกิน จนกระทั่งปี พ.ศ.2546 ฉันอายุ 45 ปี ฉันได้พบกับ เอ็ลซเบ็ธ เธอเชิญฉันให้เข้าร่วมการนั่งสมาธิในช่วงเย็น ที่บ้านเพื่อนของเธอ ซึ่งเพื่อนคนนี้ เพิ่งกลับมาจากการบวชธรรมทายาทนานาชาติที่วัดพระธรรมกาย ประเทศไทย
 
 
    และนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบกับพระภิกษุ ฉันเห็นพระอาจารย์ 2 รูปนั่งอยู่บนอาสนะด้านหน้า และกำลังสวดมนต์ทำวัตรเย็น ทันทีที่ฉันคุกเข่าลง ฉันก็ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นนอกจากเสียงสวดมนต์ และสิ่งที่ฉันค้นพบต่อไป เหมือนแสงที่แว๊บเข้ามาว่า ฉันรู้จักและคุ้นเคยกับภาษาที่กำลังสวดมนต์นี้อยู่ลึกๆภายใน มา ตั้งแต่ฉันอายุ 18 ปีแล้ว
 
    ย้อนไปตอนฉันอายุ 18 ฉันได้ไปเยี่ยมชม ชุมชนคริสเตียนแห่งหนึ่ง มีสมาชิกท่านหนึ่งได้จุดประกายฉัน ให้ได้ลองฟังสิ่งที่อยู่ภายในตัว ฉันจึงเริ่มที่จะลองฟังสิ่งที่อยู่ภายใน และฉันก็ได้ยินเสียงภาษาหนึ่งแว่วเข้ามาในใจ แม้ฉันจะไม่เข้าใจความหมายแต่ฉันก็ชอบมันมาก ตั้งแต่อายุ 18 ถึง45 ฉันก็ถามตัวเองว่า "ภาษานี้เป็นภาษาของชาติอะไร" พอเมื่อฉันท่องเที่ยวไปประเทศต่างๆ ฉันก็จะพยายามฟังภาษาของประเทศนั้นๆ อยู่เสมอ และหวังว่าสักวันหนึ่ง ฉันจะได้เจอผู้คนที่พูดคุยด้วยภาษานั้น
 
    จนมาถึงวันนี้ ที่ฉันได้ยินเสียงสวดมนต์ ฉันก็รู้ว่า นี่ล่ะคือภาษาที่เคยได้ยินมาจากภายในตัว ฉันมีความปีติใจมาก ตอนนั้นรู้สึกว่าเหมือนฝนตกไปทั่วตัวของฉัน จากนั้นฉันก็ถามพระอาจารย์ว่า “ภาษานี้คือภาษาไทยหรือคะ” ท่านตอบว่า “ภาษาสวดมนต์นั้น เป็น ภาษาบาลี เป็นภาษาที่ถูกจารึกไว้ในพระไตรปิฎก ทางพระพุทธศาสนา” ตอนนั้น ฉันได้หนังสือสวดมนต์ มาเป็นภาษาอังกฤษ ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะการออกเสียงภาษาบาลี ทำให้ฉันเชื่อว่า คงจะไม่ผิดอะไร หากฉันจะได้มาร่วมนั่งสมาธิอีกในรอบต่อไป ถ้าภาษานี้เป็นส่วนหนึ่งของฉัน พระพุทธศาสนาก็คงจะเป็นส่วนหนึ่งของฉันเช่นกัน 
 
    ในวันทอดกฐินปี 2546 เอ็ลซเบ็ธ ชวนฉันไปที่วัดพุทธสตาร์สบูร์ก ฝรั่งเศส ฉันได้พบ หลวงพ่อทัตตชีโว ตอนที่ฉันเห็นท่าน เหมือนฉันได้กลับมาเห็นพ่อ ผู้ซึ่งรอคอยฉันมาเนิ่นนาน เพื่อพ่อจะได้บอกฉันว่า ตอนนี้ทุกอย่างไม่มีปัญหาแล้ว ใบหน้าของท่านเหมือนพระอาทิตย์ที่กำลังส่องสว่าง ให้ที่พักพิง ร่มเงาและให้อภัยแก่ฉัน ท่านเบิกบานมาก ท่านถามเกี่ยวกับอาชีพของฉัน และบอกฉันว่า มีงานมากมายรอเราอยู่ และเมื่อมีโอกาส ท่านอยากให้ฉันมาที่วัดพระธรรมกายประเทศไทย ตอนนั้นฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างหาที่สุดมิได้ 
 
    และในเดือนเมษายน พ.ศ.2547  ฉันก็ได้มาร่วมงานวันเกิด หลวงพ่อธัมมชโย ครบ 60 ปี เพียงแค่ได้ผ่านประตูของวัด ฉันรู้สึกเหมือนได้ผ่านเข้ามาในดินแดนแห่งความสุข ฉันรู้ว่าการเดินทางได้สิ้นสุดลงแล้ว และ ณ วินาทีนี้ ฉันได้กลับมาถึงบ้านแล้ว  ครั้งแรกที่ฉันได้เห็นหลวงพ่อธัมมชโย ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก ฉันรู้สึกกลัวว่า ท่านจะเห็นความผิดพลาดทั้งหลายที่ผ่านมาในชีวิตของฉัน เพราะท่านมีดวงตา X-rays ฉันไม่กล้าที่จะจ้องตาท่าน ฉันรู้เพียงว่าฉันได้พบบุคคลที่งดงาม และมีลักษณะผิวที่มีแสงเรืองรอง และเต็มไปด้วยความสงบ แต่การพบปะครั้งนี้ฉันรู้สึกว่ามันผ่านไปไวเหมือนแสง ดวงตาของท่านช่างอบอุ่นและสว่างมากๆ ท่านยิ้มให้ฉัน และจากนั้น ฉันรู้สึกถึงพลังแห่งความสุขเปี่ยมล้นผ่านไปทั่วร่างกาย  
 
    ประสบการณ์ที่ดีที่สุดของฉันในการนั่งสมาธิ เกิดขึ้นหลังจากที่ฉันได้รับ เหรียญปราบมาร ในวันครูธรรมกาย ฉันได้น้อมเหรียญนั้นไว้ในใจ และจรดใจอยู่กับหลวงปู่ตลอดวันตลอดคืน และท่านก็ได้นำทางฉันให้เข้าไปสู่ภายใน โดยขณะที่ฉันนำใจมาไว้ที่ศูนย์กลางกาย และภาวนา “สัมมา อะระหัง”  ใบหน้าของหลวงปู่ก็เปลี่ยนเป็นรูปปั้นสีทอง และดึงดูดฉันให้ตกลงไปอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 แล้วฟองสบู่ดวงเล็กๆ ก็ผุดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก และทุกดวงก็มีองค์พระอยู่ภายใน ฉันเห็นพระพุทธเจ้าผุดขึ้นมาเป็นสาย  
 
    ฉันมีความสุขมาก มหัศจรรย์จริงๆ ฉันบันทึกประสบการณ์นี้ไว้ในสมุด เพื่อจะได้ไม่ต้องสงสัยว่าเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ความสุขนี้มันเกินคำบรรยาย เหมือนเดินไปบนอากาศ เป็นพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งเกิดขึ้นมาภายใน จนอยากที่จะแบ่งปัน มันทำให้ฉันรู้คุณค่าของการมีชีวิตอยู่ และอยากช่วยผู้คนให้ค้นพบขุมทรัพย์ของตัวเอง และทรัพยากรที่อยู่ภายในตัว ตอนนี้ฉันพร้อมที่จะพัฒนา และขยายหน้าที่การงานของฉัน  ผลที่ตามมาก็คือ รายได้ของฉันเพิ่มมากขึ้น ชีวิตของฉันดีขึ้น สิ่งสำคัญที่เกิดขึ้น คือ ฉันประสบความสำเร็จในการสร้างมิตรภาพ กับหลายๆคน ซึ่งสิ่งนี้เคยเป็นปมด้อยของฉัน ที่แต่ก่อนฉันรู้สึกขาด แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกมีพร้อม เพียงพอที่จะเผื่อแผ่ให้ผู้อื่นอีกด้วย
 
    ฉันอยากจะเชิญชวนให้ทุกคนมานั่งสมาธิ แล้วคุณจะรู้สึกแข็งแรง มีทรัพย์ และประสบความสำเร็จมากขึ้น ทุกอย่างที่คุณตามหา คุณจะพบภายในตัวคุณเอง ไม่ใช่จากภายนอก การนั่งสมาธิจะช่วยให้คุณสมหวังในชีวิต ไม่มีใครสามารถให้สิ่งที่คุณต้องการได้นอกจากแสงสว่าง ที่บริสุทธิ์ภายในตัว มันอยู่ข้างในตัวคุณแล้ว แค่ค้นหามันโดยการเริ่มนั่งสมาธิ เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่สุด
 
    ฉันมีความสุข ที่ได้เรียนคำสอนของพระพุทธเจ้า ผ่านทางหลวงพ่อ หากไม่มีหลวงพ่อฉันคงเป็นเหมือนคนหลงทาง ฉันจำได้ดีว่าชีวิตในวัยเด็กของฉัน ฉันพยายามที่จะเอาชนะความมืด และแสวงหาแสงสว่าง ตอนนี้หลวงพ่อท่านได้ชี้ทางนั้นให้แล้ว และฉันก็จะเดินตามทางนั้น
 
    ฉันปรารถนาที่จะได้ทำงานกับครอบครัวธรรมกาย เพื่อเป็นแสงสว่างให้แก่โลก เพื่อนำแสงแห่งธรรมะและความสงบสุขไปอยู่ยุโรป  และนี่เป็นความปรารถนาสูงสุดที่จะได้เรียนรู้วิชชาธรรมกาย และไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ค่ะ
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
หนังสือที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกหนังสือที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก

การนั่งสมาธิทำให้ครอบครัวสมดุลการนั่งสมาธิทำให้ครอบครัวสมดุล

เมื่อเศรษฐกิจกับจิตใจไปด้วยกันเมื่อเศรษฐกิจกับจิตใจไปด้วยกัน



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ