ชีวิตแบบพระเท่านั้นที่ผมต้องการ


[ 26 ก.ค. 2554 ] - [ 18272 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2554
ชีวิตแบบพระเท่านั้นที่ผมต้องการ

 
 
 
พลิกชีวิตด้วยบุญบวช
ตอน ชีวิตแบบพระเท่านั้นที่ผมต้องการ
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
กราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
        กระผม พระอรรถญากร อตฺตานุรกฺโข อายุ 34 ปี ปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่เป็นพระพี่เลี้ยงอยู่ ณ ศูนย์อบรมวัดพระธรรมกาย ระเบียง 3 ขอรายงานตัวครับ หลวงพ่อครับ หัวใจดวงน้อยๆของกระผมมีข้อความแห่งความสุขที่อยากจะส่งถึงหลวงพ่อครับ กล่าวคือ ตั้งแต่กระผมได้เข้ามาบวชในโครงการบวชพระ หนึ่งแสนรูป กระผมก็รู้ทันทีครับว่า “ชีวิตแบบสมณะเท่านั้นที่กระผมต้องการ” แม้กระผมจะผ่านการบวชมาหลายโบสถ์ แต่ก็ไม่มีโบสถ์ไหนที่ถูกใจใช่เลยเหมือนครั้งนี้ กระผมยังจำได้ สมัยที่กระผมเป็นเด็กน้อยอายุได้ 8 ขวบ หลังจากพ่อกับแม่ของกระผมได้จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ ตัวกระผมก็ต้องอยู่ในความดูแลของพี่สาวมาโดยตลอด ซึ่งพี่สาวได้จัดการส่งตัวกระผมไปบวชทันที ผ่านไป 6 ปีเศษ ขณะนั้นกระผมอายุได้ 14 ปี พี่สาวก็กลับมารับกระผมไปอยู่ด้วย กระทั่งกระผมโตเป็นวัยรุ่น พี่ก็ส่งกระผมไปเรียนเป็นช่างไฟฟ้าครับ หลังจากจบออกมา ชีวิตจึงหนีไม่พ้นการเป็นช่างซ่อม แต่พอซ่อมไปมากเข้า...มากเข้า กระผมก็ชักจะเบื่อ จึงไปหางานใหม่ทำ และได้ไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา แถวๆปอยเปตครับ
 
พระอรรถญากร อตฺตานุรกฺโข
 
พระอรรถญากร อตฺตานุรกฺโข
 
        กระผมได้เป็นหัวหน้าคนงานอยู่ในบ่อนกาสิโน (Casino) แห่งหนึ่ง ตอนนั้นได้เงินเดือนมาเท่าไหร่ ก็หมดไปกับการดื่มเหล้าและเล่นพนันจนเกลี้ยงไม่เหลือเลยครับ กระผมทำงานอยู่ที่นั่นหนึ่งปี สุขภาพของกระผมก็เริ่มย่ำแย่ จึงต้องขอลากลับบ้าน แต่พอกลับมาบ้าน กระผมก็ยังไม่เลิกดื่มเหล้า เมาหยำเปทุกวันจนได้เรื่อง กล่าวคือ กระผมโดนรถชนอย่างแรงจนสลบไปถึง 13 วัน พอฟื้นขึ้นมาก็พบว่าบนหัวมีแต่รอยแผลรอยเย็บเต็มไปหมด แถมฟันก็ร่วงเกือบหมดปากอีกด้วย หลวงพ่อครับ ถือเป็นเดชะบุญของกระผมที่รอดมาได้ แต่พอรักษาตัวหายดีแล้ว กระผมก็ใช้ชีวิตเที่ยวเล่น ยิงนกตกปลา ไปเรื่อยครับ
 
        มีอยู่ครั้งหนึ่ง ระหว่างที่กระผมได้ขี่รถเครื่องขึ้นไปเที่ยวบนภูเขา ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ตะพาบน้ำตัวหนึ่ง ตัวมันใหญ่เกือบเท่าร่ม มันขึ้นมานอนผึ่งแดดอยู่ริมบึงพอดี ทันทีที่กระผมเห็น กระผมก็เอาปืนยิงหัวมัน แล้วก็เอาไปฝากคนในหมู่บ้านให้เขาทำกับข้าวแจกกัน วันนั้น เมื่อกระผมกลับมาถึงบ้าน ไม่รู้เป็นอย่างไรครับ มีอารมณ์เกิดอยากฟังธรรมะขึ้นมา จึงเปิดวิทยุไปเจอคลื่นที่พระกำลังเทศน์สอนเรื่องบาปบุญคุณโทษ ท่านสอนว่า “แม้เป็นสัตว์ เขาก็รักชีวิต เราฆ่าแม่ของเขาแล้ว ลูกๆจะอยู่อย่างไร” พอกระผมได้ยินอย่างนี้ ภาพของตะพาบน้ำที่กระผมเพิ่งยิงไปเมื่อเช้าก็ปรากฏขึ้นมาให้กระผมเห็นเหมือนเป็นภาพติดตาทันที ภาพนั้นชัดมาก ทำเอากระผมร้องไห้ กระผมเกิดความสำนึกผิดอย่างมาก ตอนนั้นรู้สึกใจมันร้อนรนอยากไถ่บาปจนนั่งไม่ติดเลยครับ กระผมจึงตัดสินใจรีบเดินไปที่วัดเพื่อขอบวชกับหลวงตาทันทีครับ พอได้บวช กระผมก็อุทิศส่วนบุญและทำบังสุกุลให้ตะพาบน้ำตัวนั้นด้วยครับ
 
        ช่วงที่บวช กระผมได้ฝึกนั่งกัมมัฏฐานอยู่ถึง 6 พรรษาครับ ตอนนั้นกำลังนั่งได้ดีเลย กล่าวคือ เห็นความสว่างเหมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ดูเจริญหูเจริญตามาก แต่กระผมเองไม่มีบุญบวชต่อ เพราะว่าเผอิญช่วงนั้นทางโลกเขากำลังจัดให้มีการเลือกตั้งกัน ซึ่งกระผมสนใจเรื่องการเมืองมาก จึงขอลาสิกขา เพื่อออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แต่พอกลับมาจากเลือกตั้งแล้ว ชีวิตของกระผมก็เริ่มระหกระเหิน ละห้อยละเหี่ยใจ ไม่มีที่จะไป เพราะเคยชินกับการอยู่แต่ในวัดครับ เวลานั้นกระผมได้แต่นึกเสียใจ นึกตำหนิตัวเองที่สึกออกมาง่ายๆ แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว กระผมจึงตัดสินใจเดินไปหางานทำในตลาด ได้งานเป็นพนักงานสโตร์
 
        หลวงพ่อครับ กระผมไม่มีความสุขเลย อยากกลับไปบวชมากจนเอ่ยปากบ่นกับเพื่อนทุกวัน จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่ง กระผมได้เดินไปบ่นกับเพื่อนที่ขายหอยทอดผัดไทย กระผมบอกเขาว่า “อยากบวช” ซึ่งเพื่อนก็แย้งว่า “อย่าบวชเลยอยู่อย่างนี้แหละดีแล้ว” แต่กระผมก็ยังแข็งขืนยืนยันว่า “จะบวช ฉันต้องบวชให้ได้” และระหว่างนั้นเอง ก็มีผู้นำบุญท่านหนึ่งไม่รู้ท่านมาจากทิศไหนครับ จู่ๆก็แทรกเข้ามากลางวง พร้อมกับถามกระผมสั้นๆว่า“บวชไหมคะ” กระผมก็รีบตอบเธอไปว่า “บวชครับๆ” แล้วก็ไปกรอกใบสมัครทันที ตอนนั้นกระผมดีใจมาก และคิดอยู่ในใจว่า “ถ้าบวชแล้วอยู่ต่อได้ จะไม่สึก”
 
ภาพวาดประสบการณ์ภายในของพระอรรถญากร อตฺตานุรกฺโข
 
ภาพวาดประสบการณ์ภายในของพระอรรถญากร อตฺตานุรกฺโข
 
        เมื่อมาถึงวัดวันแรก กระผมก็มีความสุขมาก และที่กระผมชอบมาก คือ การได้ปฏิบัติธรรม มีอยู่วันหนึ่ง ขณะที่กระผมกำลังนั่งสมาธิ จรดใจที่ศูนย์กลางกายอยู่นั้น กระผมก็เห็นเป็นดวงแก้วใสๆผุดขึ้นมาจากกลางตัวของกระผมเป็นจำนวนมาก นับไม่ถ้วนเลยครับ ตอนนั้นกายของกระผมใสมาก เหมือนแก้ว พอพระอาจารย์กล่าว “สัพเพฯ...” กระผมก็รีบกลับไปนั่งสมาธิต่อ โดยประคองอารมณ์ไว้ดังเดิม และภาวนา “สัมมาอะระหัง” จนคำภาวนาหายไปเอง แล้วกระผมก็เห็นองค์พระผุดขึ้นมาจากกลางกายของกระผม องค์พระใหญ่ประมาณ 10 เซนติเมตรได้ครับ องค์พระเป็นเงางามเหมือนเพชร ระยิบระยับสวยงามมาก จากนั้นก็มีอีกองค์หนึ่งค่อยๆผุดขึ้นมาอยู่ทางด้านซ้าย แล้วก็มีอีกองค์หนึ่งผุดขึ้นมาอยู่ทางด้านขวา ตอนนั้นความรู้สึกของกระผมปีติเบิกบานมาก นั่งเพลินมากจนไม่รู้ว่าตัวเองนั่งไปนานถึง 4 ชั่วโมง กระผมไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ กระผมยังงงว่า “ทำไม ถึงเห็นง่ายอย่างนี้”
 
พระอรรถญากร อตฺตานุรกฺโข
 
พระอรรถญากร อตฺตานุรกฺโข
 
        ตอนนี้ แม้ขณะลืมตากระผมก็ยังเห็นองค์พระอยู่ครับ แต่ว่ากระผมเห็นท่านเหลืออยู่แค่องค์เดียวแล้วนะครับ กระผมมีความสุขมาก เดี๋ยวนี้เวลาได้ยินเสียงหลวงพ่อเทศน์สอน กระผมจะรู้สึกซาบซึ้งจนอยากจะร้องไห้ครับ กระผมกราบขอบพระคุณหลวงพ่อที่ได้ให้โอกาสกระผมได้เข้ามาบวชในโครงการนี้ ถ้าไม่มีหลวงพ่อ กระผมคงไม่มีชีวิตที่ดีขนาดนี้ กระผมอยากบอกว่า “กระผมรักหลวงพ่อมากครับ และอยากจะช่วยงานหลวงพ่อตลอดไป แบบนานเท่านานครับ”
 
กราบคารวะด้วยความเคารพอย่างสูง
 
พระอรรถญากร อตฺตานุรกฺโข
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เรียน DOU เพื่อปรับสมดุลของชีวิตเรียน DOU เพื่อปรับสมดุลของชีวิต

ทำบุญไว้เถิดประเสริฐนัก ตอนที่ 2ทำบุญไว้เถิดประเสริฐนัก ตอนที่ 2

DOU สร้างคนเก่งและคนดีให้แก่โลกDOU สร้างคนเก่งและคนดีให้แก่โลก



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน