ความหมายของคำว่าบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ คืออะไร


[ 18 ส.ค. 2554 ] - [ 18318 ] LINE it!

คำถาม:  ที่ว่าบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ หมายถึงอะไร เวลาถวายของพระมักได้ยินอยู่บ่อยๆ ?

 
คำตอบ:  การถวายทาน ถ้าจะให้ได้บุญมาก ทั้งผู้ถวายและพระภิกษุผู้รับจะต้องมีความบริสุทธิ์ทั้งกาย และใจ ยิ่งบริสุทธิ์มากเท่าไรก็ยิ่งบุญมากเท่านั้น
 
ความบริสุทธิ์ทั้งทางกาย วาจา และใจ ยิ่งบริสุทธิ์มากเท่าไรก็ยิ่งบุญมากเท่านั้น
ความบริสุทธิ์ทั้งทางกาย วาจา และใจ ยิ่งบริสุทธิ์มากเท่าไรก็ยิ่งบุญมากเท่านั้น
 
        ความบริสุทธิ์กายนั้น พระพุทธองค์ทรงเปรียบเทียบไว้อย่างนี้คนทั้งหลายถึงแม้ว่าจะอาบน้ำวันละพันครั้ง เปลี่ยนเสื้อผ้าวันละพันหนก็ยังไม่ชื่อว่าบริสุทธิ์กาย ผู้ที่จะบริสุทธิ์ได้ต้อง
 
        ๑. ไม่ฆ่าสัตว์
        ๒. ไม่ลักทรัพย์
        ๓. ไม่เจ้าชู้
 
        ผู้บริสุทธิ์วาจา ท่านก็กล่าวทำนองเดียวกันว่า ถึงจะแปรงฟันวันละพันครั้ง อมยาอมวันละพันหน ก็ไม่สามารถทำให้วาจาบริสุทธิ์ได้ ผู้ที่วาจาบริสุทธิ์ต้อง
 
        ๑. ไม่พูดโกหก
        ๒. ไม่พูดคำหยาบ
        ๓. ไม่พูดเพ้อเจ้อ
        ๔. ไม่พูดส่อเสียด
 
        ถ้าลักษณะคำพูดมีครบ ๔ อย่างนี้จึงจะถือว่ามีวาจาบริสุทธิ์จริงหรือพูดภาษาชาวบ้านว่าปากสะอาดได้ โดยไม่ต้องอมอะไรต่ออะไรทั้งนั้นแหละ
 
        ส่วนผู้ที่จะนับได้ว่ามีใจบริสุทธิ์ ก็ต้องประกอบด้วยคุณสมบัติต่อไปนี้
 
        ๑. ไม่โลภ อยากได้ของคนอื่น
        ๒. ไม่พยาบาท ปองร้ายใคร
        ๓. ไม่คิดผิดทำนองคลองธรรม
 
        ถ้าครบ ๓ อย่างนี้ ใจสะอาดก็บริสุทธิ์ได้ การถวายทานแต่ละครั้ง ถ้ามีผู้กล่าวนำให้ใจเราน้อมไปในบุญกุศลเต็มที่ บุญจะเกิดขึ้นในใจทันทีก่อนถวายทานเสียด้วยซ้ำ พอพระท่านรับและอนุโมทนาบุญ บุญก็เกิดทับทวีขึ้นอีก วัดโดยทั่ว ๆ ไปจึงมักมีพิธีกรกล่าวนำอย่างนั้น
 

คำถาม:  ศีล แปลว่าอะไร ถ้าคน ๆ นั้นมีความบริสุทธิ์เป็นปกติ ถามว่าจำเป็นต้องรักษาศีลหรือไม่ ?

คำตอบ:  ศีล คือข้อบัญญัติที่กำหนดความประพฤติตามปกติ ทางกายและวาจาของบุคคลในพระพุทธศาสนา
 
เราควรตั้งใจรักษาศีลให้มีความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ ให้ได้เป็นปกติ
เราควรตั้งใจรักษาศีลให้มีความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ ให้ได้เป็นปกติ
 
        คนที่มีความประพฤติดี มีความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ เป็นปกติแล้ว  ก็ไม่จำเป็นต้องประกาศว่ารักษาศีล เพราะว่าเขามีศีลอยู่ในตัวแล้ว แต่คนที่อ้างว่าเป็นผู้มีความบริสุทธิ์เป็นปกติน่ะอยู่ที่ไหน ขอดูหน้าหน่อยซิ
 
        เพราะโดยทั่วไปแล้วคนที่มีแต่ความบริสุทธิ์เป็นปกติ คือ บริสุทธิ์ตลอดเวลา มีอยู่ประเภทเดียวคือ พระอรหันต์ ชาวบ้านหรือแม้ที่สุดเป็นพระภิกษุก็ยังบริสุทธิ์ไม่พอเพราะฉะนั้นจึงต้องประคับประคองตั้งใจรักษาศีลกันต่อไป
 
คำถาม:  การรักษาศีล ๕ ดูเหมือนง่าย ผมสังเกตตัวเองที่เคยตั้งใจรักษาศีล ๕ ข้อให้ครบหลายครั้ง แต่ไม่เคยรักษาได้ครบสักวัน ขาดเป็นบางข้อบางวันอยู่ตลอด หลวงพ่อมีวิธีการอย่างไรครับ ที่จะฝึกรักษาศีล ๕ ให้ได้ตลอดทั้งวัน?
 
ฝึกรักษาศีลให้ได้ตลอดทั้งวัน
ฝึกรักษาศีลให้ได้ตลอดทั้งวัน
 
คำตอบ:  เมื่อตอนที่หลวงพ่อเริ่มต้นคิดจะรักษาศีล ๕ ให้ได้ ก็ต้องตัดสินใจเลิกอบายมุขทั้งหมดก่อน อบายมุขมีอะไรบ้าง ?
 
        ๑. ดื่มน้ำเมา                                                     
        ๒. เที่ยวกลางคืน
        ๓. เที่ยวดูการละเล่น                                       
        ๔. เล่นการพนัน
        ๕. คบคนชั่วเป็นมิตร                                      
        ๖. เกียจคร้านในการทำงาน
 
        ทั้ง ๖ ประการนี้ คืออบายมุข เป็นเหตุแห่งความพินาศฉิบหายใน ๖ ประการนี้การคบคนชั่วเป็นมิตรเป็นข้อที่อันตรายที่สุด เพราะนำความฉิบหายมาให้มากที่สุด
 
        ตอนนั้นถึงแม้ว่าจะเลิกอบายมุขได้เด็ดขาดแล้ว แต่ว่าศีล ๕ ยังกะพร่องกะแพร่งอยู่ ก็พยายามที่รักษาศีล ๕ ให้ได้ พยายามอยู่หลายวิธี ในที่สุดก็หาวิธีเฉพาะของตัวเองได้ ถ้าใครยังหาวิธีเริ่มต้นในการรักษาศีลไม่ได้ จะลองนำวิธีของหลวงพ่อไปใช้ดูก็ได้นะ คือย่างนี้
 
        ตามธรรมดาคนไทยที่เป็นชาวพุทธ ส่วนมากมักจะมีพระเครื่องห้อยคอกันอยู่แล้ว มีกันคนละองค์บ้าง คนละพวงบ้างหรืออย่างน้อย ถ้าไม่มีพระห้อยคอก็ต้องมีพระพุทธรูปอยู่ที่บ้าน
 
        หลวงพ่อเองมีพระเครื่องห้อยคออยู่องค์หนึ่ง เมื่อตั้งใจจะรักษาศีล ๕ ให้ได้ ก็ทำง่าย ๆ คือทุกเช้าก่อนจะออกจากบ้าน ก็อาราธนาพระใส่มือไว้ แล้วตั้งนโม ๓ จบ “นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต  สัมมาสัมพุทธัสสะ” พอครบ ๓ จบ แล้วก็สัญญากับหลวงพ่อที่อยู่ในมือว่า
 
        ปาณาติปาตา เวระมณี วันนี้หัวเด็ดตีนขาด ไม่ฆ่าสัตว์ (แต่พรุ่งนี้ยังไม่รู้นะ)
 
        อทินนาทานา เวระมณี วันนี้หัวเด็ดตีนขาด ไม่ขโมย ไม่โกงใครทั้งนั้น
 
        กาเมสุมิจฉาจารา เวระมณี วันนี้ไม่เจ้าชู้เด็ดขาด
 
       มุสาวาทา เวระมณี วันนี้ถ้าพูดต้องจริง ถ้าไม่จริงไม่พูด ใครจะเอามีดมาจ่อคอ ก็ไม่พูดโกหก
 
        สุราเมระยะ มัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมณี วันนี้ไม่ว่าเหล้าไม่ว่าเบียร์ จะไม่ดื่มแม้แต่หยดเดียว จะตายก็ให้ตายไปเลย
 
        ทำเช่นนี้ทุกวัน ๆ แล้วก็ทำได้สำเร็จตลอดวัน ทำติดต่อกันไปได้ประมาณ ๒-๓ เดือนก็เคยชิน ศีลก็อยู่มั่นคง ในที่สุดก็เลยได้มาบวชนี่แหละ ใครยังหาวิธีอื่นไม่ได้ ลองใช้วิธีนี้ดูนะขลังทีเดียว ถ้าทำสำเร็จ หลวงพ่อจะอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่ง


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
กรณีที่พระยืนรอรับบิณฑบาตนั้นผิดหรือสมควรหรือไม่กรณีที่พระยืนรอรับบิณฑบาตนั้นผิดหรือสมควรหรือไม่

ภิกษุณีกับแม่ชีมีความแตกต่างกันอย่างไรภิกษุณีกับแม่ชีมีความแตกต่างกันอย่างไร

อาชีพเพชฌฆาตที่ประหารชีวิตนักโทษบาปหรือไม่อาชีพเพชฌฆาตที่ประหารชีวิตนักโทษบาปหรือไม่



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

หลวงพ่อตอบปัญหา