เชื่อมโยงสันติภาพด้วยดวงใจที่หยุดนิ่ง

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพรักอย่างสูง

 

        ผม... สุพัฒน์ ภัทรวรกุลวงศ์ หรือ เพชรน้อย และภรรยา คือ กัลฯประภาภัทร รุจิระธนลักษณ์ หรือ เพชรหนู ขอกราบรายงานตัวครับ จากที่คุณครูไม่ใหญ่ได้เมตตาเฉลยความสงสัยของผมในเรื่องของความเกี่ยวพันกันระหว่างผมกับผู้นำทางธุรกิจในประเทศต่างๆที่ตัวผมได้พบ ซึ่งผมรู้สึกรักเหมือนพี่น้องว่า “ผู้นำทางธุรกิจแต่ละคนนั้นต่างก็เคยเกิดมาเจอกัน และเคยสร้างบารมีร่วมกับมหาปูชนียาจารย์และหมู่คณะมาทั้งนั้น บางคนได้เจอกันมาหลายภพหลายชาติแล้ว แต่บางคนก็พลัดพรากจากหมู่คณะไปนาน และเพิ่งได้กลับมาเจอกันในชาตินี้ ไม่ว่าผู้นำคนใดจะเคยเกิดมาเจอหมู่คณะหรือไม่ ผมก็จะต้องทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตร ชักชวนพวกเขาเหล่านั้นให้มารู้จักกับการนั่งสมาธิ ซึ่งถือเป็นความรู้สากลที่ทุกคนบนโลกไม่ว่าเชื้อชาติ, ศาสนา หรือเผ่าพันธุ์ใด ก็สามารถปฏิบัติและเข้าถึงความสุขที่แท้จริงภายในอันเกิดจากใจหยุดนิ่งได้”

 

 

 

        ตอนนี้ผมได้ทำหน้าที่ชักชวนเพื่อนๆทางธุรกิจเหล่านั้น ให้มาพบกับความสุขภายใน ด้วยการนั่งสมาธิแล้วครับ โดยเมื่อวันที่ 7- 9 ตุลาคม พ.ศ.2554 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดงานสัมมนาของผู้นำในแถบเอเชียของ Network 21 ผมจึงใช้โอกาสนี้ชักชวนเพื่อนๆให้มานั่งสมาธิ ในโครงการ The Middle Way ที่จัดปฏิบัติธรรม 3 วัน ระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคม พ.ศ.2554 ณ ภูวนาลีรีสอร์ท มีเพื่อนๆทางธุรกิจของผมสนใจเข้าร่วมโครงการ จากทั้งประเทศฟิลิปปินส์, เวียดนาม และฮ่องกง รวม 49 คนครับ แม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆเพียงแค่ 3 วัน แต่ทุกคนต่างได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่มีคุณค่าต่อการดำเนินชีวิตให้เป็นไปอย่างมีความสุข ซึ่งแต่ละคนไม่เคยนั่งสมาธิมาก่อนเลย แต่ก็มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี และวันนี้ก็มีผลการปฏิบัติธรรมที่น่าชื่นใจมาฝากหลวงพ่อ ดังต่อไปนี้

 

วู ถิ ถือ เฮือง 

 

 

 

        ดิฉันชื่อ วู ถิ ถือ เฮือง อายุ 44 ปี จากประเทศเวียดนาม เป็นผู้นำระดับเพชรในธุรกิจแอมเวย์ค่ะ ดิฉันไม่เคยนั่งสมาธิมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกค่ะ ดิฉันโชคดีมาก และตัดสินใจไม่ผิดเลยที่ได้มาร่วมนั่งสมาธิกับเพื่อนๆในครั้งนี้ ซึ่งทำให้ดิฉันเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า “สมาธิมีประโยชน์อย่างมากในการดำเนินชีวิต” เมื่อแรกเริ่มนั่งสมาธิ ใจของดิฉันฟุ้งซ่านมาก แต่พอทำตามวิธีที่พระอาจารย์สอน โดยเริ่มต้นจากการสูดลมหายใจเข้าลึกๆช้าๆ ดิฉันก็รู้สึกค่อยๆผ่อนคลายทั้งกล้ามเนื้อและร่างกายทุกๆส่วน ใจของดิฉันก็ค่อยๆสงบ นิ่ง เบา สบาย ทันใดนั้นเองดิฉันก็เห็นดวงแก้วใสสว่าง ค่อยๆเคลื่อนตัวลงอย่างช้าๆไปที่ศูนย์กลางกาย บางครั้งดิฉันรู้สึกเหมือนถูกดูด ในขณะที่ลมหายใจบางเบามาก ตัวดิฉันก็หายไปเลย ดิฉันรู้สึกดีมากๆ และรู้สึกอัศจรรย์และตื่นเต้นในทุกรอบของการนั่งสมาธิค่ะ

 

เชอรีล ธีลโรล 

 

 

 

 

        ดิฉันชื่อ เชอรีล ธีลโรล อายุ 28 ปี เป็นชาวฟิลิปปินส์ ดิฉันทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลค่ะ ดิฉันฝึกสมาธิครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ตอนแรกที่เริ่มนั่ง ดิฉันรู้สึกกลัว เพราะพอนั่งหลับตา ดิฉันก็เห็นแต่ความมืด มืดเหมือนตอนเที่ยงคืน แต่พอผ่านไปสักพัก ตัวดิฉันกลับค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งทำให้ดิฉันยิ่งกลัว จึงลืมตาค่ะ ต่อมาดิฉันก็ลองนั่งใหม่ โดยเริ่มรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ดิฉันใช้เทคนิคตามที่พระอาจารย์แนะนำ คือ นึกกลืนลูกแก้วลงไปในท้อง พอนึกกลืนลูกแก้วลงไปเท่านั้น ขณะที่กำลังตกลงไปนั้นเอง ลูกแก้วก็ค่อยๆสว่างขึ้นๆ แล้วระเบิดออก กลายเป็นแสงสว่างที่เจิดจ้าขยายออกไปเป็นวงกว้างค่ะ จากนั้นดิฉันก็รู้สึกว่าตัวเองลอยขึ้น แล้วเห็นตัวเองนั่งอยู่ในกลางความสว่างนั้น มันทำให้ดิฉันมีพลังใจอย่างสูง และเกิดความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าทุกสิ่งที่ดิฉันปรารถนานั้น จะทำได้สำเร็จหมดเลยค่ะ สมาธิมอบพลังที่วิเศษให้กับดิฉันจริงๆค่ะ

 

โง บั๊ค เงิน 

 

 

 

        ดิฉันชื่อ โง บั๊ค เงิน อายุ 44 ปี เป็นชาวเวียดนาม เป็นเจ้าของโรงเรียนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในฮานอย และเป็นผู้นำธุรกิจในระดับ Platinum ดิฉันนั่งสมาธิครั้งนี้เป็นครั้งแรก วิธีฝึกสมาธิของโครงการ The Middle Way เข้าใจง่ายและทำได้ง่ายมาก เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการดำเนินชีวิตค่ะ ในวันแรก รอบแรกของการนั่งสมาธิ ดิฉันทำตามที่พระอาจารย์แนะนำ คือ นั่งหลับตาเบาๆ ผ่อนคลายสบายๆ ทำใจให้โล่งๆว่างๆเฉยๆ ไม่ต้องนึกอะไรทั้งสิ้น ทันใดนั้นเอง ขณะที่กำลังฟังล่ามแปลวิธีการนั่งสมาธิอย่างใจจดใจจ่อ อยู่ดีๆก็มีดวงแก้วผุดขึ้นมาที่กลางท้องค่ะ เป็นดวงแก้วที่ใสสว่างมาก ดิฉันไม่เคยพบเห็นดวงแก้วแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิตค่ะ ดิฉันรู้สึกปลื้มปีติอย่างบอกไม่ถูก ทั้งปลื้มใจ สุขใจ อิ่มเอมใจ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้สึกอย่างนี้เลย ดิฉันอยากขอบคุณ คุณสุพัฒน์ (เพชรน้อย) ที่ทำให้ดิฉันมีวันนี้ ดิฉันอยากบอกว่า “สิ่งที่คุณทำยิ่งใหญ่เหลือเกิน คุณ คือ ยอดกัลยาณมิตรของพวกเราทุกคนค่ะ”

 

        ท้ายที่สุดนี้ ผมขอกราบเรียนหลวงพ่อว่า ตอนนี้เพื่อนๆของผมล้วนได้พบกับความสมบูรณ์ของชีวิตอย่างแท้จริงแล้ว ทุกคนต่างมีความตั้งใจที่จะนั่งสมาธิอย่างต่อเนื่องทุกวัน และตอนนี้ก็ได้เริ่มนั่งสมาธิออนไลน์ ทั้งในฟิลิปปินส์ เวียดนาม และฮ่องกงครับ ผมคิดว่าในเร็วๆนี้ ต้องมีผลการปฏิบัติธรรมที่น่าชื่นใจ มาฝากหลวงพ่ออีกแน่นอนครับ

 

กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง

สุพัฒน์ ภัทรวรกุลวงศ์