ทำไมชาวโลกจึงเรียกเราว่าตถาคต


[ 5 ก.ค. 2555 ] - [ 18266 ] LINE it!

ณ ป่าประดู่ลาย

 
พระตถาคต
พระตถาคต
 
พระตถาคต
 
ดูก่อนจุนฑะ ตถาคตย่อมตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในราตรีใดก็ดี ย่อมปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุในราตรีใดก็ได้ ตถาคตย่อมกล่าว ย่อมแสดงซึ่งสิ่งใดในระหว่างนี้ สิ่งนั้นทั้งหมดย่อมเป็นอย่างนั้นทีเดียว ย่อมไม่เป็นอย่างอื่น เพราะฉะนั้นชาวโลกจึงเรียกว่า ตถาคต
 
                 ปาสาทิกสูตร ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๑๕ หน้า ๕๘๑ 
 
มหาทาน
 
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทาน ๕ ประการนี้เป็นมหาทาน อันบัณฑิตพึงรู้ว่าเป็นเลิศ มีมานาน เป็นเชื้อสายแห่งพระอริยะ เป็นของเก่า ไม่กระจัดกระจาย ไม่เคยกระจัดกระจาย อันบัณฑิตไม่รังเกียจอยู่ จักไม่รังเกียจ อันสมณพราหมณ์ ผู้เป็นวิญญูไม่รังเกียจ ทาน ๕ ประการเป็นไฉน
 
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ละปาณาติบาต งดเว้นจากปาณาติบาตร ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้งดงามจากปาณาติบาต ชื่อว่าให้ความไม่มีภัย ความไม่มีเวร ความไม่เบียดเบียน แก่สัตว์หาประมาณมิได้ ครั้นให้ความไม่มีภัย ความไม่มีเวร ความไม่เบียดเบียนแก่สัตว์หาประมาณมิได้แล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งความไม่มีภัย ความไม่มีเวร ความไม่เบียดเบียนหาประมาณมิได้
 
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นทานประการที่ ๑ ที่เป็น มหาทาน... (มหาทานอีก ๔ ประการ คือ ศีล ๕ ข้อที่ ๒-๕)
                                          ปุญญาภิสันทสูตร เล่ม ๓๕ หน้า ๔๙๒ 
 
คำถามไม่ควรตอบ
 
(โปฏฐปาทปริพาชกทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยคำถามเป็นต้นว่า โลกเที่ยงหรือไม่เที่ยง...โลกมีที่สิ้นสุดหรือไม่มีที่สิ้นสุด ฯ แต่พระองค์ไม่ทรงตอบ)
 
ป. : ก็เพราะเหตุไร พระผู้มีพระเจ้าจึงไม่ทรงพยากรณ์ พระเจ้าข้า
 
เพราะข้อนั้น ๆ ไม่ประกอบด้วยอรรถ ไม่ประกอบด้วยธรรม ไม่เป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ ไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย ไม่เป็นเพื่อความปล่อยวาง ไม่เป็นไปเพื่อความดับ ไม่เป็นไปเพื่อความสงบ ไม่เป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง ไม่เป็นไปเพื่อความตรัสรู้ ไม่เป็นไปเพื่อนิพพาน ฉะนั้น เราจึงไม่พยากรณ์
                              
โปฏบปาทสูตร เล่ม ๑๒ หน้า ๑๖๔ 
 
วิบากของผู้ทำปาณาติบาตและมุสาวาท 
 
(พระเถระรูปหนึ่ง) : ท่านเปลือยกาย มีผิวพรรณเลวทราม มีกลิ่นเหม็นเน่าฟุ้งไป หมู่แมงวันพากันตอมเกลื่อนกล่น ท่านเป็นใครหนอมายืนอยู่ที่นี้
 
(หญิงเปรต) : ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ดิฉันเป็นเปรตถึงทุคติ เกิดในยมโลก เพราะทำกรรมอันลามกจึงต้องจากโลกนี้ไปสู่เปตโลก เวลาเช้าคลอดบุตร ๕ คน เวลาเย็นอีก ๕ คน แล้วกินลูกเหล่านั้นหมด ถึงบุตร ๑๐ คน เหล่านั้นก็ยังไม่อาจบรรเทาความหิวของดิฉัน หัวใจของดิฉันเร่าร้อนอยู่เป็นนิจเพราะความหิว ดิฉันไม่ได้ดื่มน้ำที่ควรดื่ม ขอท่านจงดู ดิฉันผู้ถึงความพินาศเช่นนี้เถิด
 
(พระเถระ) : เมื่อก่อน ท่านได้ทำกรรมชั่วอะไรไว้ด้วยกาย วาจา ใจ หรือท่านกินเนื้อบุตรทั้งหลายเพราะวิบากแห่งกรรมอะไร
 
หญิงเปรต
หญิงเปรต
 
(หญิงเปรต)  : เมื่อก่อนหญิงร่วมสามีของดิฉันคนหนึ่งมีครรภ์ ดิฉันคิดชั่วต่อเขา มีใจประทุษร้าย ได้ทำให้ครรภ์ตกไป เขามีครรภ์ ๒ เดือนเท่านั้น ไหลออกเป็นโลหิต ครั้งนั้น มารดาของเขาโกรธดิฉัน เชิญพวกญาติมาประชุมซักถาม ให้ดิฉันทำการสบถและขู่เข็ญให้กลัว ดิฉันได้ทำการสบถ และมุสาวาทอย่างแรงว่า ถ้าดิฉันทำชั่วอย่างนี้ ขอให้ดิฉันกินเนื้อบุตรเถิด ฉันมีกายอันเปื้อนด้วยหนองและโลหิต กินเนื้อบุตรทั้งหลาย เพราะวิบากแห่งกรรม คือ การทำให้ครรภ์ตกและการพูดมุสาทั้งสองนั้น
                               ปัญจปุตตขาทิกเปตวัตุ เล่ม ๔๙ หน้า ๖๑ 
 
เปรตกินมูตรคูถเพราะด่าสามี 
 
(ภิกษุรูปหนึ่ง) : หญิงเปรตนี้กินคูถ มูตร โลหิต และหนอง นี้เป็นวิบากแห่งกรรมอะไร หญิงเปรตนี้เมื่อก่อนได้ทำกรรมอะไรไว้จึงมีเลือดและหนองเป็นภักษานิจ ผ้าทั้งหลายอันใหม่และงาม อ่อนนุ่ม บริสุทธิ์ มีขนอ่อน อันท่านให้แล้วแก่หญิงเปรตนี้ ย่อมกลายเป็นเหล็กไป เมื่อก่อนหญิงเปรตนี้ได้ทำกรรมอะไรไว้หนอ
 
เปรตกินมูตรคูถเพราะด่าสามี
เปรตกินมูตรคูถเพราะด่าสามี
 
(เทพบุตร) : ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เมื่อก่อนหญิงเปรตนี้เป็นภรรยาของข้าพเจ้ามีความตระหนี่เหนียวแน่น ไม่ให้ทาน นางได้ด่าและบริภาษข้าพเจ้าผู้กำลังให้ทานแก่สมณพราหมณ์ทั้งหลายว่า จงกินคูถ มูตร เลือดและหนองอันไม่สะอาดตลอดกาลทุกเมื่อ คูถ มูตร เลือด และหนองจงเป็นอาหารของท่านในปรโลก แผ่นเหล็กจงเป็นผ้าของท่าน นางมาเกิดในที่นี้จึงกินแต่คูถและมูตรเป็นต้น ตลอดกาลนานเพราะประพฤติชั่วเช่นนี้

                             มหาเปสการเปตวัตถุ เล่ม ๔๙ หน้า ๘๔



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำไมต้องอุทิศส่วนกุศลทำไมต้องอุทิศส่วนกุศล

เพราะส่อเสียดจึงปากเหม็นเพราะส่อเสียดจึงปากเหม็น

ชี้ทางก็ได้บุญชี้ทางก็ได้บุญ



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

แรงบันดาลใจจากพระไตรปิฎก