แม่ของ “พระยอดกตัญญู” ศรีสะเกษเสียชีวิตแล้วอย่างสงบ


[ 1 ส.ค. 2549 ] - [ 18262 ] LINE it!

 
 
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- แม่ของ “พระยอดกตัญญู” ศรีสะเกษเสียชีวิตแล้วอย่างสงบ หลังจากที่ต้องป่วยเป็นโรคอัมพฤษ์และกระเพาะอาหารอักเสบมานานหลายปี ขณะที่พระยอดกตัญญูอาลัยรักโยมแม่พร้อมเตรียมเข้ารับรางวัลลูกกตัญญู จากพระองค์เจ้าโสมสวลีฯ ในวันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค.นี้ เพื่อ นำรางวัลมาให้โยมแม่รับรู้ก่อนทำพิธีฌาปนกิจศพต่อไป
       
       วันนี้ ( 28 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางตู๊จ ศรีสัจจา อายุ 75 ปี แม่ของพระอภิรักษ์ อภิญญาโณ อายุ 41 ปี พระลูกวัดบ้านสังกัน หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม “พระยอดกตัญญู” ได้เสียชีวิตแล้วอย่างสงบ เมื่อเวลา 04.30 น.ที่ผ่านมา ขณะนี้บรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านได้ร่วมตั้งบำเพ็ญกุศลศพตามพิธีทางพุทธศาสนา ที่บ้านเลขที่ 72 ม.1 บ้านสำโรงพลัน ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ นางตู๊จ
       
       
ทั้งนี้ พระอภิรักษ์ อภิญญาโณ อายุ 41 ปี พระลูกวัดบ้านสังกัน ซึ่งบวชมานานมีพรรษามากกว่า 23 พรรษา ได้ยอมทิ้งตำแหน่งเจ้าอาวาสที่เป็นมานานกว่า 9 ปี ยอมลดฐานะลงมาเป็นพระลูกธรรมดา เพื่อจะได้มีเวลาปรนนิบัติดูแลโยมแม่ที่ป่วยเป็นโรคอัมพฤษ์ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มานานหลายปีอย่างใกล้ชิด จนเป็นข่าวทางสื่อมวลชนโด่งดังไปทั่วประเทศเมื่อเร็วๆ นี้
       
       โดยตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นต้นมา ญาติพี่น้องได้นิมนต์พระสงฆ์มาประกอบพิธีทางศาสนา ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด ซึ่งศพของนางตู๊จ ถูกคลุมด้วยผ้าขาวนอนอยู่บนที่นอนภายในบ้านมีพระอภิรักษ์ นั่งเฝ้าศพของโยมแม่ ด้วยความรักอาลัยที่โยมแม่จากไปอย่างกะทันหัน
 

       
       พระอภิรักษ์ อภิญญาโณ พระยอดกตัญญู กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมาโยมแม่ได้กินขนมหวานซึ่งเป็นวุ้นกะทิ แล้วมีอาการท้องเสียถ่ายอุจจาระอย่างรุนแรง อาตมาจึงได้นำโยมแม่ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลไพรบึง นพ.สุขเกษม เรืองนุช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลไพรบึง ได้ทำการตรวจรักษาแล้วให้นอนพักที่โรงพยาบาล 3 วันโยมแม่ขอออกจากโรงพยาบาล กลับมาพักผ่อนที่บ้าน แพทย์จึงให้ยามารับประทานที่บ้าน
       

       ปรากฏว่าเมื่อมาพักรักษาอยู่บ้านโยมแม่บ่นปวดท้องตลอดเวลา อาตมาจึงได้แจ้งให้โรงพยาบาลไพรบึงทราบ และ นพ.สุขเกษม ได้มาช่วยดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง
       
       อย่างไรก็ตาม โยมแม่มีอาการสดชื่นขึ้นและตื่นเต้นดีใจมาก เมื่อได้รับทราบข่าวว่า ทางสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้คัดเลือกให้อาตมาเข้ารับพระราชทานรางวัลลูกกตัญญู จากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ ในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ ที่สวนอัมพร กรุงเทพฯ
       
       โยมแม่ จึงได้เตรียมเสื่อไหมสีดำ และผ้าถุงฝืนใหม่เพื่อจะเดินทางไปเข้าเฝ้าฯรับรางวัลพระราชทานร่วมกับอาตมาที่กรุงเทพฯ ด้วย เพราะต้องการเห็นอาตมารับพระราชทานรางวัลโดยตาของตัวเอง ส่วนเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่ทราบข่าวพากันมาร่วมแสดงความยินดี และคอยเป็นเพื่อนช่วยเหลือดูแลเฝ้าไข้โยมแม่ด้วย
       
       “แต่เมื่อเวลา 04.30 น. วันนี้ ( 28 ก.ค.) อาตมาได้เตรียมที่จะออกบิณฑบาต ซึ่งปฏิบัติเป็นประจำทุกวันมาโดยตลอด ได้เดินเข้าไปดูอาการของโยมแม่ แต่ว่าอาตมาแทบช็อกเมื่อพบว่าโยมแม่ได้สิ้นลมหายใจไปแล้วอย่างสงบ โดยที่ไม่มีวี่แววหรือว่ามีอาการบ่งบอกล่วงหน้าแต่อย่างใด” พระอภิรักษ์ กล่าว
       
       พระยอดกตัญญู กล่าวต่อว่า อาตมาจะตั้งบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมศพ 3 วัน แล้วจะเก็บศพโยมแม่ไว้ที่บ้าน และหลังจากกลับมาจากรับพระราชทานรางวัลลูกกตัญญูในวันที่ 12 ส.ค.แล้ว จะนำเอารางวัลพระราชทานมาวางไว้ข้างโลงศพโยมแม่ให้ได้รับรู้ และจะขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษแก่โยมแม่ด้วย โดยทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลไพรบึง ร่วมกับทางอำเภอไพรบึง จะช่วยดำเนินการประสานงาน ในเรื่องการเสนอขอพระราชทานเพลิงศพให้
       
   
    “โยมแม่พ้นทุกข์ไปแล้ว หลังจากจัดงานศพของโยมแม่เสร็จเรียบร้อย อาตมาก็จะกลับไปปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างเต็มที่เช่นเดิมเพื่อจะได้ร่วมพัฒนาพระพุทธศาสนาสืบต่อไป ซึ่งอาตมาต้องกราบขอบพระคุณท่านพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ที่ได้ให้ความเมตตาบริจาคเงิน จำนวน 500,000 บาท ให้อาตมาสร้างกุฏิอยู่ที่วัดบ้านสังกันเพื่อที่จะได้นำโยมแม่ไปอยู่ด้วยที่วัดบ้านสังกันด้วยและการก่อสร้างใกล้เสร็จแล้ว แต่โยมแม่ต้องมาจากไปเสียก่อน” พระอภิรักษ์ กล่าว
       
       ทางด้าน นพ.สุขเกษม เรืองนุช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลไพรบึง กล่าวว่า นางตู๊จ มีอาการเจ็บปวดบริเวณใต้ลิ้นปี่เนื่องจากป่วยเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบมีแผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งแทพย์ได้ให้การรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่แต่ นางตู๊จ ต้องการกลับมานอนรักษาที่บ้าน จึงได้ให้รถโรงพยาบาลมาส่ง และตนได้คอยมาติดตามดูอาการป่วยอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา แต่เนื่องจากว่าผู้ป่วยร่างกายอ่อนแอมาก ประกอบดับอายุมากแล้ว จึงได้เสียชีวิต ดังกล่าว
 



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ชายไทยพึ่งเจ๊เบียบร้องถูกเมียสวมเขาชายไทยพึ่งเจ๊เบียบร้องถูกเมียสวมเขา

'ไม่พูดไม่ยิ้ม' โรคใหม่มากับสังคมอุตสาหกรรม'ไม่พูดไม่ยิ้ม' โรคใหม่มากับสังคมอุตสาหกรรม

องค์กรศาสนาประท้วงหนัง องค์กรศาสนาประท้วงหนัง "โกยเถอะโยม" หมิ่นพระ



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

DMC NEWS