ลูกควรจะตอบแทนพระคุณพ่อแม่ได้อย่างไรบ้าง


[ 10 ส.ค. 2555 ] - [ 18279 ] LINE it!


ความกตัญญูต่อพ่อแม่


 
ข้อคิดรอบตัว
 
 
ข้อคิดของคำว่าแม่
 
        ในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกๆ ปี เป็นที่ทราบกันดีว่ามีเทศกาลสำคัญอยู่วันหนึ่ง นั่นก็คือวันแม่แห่งชาติ หลายคนคงอยากจะทราบเรื่องราวเกี่ยวกับวันแม่กัน ซึ่งในทางโลกนั้นเราก็ทราบกันดีว่าคุณแม่คือผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเรามาเป็นอย่างดี และหลายคนก็มีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับความรักความผูกพันที่มีต่อคุณแม่ด้วย
 

ในทางพระพุทธศาสนานั้นแม่ผู้ให้กำเนิดมีความหมายว่าอย่างไร?

 
        นัยในแง่ที่ว่าแม่คือผู้ให้กำเนิดนั้นเหมือนกัน แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ทรงเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของคุณพ่อคุณแม่ โดยท่านพอกว่าคุณพ่อคุณแม่นั้นตั้งอยู่ในฐานะอีก 4 ประการของบุตร
 
        ประการแรก คือ เป็นครูคนแรกของลูก ทั้งฝึกสอนการพูด เดิน กิน นอน ลูกก็จะค่อยๆ ซึมซับการเรียนรู้จากคุณแม่ทีละอย่างๆ คุณแม่เปรียบเสมือนพระพรหมของลูกด้วย พระพรหมคือผู้ที่ประกอบด้วยพรหมวิหารธรรม 4 คือ
 
        1. มีเมตตา  คือ ปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข ตัวท่านเองนั้นอยากให้ลูกมีความสุข
 
        2. กรุณา คือ อยากให้ลูกพ้นทุกข์ ทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกพ้นทุกข์และมีความสุข
 
        3. มุทิตา คือ ความชื่นชมยินดีกับลูกเมื่อลูกทำความดีใดๆ ก็ตาม
 
        4. อุเบกขา คือ เมื่อลูกโตแล้วก็พยายามเข้าใจ และค่อยๆ ลดบทบาทตัวเองที่เหมาะสมลง ไม่กล้ำเกินให้ลูกมีการตัดสินใจเองให้มากขึ้น ฯลฯ เปลี่ยนตัวเองจากผู้ที่ดูแลทุกอย่างกลายเป็นที่ปรึกษา เป็นลักษณะที่ว่า เมื่อลูกมีอะไรขึ้นมาแล้วละก็ สามารถเข้าหาคุณแม่แล้วปรึกษาหารือคุยกันได้ทุกเมื่อ นี้คือหัวใจของแม่ที่เรียกว่าเป็นพระพรหม
 
        พอเป็นอย่างนี้แล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ทรงเปรียบว่า คุณแม่นั้นเป็นเหมือนพระอรหันต์ของลูก พูดโดยย่อก็คือ เพราะหัวใจของแม่นั้นมีความบริสุทธิ์ต่อลูกอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเลย ลูกจะดื้อเกเรอย่างไรแม่ก็ยังคงรักและหวังดีกับลูกเสมอ พร้อมให้อภัยในความผิดทุกอย่าง และมีความบริสุทธิ์ใจ จริงใจ ดูตัวอย่างของแม่ขององคุลิมาลย์ ลูกตัวเองไปเป็นโจรฆ่าคนเป็นร้อยเป็นพัน จนคนเกลียดกลัวกันไปทั่ว แต่ใจแม่นั้นยังรักและห่วงใยลูกเสมอ แค่เพียงได้ข่าวว่าพระเจ้าปเสนทิโกศลจะยกกองทัพไปปราบองคุลิมาลย์ ด้วยความรักลูกจึงรีบเดินทางไปบอกองคุลิมาลย์ให้รีบหนีไป
 
คุณแม่เป็นเหมือนเทวดาของลูก
คุณแม่เป็นเหมือนเทวดาของลูก
 
        ลูกจึงควรปฏิบัติต่อคุณแม่โดยให้ถือว่าท่านนั้นเป็นเนื้อนาบุญของเรา ทำบุญกับท่าน ดูแลปรนนิบัติท่าน ก็เหมือนได้ปรนนิบัติอุปัฏฐากพระอรหันต์เลย ท่านเป็นพระอรหันต์ในบ้าน อย่าลืมตรงนี้ และสามัญนามของคุณแม่เป็นเหมือนเทวดาของลูก เพราะท่านดูแลปกป้องผองภัย ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม เฝ้าทะนุถนอมเลี้ยงดูอย่างดี จึงเป็นเสมือนเทวดาที่คุ้มครองผองภัยให้ลูกมาก่อนคนอื่น
 

ผู้เป็นลูกควรจะตอบแทนพระคุณแม่อย่างไรบ้างในทุกๆ วัน?

 
        สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะชื่นใจมากเมื่อรู้ว่าลูกนั้นรักเรา คิดถึงเรา มีความกตัญญูต่อเรา เพียงแค่นี้ก็มีความสุขใจและชื่นใจแล้ว ฉะนั้นในวาระพิเศษอย่างวันแม่นั้น ถ้าท่านยังอยู่สิ่งที่ควรทำคือ รีบชวนพี่น้องทั้งหลายไปหาท่าน ทำให้ท่านอบอุ่นใจ ถ้ามีลูกหลานก็ให้พาไปด้วย ลูกหลานจะได้เห็นว่าคุณพ่อคุณแม่ตัวเองปฏิบัติต่อคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย อย่างไร และสิ่งที่เราทำนั่นแหละต่อไปลูกหลานเราจะดูเป็นแบบอย่าง แล้วเขาก็จะปฏิบัติต่อเราอย่างนั้นเหมือนกัน ทำไว้อย่างไรเราก็จะได้อย่างนั้น
 
        ในกรณีที่ท่านละจากโลกนี้ไปแล้ว ก็ให้ชักชวนญาติพี่น้องทั้งหมดไปทำบุญให้ท่านในวันสำคัญต่างๆ แล้วอุทิศส่วนกุศลให้ท่านด้วย นี้คือหน้าที่ของลูกที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ทรงตรัสไว้
 
        พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ทรงตรัสเปรียบเทียบไว้อีกว่า ถ้าบุตรจะพึงวางบิดามารดาไว้บนบ่าทั้ง 2 ของตนไว้คนละข้าง ประคับประคองท่านอยู่บนบ่านั้น ป้อนข้าวป้อนน้ำ ให้ท่านถ่ายอุจจาระปัสสาวะบนบ่านั้นเสร็จ แม้บุตรจะมีอายุถึง 100 ปี แล้วปรนนิบัติท่านอย่างนี้ไปจนตลอดชีวิต ก็ยังตอบแทนพระคุณพ่อแม่ไม่หมด
 
        บางท่านก็มีการเปรียบว่า ถ้าเราใช้ท้องฟ้าแทนกระดาษ เอามหาสมุทรแทนหมึกวาด แล้วเอาภูเขาพระสุเมรุแทนปากกา มาเขียนบรรยายพระคุณของแม่ จนท้องฟ้าเต็มไปด้วยตัวหนังสือ น้ำในมหาสมุทรก็แห้งเหือดไป ภูเขาพระสุเมรุก็สึกจนเตียน ยังบรรยายพระคุณแม่ไม่หมด อย่าไปนึกว่าเป็นการเปรียบเทียบให้มากจนเกินไป ถ้าขยายรายละเอียดแล้วจะลงรายละเอียดได้มากจริงๆ เป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่ใช่แค่เปรียบเทียบ จึงต้องให้รู้ว่าพ่อแม่มีพระคุณมากๆ เลย
 
        ดังนั้น ถ้าหากเราเองอยากจะตอบแทนพระคุณพ่อแม่ให้ได้เต็มที่แล้วละก็มีวิธี คือ ถ้าท่านยังไม่ได้ให้ทานก็ชักนำให้ท่านได้ให้ทานให้ได้ ถ้าท่านยังไม่ได้รักษาศีลเรา ต้องทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรชักชวนให้ท่านรักษาศีลให้ได้ ถ้าท่านยังไม่ได้ทำสมาธิภาวนา ให้เราหาวิธีการทุกอย่าง ใช้สติปัญญาอย่างเต็มที่ด้วยความวิริยะอุตสาหะและอดทน ให้ท่านได้ปฏิบัติธรรมทำสมาธิภาวนาให้ได้ เพราะทาน ศีล และภาวนานี่เองจะเป็นทางมาแห่งบุญ ให้คุณแม่ท่านเองได้มีบุญหล่อเลี้ยงใจ เมื่อท่านจากโลกนี้ไปก็จะไปสู่สุคติโลกสวรรค์ เพราะมีเรานั่นแหละท่านจึงต้องไปทำบาปตั้งเท่าไหร่ ฉะนั้นวิธีการทดแทนพระคุณท่านก็คือให้ท่านอยู่ในบุญ เพราะสิ่งนี้มีคุณค่าต่อท่าน ยิ่งกว่าการดูแลเลี้ยงดูอย่างอื่นทั่วไปมากนัก แต่ดูแลชาตินี้ก็ต้องทำนะแต่อย่าหยุดแค่นั้น ต้องดูต่อว่าเมื่อท่านละโลกไปแล้วก็ต้องมีเสบียงบุญติดตัวข้ามภพข้ามชาติไปด้วย นี้คือการตอบแทนพระคุณพ่อแม่ที่ดีที่สุด
 
มีข้อคิดในการดูแลพ่อแม่และลูกอย่างไรให้ดีที่สุด?
 
        ขอฝากไว้ว่า คนเรานั้นใครที่มีความกตัญญูต่อพ่อแม่จะเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งแก่ชีวิตเราเอง เพราะจะทำให้เขาเองมีกำลังใจในการทำความดี และเมื่อไหร่ที่คิดจะไปทำไม่ดีเข้าจะมีสิ่งมาคอยห้ามไม่ให้ทำ เพราะเกรงว่าพ่อแม่จะเสียใจ แต่พอจะทำเรื่องดีๆ ก็นึกถึงพ่อแม่ ว่าถ้าเราทำเรื่องดีๆ อย่างนี้ได้ท่านต้องชื่นชมดีใจแน่เลย รู้สึกอยากให้ท่านดีใจเพราะเรารักท่าน กตัญญูต่อท่าน มันจะเป็นพลังขับเคลื่อนในทางที่สร้างสรรค์อย่างดี
 
ใครที่มีความกตัญญูต่อพ่อแม่จะเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งแก่ชีวิตเขาเอง
ใครที่มีความกตัญญูต่อพ่อแม่จะเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งแก่ชีวิตเขาเอง
 
        คนเอเชียในอเมริกานั้นผลการเรียนค่อนข้างดีกว่าเด็กผิวขาวเสียอีก เพราะสถาบันครอบครัวของคนเอเชียนั้นแข็งแรงกว่า ทางฝรั่งนั้นเขาถือว่าเมื่อลูกอายุครบ 18 ปี จบ ม. ปลายแล้ว ก็คือออกจากบ้านไปแล้ว จะไปเรียนมหาวิทยาลัยก็ต้องออกไปหางานทำหาเงินเรียนเอง ถือว่าหมดภาระของพ่อแม่แล้ว ถามว่าแล้วลูกจะรักพ่อแม่ไหม ก็รักนะแต่ในระดับหนึ่ง แต่ชาวเอเชียนั้นระหว่างพ่อแม่กับลูกมีความสัมพันธ์ที่แน่นเหนียวมากกว่า จึงเป็นพลังขับเคลื่อนให้เด็กเองตั้งใจเรียน พอจะทำอะไรไม่ดีก็จะนึกถึงพ่อแม่แล้วก็ไม่อยากทำ เพราะสถาบันครอบครัวแข็งแรงกว่า ผลออกมาเด็กได้ดีมากกว่า
 
        แต่คนไหนที่คิดว่ามีพ่อแม่คอยดูอยู่ใกล้ๆ แล้วอึดอัด อยากไปอยู่หอพัก ไม่ต้องการให้พ่อแม่คอยจ้ำจี้จ้ำไช ต้องการอิสรเสรีเหนืออื่นใด ถ้าใครคิดอย่างนี้แล้วละก็ เราลองมองต่อไปอีก 1-2 ปี เท่านั้นเอง มักจะพบว่ามีโอกาสเสียคนสูง เพราะมองประเด็นผิด
 
        แต่คนไหนแม้จะจากพ่อแม่ไปที่ไหนๆ ก็ตามแล้วยังมีท่านอยู่ในใจ บางคนถึงขนาดมีรูปคุณแม่อยู่ในกระเป๋าเสื้อหรือบนหัวเตียงนอน ก่อนนอนบูชาพระแล้วก็กราบท่านด้วย อย่างนี้รู้เลยว่าคนๆ นี้ โอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตมีสูง เพราะพ่อแม่เป็นสิริมงคล แรงเหนี่ยวรั้งใจไม่ให้ทำชั่วและมีกำลังใจในการทำความดี โดยหลักนั้นมี 2 อย่าง คือ
 
        1. เรื่องความเชื่อ ความศรัทธาในศาสนา
 
        2. สถาบันครอบครัว
 
        ใครเคารพคุณแม่ กตัญญูต่อคุณพ่อคุณแม่นั้นถือว่าได้กำไรไปแล้วกว่าครึ่งค่อนทีเดียว ฉะนั้นลูกๆ ทั้งหลายควรนึกถึงคุณแม่บ่อยๆ เถอะ แล้วสิริมงคลจะเกิดขึ้นกับเราเอง
 
รับชมวิดีโอ
 

รับชมคลิปวิดีโอข้อคิดของคำว่าแม่
ชมวิดีโอข้อคิดของคำว่าแม่  MP3 ธรรมะข้อคิดของคำว่าแม่   Download ธรรมะข้อคิดของคำว่าแม่
 
บทความที่เกี่ยวข้องกับลูกควรจะตอบแทนพระคุณพ่อแม่ได้อย่างไรบ้าง
 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
คนที่จะเป็น Idol ของคนอื่นได้ควรมีคุณสมบัติอย่างไรคนที่จะเป็น Idol ของคนอื่นได้ควรมีคุณสมบัติอย่างไร

เมื่อผู้หญิงบริหารประเทศควรยึดหลักอย่างไรในการพัฒนาประเทศเมื่อผู้หญิงบริหารประเทศควรยึดหลักอย่างไรในการพัฒนาประเทศ

รับข้อมูลข่าวสารอย่างไรโดยไม่ตกเป็นทาสของสื่อต่างๆรับข้อมูลข่าวสารอย่างไรโดยไม่ตกเป็นทาสของสื่อต่างๆ



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ข้อคิดรอบตัว