ทำให้ถูกหน้าที่


[ 14 ธ.ค. 2555 ] - [ 18266 ] LINE it!

ทำให้ถูกหน้าที่
 

 
     ความบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่มนุษย์ต่างมุ่งแสวงหา เป้าหมายของการเกิดมาของสรรพสัตว์ทั้งหลาย คือ เกิดมาเพื่อสร้างบารมี เพื่อทำความบริสุทธิ์ให้เข้าสู่ภาวะความหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ การศึกษาวิชชาในทางพระพุทธศาสนานั้น จึงเป็นเรื่องของการพัฒนาชีวิตให้มีความสุข และให้บริสุทธิ์จนหมดกิเลสไปสู่อายตนนิพพาน เป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ศาสนา หรือเผ่าพันธุ์ใดก็ตาม ควรเปิดใจกว้างเข้ามาศึกษาหาความรู้นี้ โดยวางความเชื่อดั้งเดิมไว้ชั่วคราว แล้วพิสูจน์ให้รู้เห็นด้วยตนเองเช่นนี้ จึงจะเกิดประโยชน์สูงสุด เป็นประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและชาวโลกด้วย
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน พันธนโมกขชาดก ความว่า
 
                            “อพทฺธา ตตฺถ พชฺฌนฺติ   ยตฺถ พาลา ปภาสเร
                             พทฺธาปิ ตตฺถ มุจฺจนฺติ    ยตฺถ ธีรา ปภาสเร
 
     คนพาลทั้งหลายผู้ไม่ถูกผูกมัด กล่าวขึ้นในที่ใด ย่อมถูกผูกมัดในที่นั้น ส่วนบัณฑิต แม้ถูกผูกมัดแล้ว กล่าวขึ้นในที่ใด ก็หลุดพ้นได้ในที่นั้น”
 
     บัณฑิตผู้มีปัญญา เมื่อถึงคราวคับขันย่อมสามารถเอาตัวรอดได้ เมื่อถูกผูกมัด ก็จะมีถ้อยคำที่คมคาย มีปฏิภาณไหวพริบ สามารถหลุดพ้นจากสถานการณ์นั้นได้ เหตุที่บัณฑิตมีความเฉลียวฉลาดเช่นนี้ เพราะว่ามีใจผ่องใสเป็นปกติ ใจที่ใสสว่างเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญาอันบริสุทธิ์ ที่จะหลุดพ้นจากปัญหาและอุปสรรคทั้งปวง แรกเริ่มเดิมทีจิตมนุษย์เป็นจิตที่บริสุทธิ์ผ่องใส แต่ถูกกิเลสหุ้มเคลือบ เอิบอาบ ซึมซาบ ปนเป็น จึงทำให้ความบริสุทธิ์ค่อยๆ ลดลงไป ความไม่บริสุทธิ์กลับมีเพิ่มมากขึ้น
 
     ตราบใดที่เรายังไม่รู้หนทางแห่งความบริสุทธิ์ และวิธีการปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงความบริสุทธิ์ จิตดวงนี้จะเสื่อมประสิทธิภาพ ทำให้ความคิด คำพูด และการกระทำผิดเพี้ยนไปจากเดิม เกิดพลั้งเผลอไปทำบาปอกุศลโดยรู้ไม่เท่าทันกิเลส กรรมชั่วที่ทำลงไปนั้น ย่อมส่งผลให้ได้รับความทุกข์ทรมาน เป็นวิบากกรรมที่กลับมาสนองตนเอง จนกว่าจะดำเนินตามเส้นทางที่ถูกต้องดีงาม บาปกรรมจึงทุเลาเบาบางลงได้
 
     * ดังเช่นเรื่องในอดีต มีปุโรหิตของพระเจ้าพรหมทัต ที่อยู่ในกรุงพาราณสี เป็นคนตาเหลือง มีเขี้ยวงอกยาว นางพราหมณีผู้เป็นภรรยาของปุโรหิต เป็นชู้กับพราหมณ์อีกคนหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับเขา เมื่อปุโรหิตรู้ก็ห้ามปรามภรรยา แต่ไม่อาจห้ามปรามได้ จึงคิดหาอุบายฆ่าชายชู้นี้ โดยไปเข้าเฝ้าพระราชา กราบทูลให้รื้อประตูเมืองทางด้านทิศใต้ แล้วทำประตูใหม่ด้วยไม้ที่เป็นมงคล พระราชาก็ทรงอนุญาต เมื่อทำประตูใหม่แล้ว จึงกราบทูลพระราชาว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นสมมติเทพ พรุ่งนี้เป็นวันมงคลฤกษ์ ต้องทำพลีกรรมยกพระทวารไม่ให้ล่วงฤกษ์นี้ไปได้ จำเป็นต้องฆ่าพราหมณ์ผู้บริสุทธิ์ ที่มีนัยน์ตาเหลืองมีเขี้ยวงอก เอาเนื้อและเลือดของเขามาทำพลีกรรม แล้วใส่อ่างฝังลงไปใต้พระทวาร เมื่อทำเช่นนี้ ความสุขสวัสดีก็จะบังเกิดมีแก่พระองค์และชาวพระนคร พระเจ้าข้า”
 
     พระราชาทรงเชื่อตามที่ปุโรหิตกราบทูล และทรงอนุญาตตามนั้น ปุโรหิตดีใจมาก ที่อุบายชั่วร้ายของตนกำลังจะสำเร็จ จึงรีบกลับไปบ้าน แต่ด้วยความที่รักษาความลับไว้ไม่ได้ จึงเผลอปากบอกภรรยาว่า “ตั้งแต่นี้ไป เจ้าจะเชยชมกับใครเล่า เพราะพรุ่งนี้ชายชู้ของเจ้าจะถูกทำพลีกรรมแล้ว” ภรรยาเถียงว่า “เขาไม่มีความผิด จะฆ่าเขาทำไม” ปุโรหิตบอกว่า “พระราชารับสั่งให้ทำพลีกรรมต่อพราหมณ์ที่มีตาเหลืองและมีเขี้ยวงอก ชู้ของเจ้ามีตาเหลืองและมีเขี้ยวงอกไม่ใช่หรือ”
 
     ภรรยาฟังดังนั้นจึงรีบส่งข่าวไปให้ชายชู้รู้ตัว ข่าวนี้ได้กระจายไปทั่วเมือง พวกพราหมณ์ทุกคนที่มีเขี้ยวและตาเหลือง รีบพากันหลบหนีออกจากเมืองในคืนนั้นหมด ปุโรหิตไม่รู้ว่าคนอื่นหนีไปหมดแล้ว จึงเข้าไปกราบทูลพระราชาแต่เช้าตรู่ เพื่อให้พระราชาส่งพวกราชบุรุษไปจับพราหมณ์ที่มีลักษณะดังกล่าว พวกราชบุรุษไปหาแล้ว ก็กลับมากราบทูลว่า “ทั่วทั้งเมืองไม่มีพราหมณ์ลักษณะตามที่ต้องการ มีแต่ท่านปุโรหิตเท่านั้น คนอื่นๆ ไม่มีลักษณะเช่นนี้เลย” พระราชาจึงรับสั่งว่า “เราไม่อาจฆ่าปุโรหิตได้” พวกอำมาตย์จึงกราบทูลว่า “ข้าแต่องค์ผู้สมมติเทพ เพราะท่านปุโรหิตเป็นคนกำหนดฤกษ์ยาม ถ้าไม่ทำในวันนี้ อัปมงคลอาจเกิดขึ้นแก่พระองค์ได้ หากบ้านเมืองไม่มีประตู ข้าศึกก็จะได้โอกาสมาโจมตี  ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องฆ่าปุโรหิตนี้”
 
     ในสมัยนั้น พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นอุปปุโรหิตชื่อตักการิยะ ซึ่งท่านเองก็เป็นลูกศิษย์ของปุโรหิต พระโพธิสัตว์จึงไปที่ประตูเมืองพร้อมด้วยราชบุรุษ สั่งให้ขุดหลุมในที่จะตั้งพระทวาร และให้ขึงม่านล้อมรอบอ่าง ตัวท่านได้เข้าไปอยู่ในม่านกับปุโรหิต ปุโรหิตมองดูหลุมแล้วได้แต่ทอดถอนใจ เพราะรู้ว่าความตายใกล้เข้ามาแล้ว จึงรำพึงว่า “เราเป็นผู้ยัดเยียดความฉิบหายให้ผู้อื่น แต่ผลสุดท้ายกลับตกมาสู่เราเอง” พระโพธิสัตว์ฟังดังนั้น จึงบอกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แม้ในอดีตก็เคยเกิดมาแล้ว จากนั้นท่านได้เล่าเรื่องในอดีตว่า
 
     มีหญิงงามเมืองคนหนึ่งชื่อกาลี น้องชายชื่อตุณฑิละ ทุกๆ วันนางกาลีจะหาเงินได้วันละ ๑,๐๐๐ กษาปณ์ ส่วนน้องชายเป็นคนชอบเล่นการพนัน ดื่มน้ำเมา เที่ยวผู้หญิง ไม่ว่าพี่สาวให้ทรัพย์เท่าไร เขาก็เอาไปใช้จนหมด ถึงนางจะห้ามปรามอย่างไรก็ไม่ฟัง วันหนึ่งน้องชายแพ้พนันจนหมดตัว ต้องจำนำผ้านุ่ง แล้วเอาเสื่อลำแพนมานุ่งแทน นางโกรธมากจึงสั่งพวกสาวใช้ว่า เมื่อตุณฑิละมาถึง ให้ช่วยกันขับไล่เขาออกจากบ้านทันที
 
     วันนั้น ลูกชายเศรษฐีคนหนึ่ง กำลังจะนำทรัพย์มาให้นางกาลี ๑,๐๐๐ กษาปณ์ ผ่านมาพบนายตุณฑิละเข้า หลังจากรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วก็รับปากว่าจะช่วยขอร้องพี่สาวให้ แต่เมื่อไปขอร้องนางกาลีแล้ว กลับได้รับคำปฏิเสธเพราะต้องการดัดนิสัยน้องชาย
 
     ในสมัยนั้น มีธรรมเนียมอยู่ว่า เงิน ๑,๐๐๐ กษาปณ์ที่หญิงงามเมืองได้นั้น ครึ่งหนึ่งเป็นของนาง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นค่าของหอม ดอกไม้ อุปกรณ์สำหรับต้อนรับ และเป็นค่าเสื้อผ้าให้แขกใช้ผลัดเปลี่ยนขณะอยู่ในเรือนของนาง ลูกชายเศรษฐีอยากช่วยตุณฑิละจึงนุ่งผ้าผืนนั้น แล้วเอาผ้าของตนเองให้ตุณฑิละ
 
     เมื่อตุณฑิละได้นุ่งผ้าใหม่แล้ว ก็รู้สึกทะนงตนขึ้นมาอีก ครั้นกลับเข้าบ้านจึงส่งเสียงตวาดคุกคามคนในบ้าน เมื่อนางกาลีรู้เรื่องก็ไม่พอใจลูกชายเศรษฐี ได้สั่งสาวใช้ว่า ต่อไปเวลาลูกเศรษฐีจะกลับไป ให้ช่วยกันแย่งผ้าแล้วเก็บเอาไว้ ลูกเศรษฐีจะได้ช่วยน้องชายของนางไม่ได้ เมื่อลูกชายเศรษฐีมาอีก แล้วจะกลับบ้านในเวลารุ่งเช้า พวกสาวใช้ก็กรูกันเข้าไปรุมถอดเสื้อผ้าของลูกเศรษฐี ทำให้เขาอับอาย ต้องเปลือยกายเดินกลับบ้าน เขารำพึงรำพันกับตนเองว่า เราไปยุ่งเรื่องของคนอื่นแท้ๆ จึงต้องมาเป็นเสียเอง
 
     เมื่อเล่าจบพระโพธิสัตว์สรุปว่า “เรื่องนี้ก็ทำนองเดียวกับเรื่องของอาจารย์นั่นแหละ ท่านอาจารย์มีหน้าที่สนองเบื้องยุคลบาท ปกครองบ้านเมืองให้มีสันติธรรม กลับใช้ตำแหน่งมาทำผิดหน้าที่ เอาตำแหน่งไปเบียดเบียนผู้อื่น ทำให้ทุกข์นั้นกลับมาถึงตนเอง” แล้วจึงปลอบใจว่า “ท่านอาจารย์อย่ากลัวเลย รีบหนีไปเถอะ ปลอมตัวอย่าให้ใครรู้” จากนั้นพระโพธิสัตว์ได้ไปเอาแพะตาย มาทำพลีกรรมแทน ทำให้อาจารย์รอดชีวิตไปได้
 
     เราจะเห็นว่า การทำผิดหน้าที่ ทำในสิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่ของตัว ย่อมต้องเดือดร้อนเช่นนี้ คำว่า "หน้าที่นั้น" ในความหมายที่เข้าใจง่ายๆ หมายถึงสิ่งที่ตนรับผิดชอบ ที่ต้องทำด้วยความสุขุมรอบคอบ มีความคิด คำพูด และการกระทำอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องดีงาม มนุษย์และเทวดาก็ติเตียนไม่ได้ ซึ่งหน้าที่หลักของมวลมนุษยชาติที่แท้จริง คือการสั่งสมบุญบารมี
 
     ดังนั้น ให้หมั่นสั่งสมบุญบารมีกันให้มากๆ ทำเช่นนี้จึงจะทำถูกหน้าที่ เพราะเราเกิดมาเพื่อสั่งสมบุญบารมีไปสู่อายตนนิพพาน ไม่ว่าเป็นบุญเล็กบุญน้อยก็อย่ามองข้าม ให้มีส่วนร่วมในบุญทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องการปฏิบัติธรรมทำใจหยุดใจนิ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำ เมื่อเราทำแล้วจะทำให้สมปรารถนาในชีวิต พวกเราต่างมีร่างกาย มีจิตใจ และยังมีคนคอยแนะนำวิธีการที่ถูกต้อง ที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมาย ขอให้หมั่นปฏิบัติธรรม และช่วยกันสถาปนาบ้านกัลยาณมิตร รวมผู้มีบุญมาประชุมพร้อมกันเพื่อมานั่งสมาธิ ศึกษาวิชชาในทางพระพุทธศาสนา ทำความบริสุทธิ์ให้เกิดขึ้นกับตน สังคม ประเทศชาติ และทั่วโลก ชีวิตของเราจะได้มีความสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ให้ช่วยกันทำหน้าที่นี้กันต่อไป ทำให้สมบูรณ์ยิ่งๆ ขึ้นไป สันติสุขที่แท้จริงจะได้บังเกิดขึ้นในโลก


พระธรรมเทศนาโดย: พระเทพญาณมหามุนี
 
นามเดิม พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
 
* มก. เล่ม ๖๐ หน้า ๓๐๐
 



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
คุณธรรมของนักปกครองคุณธรรมของนักปกครอง

ทำความดี คือหน้าที่หลักของมนุษย์ทำความดี คือหน้าที่หลักของมนุษย์

ภัทรกัปภัทรกัป



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ธรรมะเพื่อประชาชน