ชายโลเล


[ 14 ม.ค. 2556 ] - [ 18266 ] LINE it!

มังกรสอนใจ 5
บทความให้กำลังใจในการดำเนินชีวิต
 
ชายโลเล

     ในสมัยราชวงศ์ฮั่น มีชายคนหนึ่งมีความมุ่งมาดปรารถนาสูงสุดในชีวิต คือเป็นข้าราชการชั้นสูง มีชื่อเสียง ร่ำรวย ทว่ามุมานะทำงานมาแล้วครึ่งชีวิต แต่ยังไม่มีความสำเร็จอย่างที่หวัง ทำงานจนผมขาวโพลนไปทั้งศีรษะ ก็ยังคงเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยเท่านั้น มีวันหนึ่งเขาเดินอยู่บนถนน คิดถึงเรื่องราวชีวิตของตน ยิ่งคิดก็ยิ่งคับแค้นใจ จนสุดท้ายทนไม่ไหวร้องไห้โฮออกมา
 
            มีวันหนึ่งเขาเดินอยู่บนถนน คิดถึงเรื่องราวชีวิตของตน ยิ่งคิดก็ยิ่งคับแค้นใจ จนสุดท้ายทนไม่ไหวร้องไห้โฮออกมา

     มีคนเดินผ่านมาคนหนึ่ง เห็นเขาร้องไห้อย่างรวดร้าวใจเช่นนั้นคิดว่าเขาคงประสบภัยพิบัติอะไรที่คาดไม่ถึง จึงเข้าไปปลอบประโลมว่า

     "ท่านผู้เฒ่า ทำไมท่านจึงร้องไห้อย่างรวดร้าวใจเช่นนี้ ท่านอายุก็มากขนาดนี้แล้ว ควรระมัดระวังถนอมสุขภาพด้วย"

     ผู้เฒ่านั้นกล่าวว่า

     "คุณไม่รู้อะไร ตัวฉันเองตั้งแต่ยังเล็ก ก็ตั้งปณิธานไว้อย่างแน่วแน่ว่า จะต้องเป็นข้าราชการชั้นสูง สร้างเกียรติยศชื่อเสียงแก่วงศ์ตระกูลให้ได้ แต่ปัจจุบันฉันอายุ 60 ปีเศษแล้ว ยังคงเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยอยู่ ดูแล้วชาตินี้คงไม่มีทางสมปรารถนาแล้ว"
 
     ชายเดินถนนถามเขาอีกว่า
     "ที่แท้ท่านมีปณิธานอันยิ่งใหญ่ตั้งแต่ยังเด็ก แล้วทำไมความปรารถนาของท่านจึงไม่สัมฤทธิ์ผลล่ะ"

     ชายผู้เฒ่าตอบว่า

     "เมื่อตอนฉันยังหนุ่ม ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานอักษรศาสตร์ ฉันจึงไปเรียนอักษรศาสตร์ มีความเชื่อมั่นว่าตนเองเรียนได้ดีทีเดียวแต่ฮ่องเต้ชอบใช้คนมีอายุ บอกว่าฉันยังไม่มีประสบการณ์ เพราะฉะนั้นยังไม่แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญได้ รอจนฉันอายุเริ่มย่างเข้าวัยกลางคน ฮ่องเด้องค์เดิมสวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ทรงโปรดปรานการสู้รบ ฉันจึงวางมือจากอักษรศาสตร์ ไปเรียนวิชาการต่อสู้ คาดไม่ถึงฉันยังเรียนศิลปะการต่อสู้ไม่ทันสำเร็จ ฮ่องเต้องค์ใหม่ก็สวรรคตไปอีกฮ่องเต้องค์ถัดมาอายุยังน้อย ชอบใช้คนหนุ่ม แต่ตัวฉันนั้นเริ่มชราแล้ว ฉันพยายามปรับตัวตามความชอบของฮ่องเต้ทุกอย่าง สามารถพูดได้ว่าได้ทุ่มเทความพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ว่าคาดไม่ถึงในที่สุดก็ต้องประสบกับผลลัพธ์เช่นนี้ แล้วทำไมฉันจะไม่รวดร้าวใจ"

     ชายเดินถนนคนนั้น ทั้งๆ ที่เห็นอกเห็นใจในชะตากรรมของผู้เฒ่านั้นมาก แต่กลับนึกไม่ออกว่าจะใช้คำพูดอย่างไรมาปลอบประโลมเขาดี

ท่านสาธุชนทั้งหลาย...

     การวางทิศทางการทำงานของตนเองนั้น ไม่ควรนำไปผูกติดกับตัวบุคคลอื่น เพราะเป็นเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ความชอบ ความพอใจของคนเราก็เปลี่ยนแปลงได้เสมอ ถึงแม้ความชอบไม่เปลี่ยน เงื่อนไขก็อาจเปลี่ยนได้ จากการพ้นตำแหน่ง หรือการตายดังเช่นในเรื่องนี้ สิ่งที่เราควรทำคือ สำรวจตัวเองว่าเรามีความถนัดมีความชำนาญในเรื่องอะไร หาทางทำงานที่เราถนัด สามารถใช้ศักยภาพตัวเองได้เต็มที่ และงานนั้นต้องเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมด้วย การผูกทิศทางการทำงานของเราเข้ากับประโยชน์ขององค์กรหรือสังคมส่วนรวม เป็นเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงได้ยากกว่ามีความมั่นคงมากกว่า การปรับตัวตามผู้บังคับบัญชาเป็นสิ่งจำเป็นควรกระทำ แต่ควรเป็นการปรับในแง่มนุษย์สัมพันธ์และสไตล์ในการทำงานเท่านั้น ตัวเนื้อหาของงานที่เราทำนั้น ควรมีความต่อเนื่องไม่โลเลเปลี่ยนใจไปมา ต้องฝึกตัวเองอย่างต่อเนื่องให้มีความสามารถใความชำนาญจริง ๆ สุดท้ายความสำเร็จก็จะเป็นของเรา ยิ่งถ้าเรารู้จักวางเป้าหมายไว้ที่ความสำเร็จของงาน ประโยชน์ก็เกิดขึ้นกับองค์กร และสังคมส่วนรวม ไม่ใช่ว่าอยู่ที่ความก้าวหน้าของตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นผลพลอยได้ เราก็จะยิ่งทำงานอย่างสบายใจ และเป็นนักทำงานที่มีความสุข
 
วายเมเถว ปุริโส ยาว อตฺถสฺส นิปฺปทา
เกิดเป็นคน ควรพยายามเรื่อยไป จนกว่าจะสำเร็จ

(วิโรจนอสุรินทสูตร 15-313)
 

โดย พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ M.D., Ph.D.
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
โจรชิงกำไลโจรชิงกำไล

เจิงซานฆ่าคนเจิงซานฆ่าคน

คนขายเนื้อคนขายเนื้อ



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ธรรมะสอนใจ