สัมผัสอิสรภาพที่แท้จริงจากภายใน


[ 17 มี.ค. 2550 ] - [ 18270 ] LINE it!

ผลการปฏิบัติธรรม 
ของ 
กัลยาณมิตร จัสติน อีแวนส์  (อเมริกา) 
 
    ผมชื่อ จัสติน อีแวนส์ อายุ 36 ปีครับ เป็นชาวอเมริกัน อาศัยอยู่ที่เมือง แมรี่สวิลส์ ซึ่งอยู่ทางเหนือของเมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ผมทำงานเป็นวิศวกรอยู่บริษัทฯด้านโทรคมนาคม ครับ 
 
    บ้านของผมอยู่บริเวณใจกลางเมือง มีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกันไป บรรยากาศสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่นี่ค่อนข้างเร่งรีบและเคร่งเครียด  ซึ่งผมไม่ชอบเลย คนที่นี่จะมีวิธีผ่อนคลายความตึงเครียดหลายวิธี เช่น ออกกำลังกาย ไปดูภาพยนตร์ ขับขี่มอเตอร์ไซค์ ท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ  สูบบุหรี่ และดื่มสุรา ฯลฯ ซึ่งตัวผมก็ใช้วิธีการต่างๆเหล่านั้นมาแทบทุกวิธีแล้ว โดยเฉพาะการขับขี่มอเตอร์ไซค์ เป็นสิ่งที่ผมชอบมากเป็นพิเศษ  
 
    ที่อเมริกานี้ ชมรมมอเตอร์ไซด์ เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2   ทหารผ่านศึกหลายคน ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมธรรมดาได้ จึงปลีกตัวออกจากสังคมทั่วไป มาขับขี่มอเตอร์ไซค์ร่อนเร่ไปเรื่อยๆ ไม่มีที่อยู่ที่แน่นอน เป็นชีวิตอิสระ เสรี และคนเหล่านี้ ก็รวมตัวกันเป็นชมรมมอเตอร์ไซค์ ชมรมที่เก่าแก่ที่สุด คือ ชมรม เฮลส์แองเจล   (Hells Angels)   มีสมาชิกมากที่สุด ส่วนชมรมที่ผมสังกัดอยู่ชื่อว่า "แบนดีโดส"   (Bandidos)   ก่อตั้งมาประมาณ 40 ปีแล้ว ที่มลรัฐ เท็กซัส   มีสมาชิกหลายพันคน พวกเราจะร่วมกันทำกิจกรรมหลายๆ อย่าง เช่น   การจัดแรลลี่มอเตอร์ไซด์ในสถานที่ต่างๆ ที่เมืองไทย เราก็เคยจัดกิจกรรมมาแล้วที่ภูเก็ต การขับขี่มอเตอร์ไซด์ทำให้พวกเรารู้สึกถึงอิสรภาพที่สามารถ ท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆได้อย่างเสรีครับ  
 
    ตัวผมเอง โตขึ้นมาในสังคมและคำสอนของศาสนาคริสต์  แต่เมื่อได้มาเจอพระพุทธศาสนา ที่มีคำสอนเป็นเหตุเป็นผลในทุกสิ่งทุกอย่าง ทำให้ผมคิดว่า  “นี่แหละ น่าจะใช่”   และยังพบว่า มีธรรมะอีกมากที่ผมควรเรียนรู้เพิ่มเติมยิ่งๆ ขึ้นไป ผมสนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นี้มากครับ  
 
    ภรรยาของผมชื่อ น้ำทิพย์  อีแวนส์  เธอแนะนำให้ผมรู้จักการนั่งสมาธิเป็นครั้งแรก เธอบอกถึงประโยชน์ต่างๆของสมาธิให้กับผม เบื้องต้นผมเชื่อว่า การทำสมาธิเป็นการทำให้ใจผ่อนคลาย และคงไว้ซึ่งคุณธรรมความดี ผมเลยยอมทำตามที่เธอแนะนำเป็นอย่างดี  ในที่สุด  ผมก็สัมผัสได้ถึงอิสรภาพที่แท้จริงว่า เป็นอย่างไร  ชนิดที่สิงห์มอเตอร์ไซด์อย่างผมไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลยครับ 
 
    เริ่มต้นทีเดียว  ภรรยาให้ผมนั่งสมาธิตามเสียงนำของพระอาจารย์  ท่านได้สอนให้รู้จักการเคลื่อนใจไปตามฐานทั้ง 7 ตามคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ซึ่งภรรยาได้แนะว่า ถ้ามันยากก็นำใจไปวางที่ฐาน 7 เลยก็ได้ และทันทีที่ผมทำตาม ในตัวผมก็มีความสว่างเกิดขึ้น และเป็นเช่นนี้ทุกๆครั้งที่ผมวางใจ   ต่างกับภรรยาของผม เธอบอกว่าเห็นแต่ความมืด ผมจึงถามเธอว่า ทำไมถึงมืด เธอก็บอกว่า มืด เพราะไม่เห็นอะไร ผมแปลกใจมากครับ 
 
    เมื่อได้ปฏิบัติสมาธิภาวนาได้ระยะหนึ่ง ผมรู้สึกว่าผลของการทำสมาธินั้นช่างน่าอัศจรรย์แทบไม่น่าเชื่อ  เวลานั่งสมาธิผมจะค่อยๆวางใจไปที่ศูนย์กลางกาย บางครั้งผมจะนึกถึงองค์พระหรือดวงแก้วใส รวมทั้งบริกรรมภาวนา สัมมา อะระหัง ไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่า ร่างกายเบาและผ่อนคลายมากๆ  
 
 
    แล้วดวงแก้ว และองค์พระก็จะเริ่มปรากฏและค่อยๆสว่าง มากขึ้นๆ ในศูนย์กลางกาย บางครั้ง ผมเห็นแสงสว่างเคลื่อนลงในแนวดิ่งด้วยแรงดึงดูดบางอย่างไปสู่บริเวณศูนย์กลางกาย  บางที เห็นเป็นดวงดาวที่มีความสว่างมากหลายๆดวง แล้วมีองค์พระผุดขึ้นจากกลางดวงดาวดังกล่าว
 
    นับจากที่ภรรยาแนะนำให้ผมนั่งสมาธิเป็นต้นมา ชีวิตของผมได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นตลอด  สมาธิช่วยให้จิตใจของเรามีประสิทธิภาพ และสมาธิช่วยให้ผมใจเย็นมากขึ้น ตรงนี้ผมไม่ได้ว่าเองนะครับ ผมมีผู้ตรวจสอบความดีส่วนตัว  คือภรรยาของผมเองครับ  เธอบอกว่า ผมมีความอดทนมากขึ้น ใช้เวลาในการรอคอยนานขึ้น และที่สำคัญก่อนหน้านี้ผมสูบบุหรี่เป็นประจำ แต่ตอนนี้เลิกสูบแล้วครับ   เมื่อก่อนภรรยาได้พยายามชักชวนให้ผมเลิก ส่วนผมเองก็ตั้งใจจะเลิกอยู่แล้วแต่มันไม่สำเร็จครับ
 
    จนได้มานั่งสมาธิทุกวัน  พอนั่งมากๆเข้า  ผมอัศจรรย์ใจมาก ผมรู้สึกว่าใจมันมีพลังขึ้นมา ทำให้สามารถหักดิบการสูบบุหรี่ด้วยการนั่งสมาธิได้ครับ   สมาธิช่วยให้ผมมีใจที่ปลอดโปร่ง สดใส และคลายแรงกดดันทั้งหลายได้  ความตึงเครียดซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาหลักของผม ตอนนี้เรียกว่าแทบจะไม่รู้จักกันแล้วละครับ
 
 
    ผมคิดว่า สมาธิและธรรมะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก และสิ่งนี้แหละที่ผมคิดว่าเป็นอิสรภาพที่แท้จริงที่มนุษย์พึงแสวงหา  ทุกวันนี้ผมนั่งสมาธิเป็นประจำทุกวันก่อนนอน ครั้งละประมาณ 30- 40 นาทีในวันธรรมดา   ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์ ผมจะนั่งสมาธิเพิ่มในช่วงเช้าครับ และหลังนั่งสมาธิทุกครั้ง  ผมก็จะหยอดปัจจัยในมณีทวีบุญเอาไว้ทำบุญครับ 
 
    ผมอยากจะกราบเรียนว่า  หลวงพ่อเป็นครูที่ยิ่งใหญ่ ผมเคารพหลวงพ่อและมโนปณิธานของหลวงพ่อเป็นอย่างสูง  ผมคิดว่าโลกเราต้องการบุคคลอย่างหลวงพ่อมากๆครับ  ทุกวันนี้ ผมเชื่อเรื่องบุญและบาปมากขึ้น และได้ร่วมกิจกรรมที่วัดภาวนาซีแอตเติลเป็นประจำ ได้สร้างพระธรรมกายประจำตัว  ได้ร่วมบุญใหญ่ทุกบุญ  ได้ดู DMC โดยมีภรรยาคอยอธิบายให้ฟัง เธอเป็นครูที่ดีครับ ผมมีความสุขมากๆ จากการนั่งสมาธิและฟังเสียงหลวงพ่อครับ   
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
หนังสือที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกหนังสือที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก

ลูกๆของเธอเก่งและดีด้วย DMC และ สมาธิลูกๆของเธอเก่งและดีด้วย DMC และ สมาธิ

สาวประเทศเพื่อนบ้าน มีองค์พระภายในเป็นที่พึ่งสาวประเทศเพื่อนบ้าน มีองค์พระภายในเป็นที่พึ่ง



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ