ผู้หญิงและผู้ชาย แตกต่างกันอย่างไร?

ผู้หญิง ความแตกต่างของผู้หญิงและผู้ชาย

ความแตกต่างของผู้หญิงและผู้ชาย
เรามาดูกันว่า..ผู้หญิงและผู้ชาย แตกต่างกันอย่างไร?
เรียบเรียงจากรายการข้อคิดรอบตัว ออกอากาศทางช่อง DMC

โดยความเมตตาของ
พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ

ความแตกต่างของผู้หญิงและผู้ชาย

ความแตกต่างของผู้หญิงและผู้ชาย

ความแตกต่างที่มีมาตั้งแต่เกิดของผู้หญิงและผู้ชาย เพศชายและเพศหญิงแตกต่างกันอย่างไร และเพศชายกับเพศหญิงมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง ถ้าอยากรู้แล้วล่ะก็ มาติดตามคำตอบกันได้ใน ข้อคิดรอบตัว ตอนความแตกต่างของชายและหญิง

พระพุทธศาสนากล่าวถึงที่มาของการเกิดเพศชายและเพศหญิงไว้ว่าอย่างไรบ้าง

ตัวเราเองมีการเวียนว่ายตายเกิดมานับภพนับชาติไม่ถ้วน โลกของเราก็มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป นับครั้งไม่ถ้วน เราเรียกกันว่ากัป โลกของเราตั้งแต่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็เสื่อมไปด้วยเหตุต่างๆ 1 รอบเราเรียกว่า 1 มหากัป การทำลายของ โลกก็เกิดขึ้นด้วยเหตุต่างๆ ในยุคใดที่มีกิเลสตระกูลโทสะแรง ความร้อนจากโทสะ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พระอาทิตย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 7 ดวง สิ่งมีชีวิตไม่มีเหลือยู่เลย เกิดเป็นไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก

ความแตกต่างของผู้หญิงและผู้ชาย

ความแตกต่างของผู้หญิงและผู้ชาย

    เราพอมองเห็นไหม ตอนนี้คนไทยทำท่าโทสะจะแรงกันนะ ทำท่าจะโกรธกัน เกลียดกันมากขึ้น ผลคือปีนี้ภัยแล้งจะหนัก เพราะฉะนั้นเราจะต้องอยู่ในศีลในธรรม มีจิตใจที่เมตตาต่อกัน ดินฟ้าอากาศก็จะถูกต้องตามฤดูกาล ใจคนมีผลต่อบรรยากาศด้วย ช่วงไหนใจมนุษย์แรงด้วยราคะ ก็จะเกิดน้ำบรรลัยกัลป์ล้างโลก และยุคไหนที่มนุษย์แรงด้วยโมหะ ก็จะเกิดเป็นลมบรรลัยกัลป์ล้างโลก ล้างนานไม่ใช่แค่วันสองวัน ปีสองปีนะ แต่เป็นหลายล้านปี กว่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมาทีละนิดก็ใชเวลาอีกนานมาก จนกระทั่งมีสภาวะให้สิ่งมีชีวิตอยู่ได้แล้ว ปรากฏว่าโลกเรานี้มีง้วนดินเกิดขึ้นเยอะมาก มีกลิ่นหอม และลักษณะคล้ายๆ น้ำผึ้ง แต่รสชาติอร่อยมากกว่าน้ำผึ้งแบบเทียบกันไม่ได้เลย อย่างกับอาหารทิพย์

     จากนั้นอาภัสราพรหมทีทีรัศมีกายสว่างไสว ได้กลิ่นง้วนดิน เหาะลงมาชิมง้วนดิน พอชิมแล้วก็ติดใจในความอร่อย ก็เลยทานง้วนดิน พอทานมากเข้าทำให้กายละเอียดของพรหมหนักขึ้น จนเหาะไม่ได้ ต้องอยู่บนโลก แต่พรหมไม่มีเพศ พอนานเข้าง้วนดินก็หมดลง เกิดเป็นเครือดิน คุณภาพก็หย่อนลงมาหน่อย แต่ก็ยังอร่อย พอเครือดินหมด ก็เกิดเป็นกะปิดิน คุณภาพก็หย่อนไปอีกหน่อย พอหมดก็เปิดเป็นข้าวสาลี แต่ข้าวสาลียุคต้นกัปไม่ต้องปลูก งอกเองได้ และเม็ดโตมาก และไม่มีเปลือกด้วย ไม่ต้องหุง สารอาหารมีครบ แต่พอต่อมากิเลสมนุษย์เริ่มหนา ขึ้น เริ่มมีการกักตุน เพราะขี้เกียจไปเอามาบ่อยๆ ข้าวสาลีจึงไม่งอก ต้องปลูก ขณะที่อาหารค่อยๆ เสื่อมลงๆ คุณภาพลดลงไปเรื่อยๆ เกิดอวัยวะการย่อย มีการขับถ่าย คราวนี้แหละ...ใครก็ตามที่ในอดีตชาติตอนเป็นมนุษย์ได้ทำกรรมผิดศีลกาเมฯ เอาไว้ เศษวิบากกรรมนั้นก็จะส่งผลให้เกิดเป็นเพศหญิง พออวัยวะขับถ่ายเกิดเป็นเพศหญิง ใครที่กรรมกาเมฯ เบาบางก็จะเกิดเป็นเพศชาย โดยเปรียบเทียบ อย่าไปคิดว่าเพศชายไม่มีเวรกรรมกาเมฯ นะ มีเหมือนกัน แต่เบาบาง

     ทีนี้ก็เริ่มมีความแตกต่าง เริ่มแรกก็จะไม่ได้อยู่ร่วมกัน ต่างคนต่างอยู่ ก็เกิดการเล็งแลดูกัน เกิดการชอบอกชอบใจกันขึ้นมา เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วก็เลยไปประกอบเมถุนธรรมกัน ซึ่งในยุคนั้นคนจะยังไม่คุ้นกัน เห็นชายหญิงอยู่ร่วมกันถือเป็น เรื่องแปลกประหลาด ถูกตำหนิติเตียน คนเหล่านี้ก็จะอาย และต้องหลบออกไปจากหมู่ และไปสร้างห้องหับเพื่อปิดบัง ไม่ให้คนอื่นเห็น เป็นบ้านช่อง เป็นอะไรต่างๆ ขึ้นมา สิ่งนี้ก็เป้นที่แพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ กิเลสค่อยๆ งอก สภาพแวดล้อมค่อยๆ แย่ลงๆ

     พอเริ่มกักตุน ต้องทำการไถหว่านเอง ต้องมีการแบ่งเขตกัน โดยตั้งคนที่มีบุคลิกดี ดูน่าเชื่อถือมาเป็นพระราชาเพื่อตัดสินและให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุข ซึ่งกว่าจะมาเป็นขนาดนี้ได้ ใช้เวลานานมาก

ความแตกต่างของผู้หญิงและผู้ชาย

ความแตกต่างของผู้ชายและผู้หญิง

ที่มาที่ไปของเพศชายเพศหญิง

    ดังนั้น เพศชายเพศหญิงก็มีที่มาที่ไปอย่างนี้ เกิดจากเวรกาเมฯ ผู้ชายคือคนที่มีเศษเวรกาเมฯ เบาบาง ถ้าไปผิดศีลกาเมฯอีก ก็จะต้องไปเกิดเป็นผู้หญิง แต่ก่อนเป็นผู้หญิงก็ตองไปตกนรกเสียก่อน แล้วก็ไปปีนต้นงิ้ว หนามแหลมๆ มีกีกาปากเหล็ก สุนัขปากเหล็กคอยกระโดดงับ นี่แค่ขุมยมโลก ถ้าลงมหานรกจะยิ่งกว่านี้ พ้นจากนรกก็ต้องไปเกิดเปรต อสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน แล้วถึงมาเกิดเป็นมนุษย์ ต้องขออภัยฝ่ายหญิงด้วยนะ มาเป็นผู้หญิงบ้าง เพศที่สามบ้าง ลักษณะทางเพศที่แปลกๆ กันไป จนกระทั่งวิบากกรรมเบาบางลง ถึงแม้เป็นหญิงก็จะมีศีล 5 บริบูรณ์ ถ้ามีครอบครัวก็จะซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อสามี ไม่มีนอกใจเป็นอื่นเลย ความประพฤติทุกอย่างดี

     ถ้าศีล 5 บริบูรณ์ รู้เลยว่านั่นชาติสุดท้ายแล้ว ชาติหน้าก็จะเป็นผู้ชายแล้ว ถ้าใครรักษาศีล 8 ได้ตลอดชีวิตแล้วตั้งใจประพฤติพรหมจรรย์ นี่แน่นอนว่าคือชาติสุดท้ายที่จะเป็นผู้หญิง ชาติต่อไปก็จะเกิดเป็นชาย พราะฉะนั้นผู้ชายก็เคยเกิดเป็นผู้หญิงมาก่อน ผู้หญิงทุกคนก็เคยเกิดเป็นผู้ชายมาก่อน ผู้ชายก็คืออดีตผู้หญิง ผู้หญิงก็คืออดีตผู้ชาย มันหมุนไปหมุนมา อยู่ที่จะประมาทหรือไม่ประมาทเท่านั้นเอง ถ้าประมาทพลาดพลั้งก็มีสิทธิแย่ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราเองจะต้องไม่ประมาทในสิ่งเหล่านี้

     บางคนบอกว่าพระอาจารย์บอกช้าไปหน่อย โยมเสร็จแน่นอน แล้วจะทำอย่างไรดี ให้ทำอย่างนี้นะ ใช้สูตรของพระเดชพระคุณหลวงพ่อคือ อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด อย่าไปนึกถึงมันอีก อย่าไปคิดทบทวน แล้วขณะเดียวกันบาปกรรมใหม่เราก็อย่าไปทำอีกเด็ดขาด ถ้าเป็นผู้ชายออกบวชได้ยิ่งดี ถ้าเป็นฝ่ายหญิงก็ตั้งใจประพฤติพรหมจรรย์ รักษาศีล 8 ชดเชยเลย ถ้าเอาจริงล่ะก็ ไม่มีคำว่าสายเกินไป ถ้าเราเคยพลาดพลั้งเหมือนเคยเติมเกลือไว้ เราก็ต้องเติมน้ำไม่ใช่แค่แก้ว สองแก้ว โอ่งสองโอ่ง แต่ต้องเติมน้ำ เอาทีเป็นล้านคิว เหมือนเปิดเขื่อน แล้วเราจะเอาชนะวิบากกรรมได้

ความแตกต่างของผู้หญิงและผู้ชาย

มีข้อดีข้อเสียผู้ชายและผู้หญิง

เพศชายกับเพศหญิงมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง

เรื่องราวแบบนี้ ฝ่ายหญิงอาจรู้สึกน้อยใจ รู้สึกตัวเองเสียเปรียบนะ เหมือนเราเองด้อยกว่าผู้ชาย ต้องเข้าใจว่านี่เป็นประเด็นในเรื่องศีลกาเมฯ เท่านั้น แต่ศีลไม่ได้มีข้อเดียวใช่หรือไม่ ยังมีศีลข้ออื่นๆ อีกตั้งหลายข้อ กรรมก็ยังมีกรรมอย่างอื่นๆ อีกตั้งหลายอย่าง เพราะฉะนั้น ผู้หญิงแม้อาจบกพร่องเรื่องศีลกาเมฯ วิบากกรรมนั้นตามมา แต่ว่าเรื่องอื่นๆ อาจดีกว่าผู้ชายอีกตั้งเยอะ ก็เป็นไปได้ ดังนั้น เราอย่ามองแค่ประเด็นเดียว เราต้องมองภาพรวมทั้งหมด ผู้ชายก็อย่าคิดว่าตัวเองแน่นะ

ปัจจุบันนี้ผู้ชายไปกินเหล้าก็เยอะ ผู้หญิงเข้าวัดมากกว่า ไปๆ มาๆ ผู้ชายจะแย่กว่าอีก ดังนั้น ในภาพรวมก็ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกันเท่าไหร่ แต่เรื่องที่มาที่ไปของเพศมันก็มาจากเหตุของเวรกาเมฯ ตรงนี้ เจริญพร

ความแตกต่างของผู้หญิงและผู้ชาย

การแบ่งเพศชายหญิงในภพภูมิอื่นๆ???

ภพภูมิอื่นๆ มีการแบ่งเพศอย่างไรบ้าง

      เจริญพร ภูมิทั้งหมด มี 31 ภูมิ ถ้าแบ่งเป็นภพ มี 3 ภพ คือ กามภพ ภพที่เกี่ยวข้องกับกามอยู่ มีทั้งหมด 11 ภูมิ ล่างจากมนุษย์ลง ไปมี 4 ภูมิ สัตว์เดรัจฉานเปรต อสุรกาย นรก เหนือมนุษย์ขึ้นไปก็มีสวรรค์ 6 ชั้น ทั้ง 11 ภูมินี้รวมเรียกว่า กามภพ ยังข้องเกี่ยวกับกาม ดังนั้น ทั้ง 11 ภูมินี้มีเพศ

      ภพที่ 2 คือ รูปภพ เป็นที่อยู่ของรูปพรหม ไม่ยุ่งกับเรื่องเพศแล้ว ประพฤติเยี่ยงพรหม ลักษณะเป็นเพศชาย สูงขึ้นไปอีกก็คือ อรูปภพ เป็นที่อยู่ของอรูปพรหม มีทั้งหมด 4 ชั้น ไม่ยุ่งเกี่ยวกับกามเช่นเดียวกัน ลักษณะก็เป็นเพศชายเหมือนกัน ยิ่งสูงขึ้นไปพระนิพพานก็จะมีแต่ธรรมกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันต์เจ้าทั้งหลายเรียงราย สว่างไสว ลักษณะก็เป็นเพสชายตามลักษณะมหาบุรุษ

     ลองไล่ดูนะ กามภพ 11 ภูมิ รูปภพ 16 ภูมิ อรูปภพอีก 4 ภูมิ รวมเป็น 31 ภูมิ เพราะฉะนั้น ภพสาม 31 ภูมิ นี้เป็นโครงงสร้างของจักรวาลวิทยา ดังนั้น กามภพ ก็จะมีการแบ่งเพศ ส่วนที่เหลือก็จะไม่มี

ทำไมปัจจุบันจึงไม่มีภิกษุณีเหลือยู่

     เจริญพร ที่มาของภิกษุณี เกิดจากพระน้านาง คือ พระมหาปชาบดีโคตมี ซึ่งเป็นน้องของพระมารดาของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ที่เลี้ยงพระองค์มาก็คือพระมหาปชาบดีโคตมี ภายหลังที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมแล้ว พระนางก็มีความปรารถนาจะออกบวชมากๆ แสดงเจตจำนงความตั้งใจจริงด้วยการเดินเท้า นุ่งห่มด้วยผ้ากาสวะ พร้อมด้วยขบวนนางสนมกำนัลที่เป็นบริวาร 500 ตามพระพุทธเจ้าไปไกล ครั้งแรกพระพุทธเจ้ายังทรงไม่ประทานอนุญาต พระองค์ทราบว่าผู้หญิงมีข้อจำกัดกว่าผู้ชายเยอะ

     ถ้าผู้หญิงบวชแล้วอยู่ป่า โจรผู้ร้ายมารังแกจะทำอย่างไร มีหลายเรื่องที่มีโอกาสจะเกิดเหตุ แล้วธรรมชาติผู้หญิงก็ต้องยอมรับว่า อารมณ์จะหวือหวากว่าผู้ชาย ถ้าเป็นนักบวชแล้วก็จะไม่เหมือนอยู่บ้าน จะมากระฟัดกระเฟียด จะมาทะเลาะกันก็มีโอกาสมากกว่าผู้ชาย มีเหตุที่อาจส่งผลกระเทือนต่อภาพรวมได้ พระองค์จึงยังไม่อนุญาตในเบืองต้น

    พระนางก็ยังคงแสดงความตั้งใจจริงอย่างยิ่งยวด แล้วได้ขอให้พระอานนท์ที่เป็นพุทธอุปัฏฐากช่วยทูลขอพระพุทธเจ้าด้วย สุดท้ายพระพุทธเจ้าจึงอนุญาตโดยให้ถือครุธรรม 8 ประการ เช่นว่า บวชเป็นภิกษุณ๊แล้ว แม้บวชมาแล้ว 100 พรรษา เจอภิกษุที่เพิ่งบวชวันนั้นยังต้องทำความเคารพ ภิกษุณีห้ามบริภาษภิกษุ ถ้ารับได้ ก็อนุญาตให้บวช พระนางมหาปชาบดีโคตมีก็รับเลย ไม่มีปฏิเสธ ยากแค่ไหนก็รับ หญิงใจเด็ดก็มี ที่ว่าหญิงหวือหวากว่าผู้ชายแค่ภาพรวม แต่ถ้าเฉพาะคนแล้วก๋ไม่แน่ เช่นหญิงเหล็กอย่าง มากาเร็ต ทิชเชอร์ ตบโต๊ะทีหนึ่งผู้ชายยังยอมเลย ต้องว่าเป็นคนๆ ไป ผู้ชายที่หวือๆ หวาๆ ก็มี

     และภิกษุณีต้องบวชในสงฆ์ 2 ฝ่าย ถ้าภิกษุจะบวชก็มี พระสงฆ์ 10 รูปขึ้นไป ประชุมในโบสถ์ มีพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ 2 รูป พระกรรมวาจาจารย์ และพระอนุสาวนาจารย์ แต่ถ้าเป็นพระภิกษุณี ต้องบวชด้วยสงฆ์ 2 ฝ่าย คือต้องบวชจากในฝ่าย

     ภิกษุแล้วต้องบวชในฝ่ายภิกษุณีด้วย จึงจะบวชเป็นพระภิกษุณีได้ คราวนี้หลังพุทธกาลมาราวๆ สัสี่หรือห้าร้อยปี วงศ์ของภิกษุณีก็หมดลง พอเป็นอย่างนี้แล้วจะบวชอีกได้ไหมล่ะ ก็เลยบวชไม่ได้ ภิกษุณีวงศ์ก็เลยขาดตั้งแต่ตอนนั้น

ความแตกต่างของผู้หญิงและผู้ชาย

การเลี้ยงดูมีผลต่อนิสัยของเด็ก

อะไรเป็นเหตุปัจจัยให้นิสัยของผู้ชายผู้หญิงต่างกัน

     ความแตกต่างของผู้หญิงและผู้ชายให้มองเป็น 2 ระยะ
     เหตุที่เกิดเป็นชายเป็นหญิงเกิดจากวิบากกรรมศ๊ลกาเมฯเป็นหลัก ส่วนว่าอะไรทำให้ผู้ชายและผู้หญิงมีนิสัยแตกต่างกัน มีสาเหตุหลัก 2 อย่าง คือ

     1. สรีระ ผู้ชายกับผู้หญิงสรีระต่างกัน โครงสร้างของร่างกายมีความแตกต่างกัน มีมือ เท้า ตา หู จมูก เหมือนกัน แต่ว่าลักษณะฮอร์โมนก็ไม่เหมือนกัน อวัยวะในการสืบพันธุ์ก็ไม่เหมือนกัน ลักษณะโครงสร้างสมอง โครงสร้างกล้ามเนื้อ กระดูกก็ไม่เหมือนกัน เช่น สมองผู้ชายจะโตกว่าผู้หญิงหน่อยหนึ่ง โดยเฉลี่ยหนักกว่าผู้หญิงประมาณขีดหนึ่ง

แต่ไม่ใช่ว่าผู้ชายจะฉลาดกว่าผู้หญิง พบว่ามีการชดเชย สมองในส่วนที่ประสาานงานซีกซ้านซีกขวาของผู้หญิงใหญ่กว่าผู้ชาย ทำให้สมองรวมเล็กกว่าก็จริง แต่ทำงานประสานกันได้คล่องแคล่วดีกว่า ผู้ชายใช้สมองซีกเดียว ผู้หญิงใช้สมองสองซีก ส่งผลเช่นว่า ผู้หญิงจะเรียนเรื่องภาษา เรื่องดนตรีได้ดี ส่วนผู้ชายจะถนัดเรื่องคำนวณ เรื่องการคิดแบบเป็นตรรกะ ผู้หญิงจะจับเซ็นต์เรื่องอารมณ์ได้ดี ผู้ชายใช่เหตุผลได้ดี ทั้งหมดนี้คือความแตกต่างของผู้ชายและผู้หญิงที่เกิดจากสรีระของร่างกาย

2. การเลี้ยงดู การเลี้ยงดูจะส่งผลต่อนิสัยของเขาเหมือนกัน บางบ้านอยากได้ลูกสาว แต่มีลูกชาย จับลูกชายมาแต่งตัวใส่ชุดกระโปรง แล้วเลี้ยงมาอีกแบบ ลูกชายบางทีโตมามีลักษณะบางอย่างที่แปลกๆ เหมือนกัน

ความแตกต่างของผู้หญิงและผู้ชาย

ผู้หญิง VS ผู้ชาย

มีบางกรณี ที่บางคนเปลี่ยนเพศเป็นทั้งชายและหญิง ทำไมเป็นเช่นนั้น

     วิบากกรรมนี่บางครั้งก็ส่งผลแปลกๆ ในพุทธกาลมีชายคนหนึ่งเป้นผู้ชาย มีครอบครัว มีลูกแล้วด้วย วันหนึ่งเห็นพระมหากัจจายนะเดินอยู่ แล้วคิดว่าภิกษุรูปนี้ผิวงามดีจังเลย ถ้าเกิดเป็นภรรยาเราแล้วผิวงามอย่างนี้ คงจะดีมากเลย เป็นการไปล่วงละเมิดต่อผู้ที่มีคุณธรรมสูงคือพระอรหันต์ ปรากฏว่าร่างกายเปลี่ยนเปนผู้หญิงไปเลย ถ้าเกิดเราเป็นผู้ชายแล้ววันหนึ่งเกิดเป็นผู้หญิงขึ้นมาเราจะรู้สึกอย่างไร ตกใจ ไม่กล้ากลับบ้าน อายเขา จึงหนีไปอยู่อีกเมืองหนึ่ง แล้วก็แต่งงานจนกระทั่งมีลูก วันหนึ่งมีเพื่อนเก่ามาเจอเข้า จึงเล่าให้ฟัง เพื่อนจึงแนะนำให้ไปขอขมาพระมหากัจจายนะ เมื่อขอขมาแล้วเพศก็กลับมาเป็นผู้ชายเหมือนเดิม ในชาติเดียวเป็นทั้งพ่อ ทั้งแม่ มีทั้งสามี มีทั้งภรรยา คงจะปวดหัวน่าดู แต่สิ่งนี้ก็มีอยู่

     เพราะฉะนั้นเรื่องของกรรมเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ในคนหนึ่ง ในหมื่นหนึ่ง ในแสนหนึ่ง มันก็มีเหตุของวิบากกรรมแปลกๆ เหล่านี้เกิดขึ้นมาได้ แต่หัวใจในการแก้ก็คือว่า ขอให้รักษาศีลให้ดี แล้วก็ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม ท้ายที่สุดทุกอย่างก็จะเข้าถึงจุดที่พอดีที่ควรเป็น

     แล้วฝากนิดหนึ่งนะ ฝ่ายหญิงอย่าน้อยใจไปเลยว่า ดูเหมือนเราเสียเปรียบทุกอย่าง ฝ่ายชายได้เปรียบ ที่บอกเมื่อสักครู่ เราดูตามสภาวะความเป็นจริงพบว่า ในดีก็มีเสีย ในเสียก็มีดี ผู้ชายรู้สึกว่าได้เปรียบไม่เป็นไร พ่อแม่ไม่ต้องห่วงอะไรมาก ลูกออกไปกระโดกกระเดก ผู้ชายติดเหล้ามากกว่าผู้หญิง ผู้ชายติดบุหรี่มากกว่าผู้หญิง ติดยาเสพติดมากกว่าผู้หญิง เกเรมากกว่าผู้หญิง เพราะพ่อแม่รู้สึกว่าไม่เป็นไรเท่าไหร่ ก็ปล่อย แต่ลูกหญิงพ่อแม่เป็นห่วง ดูแลอบรมค่อนข้างใกล้ชิด เพระาผู้หญิงพลาดไม่ได้ โบราณบอก "หญิงข้าวเปลือก ชายข้าวสาร" ข้าวสารเอาลงดินไปแล้วงอกไหม ไม่งอก ส่วนข้าวเปลือกเอาใส่ดินไปแล้วงอกไหม งอก ถ้าผู้หญิงผู้ชายเผลอไปมีอะไรกัน ผู้ชายไม่ต้องท้อง ถ้าผู้หญิงเกิดท้องป่องขึ้นมาจะทำอย่างไร เพราะฉะนั้นต้องดูแลผุ้หญิงมากกว่าเป็นพิเศษ

     ผู้หญิงต้อง รักนวลสงวนตัว ผลคือ ผู้หญิงกลับมีนิสัยดีมากกว่า ประสบความสำเร็จในการเรียน ปัจจุบันก็ทำงานเหมือนผู้ชาย และทำงานได้ดีด้วย คณะที่ยากๆ มีผู้หญิงสอบเข้าได้มากขึ้นๆ มหาวิทยาลัยต่างๆก็มีนักศึกษาหญิงมากกว่านักศึกษาชาย เพราะผู้ชายมัวไปกระโดกกระเดกอยู่ เพราะฉะนั้น "ในดีก็มีเสีย ในเสียก็มีดี" เราเกิดมาเป็นอะไรก็ให้ยอมรับในสิ่งนั้น แต่ว่าตั้งใจทำเพศภาวะของเราให้เกิดประสิทธิภาพ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำแต่กรรมดีเท่านั้น แล้วภพต่อไป เราก็จะดีขึ้นๆ ปรารถนาจะเป็นเพศชายก็เป็นเพศชายได้ตามใจนึก และแม้ปัจจุบันนี้เราก็จะประสบแต่ความสุขความสำเร็จในชีวิต เจริญพร

ชม VDO รายการข้อคิดรอบตัว ตอนความแตกต่างของชายและหญิง