พระรัตนตรัยเป็นเยี่ยม


[ 27 พ.ค. 2557 ] - [ 18270 ] LINE it!

พระรัตนตรัยเป็นเยี่ยม

     บนเส้นทางอันยาวไกลในสังสารวัฏ เราต้องรู้จักขวนขวายสั่งสมบุญบารมีกันอย่างเต็มที่ เนื่องจากไม่ใช่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เลยที่เราจะมองข้าม คิดได้แต่เพียงว่าจะทำเมื่อไรก็ได้ เพราะกว่าที่เราจะได้บรรลุจุดหมายปลายทางที่แท้จริงของชีวิต ไม่ใช่เรื่องพอดีพอร้ายเลย หากเรายังเป็นผู้ที่ประมาทอยู่ ไม่เร่งสั่งสมบุญบารมีและทำความเพียรในการเจริญสมาธิภาวนา เส้นทางนั้นก็ยิ่งจะยาวไกลออกไปอีก ดังนั้น การสั่งสมบุญควบคู่กันไปกับการประพฤติปฏิบัติธรรม จึงเป็นภารกิจหลักที่เราต้องหมั่นทำให้เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ  

มีวาระแห่งสุภาษิตปรากฏอยู่ใน จุนทิสูตร ความว่า

“อคฺคโต เว ปสนฺนานํ     อคฺคํ ธมฺมํ วิชานตํ
   อคฺเค พุทฺเธ ปสนฺนานํ   ทกฺขิเณยฺเย อนุตฺตเร
อคฺเค ธมฺเม ปสนฺนานํ   วิราคูปสเม สุเข  
     อคฺเค สงฺเฆ ปสนฺนานํ   ปุญฺญกฺเขตฺเต อนุตฺตเร
    อคฺคสฺมึ ทานํ ททตํ      อคฺคํ ปุญฺญํ ปวฑฺฒติ
 อคฺคํ อายุ จ วณฺโณ จ   ยโส กิตฺติ สุขํ พลํ
 อคฺคสฺส ทาตา เมธาวี    อคฺคธมฺมสมาหิโต
    เทวภูโต มนุสฺโส วา      อคฺคปฺปตฺโต ปโมทติ

     บุญอันเลิศ คือ อายุ วรรณะ ยศ เกียรติ สุขและกำลัง ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้รู้แจ้งธรรมอันเลิศ เลื่อมใสในสิ่งที่เลิศ คือเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าผู้เลิศ ผู้เป็นทักขิไณยบุคคลอันเยี่ยม เลื่อมใสในพระธรรมที่เลิศอันปราศจากราคะ เป็นที่เข้าไปสงบระงับและเป็นสุข เลื่อมใสในพระสงฆ์ผู้เลิศ เป็นนาบุญชั้นเยี่ยม ให้ทานในท่านผู้เลิศ ผู้มีปัญญาตั้งมั่นแล้วในธรรมอันเลิศ ให้ทานแก่ท่านผู้เป็นบุญเขตอันเลิศ จะเกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์ ย่อมเข้าถึงสถานที่อันเลิศ บันเทิงใจอยู่”

     ผู้มีจิตเลื่อมใสในสิ่งที่ควรเลื่อมใส ย่อมมีใจที่ละเอียดประณีต นุ่มนวลควรแก่การงาน และเหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญกุศลที่จะเกิดขึ้นจากการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เมื่อใจละเอียดย่อมมีธรรมะภายในที่ละเอียดเช่นกัน มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึก สิ่งอื่นที่ประเสริฐเลิศกว่าพระรัตนตรัยภายในนี้ไม่มีอีกแล้ว เมื่อเราได้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายในตัวของเราเอง เท่ากับว่าเราได้เข้าถึงสิ่งที่เลิศที่สุดแล้วของชีวิต

     เราทั้งหลายเป็นผู้ที่โชคดีมาก ที่มีโอกาสรับรู้ว่า อะไรที่เป็นสิ่งที่เลิศที่สุด และยังสามารถประพฤติปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงสิ่งที่เลิศนั้นได้ การประพฤติอย่างนี้ได้ชื่อว่า ดำเนินรอยตามเยี่ยงอย่างบัณฑิตนักปราชญ์ทั้งหลายในกาลก่อน วันนี้จึงมีเรื่องราวที่จะนำมาเล่าเพื่อมาเป็นตัวอย่างสำหรับนักสร้างบารมีทั้งหลาย คือว่า เมื่อใดที่ผู้มีบุญยังไม่รู้ว่า สิ่งที่เลิศที่สามารถอำนวยความเป็นเลิศ และยังเป็นทั้งที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุดนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นอย่างไร เมื่อไม่รู้ก็ไม่ได้อยู่นิ่งเฉยเสีย ท่านเหล่านั้นจะตระเวนหาคำตอบให้ได้ทีเดียว แม้ว่าจะลำบากยากแค้นสักเพียงไหนก็ไม่ยอมย่อท้อ เพราะพื้นฐานของชีวิตของทุกๆ คน ย่อมต้องการสิ่งที่เลิศ สิ่งที่ดี สิ่งที่อำนวยประโยชน์สุขให้ด้วยกันทั้งนั้น แต่สิ่งที่ต้องการนั้น จริงๆ แล้วคืออะไร

     * ครั้งในสมัยพุทธกาล เคยเกิดเรื่องทำนองนี้มาแล้ว ในสมัยนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่พระเวฬุวันมหาวิหารใกล้กรุงราชคฤห์ ซึ่งพระเจ้าพิมพิสารเป็นผู้สร้างถวาย และพระองค์ยังพระราชทานอภัยให้แก่สัตว์ทั้งหลายที่อยู่ในบริเวณนั้นอีกด้วย สัตว์ที่ว่านั้นก็มีกระแตรวมอยู่ด้วย เพราะสาเหตุนี้เอง พระเวฬุวันจึงมีชื่อเรียกยาวขึ้นกว่าเดิมว่า พระเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน กลันทกะ แปลว่า กระแต นิวาปสถาน แปลว่าที่ให้อาหาร ดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงเป็นที่ให้อาหารแก่กระแตทั้งหลายด้วย

     ในนั้น มีราชกุมารีพระองค์หนึ่ง เป็นเชื้อพระวงศ์ พระนามว่า จุนที มีสมบัติและบริวารมากมาย มีรถถึง ๕๐๐ คัน และมีกุมารี ๕๐๐ คนเป็นบริวาร ราชกุมารีจุนทีนี้ เป็นกุมาริกาที่ร่ำลือกันว่าเป็นผู้ที่มีปัญญามาก และมีบุญมากทีเดียว เมื่อได้ฟังกระทู้ปัญหาอะไรขึ้นมาแล้ว มักจะนำเอาไปขบคิดพิจารณา หาเหตุหาผลเสมอๆ มีอยู่วันหนึ่ง ราชกุมารีได้นั่งคุยกับพระภาดาพระนามว่า จุนทะ ซึ่งท่านเป็นสัมมาทิฏฐิบุคคล เชื่อบุญ เชื่อบาป และตั้งแต่เข้าวัดปฏิบัติธรรม ก็ได้รับการปลูกฝังในสิ่งเหล่านี้ด้วย พระราชกุมารจุนทะเองก็มีความปรารถนาให้น้องสาวของตน เป็นผู้ที่มีที่พึ่งให้กับตนเอง จึงกล่าวขึ้นว่า

     "น้องรัก ผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตามที่เป็นผู้ถึงพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์ว่าเป็นสรณะ เป็นที่พึ่งที่ระลึก แล้วรักษาศีลทั้ง ๕ ข้อคือ เว้นจากการฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม การพูดมุสา และการดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ผู้นั้นตายไปแล้วจะไม่พลัดตกไปในทุคติเลย มีแต่จะท่องเที่ยวในสุคติโลกสวรรค์เท่านั้น" 

     เมื่อจุนทีกุมารีได้ฟังถ้อยคำอย่างนี้ก็เกิดความสงสัยขึ้นว่าในใจทีเดียวว่า สิ่งที่พี่ชายของเราบอกมานี้ คืออะไรกันแน่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ที่ว่านั้น เป็นอย่างไรกัน เราจะเข้าไปไต่ถามผู้รู้ที่ไหนดีหนอ ขบคิดอยู่พอสมควรทีเดียว พอนึกได้จึงคิดว่า เรารู้ผู้ที่สามารถจะให้คำตอบนี้ได้แล้วในวันนี้ โดยเราจะเดินทางไปไต่ถามพระบรมศาสดา เมื่อราชกุมารีคิดอย่างนั้น จึงได้ตระเตรียมและได้เดินทางไปเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมกับบริวารทั้ง ๕๐๐ คนของพระนาง โดยมีมีรถ ๕๐๐ คันเป็นพาหนะ

     พอเมื่อราชกุมารีจอมปราชญ์มาถึงที่ประทับของพระผู้มีพระภาคเจ้า ก็ถวายบังคมพระพุทธองค์แล้วนั่งลงอยู่ ณ ที่สมควร พอได้โอกาสเหมาะจึงทูลถามปัญหากับพระบรมศาสดา เกี่ยวกับที่ตัวเองมีความสงสัยว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พี่ชายของหม่อมฉันได้กล่าวกะหม่อมฉันว่า ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือเป็นชายควรถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ สมาทานรักษาศีลทั้ง ๕ ให้บริบูรณ์ เมื่อตายไปจะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์อย่างเดียว หม่อมฉันมีความสงสัย อยากจะขอถามว่า ผู้ที่เลื่อมใสในพระศาสดาเช่นไรเล่า เมื่อตายไปแล้วจึงจะไปสู่สุคติอย่างเดียว เลื่อมใสในพระธรรมเช่นไร จึงสามารถที่จะเข้าถึงสุคติอย่างเดียว เลื่อมใสในพระสงฆ์เช่นไร จึงจะเข้าถึงสุคติเช่นเดียวกัน ผู้ที่ทำศีลของตนเองให้บริบูรณ์อย่างไรเล่า ถึงจะไปสู่สุคติอย่างเดียว"

     เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าได้สดับดังนั้น ก็ทอดพระเนตรดูราชกุมารีด้วยพระทัยที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตาเยือกเย็นด้วยมหากรุณา จึงตรัสตอบว่า "ดูก่อนจุนที บรรดาสัตว์ทั้งหลายที่มีอยู่ในสากลโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์สองเท้า สี่เท้า มีเท้ามากมีเท้าน้อยหรือไม่มีเท้าก็ตาม จะมีรูปร่างมีสัญญาหรือไม่มีสัญญาที่มีอยู่ประมาณเท่าใดก็ตาม พระตถาคตเจ้าเป็นผู้เลิศกว่าสัตว์เหล่านั้นทั้งหมด

     ชนเหล่าใดเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า ชนเหล่านั้นได้ชื่อว่า เลื่อมใสในสิ่งที่เลิศ วิบากหรือผลอันเลิศย่อมมีแก่ผู้นั้น วิราคะ เป็นธรรมที่ย่ำยีความเมา กำจัดความกระหาย ถอนเสียซึ่งอาลัย เข้าไปตัดวัฏฏะเป็นที่สิ้นตัณหา คลายกำหนัด เป็นที่ดับทุกข์ ชนเหล่าใดเลื่อมใสในวิราคธรรมนี้ ชนเหล่านั้นได้ชื่อว่า เลื่อมใสในสิ่งที่เลิศ ผลอันเลิศย่อมบังเกิดขึ้น พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า เป็นผู้ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นผู้ควรแก่ของที่ควรคำนับ ควรต้อนรับ ควรแก่ของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ผู้ที่เลื่อมใสในสงฆ์เหล่านี้ ชื่อว่าเลื่อมใสในสิ่งที่เลิศ

     ศีลที่พระอริยเจ้าทั้งหลายปรารถนา รักษาอย่างดี ไม่ขาด ไม่ด่าง ไม่พร้อย ไม่ทะลุ เป็นอิสระ อันวิญญูชนสรรเสริญ เป็นไปเพื่อสมาธิ เป็นอริยกันตศีล เลิศกว่าศีลทั้งหลาย ผู้ใดทำให้บริบูรณ์ในอริยกันตศีลนี้ ผู้นั้นได้ชื่อว่า ทำให้บริบูรณ์ในสิ่งที่เลิศ วิบากที่มีผลอันเลิศ ย่อมเกิดขึ้นแก่เขา"

     ราชกุมารีได้ฟังพระดำรัสของพระบรมศาสดาแล้ว ก็เกิดมหาปีติซาบซึ้งในรสพระธรรม เกิดความกระจ่างแจ้งในคำถามของตน ทำให้เกิดความเคารพเลื่อมใสในพระบรมศาสดาเป็นอันมาก ตั้งแต่นั้นมา เธอได้ตั้งใจทำตามโอวาทที่พระพุทธองค์แสดงไว้ จึงทำให้ชีวิตมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ปฏิบัติตามพี่ชาย

     เราจะเห็นว่า ในพระดำรัสของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระองค์ยังทรงยืนยันว่า พระรัตนตรัยเป็นสิ่งที่เลิศประเสริฐสุด ผู้ที่มีจิตใจเลื่อมใสในพระรัตนตรัยอย่างเต็มเปี่ยม ย่อมมีวิบากคือผลอันเลิศละเอียดประณีตตามไปด้วย บุญอันเลิศย่อมเกิดขึ้นแก่ผู้นั้น

     ดังนั้น เมื่อเรารับรู้รับทราบอย่างนี้แล้ว ควรหมั่นทำใจให้เลื่อมใสในพระรัตนตรัยให้ยิ่งๆขึ้นไป จนกระทั่งสามารถเข้าถึงและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระรัตนตรัยภายในของตัวของเรานั้นให้ได้ หากทำได้อย่างนี้ ชีวิตของเราจะได้เข้าถึงฐานะอันเลิศ คือพระนิพพานอย่างแน่นอน

 

พระธรรมเทศนาโดย: พระเทพญาณมหามุนี

นามเดิม พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)  
 
* มก. เล่ม ๓๖ หน้า ๖๙

 



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
รัตนะ ๗ ยังสู้พระรัตนตรัยไม่ได้รัตนะ ๗ ยังสู้พระรัตนตรัยไม่ได้

กายแห่งการตรัสรู้ธรรมกายแห่งการตรัสรู้ธรรม

ผู้ขัดขวางการสร้างบารมีผู้ขัดขวางการสร้างบารมี



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ธรรมะเพื่อประชาชน