วิสาขบูชา Vesak Day
ตอน วันประสูติิ
ดวงจันทร์ในคืนวันเพ็ญปราศจากมลทิน โคจรไปในอากาศ
ย่อมสว่างกว่าหมู่ดาวบนท้องฟ้า ด้วยกำลังแห่งรัศมี ฉันใด
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อทรงอุบัติขึ้น
ย่อมรุ่งโรจน์กว่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย ฉันนั้น
การอุบัติขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นับเป็นที่สุดแห่งบุญลาภของสรรพสัตว์ทั้งหลาย พระองค์ทรงขจัดความทุกข์ของมนุษย์ให้พบสุขอันเป็นนิรันดร์ เหมือนดวงจันทร์ที่ขจัดความมืดมิดในรัตติกาล ทำความสว่างไสวให้เกิดขึ้นบนท้องนภา การได้ตรัสรู้ธรรมอันประเสริฐ ทำให้พระองค์เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์เหนือมนุษย์ทั้งหลาย เป็นครูทั้งของมนุษย์และเทวดา

ต่อมาท่านได้มีโอกาสพบพระทีปังกรพุทธเจ้า ได้ทอดตนเหนือโคลนตามเป็นสะพานให้พระพุทธองค์ได้ก้าวข้ามไป แล้วตั้งความปรารถนาต่อเบื้องพระพักตร์ของพระบรมศาสดาว่า “ในอนาคตกาล ขอให้ข้าพระองค์ได้สำเร็จเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้าเหมือนดังเช่นพระพุทธองค์ด้วยเถิด”
พระทีปังกรพุทธเจ้าทรงเห็นด้วยพุทธญาณว่า “บุคคลนี้คือพระโพธิสัตว์ที่สั่งสมบารมีมายาวนาน” จึงมีพุทธพยากรณ์ว่า ท่านจะได้เป็นพระพุทธเจ้าสมหวังดังใจปรารถนา”

หัวใจของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายยิ่งใหญ่เกินผู้ใดในอนันตจักรวาล แม้รู้ว่าสกลจักรวาลทั้งสิ้น เต็มด้วยถ่านเพลิงอันร้อนแรง เต็มไปด้วยหอกและหลาวที่แหลมคม หรือเต็มด้วยน้ำปริ่มฝั่งแล้ว หากสามารถก้าวข้ามได้ จะได้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ตัดสินใจที่จะทอดเท้าก้าวข้ามไป เพื่อให้ได้มาซึ่งสัพพัญญุตญาณอันประเสริฐ

ข้าแต่พระมหาวีระเจ้า บัดนี้เป็นกาลสมควรแล้ว ขอได้โปรดอุบัติในพระครรภ์พระมารดา เพื่อตรัสรู้อมตธรรม นำพาโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลกให้ข้ามสังสารวัฏอันยาวไกลไปสู่นิพพานด้วยเถิด
พระบรมโพธิสัตว์ครั้นได้ทรงสดับการอาราธนาให้ลงไปจุติเพื่อตรัสรู้ธรรมแล้ว ก็ทรงพิจารณาปัญจมหาวิโลกนะว่า “เราจะไปบังเกิดที่ไหนดี”

ทรงพิจารณาทวีปทั้ง ๔ คือ บุพพวิเทหทวีป อุตตรกุรุทวีป อมรโคยานทวีป และชมพูทวีป ทรงเห็นว่าพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงอุบัติขึ้นในชมพูทวีปเท่านั้น

ครั้นทรงพิจารณาปัญจมหาวิโลกนะแล้ว จึงรับอาราธนาของท้าวมหาพรหมและเทพยดาทั้งหลาย เสด็จจากทิพยนันทวันอุทยาน ถือปฏิสนธิในพระครรภ์ของพระนางสิริมหามายาราชเทวี อัครมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะ แห่งกรุงกบิลพัสดุ์
เมื่อวันอาสาฬหปุรณมีมาถึง พระนางสิริมหามายาได้ทรงบริจาคทานตามปกติ เสวยโภชนาหารอันประณีต ทรงสมาทานอุโบสถศีลดังเช่นที่เคยปฏิบัติมาเป็นประจำ แล้วเสด็จเข้าสู่ห้องบรรทม ทรงนิทรารมย์ในปฐมยามแห่งราตรี ครั้นเวลารุ่งสว่าง พระนางได้ทรงสุบินนิมิตว่า

ในขณะที่พระนางสิริมหามายาทรงสุบินนิมิตนั้น พระบรมโพธิสัตว์เสด็จจุติลงถือปฏิสนธิในพระครรภ์ของพระนาง ขณะนั้น ก็พลันบังเกิดกัมปนาท แผ่นดินไหวมีรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศ บุพนิมิต ๓๒ ประการได้ปรากฏขึ้นแล้วในหมื่นจักรวาล ครั้นเวลารุ่งเช้า พระนางเจ้าสิริมหามายาได้กราบทูลเล่าสุบินนิมิตให้พระสวามีทรงทราบ พระเจ้าสุทโธทนะจึงรับสั่งให้เชิญพราหมณ์ปาโมกข์โหราจารย์ทั้งหลายเข้าเฝ้า เพื่อให้ทำนายสุบินนิมิตของอัครมเหสี

นับตั้งแต่พระโพธิสัตว์ถือปฏิสนธิในพระครรภ์ บรรดากษัตริย์เมืองต่างๆ ได้ส่งราชบรรณการมาถวายพระเจ้ากรุงกบิลพัสดุ์เป็นจำนวนมาก และขณะที่พระองค์ประทับอยู่ในพระครรภ์ก็มิได้รู้สึกว่าคับแคบ พระมารดามีพระวรกายเบาสบายเหมือนมิได้ทรงพระครรภ์ สามารถทอดพระเนตรราชโอรสที่กำลังประทับนั่งขัดสมาธิคู้บัลลังก์อยู่ในพระครรภ์ได้อย่างชัดเจน

ขณะที่พระนางทรงสำราญอิริยาบถอยู่นั้น เมื่อทรงยกพระหัตถ์จับกิ่งสาละ ก็บังเกิดลมกัมมัชวาต เจ้าหน้าที่พนักงานจึงรีบช่วยกันจัดสถานที่อันเหมาะสม มีการผูกม่านแวดล้อมภายใต้ต้นสาละ ครั้นเวลาใกล้เที่ยง พระนางสิริมหามายาได้ประสูติพระโอรสผู้อุดมเลิศด้วยมหาปุริสลักษณะครบถ้วน ๓๒ ประการ

“อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส เชฏฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส เสฏฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส อยมนฺติมา ชาติ นตฺถิทานิ ปุนพฺภโวติ แปลว่า เราเป็นผู้เลิศในโลก เราเป็นผู้ประเสริฐในโลก เราเป็นเจริญที่สุดในโลก ความเกิดของเรานี้ เป็นชาติสุดท้าย ภพใหม่ของเราไม่มีอีก”
รายการวิดีโอที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้องกับวันวิสาขบูชา Vesak Day