ดิจิตอล ดีท็อกซ์ Digital Detox


[ 6 ส.ค. 2557 ] - [ 18270 ] LINE it!

ดิจิตอล ดีท็อกซ์

Digital Detox

ดิจิตอล ดีท็อกซ์ Digital Detox
 
ดิจิตอล ดีท็อกซ์ Digital Detox
 
     ผมมีเพื่อน 422 คน แต่ผมยังรู้สึกเดียวดาย ผมคุยกับพวกเขาทุกวัน แต่.....ไม่มีใครสักคนที่รูกจักผมจริงๆ

     ปัญหาก็คือผมไม่อาจสบตาพวกเขาขณะสนทนา ได้แต่มองชื่อบนหน้าจอ ผมจึงถอยออกมา เปิดตาดูอีกครั้ง ผมมองไปรอบๆ และตระหนักได้ว่า สิ่งที่เราเรียกว่า "โซเซียล" นั้นคือ การเปิดหน้าจอคอมขึ้น แต่ปิดประตูห้องของเราลง

      เทคโนโลยีเหล่านี้ ล้วนเป็นเพียงภาพมายาของชุมชน มิตรภาพและความรู้สึกร่วม แต่หากคุณถอยห่างจากเครื่องมือสร้างความหลงนี้ได้ คุณจะตื่นและเห็นโลกอันอลหม่าน โลกที่เราตกเป็นทาสของสิ่งที่เราสร้างขึ้น โลกที่ข้อมูลของเราถูกขายโดยเหล่าคนโลภ โลกที่สนใจแต่ตนเอง ภาพลักษณ์ และโปรโมทตัวตน โลกที่เราแชร์สิ่งสวยงาม แต่กลับไร้อารมณ์

     เราดูมีความสุขกับสิ่งที่เราแชร์ แต่จะเป็นอย่างนั้นรึเปล่า หากไม่มีใครอยู่ด้วยเลย จงอยู่กับเพื่อนของคุณ และเขาจะอยู่เช่นกัน แต่จะไม่มีใครเลย หากการอยู่นั้นเป็นเพียงอักษร

     เราตกแต่งเสริมเติม เพื่อถ้อยคำเยินยอ เราแสร้งทำเป็นไม่เห็น  ความโดดเดี่ยวในสังคม เราร้อยเรียงคำพูด เพื่อให้เราดูเจิดจรัสขึ้น โดยแทบไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่ามีใครฟังอยู่ไหม การอยู่คนเดียวไม่ใช่ปัญหา ขอให้ผมได้อธิบาย การอ่านหนังสือ วาดรูป หรือออกกำลังกาย นั่นคือการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่โดดเดี่ยวเดียวดาย คุณกำลังตื่นรู้ ใส่ใจ และใช้เวลากับสิ่งดีๆ
 
ดิจิตอล ดีท็อกซ์ Digital Detox
ดิจิตอล ดีท็อกซ์ Digital Detox

     ดังนั้น เมื่ออยู่ในที่สาธารณะและรู้สึกโดดเดี่ยว เก็บมือของคุณไว้ให้พ้นจากมือถือซะ คุณไม่จำเป็นต้องจ้องหน้าจอมองหารายชื่อ ลองหันไปคุยกับคนอื่นๆ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน

     ผมไม่ชอบความเงียบในขบวนรถไฟที่พลุกพล่าน ไม่มีใครกล้าพอจะเริ่มคุยเพราะกลัวถูกมองว่าประหลาดเราเริ่มกลายเป็นคนไร้สังคม เมื่อไม่ยินดีจะเชื่อมโยงกับผู้คน หรือแม้แต่สบสายตาผู้อื่น เราถูกรายล้อมด้วยเด็กๆ ที่เกิดมาเห็นเราใช้ชีวิตเหมือนหุ่นยนต์จนเข้าใจว่านี่คือเรื่องธรรมดา คุณจะเป็นสุดยอดคุณพ่อได้อย่างไร หากไม่รู้จักเล่นสนุกกับลูกโดยไม่ต้องพึ่ง iPad ตอนผมยังเป็นเด็ก ผมแทบอยู่ไม่ติดบ้าน ผมมักไปข้างนอกกับเพื่อน ขี่จักรยานไปทั่ว เราเล่นซนจนรองเท้าขาด หกล้มเข่าถลอกเป็นประจำ เราสร้างฐานลับของเรากัน สูงขึ้นไปบนต้นไม้ แต่ตอนนี้สวนสาธารณะกลับเงียบเหงา ไร้ซึ่งเด็กๆ วิ่งเล่นและชิงช้าไม่ไหวติง  ไม่มีใครเล่นกระโดดข้ามช่อง ไม่เข้าโบสถ์ ห่างไกลศาสนา เราคือคนรุ่นโง่งม ใช้สมาร์ทโฟนแต่กลับโง่เขลาลง

     เงยหน้าขึ้นจากมือถือและปิดหน้าจอซะ  ชีวิตเรามีจำกัด วันเวลาของเรามีไม่มาก อย่าเสียเวลาจมจ่อไปกับโลกอินเตอร์เน็ต  เพราะเมื่อถึงคราวจากลา คุณอาจต้องพบกับความเสียใจ

     ผมเองก็ผิดเช่นกันที่เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งเหล่านี้ โลกดิจิตอลที่ได้ยินเสียงแต่ไม่เห็นตัวจริง ที่ซึ่งเราพิมพ์แทนที่จะพูด ที่ซึ่งเราใช้เวลาร่วมกัน แต่ปราศจากการสบตา อย่าให้ชีวิตของคุณไหลไปตามกระแสนี้ จงมอบความรัก อย่าได้แค่กดไลค์ ยุติความอยากโอ่ประโคมตัวตน ไปสู่โลกกว้าง ทิ้งสิ่งล่อลวงไว้ข้างหลัง

เงยหน้าจากมือถือและปิดหน้าจอซะ หยุดดูวิดีโอนี้ และใช้ชีวิตจริงๆ เสียที

 
บทความจากวิดีโอของ Gary Turk
 
 
 
++++++++++++++++++++++++++++++++++

ดิจิตอล ดีท็อกซ์

ทันโลก ทันธรรม ตอน ดิจิตอลดีทอกซ์
จากรายการทันโลก ทันธรรม ออกอากาศทางช่อง DMC

    ดิจิตอลดีท็อกซ์ เกิดขึ้นเนื่องจากว่าปัญหาของการใช้แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน ที่มีรังสีสีน้ำเงินที่ออกมาจากสมาร์ทโฟนกับแท็บเล็ตนี่ จากการศึกษาพบว่ามันไปกระทบกระเทือนการสร้างเมลาโทนิน (Melatonin) ที่บริเวณของสมอง สองของเราจะผลิตเมลาโทนินเพื่อให้ร่างกายเราได้ซ่อมแซ่มตัวเอง ช่วยเสริมสร้างให้ภูมิต้านทานดีขึ้น

     เพราะฉะนั้นถ้าเราใช้พวกนี้วันละหลายชั่วโมง ก็จะส่งผลกระทบต่อการสร้างเมลาโทนินในตอนกลางคืน ทำให้เราหลับไม่สนิท ตื่นขึ้นมาก็ไม่สดชื่น ภูมิต้านทานต่ำลง เป็นมะเร็งง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นก็เลยมีเทรนด์ใหม่ เรียกว่าดิจิตอลดีทอกซ์ ซึ่งคือกลุ่มคนที่พยายามจะงดการเชื่อมต่อกับสังคมดิจิตอล

     ดิจิตอลดีท็อกซ์ เป็นศัพท์ใหม่ที่คิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พจนานุกรมมของอ็อกฟอร์ดก็ได้บรรจุคำว่าดิจิตอลดีท็อกซ์ ลงในหนังสือพจนานุกรมเวอร์ชั่นใหม่เรียบร้อย

     ความหมายของ ดิจิตอลดีท็อกซ์ คือ การที่เราเองหยุดใช้เครื่องมือดิจิตอลทั้งหลาย หยุดจากการใช้สิ่งเหล่านี้ชั่วคราว แล้วกลับมาให้ความสำคัญกับผู้คนรอบๆ ข้างของเรา อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง

     อาการจมหายอยู่กับโลกดิจิตอล มันเกิดขึ้นมาได้ 7 - 8 ปีนี้เอง ตั้งแต่สมัยใช้อินเตอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือใช้โน๊ตบุค แต่อาการติดดิจิตอลมันเกิดขึ้นมาเต็มที่เมื่อมีสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเกิดขึ้น เพราะของเหล่านี้ใช้ติดตัวตลอดเวลา จนเกิดเป็นโรคขาดดิจิตอลไม่ได้ จนต้องมีคลินิกดิจิตอลขึ้นมา เด็กอายุน้อยสุดที่ต้องมารักษาโรคติดดิจิตอล อายุต่ำสุด คือ 4 ขวบ คือถ้าคุณแม่หยิบเอาแท็บเล็ตออกไปจากมือ เด็กเกิดอาการอาเจียนเลย เพราะรู้สึกว่าทนไม่ได้ ขาดไม่ได้ ที่จะไม่มีเครื่องมือดิจิตอลอยู่กับตัว นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้น

ดิจิตอล ดีท็อกซ์ Digital Detox
ดิจิตอล ดีท็อกซ์ Digital Detox

     ผู้ใหญ่เองก็เป็นโรคติดดิจิตอลกันเยอะ เช่นการที่เราเองกำลังประชุม กำลังคิดเรื่องงาน กำลังทำกิจใดๆ ในระหว่างทำงานอยู่ แล้วมีสัญญาณโทรศัพท์เข้ามาแล้วเราเปิดดู เท่ากับมีเรื่องแทรกที่ทำให้เราเสียสมาธิ ชั่วโมงหนึ่งตั้งหลายครั้ง วันหนึ่งตั้งหลายสิบครั้ง ต้องบอกว่า สมาธิ ประสิทธิภาพในการทำงานของเราเองลดลงไปมากๆ และสะสมเป็นความเครียด แล้วส่งผลออกมาเป็นอาการป่วย

     เพราะฉะนั้น จึงมีคำว่า ดิจิตอลดีท็อกซ์ คือการหยุดใช้สิ่งเหล่านี้ชั่วคราว ถ้าเรารู้จักตัดใจ เราจะพบว่า จริงๆ แล้วเราสามารถทำได้ไม่ยากเกินไป หวนกลับมาให้ความสำคัญกับผู้คนจริงๆ รอบๆ ตัวเราเถิด ตัดใจให้ได้เถิดแล้วเราจะพบว่าชีวิตเราเองมีอิสระเสรีกว่าช่วงที่ผ่านมาอีกเยอะ สัมผัสกับความสงบใจ แล้วหาเวลามานั่งสมาธิให้เพิ่มขึ้นเยอะๆ กันเถิด
 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
กฐินธรรมชัย ทำก่อน รวยก่อน บรรลุก่อนกฐินธรรมชัย ทำก่อน รวยก่อน บรรลุก่อน

เทศกาลลอยกระทงมีที่มาที่ไปอย่างไรเทศกาลลอยกระทงมีที่มาที่ไปอย่างไร

กฐิน ผ้าป่า และอานิสงส์กฐิน ผ้าป่า และอานิสงส์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

Review รายการ