บูรพกษัตริย์ไทยกับพระไตรปิฎก


[ 19 มี.ค. 2558 ] - [ 18282 ] LINE it!

บูรพกษัตริย์ไทยกับพระไตรปิฎก


     พระไตรปิฎก คือ คัมภีร์ที่บันทึกคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สันนิษฐานว่าพระไตรปิฎกภาษาบาลีเข้ามาสู่ประเทศไทยใน ๒ ช่วง คือประมาณปี พ.ศ. ๑๖๐๐ เมื่อพระพุทธศาสนาเถรวาทเผยแผ่จากประเทศพม่าเข้าสู่ภาคเหนือของไทย และประมาณปี พ.ศ. ๑๘๐๐ เมื่อพระพุทธศาสนาเผยแผ่
จากประเทศศรีลังกามาทางนครศรีธรรมราช

     ในช่วงเวลาดังกล่าว บูรพกษัตริย์ผู้ปกครองอาณาจักรหลายพระองค์ได้น้อมรับเอาหลักธรรมอันดีงามที่ปรากฏในพระไตรปิฎกมาใช้เป็นแม่บทแบบแผนในการบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่น และทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างพุทธศาสนิกชนที่ดี

     อาณาจักรสุโขทัย พ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วงลำดับที่ ๓ ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นอย่างดี ทรงอาราธนาพระมหาเถรสังฆราชผู้เรียนจบพระไตรปิฎกขึ้นมาจากเมืองนครศรีธรรมราชให้มาพำนักที่วัดอรัญญิก เพื่อมาเผยแผ่พระธรรมวินัยแก่ประชาราษฎร์และตั้งคณะสงฆ์แบบลังกาวงศ์ในอาณาจักรสุโขทัยจนพระพุทธศาสนามีความรุ่งเรืองไพศาลดังปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ ๑ ด้านที่ ๒ ว่า


“.. คนในเมืองสุโขทัยนี้ มักทาน มักทรงศีล มักโอยทาน พ่อขุนรามคำแหงเจ้าเมืองสุโขทัยนี้
ทั้งชาวแม่ชาวเจ้าท่วยปั่วท่วยนาง ลูกเจ้าลูกขุน ทั้งสิ้นทั้งหลาย ทั้งผู้ชายผู้ญีง ฝูงท่วยมีศรัทธาใน
*พระพุทธศาสน ทรงศีลเมื่อพรรษาทุกคน...”

“...พ่อขุนรามคำแหงกระทำโอยทานแก่มหาเถร สังฆราชปราชญ์ เรียนจบปิฎกไตรหลวก กว่า
ปู่ครูในเมืองนี้ ทุกคนลุกแต่เมืองศรีธรรมราชมา ...”


(คำอ่านจารึกจากฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร)
 
ตู้พระธรรมไม้จำหลักปิดทอง เขียนสีประดับกระจก
เล่าเรื่องทศชาติ ศิลปะอยุธยาพุทธศตวรรษที่ ๒๐-๒๑

      ต่อมาในสมัยพระยาลิไทย พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วงลำดับที่ ๖ ทรงทำนุบำรุงพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองจนสุโขทัยกลายเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา พระองค์มักจะทรงเผดียงพระสงฆ์เข้าไปเรียนพระไตรปิฎกในมหาปราสาท และทรงจัดระเบียบคณะสงฆ์แบ่งเป็น ๒ ฝ่าย คือ ฝ่าย “คามวาสี” และฝ่าย “อรัญวาสี” โดยให้ฝ่ายคามวาสีเน้นการสั่งสอนราษฎรในเมืองและเน้นการศึกษาพระไตรปิฎกส่วนฝ่ายอรัญวาสีให้เน้นการวิปัสสนาและประจำอยู่ตามป่าหรือชนบท

ส่วนพระองค์เองทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่เสด็จออกผนวช ทรงมีความรู้แตกฉานในพระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา และปกรณ์วิเสสเป็นอย่างดี จนทรงพระปรีชาสามารถนิพนธ์หนังสือไตรภูมิพระร่วง สอนเรื่องนรกสวรรค์ บุญบาป นับเป็นงานวรรณคดีที่เก่าแก่ที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย ทั้งยังทรงมีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเถรวาทแบบลังกาวงศ์ไปสู่แผ่นดินล้านนาอีกด้วย
 

สมัยพระเจ้าติโลกราชแห่งอาณาจักรล้านนา การศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมได้รับการส่งเสริม พระภิกษุสงฆ์
ที่มีความรู้แตกฉานในพระไตรปิฎกได้รับการเคารพยกย่อง ทำให้มีกุลบุตรมาบวชเรียนเป็นจำนวนมาก

     อาณาจักรล้านนา ในรัชสมัยพระเจ้าติโลกราช เป็นยุคที่มีพระภิกษุผู้เชี่ยวชาญในการรจนาคัมภีร์ภาษาบาลีและรอบรู้พระไตรปิฎกจำนวนมาก ก่อให้เกิดการทำสังคายนาครั้งแรกของประเทศไทย ในปี พ.ศ. ๒๐๒๐ ที่วัดมหาโพธารามหรือวัดเจ็ดยอด เมืองเชียงใหม่ โปรดให้ชุมนุมพระเถรานุเถระผู้ทรงพระไตรปิฎกหลายร้อยรูป มีพระธรรมทินเถระเป็นประธานสอบชำระพระไตรปิฎกและจารลงในใบลาน ใช้เวลา ๑ ปี จึงแล้วเสร็จ เรียกการสังคายนาที่เชียงใหม่ครั้งนี้ว่า การสังคายนาครั้งที่ ๘ หรือ “อัฏฐสังคายนา” เมื่อนับตั้งแต่การสังคายนาครั้งแรกในอินเดียโบราณ

    อาณาจักรอยุธยา พระมหากษัตริย์ที่ทรงมีบทบาทด้านการพระศาสนาอย่างยิ่งพระองค์หนึ่ง ได้แก่ สมเด็จพระบรมราชาที่ ๑ พระมหากษัตริย์องค์ที่ ๒๑ แห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งประชาชนยกย่อง ถวายพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม
 

     ก่อนขึ้นเสวยราชสมบัติ พระองค์ทรงพระผนวชอยู่ที่วัดระฆัง ทรงรอบรู้ทางด้านพระไตรปิฎกมากจนได้รับเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระพิมลธรรมอนันตปรีชา แม้ภายหลังลาสิกขาขึ้นเสวยราชย์แล้วพระองค์ก็ยังมีพระราชศรัทธาเสด็จลงพระที่นั่งจอมทองสามหลังบอกบาลีแก่พระภิกษุสามเณรอยู่เนือง ๆ มีพระภิกษุสามเณรจากวัดต่าง ๆ ผลัดกันเข้ามาเรียนเป็นประจำ ทั้งยังโปรดเกล้าฯให้ประชุมราชบัณฑิตแต่งกาพย์มหาชาติเมื่อ พ.ศ. ๒๑๗๐ และโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระไตรปิฎกด้วย

     อาณาจักรธนบุรีเป็นอาณาจักรสุดท้ายก่อนเข้าสู่ยุครัตนโกสินทร์ พระเจ้าตากสินมหาราชทรงเป็นพระมหากษัตริย์เพียงพระองค์เดียวที่ทรงปกครองกรุงธนบุรีระยะสั้น ๆ เพียง ๑๕ ปี นอกจากทรงเป็นนักรบที่แกล้วกล้านำไพร่พลตีฝ่าวงล้อมกอบกู้เอกราชคืนจากพม่าหลังเสียกรุงศรีอยุธยาแล้ว พระองค์ยังทรงเป็นนักการศาสนาที่เคร่งครัดอีกด้วย ทรงปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐานและฟื้นฟูวัดวาอารามทรงเห็นว่าช่วงสงครามคัมภีร์พระไตรปิฎกกระจัดกระจาย สูญหาย และถูกเผาทำลายไปเป็นจำนวนมาก จึงทรงมุ่งมั่นรวบรวมต้นฉบับที่หลงเหลืออยู่ เพื่อนำมาคัดลอกสร้างเป็นพระไตรปิฎกฉบับหลวงต่อไป และโปรดเกล้าฯให้ไปอัญเชิญพระไตรปิฎกจากหลายเมือง อาทิ...

สมุดภาพไตรภูมิ ฉบับหลวง สมัยธนบุรีแสดงภาพสวรรค์ชั้นดุสิต “บุคคลจำพวกใดเป็นพหูสูต
ตั้งอยู่ในทสกุศลกรรมบถกอปรด้วยปัญญา ปรารถนาพระนิพพาน แลยินดีในคุณพระรัตนตรัย ผู้นั้นได้เกิดในดุสิตสวรรค์

     นครศรีธรรมราช อุตรดิตถ์ และทรงสถาปนาพระอาจารย์สีผู้มีความรู้แตกฉานในพระไตรปิฎกตั้งแต่สมัยอยุธยาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช แม้กรุงธนบุรีจะสิ้นสุดลงก่อนที่พระไตรปิฎกฉบับหลวงจะสำเร็จลุล่วง แต่ต้นฉบับที่ได้จากเมืองนครศรีธรรมราชถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการสังคายนาพระไตรปิฎกในสมัยต่อมา
 

การนับถือพระพุทธศาสนาของบูรพกษัตริย์ไทยนั้นมิได้เป็นไปตามขนบประเพณีที่สืบทอดต่อกันมาเท่านั้นแต่พระองค์ทรงศึกษาพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎกจนทรงมีความรู้แตกฉาน และนำไปสู่การปฏิบัติเป็นต้นแบบแก่พสกนิกรใต้พระบรมโพธิสมภาร เมื่อผู้นำปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจนเป็นที่ประจักษ์ย่อมยังศรัทธาให้เกิดขึ้น และหมู่ชนย่อมเกิดความเลื่อมใสที่จะดำเนินรอยตามพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักของตน เมื่อทั้งฝ่ายอาณาจักรและพุทธจักรให้การส่งเสริมเกื้อกูลซึ่งกันและกันเช่นนี้จึงเป็นเหตุให้พระพุทธศาสนาปักหลักตั้งมั่น สืบทอดมายาวนานจนนำความผาสุกมาสู่ผืนแผ่นดินนี้ตลอดมา
 

ก่องแก้ว วีระประจักษ์. (๒๕๔๕). สารนิเทศจากคัมภีร์ใบลานสมัยอยุธยา. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร
ณัฏฐภัทร จันทวิช. (๒๕๕๓). วัดพนัญเชิงวรวิหาร พระนครศรีอยุธยา. กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง
บุญเตือน ศรีวรพจน์, ประสิทธิ์ แสงทับ. (๒๕๔๒). สมุดข่อย. กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา
วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ. พระมหาวิหารประดิษฐานพระไตรปิฎกหินอ่อน. กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง
ข้อมูลจาก : Tipitaka (DTP)
 

บทความที่เกี่ยวข้องกับคัมภีร์ใบลาน มรดกธรรมจากพุทธกาล
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
วันแรงงานแห่งชาติ 1 พฤษภาคม 2566วันแรงงานแห่งชาติ 1 พฤษภาคม 2566

รางวัลสุนทรภู่กวีอาเซียน 2556รางวัลสุนทรภู่กวีอาเซียน 2556

ฆ่าตัวตาย วิธีฆ่าตัวตาย การฆ่าตัวตายบาปหรือไม่ฆ่าตัวตาย วิธีฆ่าตัวตาย การฆ่าตัวตายบาปหรือไม่



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ความรู้รอบตัว