พระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชสมัยแห่งการฟื้นฟู


[ 7 พ.ค. 2558 ] - [ 18276 ] LINE it!

พระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชสมัยแห่งการฟื้นฟู
เรื่อง : Tipitaka (DTP)
จากวารสารอยู่ในบุญฉบับเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๘
 

     พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๒ แห่งราชวงศ์จักรีทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ ทรงฝากตัวเป็นศิษย์กับพระวันรัต (ทองอยู่) เพื่อเข้ารับการศึกษาเบื้องต้น ณ สำนักวัดระฆังโฆสิตาราม เดิมเรียกว่า วัดบางหว้าใหญ่ ครั้นเมื่อพระชันษาครบกำหนดสมเด็จพระบรมชนกนาถจึงโปรดเกล้าฯ ให้ทรงผนวช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ขณะนั้นยังทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร นับเป็นนาคหลวงองค์แรกในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ และถือเป็นราชประเพณีการผนวชพระบรมราชวงศ์เป็นนาคหลวงในพระบรมราชานุเคราะห์ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สืบมา
 

พระแสงดาบฝักทองเกลี้ยง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงตีขึ้นด้วยฝีพระหัตถ์
เดิมทรงทำเป็นพระแสงฝักไม้ทารักสีดำ เคยทรงใช้เป็นพระแสงคู่พระหัตถ์
และพระราชทานแด่สมเด็จเจ้าฟ้าบรมราชโอรสสืบเนื่องกันมาหลายรัชกาล ถือเป็นพระแสงสำคัญของแผ่นดินองค์หนึ่ง

     ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๓๔๙ พระองค์ทรงได้รับการสถาปนาเลื่อนยศขึ้นเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคลที่พระมหาอุปราช มีฐานะเป็นองค์รัชทายาทสืบราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ลำดับต่อไป ซึ่งในพระราชพิธีอุปราชาภิเษกนี้ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชพระราชทานพระแสงดาบฝักทองเกลี้ยง พร้อมมีพระราชดำรัสฝากพระพุทธศาสนา และพระราชทานพรให้พระองค์ทรงตั้งอยู่ในสุจริตธรรม ด้วยทรงหวังว่าพระราชโอรสจะเป็นพระเจ้าแผ่นดินผู้ปกครองบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุข และยังพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปในภายภาคหน้า
 

     เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จสวรรคต สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ที่พระมหาอุปราช จึงได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ และได้สืบทอดพระราชดำรัสของสมเดจ็พระบรมชนกนาถในการปกครองบ้านเมืองด้วยความเป็นธรรม ธำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา และให้ราษฎรในแผ่นดินตั้งอยู่ในศีลธรรม โดยนับแต่ปีแรกของรัชกาล โปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติเรื่องห้ามเลี้ยงไก่ นก ปลากัด เพื่อการพนัน และออกพระราชกำหนดห้ามสูบขาย หรือซื้อฝิ่น พร้อมกำหนดบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนอย่างเด็ดขาด เพื่อให้พสกนิกรงดเว้นจากอบายมุขและสิ่งเสพติดให้โทษ
 

     ในขณะเดียวกันทรงส่งเสริมให้ไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ทุกชนชั้นหมั่นบำเพ็ญกุศลเป็นอาจิณ โดยพระองค์ทรงประพฤติตนเป็นแบบอย่างในการให้ทาน รักษาศีล และไถ่ชีวิตสัตว์เป็นทานอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเมื่อคราวฟื้นฟูการประกอบพระราชพิธีวันวิสาขบูชาซึ่งเลือนหายไปตั้งแต่สมัยอยุธยา โปรดเกล้าฯ ให้จัดพระราชพิธีตามอย่างประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยเริ่ม

     ในวันขึ้น ๑๔ ค่ำ ถึงแรม ๑ ค่ำ เดือน ๖ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงรักษาอุโบสถศีล และปรนนิบัติพระสงฆ์ปล่อยนก ปล่อยปลา ห้ามเสพสุรา ห้ามฆ่าสัตว์เวลาเพลให้มีพระธรรมเทศนาในวัดราษฎร์และพระอารามหลวง เวลาค่ำให้ถวายประทีปตั้งโคม แขวนเครื่องสักการะ และเวียนเทียนบูชาพระรัตนตรัย

     เมื่อครั้งบ้านเมืองประสบภัยพิบัติครั้งใหญ่จากอหิวาตกโรค ผู้คนล้มตายหลายหมื่นคน พสกนิกรต่างหวาดกลัวต่อมรณภัยที่ระบาดไปทั่วแว่นแคว้น พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินการด้านการรักษาพยาบาลเพื่อเยียวยาโรคทางกาย และนำพิธีกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับ พระพุทธศาสนามาเป็นเครื่องเยียวยาสภาพจิตใจ โปรดเกล้าฯ ให้ตั้ง พระราชพิธีอาพาธพินาศ อัญเชิญพระบรมธาตุและพระแก้วมรกตออกแห่ พระราชาคณะประพรมน้ำพระปริตรทั้งทางบกและทางน้ำเพื่อขับไล่โรคร้าย ให้สวดพระพุทธมนต์ทั่วพระนคร ส่วนพระองค์ก็ทรงรักษาอุโบสถศีล และให้ชีวิตสัตว์เป็นพระราชกุศล เพียงระยะเวลา ๑๕ วัน โรคระบาดที่คร่าชีวิตผู้คนไปจำนวนมากก็หายไปจากพระนครอย่างอัศจรรย์
 

     การบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นธรรมทานในครั้งนี้ยังเป็นที่มาของการสังคายนาบทสวดมนต์แปลเป็นภาษาไทยเป็นครั้งแรกของกรุงรัตนโกสินทร์ โปรดเกล้าฯ ให้แปลบทสวดมนต์เป็นภาษาไทย และให้เจ้านายรวมทั้งข้าราชการฝ่ายในฝึกสวดมนต์ที่หอพระและพระที่นั่งไพศาลทักษิณทุกวันจนชำนาญ ถูกต้องทั้งอักขระและท่วงทำนอง กล่าวกันว่า ช่วงเวลากลางวันเจ้านายและข้าราชการฝ่ายในแบ่งหัดซ้อมสวดกันเป็นหมู่เป็นพวก ส่วนในเวลากลางคืนพร้อมกันไปสวดถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยในท้องพระโรงในเป็นประจำทุกคืนโดยมุ่งให้เกิดบุญกุศลมาคุ้มบ้านคุ้มเมืองให้ปลอดภัยจากอุปัทวันตรายต่าง ๆ และเพื่อรักษาประเพณีอันดีงามของพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ ประเพณีการสวดมนต์ทั้งคำบาลีและคำแปลเป็นภาษาไทยนี้ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
 

     ในด้านการคณะสงฆ์ ทรงปรารถนาให้คณะพระภิกษุสามเณรมีความงามพร้อมทั้งด้านปฏิบัติและปริยัติ เป็นที่ตั้งแห่งศรัทธาของมหาชนจึงทรงอาราธนาสมเด็จพระสังฆราชให้แต่งหนังสือโอวาทานุสาสนีแจกจ่ายไปตามพระอารามให้คณะสงฆ์ทั่วพระนครรับทราบข้อวัตรปฏิบัติอันสมควรแก่สมณะ และทรงยกมาตรฐานความรู้ของพระภิกษุสามเณรเพื่อให้แตกฉานในภาษาบาลีและพระไตรปิฎก โดยจัดระเบียบการสอนและการสอบพระปริยัติธรรมใหม่ จากเดิมในสมัยกรุงศรีอยุธยากำหนดหลักสูตรเป็นเปรียญ ๓ ขั้น คือ เปรียญตรี เปรียญโท และเปรียญเอก มาเป็นระบบเปรียญ ๙ ประโยค กำหนดหลักสูตรให้ยากขึ้นตามลำดับ และพระราชทานพระราชทรัพย์เป็นทุนสร้างคัมภีร์ใบลานเพื่อเป็นอุปกรณ์ช่วยในการศึกษา นับว่าหลักสูตรการเล่าเรียนบาลีที่ปรับปรุงใหม่นี้ทำให้การศึกษาพระไตรปิฎกได้มาตรฐานและเจริญขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก

     ทั้งยังมีรับสั่งให้สำรวจตรวจสอบคัมภีร์พระไตรปิฎกใบลานหลวงที่ประดิษฐาน ณ หอพระมณเฑียรธรรมภายในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งสร้างขึ้นหลังการสังคายนาพระไตรปิฎกในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทำให้พบว่าคัมภีร์พระไตรปิฎกหลวงบางชุดได้สูญหายไป เนื่องจากในรัชกาลก่อนทรงอนุญาตให้พระภิกษุสามเณรขอยืมคัมภีร์พระไตรปิฎกไปคัดลอกตามพระอารามต่าง ๆ ได้ แต่ภายหลังก็ไม่นำต้นฉบับส่งคืน และทางฝ่ายเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ดูแลก็มิได้ติดตามเรียกคืนมาให้ครบ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างคัมภีร์พระไตรปิฎกหลวงขึ้นซ่อมแซมฉบับที่สูญหายไปจนครบบริบูรณ์ และสร้างคัมภีร์ใหม่ขึ้นอีกฉบับ เรียกว่า ฉบับรดน้ำแดงมีลักษณะเด่น คือ ใบลานปกหน้าและปกหลังตกแต่งด้วยลายรดน้ำบนพื้นรักแดง ขอบลานทั้ง ๔ ด้าน ปิดทองทึบ กึ่งกลางขอบลานด้านยาวมีชาดล่องกลาง ที่รอยต่อของทองกับชาดมีเส้นดำคั่นเป็นขอบคิ้วทั้งสองข้าง
 

     ตลอดรัชสมัย ๑๖ ปี ที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จขึ้นครองราชย์ ทรงสืบทอดพระราชปณิธานและพระราชภารกิจน้อยใหญ่จากพระบรมชนกนาถ ทั้งในยามบ้านเมืองปกติสุขและประสบเภทภัย ทรงนำคำสอนในพระพุทธศาสนามาเป็นแนวทางในการบริหารแผ่นดินปลูกฝังให้ประชาชนทุกระดับชั้นมีพื้นฐานศีลธรรมในใจ โดยทรงลงมือปฏิบัติเป็นแบบอย่างแก่ข้าราชบริพาร และจัดระเบียบการคณะสงฆ์ให้เป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใส ราชธานีในยุคของพระองค์จึงมั่นคงร่มเย็น เป็นยุคแห่งการฟื้นฟูด้านศิลปวัฒนธรรมทุกสาขาให้วิจิตรตระการตาเป็นเกียรติยศยิ่งของพระนครดั่งร่ายเฉลิมพระเกียรติว่า

     “พระบาทบรมพงศ์ ลงทั่วท้าวถวายมือ ฦๅพระยศฟุ้งฟ้า หล้าศิระสยบ ลบสุรมลาย หายเศิกเสี้ยนเสียราบ ทาบทุกทิศทั่วด้าว น้าวนครดาลเดช เขตขัณฑกว่ากว้าง ช้างเผือกผู้มากมีพระนครศรีอยุธยิ่งแล้ว ฤๅทิพยรัตนกรุงแก้ว เกียรติล้ำใดเสมอแลฤๅฯ”


ก่องแก้ว วีระประจักษ์ และวิรัตน์ อุนนาทรวรางกูร. คัมภีร์ใบลานฉบับหลวงในสมัยรัตนโกสินทร์. กรุงเทพ : กรมศิลปากร, ๒๕๔๖.
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์. มกุฎกษัตริยานุสรณ์. กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, ๒๕๕๓.
สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร. วิวัฒน์การอ่านไทย. กรุงเทพฯ : สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, ๒๕๕๖.
 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
รางวัลสุนทรภู่กวีอาเซียน 2556รางวัลสุนทรภู่กวีอาเซียน 2556

เพลงพระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลกเพลงพระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก

หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๑)หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๑)



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ความรู้รอบตัว