สมาธิ
ปฏิบัติธรรม
ในเมื่อไม่มีเวลาก็ต้องทำตลอดเวลา
จากคอลัมน์ท้ายเล่มวารสารอยู่ในบุญฉบับเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘
บางคนบอกว่าต้องทำมาหากิน ออกจากบ้านแต่เช้ากลับก็ค่ำ งานก็ยุ่ง ภารกิจก็มากมายจนไม่มีเวลานั่งสมาธิปฏิบัติธรรมเลย
หรือบางวันพอนึกจะนั่งก่อนนอน ด้วยความเพลียก็นั่งหลับ หรือฟุ้งซ่านคิดเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจในวันนั้นอีกทั้งยังคิดโน่นคิดนี่จนหมดเวลาไปอย่างไม่ได้อะไร
หากวิถีชีวิตเราเป็นเช่นนี้ จงอย่านิ่งนอนใจ เพราะความเคยชินนี้จะกลายเป็นนิสัย หากอ้างว่ายุ่ง เราก็จะยุ่งทั้งชีวิต มารู้ตัวอีกทีก็ตอนป่วยใกล้ตาย หรือตอนเกษียณซึ่งสภาพร่างกายไม่ไหวแล้ว
ดังนั้น เราควรปรับวิธีคิดใหม่ เพราะไม่มีทางใดเลยที่จะเปลี่ยนแปลงนิสัยได้ ถ้าเราไม่เปลี่ยนวิธีคิดก่อน โดยคิดว่าในเมื่อไม่มีเวลา ก็ต้องทำให้ได้ตลอดเวลา’ คือ ไม่ว่าเราจะทำภารกิจอะไรก็ตาม ให้พยายามนึกถึงดวงแก้วหรือองค์พระไว้ที่ศูนย์กลางกายให้ได้ตลอดเวลา ซึ่งใหม่ ๆ อาจไม่คุ้นและเผลอลืมนึกได้ง่าย แต่หากเราพยายามทำไปสักระยะหนึ่งต่อไปใจเราจะอยู่ที่ศูนย์กลางกายโดยอัตโนมัติ เหมือนขณะที่เรากินข้าว เราก็หายใจไปด้วย หรือขณะที่เราทำงานยุ่งวุ่นวายเราก็ยังหายใจ ซึ่งหากเราประคองใจได้อย่างนี้ ถึงแม้ในแต่ละวันจะมีเวลานั่งสมาธิน้อย เราก็จะนั่งได้อย่างมีคุณภาพคือ ใจหยุดนิ่งสงบได้เร็ว
ฉะนั้น ถ้าเราไม่มีเวลา ก็ต้องทำให้ได้ตลอดเวลาเพื่อสุดท้ายเราจะได้ไม่หมดเวลาบนโลกนี้ไปอย่างไม่ได้อะไร