ทำไมต้องหล่อรูปเหมือนเป็นทองคำแท้ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้


[ 5 พ.ย. 2558 ] - [ 18301 ] LINE it!

ทำไมต้องหล่อรูปเหมือนเป็นทองคำแท้ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้

เรื่อง : ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์
จากวารสารอยู่ในบุญฉบับเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘
 

    “การพบกันนั้นเป็นวาสนา” การที่ผู้อ่านได้เปิดมาเจอคอลัมน์นี้ ผู้เขียนคิดว่า..ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะหนังสือบนโลกนี้มีเป็นพัน ๆ ล้านเล่ม แต่คงเคยสร้างเหตุอะไรมา ที่ทำให้ผู้อ่านจะได้มารับรู้ข้อมูลการสร้างมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ และเหตุผลการหล่อรูปเหมือนทองคำหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ องค์ที่ ๘ ที่อาจไม่เคยรู้มาก่อน !!!

๑. ทำไมต้องหล่อรูปเหมือนเป็นทองคำแท้ ในเมื่อเศรษฐกิจไม่ดี?

     ช่วงนี้ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้นที่เศรษฐกิจตกต่ำ เศรษฐกิจโลกก็ตกต่ำเช่นกันหนำซ้ำยังมีภัยพิบัติต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมายตั้งแต่ไต้ฝุ่นเอตาวถล่มญี่ปุ่น เกิดน้ำท่วมหนักนำความเสียหายอนั มหาศาลมาสู่จังหวัดอิยารากิ หรือการที่มนุษย์เข่นฆ่ากันเองในสงครามเดือดกลางเมืองซีเรีย และที่ใกล้ตัวเราที่สุดก็คือระเบิดที่แยกราชประสงค์ ที่ทำให้ผู้คนเสียชีวิตอย่างน่าสลดสังเวช สิ่งนี้เป็นดัชนีชี้ให้เห็นว่าบุญของคนในประเทศส่วนใหญ่ลดน้อยลง จึงทำให้มีแต่เรื่องแย่ ๆ จนทำให้เศรษฐกิจตกต่ำขัดสนไปทุกหัวระแหง

     ในเมื่อประเทศกำลังประสบภัยที่มีผลกระทบกับเราโดยตรง จะให้นิ่งนอนใจอยู่เฉย ๆ ได้อย่างไร !!!

     และเมื่อเป็นเช่นนี้ ในฐานะที่เราเป็นชาวพุทธก็ต้องมาศึกษาเรื่องราวในพระไตรปิฎกว่า ในครั้งที่เกิดภัยพิบัติทำนองนี้ เขาแก้ปัญหากันอย่างไร?
 
     ย้อนไปในยุคที่ชาวเมืองพาราณสีเกิด “ฉาตกภัย” คือ ภัยที่เกิดจากความแห้งแล้งฝนไม่ตก เกษตรกรไม่สามารถทำไร่ไถนาได้เกิดภาวะอดอยากยากจน สัตว์เลี้ยงตลอดจนผู้คนล้มตายเพราะขาดน้ำและอาหาร

     ในชาตินั้น เมณฑกเศรษฐี (ผู้เป็นปู่ของมหาอุบาสิกาวิสาขา) ได้เกิดเป็นมหาเศรษฐีประจำเมือง แต่กำลังจะอดตายกันทั้งครอบครัวเพราะภัยนี้ด้วย ในสภาวะที่กำลังจะอดตายนี้เอง ก็ได้ตัดสินใจถวายข้าวมื้อสุดท้ายของตัวเอง โดยคิดว่าจะยอมสละชีวิตเพื่อแลกกับการให้ทาน เพื่อถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า
 

     ซึ่งท่านเศรษฐีก็ได้อธิษฐานว่า “ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ขอให้ข้าพเจ้าอย่าได้ประสบฉาตกภัยในที่ที่ข้าพเจ้าเกิดอีกเลยตั้งแต่บัดนี้ไปข้าพเจ้าพึงสามารถที่จะให้ภัตรแก่ชาวชมพูทวีปได้ทั้งหมด ข้าพเจ้าไม่พึงทำงานเลี้ยงชีพด้วยมือของตนเอง ในขณะที่ข้าพเจ้าใช้ให้คนชำระฉาง ๑,๒๕๐ ฉาง และชำระร่างกายให้สะอาดแล้วนั่งอยู่ที่ประตูฉางเหล่านั้น มองดูในเบื้องบนเท่านั้น ธารแห่งข้าวสาลีแดงพึงตกลงมาเต็มฉางทั้งหมด และผู้นี้จงเป็นภรรยา ผู้นี้จงเป็นบุตร ผู้นี้จงเป็นหญิงสะใภ้ และผู้นี้จงเป็นทาสของข้าพเจ้า ในสถานที่ที่ข้าพเจ้าเกิดแล้วเถิด”

     ในยุคนั้น ภัยที่เกิดขึ้นถือว่าสาหัสยิ่งกว่าประเทศไทยในยุคนี้ แต่สุดท้ายบุญจากการเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อถวายทานของท่านเศรษฐี ก็บันดาลให้เกิดผลบุญอัศจรรย์ คือจากหม้อข้าวที่ไม่มีข้าวเหลือเลย อยู่ ๆ ก็มีข้าวเพิ่มขึ้นมาเต็มหม้อ แถมตักเท่าไรก็ไม่พร่องยังคงเพิ่มขึ้นเต็มหม้อทุกครั้งที่ตักออกไป อีกทั้งยุ้งฉางที่ว่างเปล่า ก็เต็มล้นไปด้วยข้าวเปลือกและพืชพันธุ์ธัญญาหารเหมือนเดิม ฝนฟ้าก็ตกลงมาให้ความชุ่มฉ่ำแก่คนทั้งเมือง และเมื่อชาวเมืองทราบข่าว ต่างก็หลั่งไหลมารับอาหารและพันธุ์พืชจากบ้านของท่านเศรษฐีทำให้ชาวชมพูทวีปทั้งหมดดำรงชีพอย่างมีความสุขตลอดชีวิต

     ต่อมา ในสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ท่านเศรษฐีบังเกิดเป็น เมณฑกเศรษฐีผู้มีแพะทองคำ ซึ่งเป็นแพะกายสิทธิ์ที่สามารถบันดาลสมบัติเลี้ยงคนได้เป็นจำนวนมหาศาลและท่านก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันในที่สุด

     จากเรื่องราวข้างต้นยืนยันให้เห็นว่า “วิกฤตเศรษฐกิจต้องแก้ด้วยบุญ” ดังนั้นการทำบุญในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ จึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะถ้าเราหมดบุญ เราก็จะอดอยากยากจน ฉะนั้นเราจึงควรรีบทำบุญใหญ่ที่มีอานิสงส์มาก จะได้มีกำลังบุญมากพอที่จะฝ่าวิกฤตชีวิตและเศรษฐกิจไปได้
 
พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร
 
 
(ซ้าย) ไพ่ทองคำที่เกาะมาเก๊า     (ขวา)    พื้นทองคำที่เกาะมาเก๊า

๒. การหล่อพระด้วย “ทองคำ” เป็นเรื่องปกติหรือไม่?

      การสร้างและหล่อพระเป็นประเพณีตั้งแต่ครั้งโบราณกาล เพื่อเป็นเครื่องตรึกระลึกนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์ในกาลก่อน อย่างที่เห็นเด่นชัดในปัจจุบันก็คือหลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตรวิทยาราม ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามพระพุทธรูปทองคำองค์นี้ว่า “พระพุทธมหา-สุวรรณปฏิมากร” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ที่ได้รับการบันทึกไว้ในกินเนสส์บุ๊ก เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หนัก ๕.๕ ตัน หรือ ๕,๕๐๐ กิโลกรัมสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัย ถือเป็นมรดกทางอารยธรรมล้ำค่ายิ่งของพระพุทธศาสนาที่เป็นศูนย์รวมใจของชาวไทยจนถึงทุกวันนี้

      ดังนั้น การหล่อหลวงปู่ด้วยทองคำขนาดเท่าครึ่งขององค์จริง ซึ่งใช้ทองแค่ประมาณ ๑ ตัน จึงถือเป็นเรื่องปกติ

๓. ทำไมนิยมนำทองคำหรือรัตนชาติแพง ๆ มาสร้างพระหรือเจดีย์ ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือ?

     เพราะรัตนชาติและทองคำเป็นธาตุที่ทรงอิทธิพลต่อมนุษย์ เป็นธาตุที่ดึงดูดความสนใจของมนุษย์ได้ดี เนื่องจากสวยและมีมูลค่าสูง ขนาดสิ่งไม่ดีเขายังเอาทองคำแท้ ๆ มาทำเลย อย่างผู้เขียนเคยไปเห็นที่เกาะมาเก๊าเขายังทำไพ่เป็นทองคำ หรือในบ่อนคาสิโนแหล่งอบายมุขที่ลงทุนเป็นหมื่น ๆ ล้านบาทในมาเก๊า พื้นที่เราเหยียบย่ำเขาก็ฝังทองคำแท้ ๆ ลงไปจำนวนมาก แล้วให้คนเดินเหยียบไปเหยียบมา

    ดังนั้น การหล่อพระ การสร้างเจดีย์ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งดี ก็ควรทำให้สูงค่า น่าเคารพเลื่อมใสศรัทธา เพื่อดึงดูดให้คนมาสนใจเช่นกันเพราะตั้งแต่พุทธกาลเขาก็ทำกันเช่นนี้ อย่างอดีตชาติของ พระมหากัจจายนะ ท่านก็ได้ถวาย แผ่นอิฐทองคำ ทำเป็นฐานเจดีย์ เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ หรืออย่างโชติกเศรษฐีผู้เป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในสมัยพุทธกาล อดีตชาติได้เอารัตนชาติมาประดับเสา บานประตู และกระเบื้องทั้งหมดเพื่อสร้างพระคันธกุฎีถวายพระบรมศาสดา หรือปัจจุบันที่เห็น ๆ กัน ก็คือ ยอดพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ที่มีเพชรแท้อยู่ ๕,๔๔๘ เม็ดมีทับทิม ๒,๓๑๗ เม็ด มีมรกตเม็ดใหญ่อยู่ตรงกลาง และบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่ขนาด ๗๖ กะรัต

    ดังนั้น การนำทองคำมาหล่อพระจึงเป็นสิ่งสมควรอย่างยิ่ง
 
เจดีย์ชเวดากอง
เจดีย์ชเวดากอง
 
เพชรบนยอดเจดีย์ชเวดากอง


๔. ทำไมต้องหล่อหลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ?

     เพราะท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีคุณวิเศษอันไม่มีประมาณจนเป็นที่รู้จักและมีคนเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมหาศาลมายาวนานกว่าร้อยปีแล้ว ซึ่งแม้ปัจจุบันท่านมรณภาพไปนานแล้ว ก็ยังมีลูกศิษย์ลูกหาเจออานุภาพและความศักดิ์สิทธิ์ของท่านราวกับท่านยังมีชีวิตอยู่อย่างตลอดต่อเนื่อง และที่สำคัญยังขาดรูปหล่อของท่านอีก ๑ องค์เพื่อประดิษฐานในเส้นทางพระผู้ปราบมารจึงจำเป็นต้องหล่อท่านขึ้นมา

๕. ทำไมต้องหล่อหลวงปู่องค์ที่ ๘ ในเมื่อหล่อมาตั้ง ๗ องค์แล้ว?

     เพราะจะอัญเชิญไปประดิษฐานยังอนุสรณ์สถานแห่งสุดท้ายในเส้นทางพระผู้ปราบมาร ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านตั้งมโนปณิธานว่าจะบวชตลอดชีวิต เมื่อครั้งที่ท่านอายุ ๑๙ ปี

     เส้นทางพระผู้ปราบมาร ก็คือ เส้นทางที่เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญที่เกี่ยวกับชีวประวัติของหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญมีทั้งหมด ๗ แห่ง คือ ๑. สถานที่เกิดด้วยรูปกายเนื้อ ๒. สถานที่ตั้งมโนปณิธานว่าจะบวชตลอดชีวิต ๓. สถานที่เกิดในเพศสมณะ ๔. สถานที่เกิดด้วยกายธรรม ๕. สถานที่เผยแผ่วิชชาธรรมกายครั้งแรก ๖. สถานที่ค้นคว้าและเผยแผ่วิชชาธรรมกาย ๗. สถานที่ขยายวิชชาธรรมกาย ซึ่งทุกแห่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงปู่ทองคำ (หลวงปู่ทองคำองค์ที่ ๗ เป็นองค์ที่หล่อไว้สำหรับอัญเชิญนำขบวนธุดงค์ในเส้นทางพระผู้ปราบมารในทุก ๆ ปี)
 
สิ่งก่อสร้างที่พระเจ้าอโศกมหาราชสร้างไว้
สิ่งก่อสร้างที่พระเจ้าอโศกมหาราชสร้างไว้
ที่มา : bangkrod.blogspot.com

ทะเลเจดีย์ที่พุกาม
ทะเลเจดีย์ที่พุกาม
ที่มา : www.world.kapook.com

๖. มีถึง ๘ องค์ มากเกินไปหรือเปล่า?

     การหล่อพระทองคำแค่ ๘ องค์ ในยุคนี้ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับยุคพุทธกาลหรือยุคโบราณกาล อย่างในยุคของพระเจ้าอโศกมหาราช ทรงสร้างมหาวิหารไว้ถึง ๘๔,๐๐๐ แห่งหรือที่เมืองพุกาม ประเทศพม่า ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลเจดีย์ ในสมัยรุ่งเรืองยังมีเจดีย์ที่สร้างติด ๆ กันมากถึง ๔,๔๔๖ องค์

     ที่สำคัญปัจจุบันวัดหรือพระพุทธรูปในพระพุทธศาสนามีจำนวนน้อยมาก ทำให้คนไม่สะดวกเดินทางไปวัดหรือไปสักการะพระพุทธรูป อีกทั้งเมื่อเอามาเทียบกับแหล่งอบายมุขที่ทวีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกวันจนทำให้คนทำชั่วได้สะดวกทุกหย่อมหญ้าซึ่งมีผลให้ศีลธรรมเสื่อมลงอย่างรวดเร็วดังนั้นถ้านาน ๆ ครั้ง จะมีชาวพุทธหล่อหลวงปู่ด้วยทองคำเพิ่มขึ้นสักองค์ เพื่อเป็นศูนย์รวมใจและเป็นต้นแบบให้คนทำความดี จะไม่ได้เชียวหรือ???

๗. การประดิษฐานรูปเหมือนทองคำหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ณ สถานที่ที่ท่านตั้งมโนปณิธานว่าจะบวชตลอดชีวิตมีข้อดีอย่างไร?

    เมื่อคนได้มาสักการะ ก็จะเกิดคำถามว่า.. “ท่านสำคัญอย่างไร ทำไมต้องหล่อท่านด้วยทองคำ?” จากนั้นก็จะหันมาศึกษาประวัติคุณธรรม คุณวิเศษ มโนปณิธานของท่านว่า..

    ทำไมหลวงปู่ถึงตั้งความปรารถนาที่จะบวชตลอดชีวิต? การบวชดีอย่างไร? และเมื่อศึกษาจนซาบซึ้งแล้ว ก็จะคิดทำตามข้อวัตรปฏิบัติอันดีงามของท่าน หรืออยากบวชตามอย่างท่านบ้าง

    ที่สำคัญ การสร้างพยานทางวัตถุและหลักฐานในพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งสำคัญมากซึ่งตอนนี้เราอาจจะมองไม่ออก แต่ถ้าอีกพัน ๆ ปีผ่านไป หลักฐานเหล่านี้จะกลายเป็นเครื่องยืนยันว่า บุคคลเช่นท่านมีอยู่จริง และท่านสามารถปฏิบัติตามอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้จริง เหมือนพระเจ้าอโศกมหาราช ถ้าท่านไม่สร้างมหาวิหาร ๘๔,๐๐๐ แห่ง ที่เห็นเป็นซากปรักหักพังในปัจจุบัน หลายคนอาจไม่เชื่อว่ากษัตริย์ที่เลื่อมใสและทุ่มเทเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างพระเจ้าอโศกมหาราชมีอยู่จริง เพราะในยุคปัจจุบัน อยู่ ๆ จะมาบอกลอย ๆ ว่า ในอดีตเคยมีกษัตริย์ที่สร้างมหาวิหารถึง ๘๔,๐๐๐ แห่งถ้าไม่มีหลักฐานเด่นชัด ก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะมหาวิหารที่สร้างนั้นมีเป็นจำนวนมากเกินกว่าที่เราจะเชื่อว่าท่านได้สร้างไว้จริง ๆ
 
 

๘. อานิสงส์ผลบุญจากการเอาทองคำมาถวายไว้ในพระพุทธศาสนา ในพระ-ไตรปิฎกกล่าวไว้ไหม มีอะไรบ้าง?

     ๑. ด้วยอานิสงส์ที่เคยถวาย แผ่นอิฐทองคำ ทำเป็นฐานเจดีย์ เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ในสมัยพระกัสสปสัมมา-สัมพุทธเจ้า ส่งผลให้ พระมหากัจจายนะ มีผิวพรรณวรรณะละเอียดผุดผ่องดังทองคำ

     ๒. ด้วยอานิสงส์ที่เคยถวาย อาสนะแก้วผลึกที่ฉาบทาด้วยทองชมพูนุท อันเป็นทองคำบริสุทธิ์ เพื่อเป็นที่นั่งประทับของพระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่งผลให้ภพชาติในอดีตของ พระมหากัจจายนะ ได้ไปเกิดเป็นเทพราชาผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ มีรัศมีแผ่ไปโดยรอบไกลถึง ๑๐๐ โยชน์ ได้บังเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้มีฤทธิ์มาก มีรัตนะ ๗ ประการ สว่างโชติช่วงทั้งกลางวันกลางคืนประดุจดวงอาทิตย์อุทัย และเวียนว่ายตายเกิดอยู่แต่ในสุคติภูมิยาวนาน

     ๓. ด้วยอานิสงส์ที่ทำ หม้อดอกไม้ทองคำ ๓ ใบ บรรจุไว้ในเจดีย์ทองคำที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อกราบขอขมาและระลึกถึงคุณของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่งผลให้ชฎิลเศรษฐี เป็น ๑ ใน ๕ ของเศรษฐีที่รวยที่สุดในสมัยพุทธกาล มีภูเขาทองคำสูง ๘๐ ศอกเกิดขึ้นหลังบ้าน

     ๔. ด้วยอานิสงส์ที่เคยถวาย บัลลังก์ทำด้วยทองคำมีค่าแสนหนึ่ง แด่พระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่งผลให้ภพชาติในอดีตของพระภัททิยเถระ ได้ไปเกิดเป็นท้าวสักกเทวราช๗๔ ครั้ง เป็นพระเจ้าประเทศราชครอบครองพสุธา ๑,๐๐๐ ครั้ง เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๕๑
ครั้ง เกิดในตระกูลสูง สมบูรณ์ด้วยมนุษย์สมบัติและรูปสมบัติอันเลิศ ได้บวชและบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในที่สุด

     ๕. ด้วยอานิสงส์ที่ปลด เครื่องประดับทองคำ จากคอ แล้วมอบให้ช่างทองนำไปทำอิฐทองคำ เพื่อสร้างเจดีย์ทองคำสูง ๑ โยชน์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่งผลให้ อุบาสิกาเสสวดี ละโลกแล้วไปเกิดในสวรรค์ มีวิมานทองที่สว่างไสวใหญ่โตวิจิตรตระการตา

     ๖. ด้วยอานิสงส์ที่ เอาเครื่องประดับมาทำเป็นอิฐทองคำ สร้างเจดีย์บูชาพระสัมมา-สัมพุทธเจ้า ส่งผลให้ไปตัดรอนวิบากกรรมเก่าของ พระภัททกาปิลานีเถรี ที่ทำให้มีกลิ่นตัวเหม็นเหมือนส้วม ให้กลับกลายเป็นกลิ่นจันทน์ฟุ้งออกจากกายและมีกลิ่นดอกบัวออกจากปากในภพชาตินั้นเลย และในภพชาติสุดท้ายพระภัททกาปิลานีเถรีได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ และยังได้รับการยกย่องจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า เป็นเลิศในด้านเป็นผู้มีความสามารถในการระลึกชาติได้เป็นเยี่ยม

     ดังนั้น จึงขอเชิญผู้มีบุญ ศิษยานุศิษย์และลูกหลานหลวงปู่ทั่วโลก ร่วมพิธีหล่อรูปเหมือนทองคำองค์ที่ ๘ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ในวันพุธที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อสั่งสมบุญใหญ่ติดตัวไป เพราะไม่แน่ว่าจะมีสักกี่ชาติ สักกี่ครั้งที่เราจะได้สร้างมหากุศลอันยิ่งใหญ่ที่บริสุทธิ์บริบูรณ์เช่นนี้
 

 
อ่านบทความ.....
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ต้นบัญญัติมารยาทไทย ตอนที่ ๓ บ่อเกิดของมารยาทไทย หมวดที่ ๑ สารูปต้นบัญญัติมารยาทไทย ตอนที่ ๓ บ่อเกิดของมารยาทไทย หมวดที่ ๑ สารูป

น้ำมหาประลัยน้ำมหาประลัย

อานิสงส์สร้างที่ปฏิบัติธรรมอานิสงส์สร้างที่ปฏิบัติธรรม



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

Review รายการ