คำถามที่ต้องตอบก่อน 30


[ 2 ก.ค. 2562 ] - [ 18260 ] LINE it!

คำถามที่ต้องตอบก่อน 30
คำถามที่เราถามตัวเองนั้น มีผลต่ออนาคตของตนเองอย่างยิ่ง
 
เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)
จากรายการทันโลกทันธรรม ออกอากาศทางช่อง GBN
 
 
 การตั้งคำถามดีๆให้ตัวเองตอบนั้น มีผลดีกับตัวเองอย่างไร?
 
          ถ้าเราตั้งคำถามแล้วก็พยายามหาคำตอบว่า จะตอบคำถามนั้นอย่างไร ถ้ามีคำถามที่ถูกต้องแล้วเช่น เป้าหมายชีวิตคืออะไร อะไรทำให้มีความสุข ก็พยายามค้นหาคำตอบแล้วพยายามให้ไปสู่เป้านั้น เป็นการตอกย้ำตัวเองเพื่อไปสู่เป้าหมาย ซึ่งในทางตรงกันข้าม ถ้าไม่เคยถามตัวเองว่าอยากเป็นอะไรเรา อยากทำอะไรบ้าง ทำให้การดำรงชีวิตก็จะอยู่ไปวันๆ เท่านั้น เหมือนอยู่ไปอย่างไร้เป้าหมาย
 
ทำไมต้องตั้งคำถามก่อน 30 ปี?
 
 
          ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ศึกษาในระดับปริญญาตรี จบมาอายุประมาณ 22 ช่วง 22-25 ปี จะเป็นการเริ่มหางาน เปลี่ยนงาน ช่วง 25-35 ปี จะเป็นยุคของการก่อร่างสร้างตัว การสร้างครอบครัวขึ้นมา เพราะฉะนั้นถ้าสามารถตั้งคำถาม และตอบคำถามตัวเราได้เร็วที่สุด เร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้เปรียบมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งเร็ว เรายังมีโอกาสลองผิดลองถูก
 
หากตอนนี้อายุจะ 30 แล้ว ควรตั้งคำถามอะไรบ้าง?

 
          1.ถามตัวเองว่ามีเอกลักษณ์อะไรบ้าง คือมีจุดเด่นอะไรบ้างที่ทำได้ดี โดยที่คนอื่นทำได้ไม่เท่าเรา หรือทำอะไรแล้วรู้สึกว่าง่ายสำหรับเราแต่สำหรับคนอื่นยาก สิ่งนี้เป็นจุดเด่นในตัว เป็นจุดขายของเรา ก็ควรทำในสิ่งนั้นแล้วพยายามพัฒนาในสิ่งนั้นให้มากขึ้น เพื่อสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง
 
          2.ถามตัวเองว่า ในวันหนึ่งๆ ตื่นขึ้นมา อยากทำอะไร มีเป้าหมายชีวิตอย่างไร เป็นการทบทวนตัวเอง เพราะบางทีทำงานประจำทุกวัน บางทียุ่งกับงานมาก จนไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ทำไปนั้น คุ้มค่าหรือไม่ เพราะบางงานอาจใช้เวลามาก แต่อาจไม่คุ้มกับสุขภาพที่สูญเสียไป เพราะฉะนั้นอาจต้องหยุดพัก แล้วถามตัวเองว่า สิ่งที่ทำนั้น เราชอบไหม ทำแล้วรู้สึกว่ารักไหม มันทำให้ชีวิตดีขึ้นไหม อันนี้คือสิ่งที่เป็นเป้าหมายของเราหรือเปล่า

 
          3.การสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง อาจถามตัวเองว่า มีใครที่เป็นเป็นบุคคลต้นแบบบ้าง คือการหาบุคคลต้นแบบเป็นการช่วยสร้างแรงบันดาลใจ หลายคนจะมองหาบุคคลต้นแบบที่ประสบความสำเร็จ เช่น แจ็คหม่า ที่เริ่มต้นจากไม่มีอะไรเลยครอบครัวฐานะยากจน ไม่ค่อยมีความสามารถอะไร ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ แต่เขาฝึกฝนภาษาอังกฤษ เขามีทักษะอย่างหนึ่งในการใช้ ภาษาอังกฤษ ฝึกฝนอยู่หลายปี ช่วงแรกๆ ทำงานโดยไม่ได้เงิน ไปเป็นไกด์ให้กับฝรั่งด้วยใจรัก ด้วยทักษะภาษาอังกฤษของเขา ทำให้เขามีเพื่อนที่เป็นชาวต่างชาติ จนสามารถนำมาสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์คือ สามารถขายของออนไลน์ได้ อลีบาบา  ทำให้เขาประสบความสำเร็จ 

 
          4.ควรถามตัวเองว่า บุคคลที่เรารักนั้นมีใครบ้าง แล้วอยากจะทำอะไรให้กับบุคคลเหล่านั้น เช่น รักคุณพ่อคุณแม่ อยากจะทำอะไรให้กับท่านบ้าง อยากให้ท่านใช้ชีวิตสบายมากขึ้น ถ้าคนที่มีครอบครัวแล้ว มีลูกอยู่ในวัยเรียน อยากจะทำอะไรให้ลูกบ้าง อยากจะหาโรงเรียนหรือการศึกษาดีๆ ให้กับลูกสิ่งเหล่านี้จะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ ให้สู้กับงาน ให้พยายามทำงานด้วยความขยันขันแข็ง เพื่อจะได้มอบสิ่งดีๆ ให้กับคนที่เรารัก

 
          5.ความสำเร็จ แต่ละท่านมีนิยามของความสำเร็จไม่เหมือนกัน ทุกคนอยากจะประสบความสำเร็จทั้งนั้น แต่บางคนความสำเร็จของเขาคือ อำนาจ บางคนหมายถึง เงินบางคนหมายถึงชื่อเสียง หรือบางคนแค่ขอแค่ว่ามีความสุขทางใจ มีความสงบที่เกิดขึ้นกับจิต แค่นั้นก็พอ เพราะฉะนั้นจะต้องค้นพบตัวเองให้ได้ว่า ความสำเร็จหรือเป้าของเราจริงๆนั้นคืออะไร แล้วหาวิธีเพื่อไปสู่ความสำเร็จนั้น

 
          6.การทบทวนตัวเองว่าสิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบันมีความสุข หรือต้องทนทำไป เพราะหากมีความสุขมันก็จะทำงานได้อย่างก้าวหน้า ประสบความสำเร็จได้ง่าย แต่ถ้าต้องทนทำ อาจจะต้องมาทบทวนตัวเองว่า ไม่มีความสุขเพราะอะไร เพราะใช้วิธีการผิดในการทำหรือไม่ ควรจะปรับเปลี่ยนวิธีการ หรือปรับเปลี่ยนวิธีการหลายครั้งแต่ไม่ชอบอยู่ดี อาจเป็นเพราะงานนั้นไม่ใช่สำหรับเรา เราก็ควรไปหาสิ่งที่ใช่ที่ดีกว่า

 
          7.เพื่อไปสู่เป้าที่ตั้งไว้ ควรจะซอยแผนนั้นให้เป็นแผนย่อย เช่น อยาก มีเงิน 100,000,000 อาจตั้งเป้าไว้ ล้านแรกภายใน 3 ปี 10,000,000 ต่อไปภายใน 7 ปี เป็นต้น การซอยแผนย่อย เป็นการสร้างกำลังใจว่าเราประสบความสำเร็จขึ้นแล้ว

 
 
          8.ตอกย้ำตัวเอง เชื่อว่าตัวเองยังทำได้อยู่หรือไม่ เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง เชื่อในสิ่งที่ทำ แต่หากไม่ได้ตั้งคำถาม ก็เหมือนกับอยู่ไปวันๆ การตั้งคำถามเป็นการสะกิดใจตัวเอง สร้างแรงบันดาลใจตัวเองขึ้นมา สร้างความเชื่อมั่นจะทำให้ฮึดสู้ก้าวต่อไปเพื่อเป้าหมายที่ตั้งไว้
 
ทันธรรม...โดย พระครูปลัดสุวัฒน์โพธิคุณ



         คำถามที่ต้องตอบให้ได้ก่อนอายุ 30 เพราะฉะนั้นช่วงก่อน 30 ต้องค้นพบแล้วว่าถนัดอะไรชอบอะไร งานที่ควรจะทำและทุ่มเททำได้ดีคืออะไรบ้าง ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการตั้งคำถาม คนส่วนใหญ่ในโลก มักให้ความสำคัญกับเรื่องคำตอบ ว่าคำตอบคืออะไร แต่คนที่ประสบความสำเร็จในโลกกลับเน้นว่า คำถามสำคัญกว่าคำตอบ ไอสไตล์เคยพูดไว้ว่าเขาไม่ได้เป็นคนที่มีความสามารถพิเศษอะไรเลย เพียงแต่เขาเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็น มีความสงสัยและใคร่รู้ใฝ่รู้มากกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง และความสงสัยใฝ่รู้พยายามทำให้แสวงหาคำตอบ และสุดท้ายได้ค้นพบสิ่งที่ดีจำนวนมาก เป็นเพราะคนตั้งคำถามทั้งสิ้น 

 
          ความก้าวหน้าทาง Classical Physics  ฟิสิกส์โบราณพื้นฐานก่อนจะถึงยุคไอน์สไตน์ คือนิวตัน นิวตันค้นพบกฎทางฟิสิกส์สำคัญหลายอย่าง เพราะเกิดความสงสัยที่เห็นลูกแอปเปิ้ลหล่นลงมาจากต้นแล้วร่วงลงพื้น แสดงว่าโลกต้องมีอะไรดูดลูกแอปเปิ้ลเอาไว้ พยายามหาคำตอบ สุดท้ายเจอทฤษฎีเรื่องแรงโน้มถ่วงของโลก แล้วพัฒนาไปเป็นกฎฟิสิกส์พื้นฐานของเรื่องแรงต่างๆซึ่งเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญมาก 

 
          ในยุคปัจจุบันที่ก้าวจากยุคอุตสาหกรรมไปสู่ยุคข้อมูลข่าวสาร เป็นยุค 4.0 ต้องสร้างนวัตกรรมใหม่ ไม่ได้ต้องการคนแบบหุ่นยนต์ เพราะคนแบบหุ่นยนต์สามารถสร้างหุ่นยนต์มีปัญญาประดิษฐ์แล้วทำงานแทนคนได้ ไม่ต้องใช้คน ดังนั้นคนที่มีค่า คือคนที่มีจินตนาการ มีความคิดสร้างสรรค์ การตั้งคำถามการสร้างจินตนาการสำคัญ พบว่า คนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่ไม่ถูกโรงเรียนครอบมากนักหรือเข้าโรงเรียน แต่ได้โรงเรียนที่ดีได้ครูดี พัฒนาจินตนาการต่อไปได้ 

 
          สตีฟ จอบส์ เข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่งแล้วไม่ชอบจึงออกจากมหาวิทยาลัย แล้วเจอการฝึกสมาธิ ซึ่งเสริมสร้างจินตนาการ ทำให้ใจนิ่งแล้วเป็นหนึ่ง สุดท้ายมาตั้งบริษัทแอปเปิ้ล ประสบความสำเร็จ เพราะหลุดมาจากระบบของการศึกษาที่ครอบไว้ได้ 

 
          บิลเกต เรียนหนังสือมาจนจบมัธยมเข้าอาร์วาร์ด ปีหนึ่งปีสอง แต่เป็นลักษณะเรียนในโรงเรียนที่ระบบเอื้อให้ แล้วเจ้าตัวก็มีไฟในการตั้งคำถาม ทำอย่างไรจะสร้างโปรแกรมมาตอบสนองต่อคอมพิวเตอร์ได้ กล้าที่ลาออกจากฮาร์วาร์ด ยังไม่ทันจบปริญญาตรี เรียนปีหนึ่งปีสองกับเพื่อนจับมือกันออกมาแล้วตั้งบริษัท ไม่ถูกระบบการศึกษาครอบ 

 
          แม้แต่มาร์กซักเคอร์เบิร์ก ที่ก่อตั้ง Facebook ก็เรียนฮาร์วาร์ดไม่จบ แล้วมาหาคำตอบของตัวเอง จะเห็นว่าคนเหล่านี้คือคนที่หลุดจากระบบการศึกษาทั้งสิ้นที่สร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ไม่ได้บอกให้ลาออกจากโรงเรียนจากมหาวิทยาลัย แต่ให้รู้ถึงความสำคัญของการตั้งคำถาม ของตัวเรา ของลูกเรา แล้วถามตัวเองว่าจริงๆเราต้องการอะไร ชีวิตเราเองต้องการเป็นแบบไหน อย่าปล่อยให้แต่ละวันไปเรื่อยๆ ตามน้ำใครๆ เขาก็ทำอย่างนี้ 

 
          ให้กล้าถามตัวเอง กล้าสร้างจินตนาการ เช่น จะเป็นเจ้าของกิจการได้อย่างไรในยุค 4.0 ประเทศจะพัฒนาได้เร็ว เศรษฐกิจจะไปได้เร็วต่อเมื่อมีคนวิญญาณนักประกอบการ วิญญาณเถ้าแก่ มีความคิดสร้างสรรค์อยากจะทำธุรกิจอะไร แล้วหาความรู้แล้วตัดสินใจลงมือทำ พัฒนาไปเรื่อยๆ สุดท้ายสำเร็จ หากไม่สำเร็จก็กลับมาตั้งหลักเก็บเงินหาความรู้ หาข้อมูล ประสบการณ์ใหม่ แล้วดำเนินธุรกิจแบบใหม่ จนกว่าจะสำเร็จ จีนพัฒนาเร็วเพราะมีคนอยากจะเป็นเถ้าแก่มาก ทั้งที่ประเทศใหญ่แต่เศรษฐกิจพัฒนาไปแบบเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก เพราะมีวิญญาณนักประกอบการ กล้าตั้งคำถามกับตัวเอง ตั้งคำถามกับชีวิต แล้วทำให้มีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน แล้วกล้าลองผิดลองถูก สุดท้ายก็สำเร็จ 

 
          ดังนั้นขอให้อย่าเดินอยู่ในกรอบที่ขังตัวเองเอาไว้ กล้าที่จะตั้งคำถาม กล้าจินตนาการ แล้วกล้าที่จะทำ โดยหาข้อมูลอย่างดีที่สุด แล้วทุ่มเททำ สำเร็จเดินหน้า ไม่สำเร็จเอาใหม่ ให้ได้คำตอบที่ชัดเจนก่อนอายุ 30 แล้วชีวิตจะประสบความสำเร็จ แล้วจะกลายเป็นคนหนึ่งที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ขับเคลื่อนระบบต่างๆของโลก ไม่จำเป็นต้องรวยอย่างเดียว แม้จะทำหน้าที่การงานอะไรก็ตาม เป็นข้าราชการ นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นักกีฬา เป็นต้น ก็สามารถสร้างแนวทางใหม่ให้กับงานที่ทำได้ เพราะรู้จักตั้งคำถาม แล้วตั้งแต่เนิ่นๆ จะดีที่สุดแต่คนที่อายุ 30 ปีขึ้นไปแล้วก็อยากคิดว่าช้าเกินไป ยังสามารถเริ่มต้นได้เสมอ ถ้าเอาจริง
 

รับชมคลิปวิดีโอคำถามที่ต้องตอบก่อน 30 : ทันโลกทันธรรม
ชมวิดีโอคำถามที่ต้องตอบก่อน 30 : ทันโลกทันธรรม   Download ธรรมะคำถามที่ต้องตอบก่อน 30 : ทันโลกทันธรรม



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
สุขจากการแสวงหาความสำเร็จสุขจากการแสวงหาความสำเร็จ

ความฝันครั้งที่ชนะความฝันครั้งที่ชนะ

เสาหลักต้นเล็กเสาหลักต้นเล็ก



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ทันโลกทันธรรม