ความฝันครั้งที่ชนะ


[ 9 ก.ค. 2562 ] - [ 18264 ] LINE it!

ความฝันครั้งที่ชนะ
เมื่อไหร่ฝันของฉันจะเป็นจริงสักที

เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)
จากรายการทันโลกทันธรรม ออกอากาศทางช่อง GBN
 
 
วิธีการสร้างฝันให้สำเร็จ
 
          1.สร้างภาพแห่งความสำเร็จไว้ในใจ ให้นึกสิ่งที่อยากได้ สิ่งที่อยากเป็น เช่น อยากได้รถ 1 คัน อาจนึกถึงรถคันนั้น นึกถึงยี่ห้อ สี แล้วไปนั่งขับ เป็นเทคนิคในการสร้างแรงบันดาลใจ สร้างกำลังใจ หรืออยากเป็นหมอ ก็ให้นึกถึงการออกตรวจคนไข้แล้วมีความสุข หาความรู้ให้ตัวเองพร้อมจะเป็นหมอ เป็นการสร้างแรงจูงใจอย่างมหาศาลเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จนั้นๆ 

 
          2.เริ่มลงมือทำทันที โดยปกติแล้วจะมีอุปสรรคต่างเข้ามาในชีวิต ก็จะต้องไม่ท้อต้องฝ่าฟันไปให้ได้ เพราะถ้าฝันแล้วไม่ทำให้สำเร็จก็เป็นแค่ฝันลมๆแล้งๆแค่นั้นเอง และที่สำคัญอย่าผัดวันประกันพรุ่ง ต้องทำอย่างสม่ำเสมอมีอะไรทำก็รีบทำทันที
 
          3.ซอยเป็นเป้าหมายย่อยแล้วทำให้สำเร็จไปทีละอย่าง เพราะเป้าหมายใหญ่เกินไป บางครั้งใช้เวลานานกว่าจะถึงเป้าหมายนั้น และกว่าจะถึงเป้าหมายจะรู้สึกท้อระหว่างทาง เช่น อยากเป็นเศรษฐีพันล้าน อาจจะซอยเป้าหมายย้อยก่อน 1,000,000 แรกภายในระยะเวลา 1-3 ปี 10,000,000 ต่อมา ใช้เวลาอีกกี่ปี ก็ซอยเป้าหมายไป เมื่อประสบความสำเร็จก็อย่าลืมให้รางวัลกับตัวเอง จะเป็นกำลังใจให้จะก้าวไปสู่ขั้นต่อไป

 
          4.พยายามทำทุกอย่างให้เป็นระบบ เมื่อทำอะไรที่เป็นระบบระเบียบแล้ว จะง่ายต่อการใช้งานและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ถ้าในห้องของรก จะหาของบางอย่างไม่เจอ แม้กระทั่งเดินในห้อง บางทียังเดินลำบาก แต่หากวางของเป็นที่เป็นทาง จะหยิบใช้อะไรก็ง่าย ความผิดพลาดก็น้อยลง แล้วให้คนอื่นไปทำต่อก็ทำได้ ไม่ใช่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับเราคนเดียว
 
          5.ทำอย่างสม่ำเสมอ และพยายามทำไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเห็นว่าสิ่งที่ทำอยู่ขาดประสิทธิภาพอย่างไรบ้าง แล้วหาวิธีปรับปรุงให้ดีขึ้น อริสโตเติ้ลได้กล่าวไว้ว่า Excellent is not an Act,but a Habit คือความเป็นเลิศไม่ได้มาจากการแสดง หรือการกระทำเพียงครั้งเดียว แต่มาจากนิสัยที่กระทำอยู่บ่อยๆ จนคุ้นเคย

 
          6.การทบทวนความก้าวหน้า คือการทบทวนสิ่งที่ทำมานั้นมีความถูกต้อง ความผิดพลาดอย่างไรบ้าง จะปรับปรุงอะไรให้ดีกว่านี้ได้มากน้อยแค่ไหน หากทำไปเรื่อยๆ โดยไม่กลับไปดูไปทบทวนก็เหมือนกับทำไปวันๆจะไม่รู้ว่าตอนนี้ประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน  แต่หากทบทวนว่า ตอนนี้มาถึงไหนแล้ว มาครึ่งทางหรือใกล้จุดมุ่งหมายแล้ว ก็จะทำให้ได้ตอกย้ำเส้นทางว่าต้องเดินไปสู่เป้าหมาย และที่สำคัญคือต้องทบทวนว่าตอนนี้ ไม่ได้เบนจากเป้าที่ตั้งไว้เพราะบางครั้งมีบางอย่างมาทำให้เบนไปจากเป้าหมายเดิม หากมีเวลามาทบทวนก็ทำให้กลับมาในเส้นทางที่ต้องเดินไปถูกต้องมากขึ้น
 
          7.ความเชื่อมั่น ต้องสร้างความเจริญให้กับตนเอง เพราะหากไม่มีทัศนคติในเรื่องของความเชื่อมั่นแล้ว ความสำเร็จก็จะไม่มาหาเรา ถ้าเราไม่เชื่อว่าเราทำได้ แล้วใครจะเชื่อว่าเราทำได้ เราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้มากที่สุด

 
          8.ความล้มเหลว เป็นสิ่งธรรมดาที่เมื่อจะทำอะไรแล้วต้องมีความล้มเหลวเกิดขึ้น อย่าไปคิดมากกับความล้มเหลวที่เกิดขึ้นระหว่างทาง เพราะความล้มเหลวเป็นประสบการณ์ชีวิตอันหนึ่ง ที่เราจะต้องลุกขึ้นมาแล้วต่อสู้กับมันแล้วหาวิธีทางที่ดีกว่า แล้วเพื่อมาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นปกติของคนที่ประสบความสำเร็จ จะต้องประสบความล้มเหลวมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นแจ็คม่า เจเคโรว์ลิ่ง วอลดิสนี่ เป็นต้น ให้มองความล้มเหลวเป็นขั้นตอนของการเรียนรู้ ทำให้รู้ว่า วิธีไหนไม่ใช่ แล้วก็ลองปรับใหม่ทุกครั้งให้มันดีขึ้น ในที่สุดก็จะสำเร็จนั่นเอง 
 
          9.เลือกคบคน ควรจะเลือกคบคนอย่างฉลาด หมายถึง คนรอบข้างจะมีอิทธิพลต่อความคิดและการกระทำของเรา ควรที่จะเลือกคบคนที่รักความก้าวหน้า รักการปรับปรุงตัวเองให้ประสบความสำเร็จ เมื่ออยู่ใกล้คนเหล่านี้ จะได้แนวคิดดีๆ ได้ลักษณะนิสัยดีๆ มาจากเขาแล้วก็นำมาใช้กับตัวเองได้

 
          10.การยอมรับคำวิจารณ์จากคนอื่น เพราะบางทีทำงานไป จะมีข้อวิจารณ์ในข้อผิดพลาด ขอให้พิจารณาคำวิจารณ์นั้นอย่างเป็นกลาง อะไรที่นำมาใช้ปรับปรุงได้ ก็นำมาใช้ปรับปรุง ไม่คิดว่าตัวเองเก่งแล้วถูกแล้ว ไม่รับคำวิพากษ์วิจารณ์จากคนอื่น หากไม่ฟังใครก็จะไม่ทำให้เกิดความก้าวหน้าขึ้นมาได้
 
          11.การแบ่งเวลาให้เป็น หรือ work life balance คืออย่าทำงานหนักเกินไปจนลืมดูแลสุขภาพ ให้เวลากับการพักผ่อนด้วย
 
ทันธรรม...โดย พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ 
 

          ตัวอย่างผู้ที่ประสบความสำเร็จในวงการต่างๆร้อยละ 99.99 พบว่าท่านเหล่านั้นล้วนแล้วแต่พบกับความล้มเหลวมาก่อน แต่เพราะไม่ท้อ ยังคงเดินหน้ามุ่งมั่นตามล่าหาฝันตัวเองต่อไป จนสุดท้ายก็ประสบความสำเร็จในที่สุด 

 
          พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์เริ่มตั้งความปรารถนาจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนที่เป็นพ่อค้าแล้วก็ลงเรือไปค้าขายต่างแดนมีแม่อยู่คนเดียว จึงพาแม่ไปด้วยเพราะไม่มีคนดูแล เรือเจอพายุ เรือล่ม ท่านต้องแบกแม่ ไม่ยอมทิ้งแม่ด้วยความกตัญญู ว่ายไป 7 วัน 7 คืนไม่ยอมย่อท้อ แล้วคิดว่าชีวิตนี้ทุกข์ ยังเกิดภัยไม่คาดฝัน ชีวิตคนทั้งหลายก็ล้วนแต่มีทุกข์ในรูปแบบต่างๆ จะต้องมีหนทางพ้นทุกข์ที่เป็นความสุขที่เที่ยงแท้ถาวร จึงตั้งใจทุ่มชีวิต หาหนทางนั้นให้เจอ เมื่อเจอแล้วจะไม่พ้นไปเฉพาะตัวคนเดียว แต่จะช่วยสอนให้ชาวโลกรู้ตามด้วย ตั้งความปรารถนาจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในชาติแรก พระองค์ตั้งความปรารถนาที่สูงสุดยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่มีความปรารถนาใด ที่สูงเกินกว่าการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วก็เดินหน้าสร้างบารมี ข้ามพบข้ามจากนับชาติไม่ถ้วน อย่างไม่ยอมย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้นสุดท้ายฝันนั้นก็เป็นจริง พระองค์บรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 

 
          ผู้ที่ประสบความสำเร็จทั้งทางโลกทางธรรม มีลักษณะร่วมกันอย่างหนึ่งคือ ไม่มองปัญหาหรืออุปสรรคเป็นหลัก แต่มองภาพความสำเร็จเป็นหลัก อุปสรรคก็รับรู้แต่มีไว้ให้ข้าม ไม่ใช่มีไว้ให้ท้อ ในใจมองแต่เป้าหมายว่า ต้องสำเร็จอย่างเดียวไม่ว่าจะมีอะไรมาขัดมาขวาง ก็หาทางข้ามพ้นสิ่งกีดขวางทั้งหลายเหล่านั้น มุ่งหน้าสู่ ความสำเร็จให้ได้ แล้วแนวทางที่พระบรมมาโพธิสัตว์ พระองค์ใช้ในการฝึกตัวเองจนกระทั่งบรรลุธรรมเป็นพระพุทธเจ้า คือการสร้างบารมีทั้ง10 ทัศ ดังนี้

 
          1.ทานบารมี มีน้ำใจเห็นใครลำบากก็ไปช่วย ออกแรงช่วย หากช่วยด้วยแรงไม่ได้มือหยิกงอเป็นอัมพาต ปากยังพูดได้ ก็พูดให้กำลังใจคน ให้ของก็ได้ ให้กำลังใจก็ได้ คำแนะนำก็ได้ ทุกอย่างที่ออกมาจากใจที่ปรารถนาดี และหวังดีกับคนอื่นใช้ได้ทั้งนั้น 
 
          2.ศีลบารมี อย่างน้อยศีล 5 รักษาให้ดี  แล้วศีลในทางโลกคือต้องมีวินัยในตัวเองถ้ารักจะประสบ ความสำเร็จไม่ว่างานอะไรก็แล้วแต่ ต้องเป็นคนที่มีวินัยในตัวเอง ตั้งกติกาตัวเองแล้วทำตาม ไม่เป็นคนตามใจตัวเอง 
 
 
 
          3.เนกขัมมบารมี เนกขัมมคือการออกบวช ในทางโลกคือต้องมีเวลาหลีกเร้น มีเวลานั่งสมาธิ ไม่ไปยุ่งวอกแวกวอแวเรื่องอื่นเลย ต้องมีเวลาหลีกเร้นทำความเพียร เพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ 
 
          4.ปัญญาบารมี ต้องมีปัญญาแล้วก็ต้องฝึกให้มีความรู้ความสามารถความเข้าใจ ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการบรรลุเป้าหมาย ตามความ ฝันที่ตั้งเอาไว้ คือก้าวไปอย่างไม่หยุดยั้ง พัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง สุดท้ายก็มีโอกา ประสบความสำเร็จได้

 
          5.วิริยบารมี ต้องขยัน ต่อให้ฉลาดแต่ไม่ขยัน ก็ยากจะประสบความสำเร็จ ต้องมีวิริยะอุตสาหะมีความเพียร 
 
          6.ขันติบารมีต้องอดทน หนักนิดเบาหน่อยสู้ ไม่ใช่ว่ามีใครมาว่าอะไรนิดหน่อย หมดกำลังใจทำความดีแล้ว หรือกำลังขยันมีอะไรมาล่อใจ แวะข้างทางดีกว่า ความขยันหายไปไหนก็ไม่รู้ ต้องอดทนให้ได้ ทนหนาวทนร้อน ทนต่อความเจ็บไข้ไม่สบาย ทนต่อความเจ็บใจการกระทบกระทั่ง และทนต่อสิ่งที่ยั่วยวนใจให้ได้ จะได้ประคองตัว มุ่งตรงต่อเป้าหมายนั้นต่อไปได้ 

 
          7.สัจจบารมี คำไหนคำนั้น ตั้งใจอะไรแล้ว เดินหน้าไม่ไปเป็นคนเยาแหยะ เป็นคนที่เชื่อถือได้พูดคำไหนคำนั้น ทั้งต่อตนเองและคนอื่น ตัวเองก็มั่นใจตัวเอง คนอื่นก็มั่นใจตัวเราได้
 
          8.อธิษฐานบารมี การอธิษฐานไม่ใช่การไปบ่นไปขอ แต่คือการวางโครงการชีวิต วางแผนชีวิต ทำให้เป้าหมายชัดเจน ซึ่งพระบรมมาโพธิสัตว์ท่านจะสร้างบุญอะไรก็แล้วแต่ ท่านอธิษฐานตลอดว่า ด้วยบุญนี้ขอให้ข้าพเจ้าได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้าและอธิษฐานทุกวัน หากอธิษฐานบารมีแน่วแน่ คือมีเป้าหมายชีวิตชัดเจนว่ามุ่งหวังใฝ่ฝันจะประสบความสำเร็จในชีวิต แล้วทำทุกอย่างเพื่อไปสู่เป้านี้ สุดท้ายจะประสบความสำเร็จเพราะทั้งกายทั้งใจพุ่งไปสู่เป้าหมายนี้อย่างชัดเจน

 
          9.เมตตาบารมี ยิ่งทำงานใหญ่เป้าใหญ่เท่าไหร่ ต้องเกี่ยวพันกับคนเยอะ จะมีทั้งคนที่ทำแล้วถูกใจไม่ถูกใจ บางทีหวังดีกับเขาแต่เขาอาจไม่เข้าใจก็ได้ เข้าใจเราผิดได้ มาพูดบางอย่างให้เซ็งได้ ดังนั้นให้มีเมตตาจิตต่อทุกคน ยกใจเราเองให้สูงกว่าทุกคนมองทุกคนด้วยความเข้าใจ อย่างนี้ใจเราจะไม่ไปเศร้าหมองหงุดหงิดไปกับสิ่งที่ไม่เข้าท่าที่มากระทบใจเราเลย เพราะมีเมตตาบารมีอยู่เต็มเปี่ยมหัวใจ
 
          10.อุเบกขาบารมี คือวางใจนิ่ง ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ ไม่เศร้าใจ ไม่หงุดหงิดใจ รักษาสภาพใจกลางๆนิ่งๆ เอาไว้ ใครที่รักษาสภาพใจให้เป็นอุเบกขาจิตได้ จิตจะมีพลังแล้วพุ่งตรงไปสู่เป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว 
 
          อุเบกขาจิตมีความสำคัญ เนื่องจากหากมีเมตตากรุณามาก ขาดอุเบกขาจิต จะเสียสมดุล เช่นเห็นใครเป็นอะไรสงสารแทบจะร้องไห้ไปกับเขาด้วยก็เกินไป มีเมตตามีกรุณา แต่ไม่ใช่ให้ใจต้องหวั่นไหวเศร้าหมองไปกับเขาด้วย ให้รักษาใจนิ่งๆกลางๆ จึงจะสามารถบำเพ็ญบารมี ทั้ง 9 อย่างที่กล่าวมาแล้ว ได้อย่างสมบูรณ์ 

 
         บารมีทั้ง10 ทัศนี้ คือแนวทางการฝึกตนของพระบรมโพธิสัตว์ จนกระทั่งประสบความสำเร็จตามที่ใฝ่ฝัน บรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พวกเราชาวพุทธขอให้ดูพระพุทธองค์เป็นแบบอย่าง แล้วตั้งใจดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของพระองค์ ความฝันไม่ว่าจะสูงส่งเพียงใดจะต้องสำเร็จได้อย่างแน่นอน


รับชมคลิปวิดีโอฝันครั้งที่ชนะ : ทันโลกทันธรรม
ชมวิดีโอฝันครั้งที่ชนะ : ทันโลกทันธรรม   Download ธรรมะฝันครั้งที่ชนะ : ทันโลกทันธรรม



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เสาหลักต้นเล็กเสาหลักต้นเล็ก

สูงวัยไฮเทคสูงวัยไฮเทค

หลุมพรางบัตรพลาสติกหลุมพรางบัตรพลาสติก



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ทันโลกทันธรรม