หลุมพรางบัตรพลาสติก

หลุมพรางบัตรพลาสติก

ถ้าใช้บัตรเครดิตเป็นก็ก่อให้เกิดประโยชน์ แต่ถ้าใช้ไม่ระมัดระวังอาจจะตกไปในบ่อนี้ได้

เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)

จากรายการทันโลกทันธรรม ออกอากาศทางช่อง GBN

การใช้บัตรเครดิตมีประโยชน์มากมาย ในประโยชน์นั้นมีหลุมพรางอะไรหรือไม่?

1.เรื่องของวงเงินที่ใช้ บัตรเครดิตโดยทั่วไปให้วงเงิน 3-5 เท่าของเงินเดือน ทำให้มีความสามารถในการใช้จ่ายได้ อยากซื้อของที่มีราคาแพงก็ซื้อได้ แล้วจ่ายตอนสิ้นเดือนซึ่งดูเหมือนดีว่ามีเวลา 30 วันในการจ่าย แต่หากใช้เงินเกินตัวเกินไปอาจจะไม่มีเงินจ่ายตอนสิ้นเดือน ทำให้เป็นหนี้บัตรเครดิตได้

2.ระยะเวลาในการจ่ายเงิน รูดก่อนจ่ายทีหลัง ทำให้ชะล่าใจถึงสิ้นเดือนแล้วอาจหาเงินมาหมุนไม่ทันทำให้เป็นหนี้บัตรเครดิต

3.การกดเงินสดมาใช้ หลายๆ ธนาคารจะมีโปรโมชั่นว่ากดเงินสดมาใช้ดอกเบี้ยต่ำ แต่ควรอ่านข้อตกลงให้ดี เพราะดอกเบี้ยต่ำแต่มีค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างสูง บางครั้งบวกกันกลายเป็น 28% ต่อปีซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

4.เรื่องของโปรโมชั่นต่างๆ อาจเป็นส่วนลด หากใช้อย่างถูกต้องก็ไม่มีปัญหาอะไร เช่น ซื้อแล้วผ่อนชำระ 10 เดือนโดยไม่มีดอกเบี้ย แต่บางครั้งทำให้ชะล่าใจว่าแบ่งชำระ 10 เดือน ยอดแต่ละเดือนก็ค่อนข้างน้อย อาจรูดบัตรซื้อสินค้าหลายชนิด จนบางครั้งยอดสะสมเยอะทำให้ไม่มีความสามารถในการผ่อนชำระกลายเป็นหนี้แล้วต้องชำระดอกเบี้ย หรือหลายๆบัตรเครดิตมีส่วนลดพิเศษให้ หากใช้บัตรเครดิตรูดตอนนี้ลดให้ 5% 10% ทำให้ผู้บริโภคอยากใช้บัตรเพราะว่าได้ส่วนลด ทั้งๆที่สินค้าชนิดนั้นอาจไม่จำเป็น

5.คะแนนสะสมบัตรเครดิต มีคะแนนไปแลกของขวัญมาได้ แต่บางครั้ง บางคนรู้สึกว่าจะได้ของชิ้นนี้แล้วก็เลยไปซื้อของเพื่อจะได้คะแนน เพื่อจะได้แลกของขวัญจึงไปจ่ายเงินซื้อของที่ไม่ได้ต้องการอย่างแท้จริงทำให้ใช้จ่ายเพลินจนลืมคิด ลืมประมาณรายได้ของตัวเอง

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสำหรับการใช้บัตรเครดิต

1.เลือกบัตรว่าควรจะใช้บัตรชนิดไหน โดยทั่วไปบัตรของแต่ละสถาบันการเงินจะมีโปรโมชั่นสิทธิพิเศษไม่เหมือนกัน บางบัตรอาจะให้ไมล์เลจซึ่งเหมาะสมกับผู้ที่เดินทางโดยสายการบิน สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยเดินทางก็ไม่ควรจะใช้แบบประเภทนี้

2.รูดบัตรเฉพาะสินค้าที่มีราคาสูงเพราะจะได้คิด Tax ว่าตอนนี้มียอดจ่ายสะสมเท่าไหร่ หากรูดบัตรทุกสินค้าที่ซื้อมาจะรวมยอดลำบากทำให้ไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ใช้ไปเท่าไหร่

3.ใช้สิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตในโปรโมชั่นต่างๆให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการจอดรถฟรี ที่พักฟรี เข้าฟิตเนสฟรี หรือได้ตั๋วเครื่องบินฟรี แต่ควรระวังบางครั้งอาจไม่ได้ฟรี 100%

4.ต้องรู้ขีดจำกัดของตัวเองว่า มีความสามารถทางการเงินแค่ไหน และควรจะมีเงินสำรอง เผื่อไว้ฉุกเฉินไม่ใช้เต็มวงเงินแต่ละเดือน เพราะเหตุฉุกเฉินไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้เสมอ

5.ผู้ใช้บัตรควรเช็คยอดของการใช้บัตรเครดิตอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสมัยนี้สามารถเช็คออนไลน์ได้ มี 2 ประเด็น คือคอยคิด Tax ว่าใช้ไปที่ไหนบ้าง และคอยดูว่ามีข้อมูลแปลกปลอมหรือไม่ หรือใครเอาบัตรแอบไปใช้หรือเปล่า คอยเช็คยอดอย่างสม่ำเสมอ

6.ควรจ่ายคืนให้ตรงเวลาทุกเดือน ในแต่ละเดือนก็จะมียอดชำระของบัตรเครดิต ก็ควรจะจ่ายให้ครบ ถ้าไม่ครบจะกลายเป็นหนี้จะต้องจ่ายทั้งหนี้แล้วก็ดอกเบี้ยและยังมีผลต่อเครดิตบูโรอีกด้วย

7.อย่าไปใช้บัตรเพื่อไปกดเงินสด เพราะดอกเบี้ยต่ำ แต่อย่าลืมว่าต้องบวกค่าทำเนียมของการผ่อนเงินสดมา 3% ด้วย แล้วจะมีค่าธรรมเนียมของการชำระหนี้อีกด้วย

8.ไม่ควรใช้บัตรเครดิตหลายใบเกินไป เพราะจะทำให้ใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายโดยไม่รู้ตัว บางคนเอาเงินสดจากบัตรเครดิตใบหนึ่งไปโปะอีกใบหนึ่งเพื่อชำระหนี้ จากใบที่ 2 ก็เป็นหนี้จึงเอาบัตรเครดิตใบที่ 3 มาโปะใบที่ 2 ก็ทำให้กลายเป็นหนี้ เป็นวงจรหนี้ไม่รู้จบ

ทันธรรม...โดยพระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ

เมื่อพูดถึงบัตรพลาสติกจะนึกถึงบัตรเครดิต ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ทำให้เกิดความปลอดภัย ในอเมริกาจะใช้เงินสดซื้อของราคาถูกเท่านั้น แต่หากมีราคา 10 ดอลล่าร์ขึ้นไป หรือเป็น 100 ดอลล่าร์ส่วนใหญ่จะใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต การใช้บัตรเครดิตมีประโยชน์ในด้านความปลอดภัยเพราะโจรจะไปปล้นก็รู้ว่ามีเงินติดตัวไม่มาก นอกจากนั้นบัตรเครดิตยังมีแต้มให้อีกด้วย เมื่อสะสมแต้มแล้วจะมีสิทธิพิเศษต่างๆ ซึ่งสิทธิพิเศษมาจาก 2 ทาง คือ 1.หากซื้อของด้วยบัตรเครดิต ร้านค้าที่รับการชำระเงิน จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับบริษัทบัตรเครดิต 3% จะเอา 1% มาเป็นแต้ม เป็นของรางวัลล่อใจต่างๆส่วนอีก 2% เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและเป็นกำไร 2.บริษัทบัตรเครดิตจะไปทำสัญญากับบริษัทห้างร้านต่างๆให้สิทธิพิเศษกับลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิต เมื่อมีสิทธิพิเศษมาก ทำให้ลูกค้าอยากจะมาใช้บัตรเครดิตยี่ห้อนี้ เพราะมีสิทธิพิเศษเยอะ บริษัทห้างร้านที่ให้สิทธิพิเศษร่วมกับบัตรเครดิตก็ได้เพราะทำให้มีคนมาใช้บริการมากขึ้น

ขณะเดียวกันโทษของบัตรเครดิตที่เห็นได้ชัดคือหากใช้เพลินไม่มีวินัยการเงิน จนกระทั่งเป็นหนี้บัตรเครดิตเมื่อไหร่จะเป็นทุกข์ เพราะให้ใช้จ่ายเกินวงเงินได้ เมื่อเป็นหนี้จะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 28% ต่อปี หากเป็นหนี้บัตรเครดิต 100,000 ต้องจ่ายดอกเบี้ยเดือนละ 2000 กว่าบาท ยังไม่รวมเงินต้น หากใครเป็นหนี้บัตรเครดิตจะขาดทุน เพราะฉะนั้นสิ่งนี้คือหลุมพรางของบัตรพลาสติก หรือบัตรเครดิต

หลักการสำคัญของการใช้บัตรเครดิต คืออย่าเป็นหนี้เด็ดขาด อย่าใช้จ่ายเกินตัว ให้นึกถึงสมัยที่ไม่มีบัตรเครดิตต้องใช้เงินสดซื้อ เมื่อไม่มีเงินก็ซื้อไม่ได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นหัวเด็ดตีนขาดยังไงไม่ใช้เกินวงเงินที่มีอยู่จริง จะไม่เป็นหนี้บัตรเครดิต จะไม่ยอมเสียดอกเบี้ยร้อยละ 28% ต่อปี ตรงนี้คือคาถาสำคัญใครท่องคาถานี้ได้ ก็จะไม่ตกในหลุมพรางของเงินพลาสติกนี้ แล้วก็สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างเต็มที่ มีบัตรเครดิตไม่ได้เสียหาย แต่หัวใจคือต้องมีวินัยในตัวเอง

ในอเมริกาบริษัท amazon.com ได้รับความนิยมเพราะสะดวก เนื่องจาก

1.ราคาถูกกว่าร้านสะดวกซื้อ 3- 5%

2.สั่งแล้วอีกไม่กี่ชั่วโมงก้มาส่งให้ถึงหน้าบ้าน ไม่ต้องเสียเวลาไปเดินและไปหิ้วหนัก

เมื่อคนไปซื้อของออนไลน์มากขึ้น การซื้อของออนไลน์ต้องใช้บัตรเครดิต ดังนั้นจะปฏิเสธเงินพลาสติกก็คงปฏิเสธยาก แต่หัวใจสำคัญคือ ต้องไม่ตกลงไปในหลุมพรางของเงินพลาสติกคือ ไม่เป็นหนี้ ไม่รูดเพลิน ต้องมีวินัยในการใช้จ่าย วางแผนการเงินว่าจะใช้อะไร อย่างไรบ้าง

รับชมคลิปวิดีโอ หลุมพรางบัตรพลาสติก : ทันโลกทันธรรม