สูงวัยไฮเทค


[ 23 ก.ค. 2562 ] - [ 18262 ] LINE it!

สูงวัยไฮเทค
การใช้โซเชียลมีเดียของวัยเกษียณ

เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)
จากรายการทันโลกทันธรรม ออกอากาศทางช่อง GBN
 

ปัจจุบันนี้ผู้สูงอายุใช้โซเชียลมีเดียกันจำนวนมาก เป็นเพราะอะไร?
 
          อุปกรณ์สื่อสารในปัจจุบันถูกดีไซน์มาให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น มีหน้าจอที่ใช้ระบบสัมผัส สไลด์ไปก็สามารถเลื่อนไปดูสิ่งต่างๆได้ ผู้สูงอายุสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นราคาของโทรศัพท์ก็ถูกลงกว่าเดิม ทำให้ผู้คนเข้าถึงอุปกรณ์สื่อสารได้จำนวนมากขึ้น นอกจากนั้นค่าบริการก็ถูกลงกว่าเดิม ทำให้จำนวนผู้ใช้ ใช้กันมากขึ้น และผู้สูงอายุไม่ต้องทำงานก็จะมีเวลามากขึ้น ในการใช้โซเชียลมีเดีย หรือว่าใช้อุปกรณ์เป็นการคลายความเหงานั่นเอง
 
ถ้าผู้สูงอายุใช้โซเชียลมีเดียมีโทษหรือไม่?

 
          มีข้อดีข้อเสียอยู่หลายข้อด้วยกัน เริ่มที่ข้อดีก่อน ประโยชน์ของการใช้โซเชียลมีเดียในวัยของผู้สูงอายุคือ
          1.ทำให้ผู้สูงอายุทันต่อโลก ทันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันก็ทำให้ผู้สูงอายุรู้ความเป็นไปในสังคมของตัวเอง ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน หรือระดับตำบลจังหวัดของตัวเองว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ในระดับประเทศและระดับโลกว่าตอนนี้เหตุการณ์เป็นอย่างไรบ้าง
 
          2.ลดความเสี่ยงจากความจำเสื่อม เพราะการใช้โซเชียลมีเดีย มีขั้นตอนของการใช้ทำให้ผู้สูงอายุต้องเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ การเรียนรู้และการใช้บ่อยๆ จะเป็นการกระตุ้นการใช้สมอง เป็นการลดความเสี่ยงอาการที่จะเป็นป่วยจากโรคอัลไซเมอร์ได้

 
          3.ได้เรียนรู้สิ่ง เช่น อยากเรียนรู้วิธีประกอบอาหารก็สามารถเปิด YouTube เปิดรายการทำอาหารว่ามีวิธีการอย่างไร ผู้สูงอายุสามารถเรียนรู้ได้อย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาลูกหลานขับรถพาไปเรียน
 
ประโยชน์ของโซเชียลที่ตอบโจทย์ผู้สูงอายุได้ดีที่สุดคืออะไร?

 
          โซเชียลมีเดีย โซเชียลคือเรื่องของสังคม ก็เป็นการทำให้ผู้สูงอายุได้สามารถติดต่อกับลูกหลาน ติดต่อกับครอบครัวของตัวเองได้ วีดีโอคอลคุยกันหรือ LINE แมสเสจคุยกัน ทำให้ทราบถึงสารทุกข์สุกดิบของบุคคลในครอบครัว สมาชิกในครอบครัวและญาติได้ นอกจากนั้นสังคมออนไลน์ ของผู้สูงอายุที่สามารถพูดคุยกัน ทำให้ไม่เหงา อาจคุยกันในกลุ่มที่มีความสนใจด้านเดียวกัน เช่น สนใจในเรื่องของสุขภาพ การวิ่ง หรือการปฏิบัติธรรม ได้คุยกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทำให้มีสังคม หรือคิดถึงเพื่อนเก่าก็มีการตั้ง LINE กรุ๊ป เพื่อนเก่า สมัยมัธยม สมัยมหาวิทยาลัยก็เป็นการติดต่อสื่อสารหรือว่า Keep in touch บางครั้งสามารถจะใช้ LINE กรุ๊ป หรือโซเชียลมีเดีย สร้างแรงบันดาลใจให้ทำกิจการร่วมกันด้วย
 
สิ่งที่ต้องระวังในโซเชียลมีเดียมีอะไรบ้าง?

 
          1.สุขภาพ ประโยชน์ทางด้านสุขภาพ และทำลายสุขภาพก็มีคือหากใช้โซเชียลมีเดียเป็นระยะเวลานานในแต่ละครั้ง อาจจะทำให้เกิดอาการปวดหลังปวดไหล่หรือปวดกล้ามเนื้อหรือแม้กระทั่งปวดตา ข้อแนะนำคือควรใช้ครั้งหนึ่งไม่เกิน 30 นาที แล้วต้องพักประมาณ 2- 3 ชั่วโมง สำหรับผู้สูงอายุมีข้อแนะนำคือแต่ละวันไม่ควรใช้เกิน 2 ชั่วโมง มีผลงานวิจัยพบว่าประมาณ 2 ชั่วโมงดีที่สุด หากมีปัญหาในเรื่องของสายตายาว ควรต้องใส่แว่นสายตายาว เพื่ออ่านตัวหนังสือบนมือถือ ไม่ควรที่จะพยายามเพ่งสายตา เพราะว่าการเพ่งสายตาจะทำให้ปวดตาได้

 
          2.เรื่องข่าวต่างๆจะมีข่าวปลอม หรือข้อมูลที่เป็นเท็จในโซเชียลมีเดีย เช่น แนะนำว่าผลไม้ชนิดนี้รักษาได้สารพัดโรค ซึ่งมีการยืนยันแล้วว่าไม่เป็นความจริง เพราะฉะนั้นดูว่า ข้อมูลที่ได้รับมา จริงหรือไม่ ควรไปดูที่เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ เช่น เรื่องเกี่ยวกับสุขภาพดูเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องสมุนไพร เรื่องของการรักษาโรคเพื่อจะได้เช็คได้ว่า จริงหรือเท็จประการใด
 
          3.เรื่องข่าวที่เกินความเป็นจริง บางครั้งคนต้องการนำเสนอข่าวให้ดูน่าตื่นเต้น ก็ใช้คำที่เกินความเป็นจริง ทำให้ผู้สูงอายุเกิดความวิตกกังวลโดยใช่เหตุ

 
          4.อีกปัญหาหนึ่งของทุกวัยไม่จำจัดเพียงแค่ผู้สูงอายุ คือใช้โซเชียลมีเดียเยอะเกินไปแล้วเสพติด ทำให้บางทีวางมือไม่ได้ อาจจะเล่นเกมเพลินหรือแชท LINE เพลิน ทำให้ทานอาหารผิดเวลา อาจจะเป็นปัญหาโรคกระเพาะหรืออะไรตามมาได้
 
          5.ค่าใช้จ่ายค่าบริการอินเตอร์เน็ตที่มากเกินไป หากใช้แชท ใช้ Facebook Line ปกติไม่มีปัญหาอะไร แต่บางครั้งหากเข้าไปในอินเตอร์เน็ต แล้วไปกดปุ่มบางปุ่มโดยบังเอิญ ทำให้ไปสมัครเป็นสมาชิกซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมารู้อีกทีคือบิลมาแล้ว เป็นสิ่งที่ควรระวังหรือบางครั้งผู้สูงอายุชอบเล่นเกมส์อาจไปกดไอเท็มโดยไม่รู้ตัว
 
ตัวอย่างผู้สูงอายุที่ใช้โซเชียลมีเดียอย่างฉลาด

          คุณยายฉี๋เป็นคนจีน อายุ 73 ปีซึ่งเป็นอดีตคุณครู ใช้ชีวิตแบกเป้ไปเดินทางท่องเที่ยวขณะเดียวกันก็ยังใช้วีดีโอคอลติดต่อกับคุณแม่ของคุณยายเอง ซึ่งคุณแม่คุณยายอายุ 93 ปี วีดีโอคอลติดต่อกันทุกวันเพื่ออัพเดทว่าตอนนี้อยู่ประเทศไทย มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร นอกจากนั้นคุณยายฉี๋ ก็โพสต์วิดีโอคลิปของตัวเองที่ไปท่องเที่ยวประเทศต่างๆทำให้มีคนติดตามคลิปวิดีโอ และชมมากกว่า 11,000,000 คน หากผู้สูงอายุที่มีประสบการณ์มีความรู้ความสามารถ มาแชร์ประสบการณ์คงได้ประโยชน์กัน
 
ทันธรรม...โดย พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ

 
         โดยทั่วไปคนสูงวัยมักจะตามเทคโนโลยีไม่ค่อยทัน แต่ก็มีคนสูงวัยบางส่วนที่ทันสมัย เรื่องไฮเทคไม่ยากไม่จำเป็นต้องแตกฉานคอมพิวเตอร์ แค่ใช้อินเตอร์เน็ตเป็น เข้า Google เป็น Facebook เป็น Instagram เป็น ใช้สื่อสารได้คุยอะไรกันรู้เรื่องซึ่งพอทำไปแล้ว อาจใช้เวลาศึกษาทำเป็นทีละอย่างแล้วพอใช้ทุกวัน 2-3วันก็คล่อง อย่าเพิ่งไปแหยงมันเท่านั้นเอง และขอให้พิมพ์ดีดได้ก็สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ ค่อยศึกษาทีละเรื่อง แล้วทำให้ชำนาญ 

 
          คนที่เริ่มเข้าสู่ภาวะสูงวัย วัยเกษียณอายุ 60 ปีเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเป็นราชการมีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือ เดือนละ 600-800 บาท จริงๆแล้วอย่าไปจำกัดการทำงานไว้ที่อายุ 60 ปี ซึ่งอายุ 60 เป็นแค่ตัวเลข ปัจจุบันการแพทย์เจริญก้าวหน้าขึ้น คนดูแลรักสาสุขภาพดีขึ้น อายุเฉลี่ยยาวขึ้น สมัยก่อนคนไทยอายุเฉลี่ย 60 กว่าปี แต่ปัจจุบันนี้ 70 กว่าปีแล้ว จึงเห็นคนสูงวัยมากขึ้นเรื่อยๆ 
 
          เมื่ออายุมากขึ้นให้ใช้อุปกรณ์ไฮเทคเป็นเครื่องมือช่วยในการทำงาน มีหลักการคือ 
 
         1.ต้องทลายกรอบความคิดว่าอายุ 60 แก่แล้วเกษียณและออกจากบริษัท ออกจากราชการ ก็จะนั่งอยู่บ้าน เลี้ยงหลาน นิดๆ หน่อยๆ นั่งใช้เงินเก็บ แล้วก็รอเวลาจากโลกนี้ไป อย่าไปใช้ชีวิตไร้ค่าอย่างนั้น 
 
 
          ในพระพุทธศาสนาไม่มีเกษียณเลยนะ พระภิกษุไม่มีเกษียณ การปฏิบัติธรรม ทำความดีตลอดชีวิต การทำหน้าที่ของพระทำตลอดชีวิต 60 ปีถือว่าชีวิตเพิ่งเริ่มต้น  ต่ำกว่า 60 ถือว่ายังหนุ่มประสบการณ์ยังน้อย เมื่อ 60 ปีแล้วเริ่มมีประสบการณ์ 70 ปีเริ่มเข้าท่า ถ้าให้ดี 80 ปีอย่างนี้เป็นต้น ไม่มีเกษียณทำได้เรื่อยๆ เท่าที่สุขภาพเอื้ออำนวย 
 
          การทำงานของผู้สูงวัยโดยทั่วไปให้ถือว่าทำอย่างมีความสุข เพราะไม่ใช่ทำเพราะถูกภาวะบีบบังคับถ้าไม่ทำไม่มีกิน ดังนั้นตอนยังหนุ่มยังสาว ต้องรีบทำงานเก็บเงินเก็บทอง เพื่อตั้งตัว เมื่อเกษียณแล้วไม่ทำงานก็อยู่ได้ แต่ไม่อยู่เพื่อเป็นภาระกับโลก แต่จะทำงานสร้างสรรค์สิ่งที่มีคุณค่ากับโลก เป็นการทำแบบไม่มีภาระการเงินมาดันหลัง ดังนั้นให้ทลายกรอบความคิดเรื่องการทำงานไปก่อน งานไม่ใช่เป็นภาระเหนื่อย แต่คือความสุข 

 
          2.ใช้อุปกรณ์ไอทีเป็นเครื่องช่วย แม้ไม่ได้มีความรู้สูงทำงานก็กึ่งๆใช้แรงงาน พออายุเยอะขึ้นแรงกายทดถอย จะไปแบกข้าวของหนักๆ แบบสมัยก่อนก็ทำไม่ได้ ให้เอาเทคโนโลยีเป็นเครื่องช่วย เริ่มศึกษาทำให้เข้าถึงแหล่งข้อมูลต่างๆไปหาข้อมูลว่า อะไรที่พอทำได้ พอมีเป้าหมายและมีข้อมูลจะเกิดไอเดียที่น่าสนใจ แล้วจะพบว่ามีสิ่งที่สามารถทำได้ แม้ไม่ได้เรียนสูง แต่เทคโนโลยีจะช่วยให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณค่าแล้วมีรายได้ เมื่อทำอย่างมีความสุข นอกจากสุขภาพแข็งแรงจิตใจสดชื่นแจ่มใสเพราะรู้สึกตัวเองมีค่าแล้ว รายรับของหลายๆ คนจะมากกว่าตอนไม่เกษียณอีกด้วย จากการใช้อุปกรณ์ไฮเทค ในการหาข้อมูลและตั้งใจทำงาน 

 
          นอกจากนั้นให้แบ่งเวลา เมื่อไม่ถูกกดดันด้วยด้วยการเงิน ก็แบ่งเวลาไปออกกำลังกายบ้าง นอนให้พอ ทานอาหารถูกสุขลักษณะ อารมณ์เบิกบานแจ่มใส อายุยืนสุขภาพแข็งแรง แล้วก็มีความสุข เรียกว่าเป็นผู้สูงวัยที่ไฮเทค แล้วดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่า
 
 

รับชมคลิปวิดีโอสูงวัยไฮเทค : ทันโลกทันธรรม
ชมวิดีโอสูงวัยไฮเทค : ทันโลกทันธรรม   Download ธรรมะสูงวัยไฮเทค : ทันโลกทันธรรม



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
หลุมพรางบัตรพลาสติกหลุมพรางบัตรพลาสติก

นักแก้ปัญหานักแก้ปัญหา

เงาสะท้อนตัวตนเงาสะท้อนตัวตน



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ทันโลกทันธรรม