แค่นั่งๆนานๆขึ้น นิ่งๆนานๆเข้า เท่านี้เอง


[ 26 พ.ย. 2550 ] - [ 18269 ] LINE it!

ผลการปฏิบัติธรรม

กัลยาณมิตร โชติพร ชเลิศเพ็ชร์ (ประเทศไทย)
 
กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพรักสุดขั้วหัวใจ
 
ลูกชื่อ โชติพร ชเลิศเพ็ชร์ กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่4 สาขาพันธุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลูกมาวัดครั้งแรกในปี พ.ศ.2544 โดยมีคุณแม่พามา ขอสารภาพกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อตามตรงค่ะว่า วันนั้นลูกมาวัดพร้อมกับหัวใจที่เหมือนพระจันทร์เสี้ยว คือ “ไม่เต็มใจ” มาค่ะ เพราะลูกเป็นโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะเช้าวันอาทิตย์ อาการแพ้จะหนักเป็นพิเศษ คือ แพ้หมอน แพ้ที่นอน กว่าจะยกหัว พยุงตัว ออกจากที่นอนได้ก็แทบแย่ค่ะ
 
ลูกใช้ชีวิตเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วๆไป ที่ขี้ใจน้อย ใจร้อน รอคอยไม่เป็น ไม่ชอบฟังเสียงพูดคำซ้ำๆของผู้ใหญ่ ใช้เงินฟุ่มเฟือย เพื่อนลูกบางคนแม้ไม่ป่วยก็ไปหาหมอที่คลินิก แต่เป็นคลินิกเสริมความงาม เขาไปเพื่อรักษาอาการที่คิดว่า ตัวเองยังสวยไม่พอ ยังหน้าใสไม่พอค่ะ ทำอย่างไรได้ก็อยากสวยนี่ค่ะ
 
ในปี พ.ศ.2546 คุณแม่ได้พาลูกไปปฏิบัติธรรมเป็นครั้งแรกที่ Mission Hill เขาใหญ่ ลูกไม่เคยนั่งสมาธินานๆ จึงรู้สึกเบื่อมาก พระอาจารย์สอนให้วางใจไว้กลางท้อง แต่ลูกกลับวางใจจดจ่ออยู่ที่ข้อมือ แอบดูเวลาตลอดว่าเมื่อไหร่จะเลิกซะที ขนาดสถานที่แสนสัปปายะอย่างนี้ลูกยังไม่มีอารมณ์จะนั่ง แล้วถ้าเจอสัปปายุง แบบที่วัดของเรา มีหวังเผ่นกลับตั้งแต่วันแรกแน่เลยค่ะ
 
    จนกระทั่งเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2550 คุณแม่ไม่ละความพยายาม ท่านพาลูกไปปฏิบัติธรรมอีกครั้ง ที่สวนป่าหิมวันต์ อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ลูกประทับใจในที่นี้อย่างจัง อากาศก็ดี สดชื่น พี่เลี้ยงก็ใจดี ดูแลให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ลูกได้เห็นแสงสว่างภายในเป็นครั้งแรก ทำให้ต้องเปลี่ยนความคิดที่เคยคิดสงสัยว่า “คนอื่นเขาคิดไปเอง อุปาทานกันไปเอง” ก็เปลี่ยนเป็นมั่นใจว่า “นี้คือของจริง” กลับจากภูเรือ ลูกเริ่มไปวัดทุกวันอาทิตย์ นั่งสมาธิทุกวัน วันละหลายๆรอบ ช่วงปิดเทอมจะนั่งวันละไม่ต่ำกว่า 5ชั่วโมง นั่งไปก็ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่นั่งๆนานๆขึ้น นิ่งๆนานๆเข้า เท่านี้เองค่ะ
 
    นอกจากนี้ ยังรับบุญเป็นผู้ประสานงานชมรมสันติสุขภายใน และชมรมพัฒนาศักยภาพของจุฬาฯ เพื่อเชิญชวนอาจารย์และนิสิตมาร่วมปฏิบัติธรรม และยังเป็นอาสาสมัครแผนกเพชรจักรพรรดิ กองติดต่อสอบถาม มีหน้าที่ต้อนรับ ลงทะเบียน ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัดแก่สาธุชนผู้มาใหม่ด้วยค่ะ การมาเป็นอาสาสมัคร ได้ช่วยทำให้ลูกได้ฝึกการมีมนุษยสัมพันธ์ ฝึกความอดทน ฝึกการควบคุมอารมณ์ จากเดิมลูกเป็นคนฉุนเฉียวง่าย ศัพท์วัยรุ่นเขาเรียกว่า “ปริ๊สค์แตก” เจ้าค่ะ แต่เดี๋ยวนี้ลูกหายแล้วค่ะ อารมณ์ดีใจเย็นขึ้นเยอะ
 
    ในพรรษาแห่งการบรรลุธรรมที่ผ่านมา ลูกตั้งปณิธานว่า อยากให้เป็นพรรษาแห่งการเข้าถึงธรรม จึงไปปฏิบัติธรรมที่ภูเรือ ในวันที่ 14-20ตุลาคม พ.ศ.2550 ลูกรู้สึกราวกับเป็นจอมยุทธ์ในหนังจีน ที่ขึ้นเขาไปฝึกวิทยายุทธ์ ตั้งใจว่า ถ้าฝึกวิชาไม่สำเร็จจะไม่ลงจากเขาเด็ดขาด และแล้วลูกก็พบความจริงว่า “ความตั้งใจอาจเป็นส่วนหนึ่งของการทำอาหารให้อร่อย แต่ถ้าใส่หนักมือไป ผลที่ได้กลับเป็นตรงข้าม เพราะลูกลืมส่วนผสมสำคัญ คือ ลืมใส่อารมณ์สบาย ทำให้นั่งมืดตื้อ ทั้งฟุ้ง ทั้งเครียด จนถึงกับร้องไห้ว่า “ทำไมจากที่เคยนั่งดี...ไหงกลายเป็นแบบนี้” ลูกจึงตัดสินใจอยู่ต่ออีก 1สัปดาห์ ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายก่อนออกพรรษา
 
 
    คราวนี้ จอมยุทธ์อย่างลูกคิดออกแล้วว่า “วันพระไม่ได้มีหนเดียว เข้าพรรษาไม่ได้มีหนเดียว” รอบนี้ ลูกได้อาราธนาบารมีธรรมของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ในอายตนะนิพพาน พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ พระเดชพระคุณหลวงพ่อและคุณยายอาจารย์ ลงซ้อนที่ศูนย์กลางกายของลูก พอวางใจเบาๆ สบายๆ ไม่ภาวนา ไม่ตรึก ไม่คิดอะไรทั้งนั้น แค่เอาขนตาชนกันเท่านั้น...
 
    ลูกรู้สึกราวกับว่า ตัวเองตกจากที่สูงมากๆ รู้สึกเสียวในท้อง แล้วตัวก็ยืดขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเห็นแสงสว่าง ที่สว่างกว่าทุกครั้งที่เคยเห็นมา ราวกับดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน แต่กลับไม่รู้สึกแสบตาเลย แล้วกองทัพดวงแก้วขนาดต่างๆ ก็ผุดขึ้นมาเต็มไปหมด ลูกนั่งมองต่อไปดวงแก้วก็หายไป จนเหลือดวงเดียวที่ศูนย์กลางกายขนาดประมาณเหรียญ 10บาท ใสมากกว่าเดิม มองต่อไปก็กลายเป็นองค์พระอยู่กลางดวงแก้ว
 
    เมื่อมองต่อไปองค์พระท่านก็เปลี่ยนกลับเป็นดวงแก้วอีกครั้ง ซึ่งมีขนาดเท่าเดิม ลูกนั่งมองด้วยใจสบายไปเรื่อยๆ แล้วพระอาจารย์ก็กล่าว “สัพเพ...” ขึ้นมา พอลืมตา ดวงแก้วก็ยังชัดใส สว่าง อยู่กลางกาย ลูกรู้สึกเหมือนเป็นจอมยุทธ์ที่มีพลังตัวเบา ตัวมันเหมือนเบาๆ ลอยๆได้ แต่ไม่ถึงขั้นเหาะกลับบ้านได้นะคะ ตอนนี้ลูกทราบแล้วว่า ลูกต้องใส่ทั้งความตั้งใจ เติมอารมณ์สบาย แถมท้ายด้วยการคอยอย่างใจเย็น ให้อาหารที่ปรุงอย่างดี สุกพอดี ถ้าใครอดทนรอได้ก็เจอความสุขพอดีค่ะ
 
    ลูกนำสมาธิมาใช้ในชีวิตประจำวัน และในการเรียนหนังสือ เวลาอ่านหนังสือก็จะอธิษฐานให้ข้อสอบออกตรงกับที่เราอ่าน ซึ่งก็ได้ผลค่ะ ผลการเรียนของลูกดีขึ้น ทั้งที่อ่านหนังสือไม่หนักเท่าเดิม จากที่เคยอ่าน 3รอบ เหลือแค่อ่านรอบเดียวก็เหลือเฟือแล้วค่ะ
 
    ตอนนี้ ลูกเป็นเด็กเก่งและดี สมกับที่เป็นลูกของพระเดชพระคุณหลวงพ่อแล้วนะคะ ลูกขอให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อมีสุขภาพแข็งแรง สอนธรรมะให้ลูกๆได้นานเป็นพันปีเลยนะคะ
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพสุดใจค่ะ
 
กัลยาณมิตรโชติพร ชเลิศเพ็ชร์


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
โลกสันติสุขในตัวของเราโลกสันติสุขในตัวของเรา

สมาธิ...ใครๆก็ทำได้ ถ้าได้ทำสมาธิ...ใครๆก็ทำได้ ถ้าได้ทำ

อานิสงส์อันมากมายมหาศาลอานิสงส์อันมากมายมหาศาล



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ