5 นักวิจัยมหาสารคามทำระบบแอนตี้เว็บโป๊ ดึงเด็กไทยห่างจากภาพเปลือย


[ 6 ก.ย. 2549 ] - [ 18260 ] LINE it!

คณะนักวิจัย ม.มหาสารคาม พัฒนาระบบ “แอนตี้เว็บโป๊” ป้องกันเยาวชนไทยให้ห่างไกลจากสิ่งยั่วยุ ชี้คุณภาพดีเท่าหรือดีกว่าต่างประเทศ หลังผสมผสานการประเมินผลข้อมูลอัจฉริยะทั้งภาพ ข้อความ และลิงก์เว็บ คาดสำเร็จปลายปีนี้ ก่อนถึงมือเด็กแน่ในโครงการโรงเรียนในฝันของรัฐบาล!!!
       
       ในโลกยุคไซเบอร์สเปซ หลายคนคงรู้สึกว่าชีวิตนี้ช่างง่ายดายเหลือเกิน เพราะเราสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการสืบค้นข้อมูลต่างๆเพื่อมาทำงาน หรือแม้แต่การพักผ่อนดูหนัง ฟังเพลง หาข้อมูลท่องเที่ยว หรือเล่นเกมอยู่ที่บ้าน ก็ง่ายและครอบคลุมได้ในคลิ๊กเดียว !!!
       
       ทว่า หากเราสามารถท่องเว็บไซต์ หรือไซเบอร์สเปซอันกว้างใหญ่ไพศาลได้อย่างมีวิจารญาณถ้วนทั่วกันดีแล้ว ก็ดูจะไม่น่าจะมีปัญหาอะไรตามมา โดยเฉพาะกับผู้ใหญ่ที่แยกแยะถูกผิดได้ดี กระนั้นเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติก็ไม่อาจเป็นเช่นนั้น แต่เปรียบได้กับผ้าขาวที่เราต้องคอยป้องกันไม่ให้แปดเปื้อนไปกับฝุ่นและคราบไคล
จากการใช้อินเตอร์เน็ท ที่สำคัญคือเว็บไซต์อนาจารหรือที่รู้จักกันดีในนาม “เว็บโป๊”
       
       จึงนับว่าเป็นโชคดีที่ในสังคมของเรายังมีผู้ใหญ่ที่ห่วงใยเยาวชนของชาติเหล่านี้ และเล็งเห็นถึงโทษของเว็บโป๊-เว็บอนาจารว่าเป็นต้นเหตุแห่งความชั่วร้ายนานานัปการ
ที่จะเกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) จึงได้ให้ทุนการวิจัยพัฒนาแก่คณะวิจัยจากคณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ให้จัดทำระบบกลั่นกรองเว็บไซต์อนาจาร (Automated Obscenity Web Sites Filtering Systems) ขึ้น ในชื่อ “แอนตี้ เอ็กซ์” (Anti X) เพื่อกำราบเว็บโป๊ให้อยู่หมัด!
       
       คณะวิจัยทั้ง 5 ประกอบด้วย อาจารย์รพีพร ช่ำชอง, อาจารย์จันทิมา พลพินิจ, อาจารย์ ดร.สมนึก พ่วงพรพิทักษ์, อาจารย์ชุมศักดิ์ สีบุญเรือง และอาจารย์อนิรุทธ์ โชติถนอม โดยได้รับทุนการวิจัยพัฒนาประมาณ 2.1 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาการวิจัยพัฒนาตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.2547 ถึงวันที่ 27 มิ.ย.2549 หรือร่วม 2 ปี ซึ่งระบบกลั่นกรองเว็บไซต์อนาจารนี้ก็เป็นหนึ่งในผลงานสิ่งประดิษฐ์คิดค้นที่ส่งเข้าประกวด
ในรางวัลสภาวิจัยแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2550 ของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ด้วย
       
       คณะวิจัยเผยว่า จากการพัฒนาโปรแกรมและอัลกอรึทึมของระบบมาโดยลำดับ ทำให้พวกเขาได้ระบบกลั่นกรองเว็บไซต์อนาจารที่พิจารณาข้อมูลได้ทั้งจากข้อมูล
ที่เป็นภาพ (Image) ข้อมูลที่เป็นข้อความภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (Text) และลิงก์ของเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงกันอยู่ (Link) ซึ่งในส่วนของข้อมูลที่เป็นภาพนั้น ระบบจะกลั่นกรองด้วยการดูสัดส่วนของภาพที่มีลักษณะเป็นสีผิวของมนุษย์เป็นหลัก หากพบว่าภาพใดมีสัดส่วนของสีผิวมนุษย์มากผิดปกติก็ต้องสงสัยไว้ก่อนว่าเข้าข่ายเป็นภาพเปลือย
       
       พร้อมกันนี้ระบบยังอาศัยข้อมูลทางสถิติมาประกอบการตัดสินใจอัจฉริยะเสมือนมนุษย์
มาช่วยกลั่นกรองเว็บไซต์อีกชั้นหนึ่ง ผ่านการผสมผสานความรู้ด้านคอมพิวเตอร์แขนงต่างๆ อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) การประมวลผลข้อความ (Text Processing) การประมวลผลภาพ (Image Processing) และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) จึงทำให้ไม่ต้องกังวลว่าเว็บไซต์ที่มีประโยชน์อย่างเว็บไซต์ด้านสุขภาพ เช่นเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม หรือเว็บไซต์เรื่องเพศศึกษาจะพลอยติดร่างแหไปด้วย
       

       ทั้งนี้ เมื่อผ่านการทดลองใช้งานจริงในระบบปิด ภายในบริเวณที่จำกัดอย่างมหาวิทยาลัย โรงเรียน หรือองค์กรธุรกิจทั่วไป ก็พบว่าระบบสามารถกลั่นกรองเว็บโป๊-อนาจารได้แม่นยำถึง 95.02%เลยทีเดียว ส่วนการทดสอบในระบบเปิดนั้นกำลังอยู่ในขั้นการทดสอบและเก็บข้อมูลเพื่อ
ความมั่นใจอีกระยะหนึ่ง แต่จากการเก็บข้อมูลที่ผ่านมาก็พบว่าระบบสามารถกลั่นกรองเว็บไซต์ได้ถูกต้องกว่า 80% เมื่อเทียบกับเปอร์เซ็นต์ความถูกต้องแม่นยำของระบบกลั่นกรองเว็บไซต์อนาจาร
ในประเทศญี่ปุ่นหรือประเทศยุโรปที่กลั่นกรองเว็บโป๊ในระบบเปิดได้เพียง 74-76% เท่านั้น
       
       ส่วนจุดอ่อนของระบบที่หลงเหลืออยู่บ้าง ได้รับการเปิดเผยว่า หากระบบไปเจอเข้ากับเว็บไซต์อนาจารที่ไม่มีข้อความใดๆ เลย, เว็บไซต์อนาจารที่มีรูปขนาดเล็กมาก ภาพถูกดัดแปลง หรือเป็นรูปการ์ตูน และเว็บไซต์อนาจารที่มีเพียงลิงก์เชื่อมโยงกับเว็บไซต์อื่นๆ ระบบกลั่นกรองก็จะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องนัก
       
       ในส่วนนี้ คณะวิจัยเผยด้วยว่า แม้เราจะพัฒนาระบบกลั่นกรองเว็บไซต์อนาจารขึ้นมาให้มีประสิทธิภาเพียงใดก็ตาม ก็คงจะไม่สามารถควบคุมเว็บไซต์เหล่านี้ได้หมด ทว่าจุดประสงค์จริงๆ ของการพัฒนาระบบกลั่นกรองนี้ขึ้นมา กลับเป็นการป้องกันเยาวชนของชาติในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาต่างๆ ไม่ให้หมกมุ่นหรือคลุกคลีกับเว็บไซต์ให้โทษเหล่านี้ได้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือแม้แต่กรณีที่อยากลอง ระบบนี้ก็จะกลั่นกรองเว็บโป๊ได้โดยอัตโนมัติ
       
       ในภายในสิ้นปีนี้ เมื่อคณะวิจัยได้พัฒนาระบบจนเป็นที่น่าพอใจแล้ว เนคเทคก็จะนำระบบดังกล่าวนี้ไปใช้กับโครงการโรงเรียนในฝันของรัฐบาล อำเภอละหนึ่งโรง เพื่อให้เกิดโรงเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (E-School) ขึ้นในที่สุด ซึ่งระบบถูกออกแบบมาให้ทำงานบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ของเครื่องเซริ์ฟเวอร์ (Server)
       

       ด้านประโยชน์ของระบบกลั่นกรองดังกล่าว คณะวิจัยบอกว่า นอกจากจะเป็นการป้องกันเยาวชนไทยจากพิษร้ายของเว็บไซต์อนาจารแล้ว ยังอาจขยายผลไปสู่การป้องกันเยาวชนไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเว็บไซต์ความรุนแรง ยาเสพติด อาวุธสงคราม การค้ามนุษย์ หรือการก่อการร้ายต่างๆ ได้อีกด้วย อีกทั้งยังมีผลในทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีการผลิตซอฟต์แวร์ของชาติ โดยเป็นการพึ่งพาตัวเอง ลดการพึ่งพิงต่างชาติได้อย่างน่าชื่นใจ
       
       สุดท้ายนี้ สำหรับผู้สนใจระบบกลั่นกรองเว็บไซต์อนาจาร สามารถติดต่อได้ที่คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม 44150 โทรศัพท์ 043-754-359 โทรสาร 043-754-359 หรือเข้าไปดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ www.it.msu.ac.th/AntiX
       
       “ระบบกลั่นกรองเว็บไซต์อนาจาร” ของนักวิจัยทั้ง 5 ท่าน จึงถือได้ว่าเป็นระบบกลั่นกรองอันตรายในสังคมไม่ให้มาถึงลูกหลานไทย
ได้อย่างน่าชื่นชม เมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว เชื่อว่าพ่อแม่ผู้ปกครองและครูอาจารย์ตามสถาบันการศึกษาต่างๆ คงสนใจขึ้นมาบ้าง ไม่มากก็น้อยแล้ว
      
 
ที่มา-


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เปิดตัวตึกระฟ้าที่จะสร้างคู่ฟรีดอมทาวเวอร์เปิดตัวตึกระฟ้าที่จะสร้างคู่ฟรีดอมทาวเวอร์

กษัตริย์จอร์แดนเตือนโลกไม่สงบถ้าสันติภาพ ตอ.กลางไม่สมบูรณ์ในปีหน้ากษัตริย์จอร์แดนเตือนโลกไม่สงบถ้าสันติภาพ ตอ.กลางไม่สมบูรณ์ในปีหน้า

ทูตตกตะลึง สุวรรณภูมิ อลังการ เปิดแน่!ทูตตกตะลึง สุวรรณภูมิ อลังการ เปิดแน่!



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

DMC NEWS