เลิกเลี้ยงผีเพราะมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง

ตะวันบนดอย

ตอน เลิกเลี้ยงผีเพราะมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง

กราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชภาวนาวิสุทธิ์ที่เคารพยิ่ง

กระผมพระพิศาลประชานุกูล อาศรมธรรมจาริกแม่สลิดหลวง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตากครับ

กระผมและทีมงานพระธรรมจาริกอำเภอท่าสองยางขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อและกัลยาณมิตรทั่วโลกเป็นอย่างสูงครับที่ได้เมตตาให้ นายแพทย์พรชัยพิญญพงษ์ กัลยาณมิตรจังหวัดตาก และชมรมรัตนเวชในอุปถัมภ์ของหลวงพ่อ เดินทางมามอบเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อช่วยเหลือชาวปวาเก่อญอคันรถสิบล้อที่ 20 และ 21 มาในวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมาครับ

ชมรมรัตนเวชในอุปถัมภ์พระราชภาวนาวิสุทธิ์เดินทางไปถวายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่พระเดชพระคุณพระพิศาลประชานุกูล

จากเดิมก่อนที่จะมีถนนพุทธวิถีนั้นพี่น้องชาวดอยที่อยู่บนเขาด้านในๆ ไม่ค่อยได้พบเห็นพระนักครับ ชาวดอยส่วนมากเมื่อเจ็บป่วยขึ้นมา หนทางที่จะไปรักษาที่โรงพยาบาลหรือสถานีอนามัยมีทางเดียวคือก็ต้องเดินข้ามเขาเป็นวันๆซึ่งยากลำบากมาก ประกอบกับมีความเชื่อต่อๆกันมานานเกี่ยวกับพิธีกรรมเลี้ยงผีบรรพบุรุษแล้วจะช่วยทำให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บได้บ้าง ให้ผีช่วยหาของที่หายไปเช่นวัวบ้าง หรือเลี้ยงผีให้บรรพบุรุษเพื่อให้ญาติได้มีกินในชีวิตหลังความตายบ้าง จึงทำให้ชาวดอยนิยมเลี้ยงผีเป็นประเพณีมานานแล้วครับ แต่เมื่อได้มีถนนพุทธวิถีขึ้นมาทำให้เหล่าพระธรรมจาริกสามารถเดินทางไปเผยแผ่ธรรมะได้ง่ายขึ้น ทำให้พี่น้องชาวดอยได้ทราบความจริงของชีวิตจากพระธรรมจาริกเหล่านั้น ทำให้หลายคนเลิกนับถือผีหันมานับถือพระรัตนตรัยกันเป็นจำนวนมากครับ

ชมรมรัตนเวชในอุปถัมภ์พระราชภาวนาวิสุทธิ์เดินทางไปออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ณ ศูนย์กลางถนนพุทธวิถี

โดยเฉพาะที่ปลายทางของถนนพุทธวิถี ที่อำเภออมก๋อย ได้มีพระกลุ่มหนึ่ง ท่านตั้งชื่อกลุ่มของท่านว่า พระบนดอย ซึ่งประกอบไปด้วยพระธรรมจาริกและพระในอำเภออมก๋อย ท่านได้รวมกลุ่มขึ้นมาเพื่อเผยแผ่ธรรมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปสู่พี่น้องชาวดอย ท่านทำงานกันเป็นทีมครับ นำโดย พระอาจารย์จันทร์ ตันติปาโล หัวหน้าศูนย์อบรมศีลธรรมและส่งเสริมพระพุทธศาสนาบนพื้นที่สูง เขตอำเภออมก๋อย

พระอาจารย์จันทร์ ตันติปาโล หัวหน้าศูนย์พระธรรมจาริก อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม

ท่านได้เดินทางขึ้นไปบนยอดดอยสอบถามทำให้ทราบว่า เหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้พี่น้องชาวดอยที่อำเภออมก๋อยหันไปนับถือเพื่อนต่างศาสนานั้นเพราะอยากจะเลิกเลี้ยงผี เนื่องจากการเลี้ยงผีแต่ละครั้งต้องทำการฆ่าสัตว์ ตามแต่หมอผีหรือที่เรียกกันว่า “ตั้งเข้า”ระบุ ซึ่งการฆ่าสัตว์บ่อยๆเข้าก็ทำให้พี่น้องชาวดอยลำบากเพราะไม่ค่อยมีครับ ประกอบกับมีเพื่อนต่างศาสนิกมาแนะนำให้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาเดียวกับเขา หากเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาก็มียามาแจกจ่าย แล้วบอกว่ายามาจากผู้วิเศษสูงสุดของเขา ทำให้พี่น้องชาวดอยในเขตอำเภออมก๋อยหันไปนับถือศาสนานั้นๆเป็นจำนวนมาก เมื่อพระเราทราบดังนั้นจึงเดินทางขึ้นไปยังดอยต่างๆ ชี้แจงความเป็นจริงตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งคนแรกที่ทีมงานไปชวนเลิกเลี้ยงผีคือ “ตั้งเข้า” หรือหมอผีประจำหมู่บ้านครับ ปรากฏว่าหมอผียอมเลิกเลี้ยงผีและหันมาชวนลูกหลานเลิกเลี้ยงด้วยครับ ทีมงานเริ่มทำตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2546 ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้ทราบหลักวิชาว่ารักต้องลอย รักต้องฝัง ทีมงานคิดอย่างเดียวว่าต้องหักดิบให้ได้ จึงชวนตั้งเข้าทุบหม้อเลี้ยงผีเลยครับ ปรากฏว่าหลังจากนั้นประมาณ 3 วัน ชาวดอยต่างๆเดินทางลงมาที่อาศรมธรรมจาริกขอติดต่อพระให้ไปช่วยทำพิธีเลิกเลี้ยงผีกันเป็นจำนวนมากครับ เรียกว่าช่วงนั้นชาวดอยมีกระแส เลิกผีฟีเวอร์กันเลยครับ

ทุบหม้อเลี้ยงผีกันทั้งบ้าน

เมื่อเลิกเลี้ยงผีแล้วพุทธบุตรท่านได้จัดทำพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นศิริมงคล ให้ตั้งเข้าและชาวดอยอาราธนาศีลชี้ให้ทราบถึงอานิสงส์การรักษาศีล นั่งสมาธิ ทำบุญตักบาตร อุทิศบุญให้บรรพบุรุษแทนการเลี้ยงผี ซึ่งชาวดอยก็มีความเข้าใจได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะช่วงหลัง ทีมงานพระบนดอย ได้รับสื่อธรรมะจากโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ยิ่งทำให้การเผยแผ่ธรรมะไปสู่ชาวดอย ได้รวดเร็วและเข้าใจง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะสื่อมหานรกทั้งขุม 1 และขุม 5 เขากลัวกันมากครับ

เลิกเลี้ยงผีแล้วมาถวายภัตตาหารพระอุทิศบุญแทน

ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2552 ที่จะถึงนี้ทีมงานพระบนดอยท่านจะชวนชาวดอยมา กว่า 2,000 ครอบครัว 5,000 กว่าคนครับ มาแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ซึ่งได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อและกัลยาณมิตรทั่วโลกมอบองค์พระประจำครอบครัวให้ถึง 2,000 องค์ ซึ่งพระอาจารย์จันทร์ แกนนำทีมพระบนดอยท่านกล่าวว่าครั้งแรกกังวลว่าจะหาองค์พระเป็นจำนวนมากมาจากที่ใดเพราะที่ผ่านมาทีมงานกว่าหาองค์พระมาได้นั้นต้องเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากหลายๆที่และใช้เวลานานมากครับ ทีมงานจึงซาบซึ้งในความเมตตาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างยิ่งครับ ในส่วนการเผยแผ่และเป้าหมายของทีมพระบนดอยนั้นกระผมจะนำมากราบถวายคราวต่อไปนะครับ

ทีมงานพระบนดอยขณะขึ้นปฏิบัติหน้าที่

กระผมและพี่น้องชาวดอยที่จังหวัดตากขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างยิ่งครับ ที่ในวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้เมตตาให้แพทย์และคณะชมรมรัตนเวชในอุปถัมภ์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อกว่า 40 ท่านมาทำการตรวจรักษาพี่น้องชาวดอย ณ หมู่บ้านวะบลอลู่ ศูนย์กลางของถนนพุทธวิถีครับ ซึ่งการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ชุดนี้นับว่าเป็นหน่วยแพทย์ชุดแรกของโลกที่ไปยังพื้นที่ถนนพุทธวิถีครับ ซึ่งแม้วันที่ไปออกหน่วยนั้นจะมีฝนนอกฤดูกาลที่ตกลงมาในวันนั้นเพียงวันเดียวก็ตามแต่ทีมงานก็ไม่ท้อ มีบ้างครับที่ต้องช่วยกันดึงรถขึ้นเขามีรถลื่นบ้างครับ บางช่วงก็ต้องเดินเท้าเพราะถนนลื่นทำให้รถไปไม่ได้ แต่ทีมงานก็สู้กระทั่งไปถึงที่ออกหน่วยครับ ซึ่งมีพี่น้องชาวดอยกว่า 300 คนมารับการรักษาครับ โดยยาและเวชภัณฑ์ทั้งหมดทีมงานได้รับมาจากบริษัท ทีแมนฟาร์มาของกัลยาณมิตรธีรวัฒน์ และกัลยาณมิตรคำนวณ ฐานะโชติพันธ์และครอบครัวครับ

เนื่องจากความช่วยเหลือเป็นอันดีจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อจึงทำให้ขณะนี้มีพี่น้องชาวดอยกว่า 400 คน มาช่วยกันขุดขยายถนนถนนพุทธวิถีเป็นจุดๆ 4 จุด ซึ่งทำให้เหลืออีกเพียงประมาณ 10 กว่ากิโลดอย (ข้อมูล ณ วันที่ไปแจกของเหลือ 10 กว่ากิโลดอย แต่ถึงเวลาปัจจุบันเหลือประมาณ 3 กิโลดอยครับ) ก็จะสำเร็จแล้วครับ

กระผมต้องกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อและขออนุโมทนาบุญกับกัลยาณมิตรทั่วโลกที่ได้เมตตาช่วยพระธรรมจาริกและพี่น้องชาวปวาเก่อญอเสมอมา กระผมและพระธรรมจาริกพร้อมทั้งพี่น้องชาวดอยซาบซึ้งในความเมตตาของหลวงพ่อมากจริงๆ ครับ เหนือจะพรรณนามา ณ ที่นี้ได้ ที่ได้เมตตาช่วยเหลือชาวดอยอย่างพวกเรา กระผมไม่เพียงแต่จะขอหยัดสู้ ยืนเคียงคู่ชาวปวาเก่อญอขยายถนนให้สำเร็จเท่านั้น แต่จะขอเผยแผ่พระพุทธศาสนา นำคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสู่ใจชาวดอยทุกคนครับ

กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างยิ่งครับ

พระพิศาลประชานุกูล

อาศรมธรรมจาริกแม่สลิดหลวง

อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก