ความในใจของอดีตนักข่าว


[ 14 ก.ย. 2552 ] - [ 18262 ] LINE it!

ความในใจของอดีตนักข่าว
">
">

">
">

">
">
">
">
">
">
">
">
">
">

">
     กระผมพระอนันต์  อติวังโส (มาติวงศ์) พระธรรมทายาท รุ่น  7000 ตำบล หรือรุ่นล้นเหลือ ตามที่พระอุปัชฌาย์ขนานนามให้ ก่อนที่ลูกจะบวชในโครงการนี้ ตอนแรกๆลูกไม่มีแนวคิดที่จะมาเข้าบวชที่วัดพระธรรมกายเลยเลยแม้แต่น้อย ลูกมีอคติกับวัดแห่งนี้มากๆ อคติได้ทั้งๆที่ยังไม่เคยได้สัมผัสแม้แต่ครั้งเดียว แต่ได้ยินจากคนใกล้ชิด และจากข่าวสารที่ออกมาตามสื่อต่างๆ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ทำให้ลูกขาดการวิเคราะห์ ทำให้มองวัดนี้แบบติดลบ ติดลบขนาดสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ถ้าเห็นร้านค้าร้านอาหารร้านไหนติดป้ายกัลยาณมิตร หรือรูปที่วัดพระธรรมกายก็จะไม่เข้าไปคุยหรือซื้อของเลยแม้แต่น้อย
 
     และยิ่งไปกว่านั้นพอลูกเรียนจบก็ได้ไปทำงานเป็นผู้สื่อข่าว หรือที่เขาเรียกกันว่า นักข่าว ให้กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวกับข่าวสารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือตลาดหุ้น โดยหน้าที่ของลูกจะนำเสนอข่าวสารของบริษัทต่างๆ ที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มาตีแผ่ให้กับนักลงทุนได้ทราบข้อมูล  เพื่อนำไปใช้ประกอบการพิจารณา ก่อนตัดสินใจเข้าไปซื้อหุ้นของบริษัทนั้นๆ
">
 
     ก่อนหน้านี้ลูกไม่รู้หรอกว่าจรรยาบรรณของนักข่าว กับจรรยาบรรณของหนังสือพิมพ์เป็นอย่างไร เพราะรู้แต่ว่าต้องทำตามนโยบายของโฆษณาลูกค้า ที่พูดอย่างนี้ไม่ใช่อะไร เพราะตอนที่ลูกได้ไปทำข่าวที่บริษัทผู้ผลิตน้ำเมารายใหญ่ของประเทศไทยแห่งหนึ่ง ซึ่งบริษัทดังกล่าวจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเพื่อระดมทุนหาเงินมาขยายตลาดน้ำเมาให้มากขึ้น ได้สร้างความตื่นเต้นไปทั่วในวงการตลาดหุ้น ทำให้นักวิเคราะห์ นักเศรษฐศาสตร์ต่างพากันออกมาเชียร์สนับสนุนการเข้าตลาดครั้งนี้อย่างออกหน้าออกตา โดยเฉพาะเจ้าของหนังสือพิมพ์ที่ผมทำงานอยู่ ถึงกับมีนโยบายให้นักข่าวทุกคนเขียนเชียร์อย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีนโยบายที่จะกระจายเหล้าเบียร์ ไปทั่วโลก โดยจะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต ซึ่งจะทุ่มงบโฆษณา และการตลาดแบบไม่อั้น
 
     ในขณะที่หลายๆฝ่ายออกมาแสดงความดีใจ ขานรับกับการปลุกน้ำเมาเข้าตลาดครั้งนี้ แต่ก็มีกระแสต่อต้านออกมาจากหลายๆฝ่าย จึงทำให้บริษัทดังกล่าวต้องยอมถอยไปกับเรื่องการนำน้ำเมาเข้าตลาดหุ้นไทย  หัวหน้าของลูกถึงกับไม่พอใจเป็นอย่างมาก ถึงกับบอกว่า คนที่มาประท้วงกำลังทำลายและฉุดเศรษฐกิจไทยให้ตกต่ำบ้างล่ะ คนที่มาประท้วงโดนจ้างมาบ้างล่ะ ซึ่งตอนนั้นลูกก็มีความคิดโอนเอียงไปทางหัวหน้าเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าบริษัทนี้จะไม่สามารถจดทะเบียนในประเทศไทยได้ แต่ในอนาคตบริษัทนี้ก็มีแผนที่จะจดทะเบียนให้ได้เพียงแต่รอโอกาสเหมาะๆเท่านั้น
 
     แต่ปัจจุบันลูกได้ลาออกแล้วมาทำงานที่บริษัทเพียวไลน์อย่างเดียวเท่านั้น
ตอนนั้นลูกก็ไม่รู้ว่าเจ้าของเข้าวัดพระธรรมกาย ถ้ารู้ผมก็คงไม่ทำงานที่นี่หรอกครับ แต่บริษัทนี้เขามีกลยุทธิ์ให้สมาชิกของบริษัท ได้รู้จักการทำบุญ และรู้จักวัดพระธรรมกายมากขึ้น โดยจัดให้มีการนั่งสมาธิที่บริษัททุกวันอาทิตย์เวลา 19.00 น. ทำให้ลูกเริ่มเข้าใจวัดมากขึ้นและทำให้รู้แล้วว่าการที่ลูกสนับสนุนบริษัทน้ำเมาเข้าตลาดหุ้นนั้นผิดถนัด เพราะเป็นการทำลายและมอมเมาประชาชน
">
">
 
     ลูกได้เข้าวัดครั้งแรกในวันที่ 10 ตุลาคม 51 เป็นวันหล่อหลวงปู่ทองคำ การเข้ามาวัดครั้งแรกทำให้ลูกอัศจรรย์ใจ และรู้สึกขนลุก ปลื้มอกปลื้มใจเป็นอย่างมาก จนบอกไม่ถูก มีความรู้สึกอยากกลับมาอีก หลังจากนั้นลูกก็ได้มีโอกาสเข้าวัดเรื่อยๆครับ
">
 
     และการเข้ามาอบรมในโครงการ 7000 ตำบลในครั้งนี้ ลูกตั้งใจมากๆ  ลูกประทับใจมากที่สุดในโครงการนี้ก็คือ การวางแผนที่เป็นระบบ ระเบียบอย่างมากๆ  ทำให้นึกถึงการทำสงครามในสมัยก่อน ที่มีการเคลื่อนพลเรือนแสน เรือนล้าน ซึ่งคล้ายๆกับเราแต่แตกต่างกันที่ของเราเป็นกองทัพธรรม เป็นการประกาศสงครามธรรมะก็ว่าได้ เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก ได้รู้จักคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างถูกต้อง
">
 
     นอกจากนี้ลูกยังได้รู้จักคำว่าอดทน และยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น เพราะต่างคนต่างมา บางทีทำให้ความเห็นไม่ตรงกัน ดังนั้นจึงต้องรับฟังกันบ้าง อย่างที่หลวงพ่อเคยพูดไว้ว่า “ว่าอย่างไร ก็ว่าตามกัน” และการบวชในครั้งนี้ยังทำให้ลูกได้รู้จักคำว่า  “ถ้าจะทำงานใหญ่ อย่ากลัวที่จะผิดพลาด” ซึ่งมันสามารถนำไปใช้กับงานที่ลูกทำอยู่เป็นอย่างมากเลยครับ
">
 
     สุดท้ายขอให้หลวงพ่อสุขภาพแข็งแรงๆ อยู่สอนพวกเราไปนานๆนะครับ
">
 
">
พระลูกชาย
">
"> 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
กระผมเห็น..แม่ชีปัดลูกระเบิด!กระผมเห็น..แม่ชีปัดลูกระเบิด!

กระผมเห็น..แม่ชีปัดระเบิด ภาค 2กระผมเห็น..แม่ชีปัดระเบิด ภาค 2

มันแกวประธานกฐินสัมฤทธิ์มันแกวประธานกฐินสัมฤทธิ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน