คุณหญิงท้องนา ตอนที่ 3


[ 7 พ.ย. 2552 ] - [ 18256 ] LINE it!

บุญ อยู่เบื้องหลังความสุขและความสำเร็จ
 
29. คุณหญิงท้องนา ตอนที่ 3

 
คำถามจากทางบ้าน:
 
    คุณพ่อถึงแม้จะเป็นหนุ่มบ้านนอกแต่ก็เป็นเศรษฐี เป็นที่นับหน้าถือตาของชาวบ้านมาก ท่านเป็นคนมีธรรมะ เคยบวชเรียนถึงเปรียญธรรม๖ ประโยคและท่านเรียนวิชาหมอยามาด้วย จึงสามารถรักษาโรคได้ เวลาใครป่วยก็มาหาคุณพ่อให้คุณพ่อฉีดยาให้ ใครไม่มีเงิน คุณก็รักษาให้ฟรี ดังนั้น ตั้งแต่ลูกเกิดมา ลูกจึงมีแต่ความสุขและกลายเป็นสาวมั่น มีมาดมั่น เก่งกล้าไม่กลัวใครเลยมาตั้งแต่เล็กๆ เพราะคิดว่าเรามีแม่เป็นถึงคุณหญิง มีพ่อเป็นถึงคุณหมอ เวลาไปไหนมาไหนก็บอกว่าเป็นลูกของคุณหมอ ก็จะไม่มีจิ๊กโก๋คนไหนกล้ามาแหยม เวลาคุณพ่อไปนาก็จะเอาลูกขี่คอไปด้วย ชีวิตช่วงนั้นของลูกมีความสุขมาก
 
    จนกระทั่งวันหนึ่ง วันเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของลูกก็มาถึง คือ พระองค์เจ้าฯที่เป็นท่านพ่อของคุณแม่สิ้นพระชนม์ ที่นี้ในพินัยกรรมระบุไว้ว่า ห้ามแบ่งมรดกจนกว่าจะตามหาตัวคุณแม่เจอ จึงทำให้พี่น้องทุกคนต้องรีบสืบตามหาคุณแม่แทบพลิกแผ่นดิน ไม่ใช่เพราะรัก แต่เพื่อให้ถูกต้องตามพินัยกรรม ใช้เวลาตามหากันเกือบสิบปี กระทั่งเจอกัน จึงได้จัดการเรื่องมรดก
 
    นอกจากนี้ ในพินัยกรรมยังระบุไว้อีกว่า ให้นำลูกหลานที่กระจัดกระจายเอากลับมาเลี้ยงดูส่งเสียให้เรียนหมดทุกคน ดังนั้น ลูกจึงจำต้องพรากจากพ่อแม่ตั้งแต่อายุสิบสามปี ตามพินัยกรรม ซึ่งจะต้องรวมเอามาอยู่ในกรุงเทพฯเพื่อมาเรียนหนังสือกับคุณหญิงท่านหนึ่งซึ่งเป็นพี่สาวของคุณแม่ ลูกได้อยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ สวยงามมาก มันน่าจะมีความสุขสบายกว่าบ้านนา แต่อนิจจา ชีวิตลูกไม่ได้สบายเลย เพราะลูกต้องช่วยเขาทำงานบ้านเกือบทุกอย่าง แม้ว่าเขาจะส่งลูกให้เรียนในโรงเรียนดีชั้นเยี่ยม แต่ลูกก็อยู่ในฐานะเป็นเด็กบ้านนอกซอมซ่อที่แตกต่างจากเพื่อนๆในโรงเรียน ลูกเรียนอย่างขาดความมั่นใจ เพราะเด็กกรุงเทพฯเรียนไวกว่าเด็กบ้านนอก ลูกรู้สึกตัวเองว่าเป็นเด็กโง่ท่ามกลางเด็กฉลาด ลูกจึงต้องพยายามในเรื่องการเรียนอย่างหนัก ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ลูกได้เข้าโรงเรียนดีๆก็จริง แต่ไม่ได้รับการส่งเสริมด้านการเรียนเลย
 
    ลูกได้เงินค่าขนมไปโรงเรียนเพียงวันละหกสลึง ซึ่งพอดีสำหรับค่าอาหารอย่างประหยัด แต่ก็ไม่เพียงพอสำหรับค่ารถ ทำให้ลูกต้องฟิตร่างกายให้แข็งแรง เพราะต้องเดินไปกลับโรงเรียนวันละแปดกิโลเมตร ฝนจะตกแดดจะออกอย่างไรก็ต้องฝ่าไปให้ได้
 
    พอกลับมาจากโรงเรียน ก็ต้องช่วยทำงานบ้านจนรู้สึกเหนื่อย ทำงานบ้านเสร็จก็ถึงเวลานอนพอดี เขาก็ปิดไฟ ทำให้ลูกไม่ได้ทำการบ้าน ลูกจึงหาทางออกโดยการเจียดเงินค่าขนมที่ได้เพียงน้อยนิด ไปซื้อเทียนไขมาจุดแอบอ่านหนังสือตรงขั้นบันไดตอนที่เขาหลับกันหมดแล้ว
 
    ดินสอก็ต้องใช้จนมันกุด แล้วเอาไม้มาต่อเพื่อให้เขียนได้ เสื้อผ้าก็ต้องใส่ขาดๆปะๆ กระโปรงก็ต้องสอยชายลงมาเรื่อยๆ เพราะลูกตัวสูงขึ้น แต่เขาก็ไม่ให้ซื้อใหม่ จนบางครั้งลูกต้องแอบร้องไห้คิดคุณพ่อคุณแม่ เสมือนขาดที่พักพิงอันแสนจะอบอุ่นเมื่ออยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่แห่งนี้ ลูกจำยอมทนอยู่ที่นี่จนกระทั่งเรียนจบชั้น ม.ศ.6 ได้ทำงานที่สำนักงานสถิติแห่งชาติ และได้ย้ายออกมาอยู่กับสามีหลังจากแต่งงานแล้ว ตอนอายุได้ 24ปี
 
    บุพกรรมใดตั้งแต่เกิดมาจนถึงอายุ 13ปีลูกมีความสุขมาก แต่หลังจากนั้นชีวิตก็ลำบาก ต้องพลัดพรากจากพ่อแม่ บุพกรรมใดทำให้ลูกมีโอกาสได้เรียนในโรงเรียนดีๆ แต่ไม่ได้รับการส่งเสริมด้านการเรียนเลย บุญใดทำให้ลูกได้มาอยู่บ้านหลังใหญ่และสวยงามมาก แต่ต้องอยู่อย่างต่ำต้อย ยากจน ต้องแก้ไขบุพกรรมนี้อย่างไร
 
ที่นี่มีคำตอบ:
 
    ตัวลูกตั้งแต่เกิดจนอายุ 13ปี มีความสุขมาก แต่ภายหลังต้องมีชีวิตลำบาก และพลัดพรากจากพ่อแม่ เพราะในอดีตได้เคยไปสร้างบุญเป็นประธานทอดผ้าป่า ก่อนทำบุญก็มีปีติดี แต่วันงานจริงกลับหงุดหงิดว่าเขาจัดงานต้อนรับไม่ดี ทั้งๆที่อุตส่าห์ทำบุญตั้งมากมาย ก็เสียอกเสียใจ เพราะเป็นคนเรื่องมาก บุญเลยหก เพราะฉะนั้น จะไปทำบุญวัดไหนก็แล้วแต่ ต้องให้เหลือเรื่องเดียว คือ จะเอาบุญ ไม่ต้องให้ใครมาเอาใจ ใครจะเอาใจหรือไม่เอาใจก็แล้วแต่ แต่เราต้องเอาใจของเราใส่ไว้ในกลาง ให้ใจใสๆ รักษาใจของเราเอาไว้ จึงจะถูกหลักวิชชา
 
    ทำบุญแล้วก็หงุดหงิดบ่นว่า เพราะความถือตัว ดังนั้น บุญจึงมีวิบัติเจือปน ส่งผลไม่เต็มที่ บุญที่เป็นประธานจึงทำให้ได้มารดาสูงศักดิ์ พ่อเป็นที่เคารพนับถือในชุมชน แต่มีความสุขเพียงช่วงสั้นแค่สิบสามปี เพราะว่าก่อนทำมีปีติ แต่กำลังทำ และหลังทำไปแล้ว เรื่องมาก ไม่ปีติ
 
    ลูกมีโอกาสได้เรียนโรงเรียนดี แต่ไม่ได้รับการสนับสนุนด้านการเรียนเลย เพราะในอดีตลูกไม่ได้สนับสนุนญาติหรือลูกหลานให้ได้เล่าเรียน แต่ก็มีทานบารมีในระดับหนึ่ง  จึงได้เรียนในโรงเรียนดี เป็นบุญปนบาป เพราะความหงุดหงิดถือตัว เรื่องนี้สำคัญมาก วางตัวได้ แต่อย่าถือตัว ควรวางตัวให้สมกับที่ตัวเป็น แต่อย่าถือตัวจัด ให้ถือตัวแต่พอดีพองาม
 
    ลูกได้มาอยู่บ้านหลังใหญ่ แต่ชีวิติต่ำต้อย เพราะทำบุญแบบถือตัวดังกล่าว บุญจึงปนบาป ส่งผลได้ไม่เต็มที่ จะแก้ไข ก็จะต้องทำทานด้วยความเคารพ อย่างหงุดหงิดถือตัว และต้องทำสม่ำเสมอ ปลื้มปีติยินดีในการทำบุญ ทั้งก่อนทำ กำลังทำ และภายหลังจากทำไปแล้ว อีกทั้งต้องทำตัวง่ายๆ อย่าถือตัว เจ้ายศเจ้าอย่าง เรามาเอาบุญอย่างเดียวเท่านั้น อย่างอื่นเรื่องเล็ก เขาจะให้ไปนั่งตรงไหนก็ไปเถิด มันก็อยู่ใกล้ๆกันนั่นแหละ อยู่วัดเดียวกัน โลกใบเดียวกัน จักรวาลเดียวกัน
 
โดย คุณครูไม่ใหญ่ (พระราชภาวนาวิสุทธิ์)
3 ตุลาคม พ.ศ.2548
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
คุณหญิงท้องนา ตอนที่ 4คุณหญิงท้องนา ตอนที่ 4

ลูกชาวนากับของมือสองลูกชาวนากับของมือสอง

ชอบใช้ของเก่าชอบใช้ของเก่า



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ที่นี่มีคำตอบ-โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา