">
เมื่อว่าที่พระพี่เลี้ยงกองพลแสนรูป
เดินธุดงค์ธรรมชัย
ทุกหมู่บ้านทั่วไทยก็ปลื้มใจไปทั้งแผ่นดิน
">
">
ขณะนี้ได้เกิดปรากฏการณ์ “ปลื้มฟีเว่อร์” ขึ้นแล้วบนผืนแผ่นดินไทย เมื่อซุปเปอร์ฮีโร่ตัวจริงได้ปรากฏตัวขึ้น
ถามว่าฮีโร่ตัวจริงคือใคร ประชาชนจากทุกทิศทั่วไทยต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “ก็คือพุทธบุตรรุ่นกองพันและกองพลสถาปนายังไงล่ะ”
ขณะนี้ท่านได้ทำหน้าบุตรแห่งพระชินสีห์เดินธุดงค์ธรรมชัยเพื่อโปรดญาติโยมไปทั่วแคว้นแดนสยามทั้ง
5 ภาค ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก
ล้วนสว่างไสวไปด้วยแสงแห่งกาสาวพัสตร์
ซึ่งบทฝึกแรกการเดินธุดงค์ของพุทธบุตรจะเริ่มต้นที่ระยะทาง 10 กิโลเมตร
ผ่านทุกบรรยากาศทั้งขุนเขา แมกไม้ ชายทุ่ง ชายทะเล ชานเมือง ในเมืองและกลางตลาด
พอข่าวว่า..พระจะธุดงค์ไปถึงท้องถิ่นใด ท้องถิ่นนั้นๆ ก็คึกคักบุญบันเทิง
เกิดความสมัครสามัคคีไปทุกพื้นที่ เพราะทุกคนมีใจเดียวกัน คือ “ใจบุญ”
ขวนขวายหาวิธีสร้างบุญทุกรูปแบบ
">
">
ซึ่งวันนี้ขอเริ่มต้นรายงานสถานการณ์ “ซุปเปอร์ปลื้ม” ของบรรยากาศการเดินธุดงค์ที่จ.สิงห์บุรี
จังหวัดที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีคนหล่อที่สุดอยู่ด้วย
ทันทีที่พระธุดงค์เดินทางไปถึงวัดเชิดหนัง ก็มีสาธุชนกว่า 20 ท่าน
เข้าแถวรอต้อนรับเต็มไปหมดแล้วก็นั่งกราบลงกับพื้น
พร้อมกับมาช่วยกันรับกลดจากพุทธบุตร แบกไปยังพื้นที่ที่จะใช้ปักกลด
และที่สร้างความตื้นตันจนพุทธบุตรแทบน้ำตาไหลก็คือ มีคุณยายคนหนึ่งอายุ 86 ปี
ได้เดินเข้ามาใกล้ๆ พุทธบุตรรูปหนึ่ง ยายก้มลงกราบที่พื้นพร้อมกับยกมือทั้ง 2 ขึ้น
แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นพร่าด้วยความปีติว่า ส่งกลดมาให้โยมเถิดหลวงพี่
โยมอยากได้บุญปักกลดให้ท่าน ยังความปีติซาบซึ้งใจให้กับพุทธบุตรรูปนั้นเป็นอย่างยิ่ง
ทำให้ความรักในผ้าเหลือง รักการเป็นพระทับทวีในใจมากขึ้น และอยากฝึกฝนตนให้ดียิ่งๆ
ขึ้นไป
">
">
">
ตัวอย่างภาพบรรยากาศการเดินธุดงค์ ที่จ.สิงห์บุรี |
อีกภาพบรรยากาศการเดินธุดงค์ ผ่านทุ่งนาที่
เขียวขจี ที่ จ.สิงห์บุรี |
ตัวอย่างภาพบรรยากาศการเดินธุดงค์ เป็น สิบๆกิโล ที่ จ.สิงห์บุรี |
ภาพบรรยากาศชาวบ้านเอาบุญใหญ่ ช่วยกัน แบกกลด...ไปส่งถึงวัด |
ภาพคุณยายอายุ 86 ปี มาช่วยรับบุญแบกกลด | เห็นชาวบ้านรับบุญกันแบบนี้....หายเหนื่อยเลยครับ |
ภาพพุทธบุตรช่วยกันพัฒนาวัดกัน ตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง | ตัวอย่างภาพ...การพัฒนา ทำความสะอาดวัด |
คืนวันแรก ท่ามกลางบรรยากาศแสนสบาย เนื่องจากได้ปักกลดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
แต่เวลาประมาณ 1 นาฬิกาของวันใหม่ ก็เกิดเหตุการณ์เสริมบารมี คือ
มีลมกรรโชกจากแม่น้ำ ความแรงของลมทำให้กลดเปิด มุ้งปลิว ไม่สามารถจำวัดอยู่ได้
จึงต้องย้ายขึ้นมาบนศาลาวัด
ซึ่งถือเป็นบทเรียนของนักธุดงค์มือใหม่ในการเลือกดูทำเลที่พัก สังเกตภูมิอากาศ
ภูมิประเทศให้เหมาะสม นับเป็นรสชาติชีวิตที่ถ้าไม่ได้มาเดินธุดงค์ก็คงไม่ได้โอกาสได้ลิ้มรส
">
และในตอนเช้าตรู่ของวันนี้ วันเสาร์ที่ 21
พฤศจิกายน มีชาวบ้านจำนวนสิบกว่าคน มารอทำวัตรเช้าพร้อมกับพระที่มาอยู่ธุดงค์ด้วย
จากนั้นพุทธบุตรก็ได้ออกบิณฑบาตในหมู่บ้าน เดินไป-กลับ รวมเป็นระยะทาง 4
กิโลเมตร สาธุชนได้เตรียมภัตตาหารใส่บาตรกันเต็มพิกัด
ทั้งข้าวทั้งกับเต็มทุกบาตรกันเลยทีเดียว ชาวบ้านบอกว่า “ปลื้มใจมากๆ นานๆที จะมีพระมาบิณฑบาตกันเยอะขนาดนี้ อยากให้พระมาบิณฑบาตเยอะๆ แบบนี้ทุกวัน” ซึ่งพุทธบุตรรุ่นกองพันและกองพลสถาปนา ที่มาอยู่ธุดงค์ในครั้งนี้ทุกรูปต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
ปลื้มสุดๆ เพราะครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ออกเดินธุดงค์
และยิ่งได้เห็นแรงศรัทธาของชาวพุทธที่มีต่อพระพุทธศาสนาด้วยแล้ว
ยิ่งคิดยิ่งปลื้ม...
">
พระอภิชาติ อภินันโท
พระรุ่นกองพันสถาปนา ได้เปิดใจเล่าให้ฟังว่า
“ผมประทับใจการเดินธุดงค์ครั้งนี้มากๆ ในช่วงที่เดินธุดงค์
ผมรักษาใจให้ใสตลอดทางเลยครับ
พอเดินผ่านตลาดก็มีโยมจำนวนมากมาคอยถวายปานะจำนวนมากมาย
หายเหนื่อยในพริบตาพอเดินต่อไปเรื่อยๆ ใกล้จะถึงวัดเชิดหนัง
ผมก็ได้เห็นภาพที่ไม่นึกว่าจะได้เห็นมาก่อนนั่นก็คือ... แถวของสาธุชนที่มาตั้งแถวคอยต้อนรับยาวเหยียด
พอพระเดินผ่าน ชาวบ้านก็นั่งกราบบนพื้นดิน เป็นภาพที่คิดว่า
ผมคงจะเสียดายไปตลอดชีวิตถ้าผมไม่ได้มาบวชเป็นพระและยิ่งไปกว่านั้นชาวบ้านยังบอกอีกว่า
หลวงพี่คะ ขอแบ่งบุญให้พวกโยมด้วยนะคะ พร้อมกับเข้ามาขอช่วยแบกกลดที่พวกผมสะพายอยู่บนบ่าไปยังพื้นที่ปักกลดกันเลยทีเดียว
มันเป็นภาพที่ประทับใจไม่มีวันลืม และยิ่งไปกว่านั้นชาวบ้านก็ประกาศต่อๆ กันไปว่า
มีพระมาอยู่ธุดงค์ที่นี่ถึง 7 รูป(ต่อวัด) ให้มาเอาบุญใหญ่นี้ด้วยกัน
ผมประทับใจจริงๆ
">
และตอนเช้าผมก็ได้ออกบิณฑบาต
ผมก็แอบคิดอยู่ในใจว่าจะมีญาติโยมมาใส่บาตรหรือเปล่าหนอ เดินไปเกือบหนึ่งกิโลเมตร
ใจก็ตุ๊มๆ ต่อมๆ เพราะยังไม่เจอใครเลย แต่พอเดินไปอีกพักเดียวเท่านั้น “มะวิงมะแว๊บเลยครับ”
มีชาวบ้านจำนวนมากมารอใส่บาตรเต็มไปหมด ผมปลื้มมากๆ
แล้วผมยังได้ยินเสียงชาวบ้านแอบพูดกันตลอดทางด้วยครับว่า “พระท่านหล่อมากๆ”
">
พระศร ยัตติธะโร เป็นพระรุ่นกองพลสถาปนา บวชครั้งแรกในชีวิต
เดิมมีความเชื่อต่างศาสนามาทั้งตระกูลตั้งแต่ปู่ย่าตายาย
ได้มาบวชเพราะอยากศึกษาความจริงของชีวิต พอได้ศึกษาก็รู้สึกซึ้ง จึงบวชมาเรื่อยๆ
ถึงปัจจุบัน เป้าหมายตอนนี้ คือ บวชไปเรื่อยๆ เพื่อศึกษาธรรมะให้ถึงที่สุด
พระศรกล่าวว่า “ได้มีโอกาสไปตักบาตรที่แม่ฮ่องสอน แล้วก็ได้มาเดินธุดงค์
เป็นอะไรที่ดีมากๆ รู้สึกใจสงบมาก จึงเดินอย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย
ได้เห็นภาพชีวิต ได้เรียนรู้และรำลึกถึงชีวิตความเป็นพระ คิดถึงหลวงพ่อ
ผมรู้เลยว่าหลวงพ่อต้องทำงานหนักมาก ยังมีผู้คนอีกมากมายรอคอยให้เราไปสอนในสิ่งที่ถูกต้องและผมก็ได้ทำหน้าที่นี้แล้วครับ”
">
ส่วนที่วัดหลวงพ่อขาว จังหวัดสิงห์บุรี รุ่งเช้าของวันนี้
พระธุดงค์ได้เดินไปบิณฑบาตในตลาดอินทร์บุรี ซึ่งอยู่ห่างจากวัดไปเพียงกิโลเมตร แล้วกลับมาทำภารกิจพิเศษ ช่วยกันพัฒนาทำความสะอาดเสนาสนะ กระทั่งหลวงพ่อสายทอง
กัณตะสีโล ท่านเจ้าอาวาส อายุ 74 ปี เห็นแล้วชื่นอกชื่นใจ ท่านจึงกล่าวว่า “มาช่วยกันดีอย่างนี้ หลวงพ่อยกวัดให้เลย”
">
">
">
">
ภาพบรรยากาศชาวบ้านมาคอยต้อนรับพระที่เดินมาอยู่
ธุดงค์ที่วัดยองกือ
">
">
และบรรยากาศการเดินธุดงค์ในภาคเหนือก็ม่วนไม่แพ้กัน
ซึ่งหนึ่งในวัดที่พุทธบุตรกองพลกองพันจะเดินธุดงค์นั่นคือ วัดยองกือ อำเภออมก๋อย
จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นวัดที่สร้างมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ ซึ่งวัดนี้มีอายุมานานกว่า 700 ปี และวัดนี้ก็ร้างไม่มีพระภิกษุมาจำพรรษา 6 ปีแล้ว ต่อมาพระอาจารย์สำเริง สุขนันโท แห่งวัดทุ่งเจริญธรรม ได้รับนิมนต์จากชาวบ้านให้ไปช่วยพัฒนาในกลางปีที่ผ่านมา
ซึ่งท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่า “เมื่อแรกเริ่มที่เข้ามาพัฒนา วัดแห่งนี้รกมาก
หญ้าสูงท่วมเต็มไปหมดทั้งวิหาร ทั้งกุฏิ ท่านจึงนำญาติโยมพัฒนา ซึ่งเนื้อที่ปัจจุบันของวัด ประมาณ 50
ไร่ จากเดิมมีพื้นที่ 120 ไร่ แต่เมื่อวัดร้างพื้นที่วัดก็เริ่มถูกบุกรุก
บริเวณวัดเป็นทั้งภูเขาพร้อมกับมีที่ราบลุ่มให้ประกอบงานบุญด้วย โดยรอบเป็นป่าไม้ยืนต้น
มีบริเวณพื้นที่ราบ 20 ไร่ รองรับโยมได้ถึง 3,000 คน มีวิหารที่สามารถรองรับสาธุชนได้ประมาณ 300 คน มีกุฏิหลังใหญ่รองรับพุทธบุตรได้ถึง 200 รูป”
วิหารของวัดยองกือที่สามารถรองรับสาธุชน ได้ถึง 300 คน | พื้นที่ราบบริเวณวัดประมาณ 20 ไร่ รองรับ สาธุชนได้ ประมาณ 3,000 คน |
พื้นที่วัดมีทั้งที่เป็นยอดเขาและที่ราบ มีลมพัดผ่านตลอด อากาศเย็นสบาย | องค์พระธาตุที่สร้างตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี |
บริเวณด้านหน้ากุฏิ ที่ได้รับการพัฒนาแล้ว | กุฏิสามารถรองรับได้ถึง 200 รูป |
ซึ่งบ่ายวันนี้พุทธบุตรก็ได้เดินธุดงค์ ผ่านป่าสนที่อันสวยงาม
และได้ทำการปักกลดรอบๆ บริเวณพระธาตุองค์เก่าที่สร้างตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวีเป็นที่เรียบร้อบแล้ว
สำหรับอมก๋อยได้ชื่อว่า เป็นดินแดนแห่งต้นน้ำที่หนาวเหน็บ ขณะนี้มีอุณหภูมิประมาณ 10-15 องศาเซลเซียส แม้หนาวกายแต่ไม่หนาวใจ
เพราะพุทธบุตรทุกรูปมีคุณครูไม่ใหญ่ในหัวใจและได้เมตตาส่งความห่วงใยไปถึงทุกนาที
และพระลูกชายจะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้อย่างเต็มที่ครับ”
ภาพบรรยากาศการเดินธุดงค์ ที่ อำเภออมก๋อย
ภาพบรรยากาศชาวบ้านมาคอยต้อนรับพระที่เดินมาอยู่
ธุดงค์ที่วัดยองกือ
บรรยากาศที่แสนปลื้มสุดชีวิตเช่นนี้
มีสิทธิ์ได้แค่เพศชายแท้ๆ เท่านั้น ดังนั้น น่าเสียดายถ้าชายแท้ท่านใดไม่ได้บวช
ซึ่งใครที่กำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจ โปรดอย่าลังเลใจ
รีบมาสมัครบวชเป็นพระพี่เลี้ยงรุ่นแสนรูป โดยเร็วไว
เพื่อสัมผัสชีวิตที่แสนวิเศษนี้ด้วยตัวเอง