มงคลที่ 38 - จิตเกษม - พากเพียรเถิดให้เกิดบุญบารมี


[ 7 ม.ค. 2553 ] - [ 18276 ] LINE it!

มงคลที่ 38 จิตเกษม

พากเพียรเถิดให้เกิดบุญบารมี
 

    ภิกษุหนุ่มรูปใดแล เพียรพยายามอยู่ในพระพุทธศาสนา เมื่อสัตว์ทั้งหลายนอกนี้ พากันหลับแล้ว ภิกษุหนุ่มนั้นตื่นอยู่ ชีวิตของเธอไม่ไร้ประโยชน์ เพราะฉะนั้น บุคคลผู้มีปัญญาระลึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย พึงประกอบศรัทธา ศีล ความเลื่อมใส และการเห็นธรรมเนืองๆเถิด
 
    ความขยันหมั่นเพียร เป็นทางมาแห่งความสำเร็จ เป็นวิริยบารมีที่นักปราชญ์บัณฑิตทั้งหลายต่างประพฤติปฏิบัติสืบต่อกันมา โดยเฉพาะความเพียรในการขจัดกิเลสอาสวะออกจากใจ ถือเป็นภารกิจหลักที่สำคัญของมนุษยชาติ ยิ่งเพียรพยายามชำระกาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์มากเท่าใด เราจะมีโอกาสหลุดพ้นจากการเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามารได้มากเท่านั้น ดังนั้น เราจึงต้องทุ่มเทชีวิตจิตใจสั่งสมบุญบารมี และเพียรพยายามอย่างสุดกำลัง เพื่อให้บรรลุมรรคผลนิพพาน

    พระธรรมปาลเถระได้กล่าวธรรมภาษิตไว้ว่า

    "ภิกษุหนุ่มรูปใดแล เพียรพยายามอยู่ในพระพุทธศาสนา เมื่อสัตว์ทั้งหลายนอกนี้ พากันหลับแล้ว ภิกษุหนุ่มนั้นตื่นอยู่ ชีวิตของเธอไม่ไร้ประโยชน์ เพราะฉะนั้น บุคคลผู้มีปัญญาระลึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย พึงประกอบศรัทธา ศีล ความเลื่อมใส และการเห็นธรรมเนืองๆเถิด"

    ความเพียรใดเป็นไปเพื่อพระนิพพาน ความเพียรนั้นเป็นยอดของความเพียร เพราะเป็นสิ่งประเสริฐที่นักปราชญ์บัณฑิตทั้งหลายต่างสรรเสริญ นักสร้างบารมีที่ดีต้องให้ความสำคัญกับการทำความเพียรเป็นชีวิตจิตใจ โดยถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของลมหายใจเลยก็ว่าได้ จะปล่อยตัวปล่อยใจไปตามกระแสโลกไม่ได้ เราต้องเป็นต้นแบบที่ดีให้กับชาวโลก โดยคิดที่จะฝึกฝนตนเองทุกรูปแบบ เหมือนการเดินทางไกล ในขณะที่คนอื่นกำลังหลับใหล เราจงตื่นขึ้น ในขณะที่เขาลุกเราจงเดินก้าวต่อไป เมื่อมีผู้ก้าวตามมาพวกเราก็ถึงจุดหมายเรียบร้อยแล้ว อย่างนี้ถึงจะเรียกว่าเป็นผู้นำบุญยอดกัลยาณมิตร ผู้จะนำความสว่างไสวมาให้แก่โลก

    ส่วนความเพียรในการประกอบอาชีพ ทำธุรกิจการงาน หรือการศึกษาเล่าเรียนนั้น เป็นเพียงการช่วยเหลือตนเอง ให้ดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสะดวกสบายเท่านั้น เป็นภารกิจที่ยังติดข้องอยู่ในเบญจกามคุณ ยังเกี่ยวข้องอยู่กับรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ บางครั้งเนื่องจากว่า บางท่านยังมีสติปัญญาไม่สมบูรณ์ ความเพียรพยายามที่ทุ่มเทใหักับสิ่งที่ไม่เป็นสาระแก่นสาร กลับนำความทุกข์ระทมมาให้ตนเอง

    แต่การมุ่งขจัดกิเลสอาสวะออกจากใจ ด้วยการหมั่นฝึกฝนใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์หยุดนิ่งนั้น เราจะไม่มีคำว่าผิดหวัง เพราะเราไม่ได้หวังผิด เพียงแต่บางครั้งจำเป็นต้องใช้เวลา และให้โอกาสกับใจของเรา เพราะใจดวงนี้เคยฟุ้งซ่าน ล่องลอยไปในเรื่องภายนอก มาเป็นเวลายาวนาน ถึงคราวจะฝึกให้หยุดนิ่ง จึงต้องค่อยเป็นค่อยไป เหมือนการโผล่พ้นจากขอบฟ้าของดวงอาทิตย์ในยามเช้า เราจะไปบังคับให้รีบขึ้นหรือขึ้นช้าๆไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างจะมีความพอดีอยู่ในตัวของมันเอง
 
    เพราะฉะนั้น ผลแห่งการทำความเพียรเพื่อเผาผลาญอาสวกิเลส จะมีสุขเป็นอานิสงส์เสมอ แม้พระบรมศาสดาตรัสสรรเสริญว่า เป็นผู้มีชีวิตไม่ว่างเปล่าจากความดี เหมือนนางพหุปุตติกาเถรี ผู้ไม่ประมาทในชีวิต เร่งรีบทำความเพียร จนได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์

    เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล *พระเถรีท่านนี้ เคยเป็นเศรษฐินีมาก่อน มีลูกชายเจ็ดคน ลูกสาวอีกเจ็ดคน เมื่อลูกๆเติบโตขึ้นก็ได้แต่งงานมีครอบครัว ต่อมาสามีของนางได้เสียชีวิตลง เศรษฐินีท่านนี้จึงได้แบ่งทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ทั้งหมดให้กับลูกๆ คนละเท่าๆกัน โดยที่ไม่ได้เหลือไว้ให้กับตนเองเลย เพราะคิดว่าแม้ไม่มีสมบัติติดตัวสักชิ้น ลูกๆก็คงช่วยกันอุปัฏฐากดูแลยามแก่ชรา

    เนื่องจากนางไม่เคยสอนให้ลูกๆไปวัดฟังธรรม หรือสนใจในพระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา ไม่ได้สอนให้ลูกรู้จักความกตัญญูต่อบิดามารดา สมัยแรกๆลูกแต่ละคนล้วนช่วยกันรับหน้าที่ดูแลแม่คนละเดือนหนึ่งบ้าง สองเดือนบ้าง แต่พออยู่นานๆไป ลูกแต่ละคนมัวยุ่งกับการทำธุรกิจการงาน ไม่มีเวลาดูแลแม่อย่างเต็มที่ บางครั้งก็พูดจากระทบกระเทียบว่าทำไมแม่ไม่ไปอยู่บ้านหลังอื่นบ้าง เพราะทรัพย์สมบัติที่แม่มอบให้นั้น ก็ให้เท่าๆกันมิใช่รึ แม่ได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกขัดเคืองใจ ไม่พอใจที่ลูกว่ากล่าวทำนองไม่อยากจะดูแลเลี้ยงดู นางจึงต้องไปอาศัยอยู่กับลูกชายคนรอง

    เมื่อไปอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง สมัยแรกๆได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี แต่พอนานวันเข้า ลูกสะใภ้ก็ดี ลูกเขยก็ดี มักจะพูดจาไม่ไพเราะ มีเจตนาจะให้นางไม่สบายใจ ทั้งไม่ค่อยดูแลเอาใจใส่เท่าที่ควร เมื่อทนไม่ไหวจึงอำลาลูกคนนี้ ไปอยู่บ้านหลังอื่น แม้ว่านางจะไปอาศัยกับลูกคนไหนก็ตาม จะได้รับคำพูดที่แทงใจเสมอๆว่า คุณแม่แบ่งสมบัติให้ลูกแต่ละคนเท่าๆกัน ก็ควรจะไปอยู่บ้านหลังอื่นบ้าง เพราะฉันเองมีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบมากมาย

    เศรษฐินีท่านนี้เห็นว่าไม่มีลูกคนไหนที่พอจะพึ่งพิงได้ หรือแม้อยู่ด้วยก็อยู่เหมือนเป็นภาระของลูกๆ เมื่อลูกแต่ละคนไม่ได้เต็มใจที่จะปรนนิบัติดูแลแม่ นางจึงนึกถึงพระบรมศาสดา เพราะทราบว่าพระพุทธองค์เป็นผู้มีมหากรุณาต่อสรรพสัตว์ เป็นเหมือนที่พึ่งของคนยาก จึงตัดสินใจไปขอบวชเป็นภิกษุณีในพระพุทธศาสนา

    เมื่อได้รับอนุญาตให้บวชเป็นภิกษุณี นางได้มองดูภาพประวัติชีวิตที่ผ่านมาว่าได้ทำความดีอะไรไว้ เพื่อให้ตนเองได้ปลื้มอกปลื้มใจบ้าง ไม่ได้เห็นอะไรที่นำความปลื้มปีติมาให้เลย ตนเองสามารถเลี้ยงลูกตั้งสิบสี่คน จนเติบโตมีครอบครัวกันหมด แต่ลูกทั้งหมดไม่มีใครสามารถเลี้ยงแม่คนเดียวได้สักคน จึงคิดว่าในปัจฉิมวัยที่ได้มาพบแสงสว่างแห่งชีวิต คือ ได้มีโอกาสอันเลิศ ได้บวชในบวรพระพุทธศาสนานี้ นางจะไม่ประมาท เร่งรีบทำความเพียรให้เต็มที่ จะได้ไม่ถูกตำหนิว่าบวชในยามแก่ บวชมาเพื่อขอพึ่งวัดพึ่งพระพุทธศาสนาเท่านั้น จึงตั้งใจที่จะปฏิบัติธรรมให้ได้บรรลุมรรคผลเร็วที่สุด

    เมื่อคิดได้เช่นนั้นแล้ว หลังจากปัดกวาดทำความสะอาดเสนาสนะ และทำวัตรปฏิบัติดูแลภิกษุณีผู้เป็นเถระทั้งหลายแล้ว จึงตั้งใจทำสมาธิภาวนาไม่ได้ขาดเลยแม้แต่วันเดียว นางสลัดเรื่องราวทางโลกทั้งหมด มุ่งรักษาใจให้กลับมาตั้งไว้ที่ศูนย์กลางกายภายใน ใจไม่วอกแวกกันเลย

    มีอยู่คืนหนึ่ง นางตั้งใจว่าจะทำสมณธรรมตลอดคืนยันรุ่ง คือ ตัดสินใจว่าคืนนี้จะไม่นอนกันหละ บังเอิญว่าคืนนั้นเป็นคืนเดือนมืด นางมองไม่เห็นอะไรเลย จะเดินจงกรมก็ลำบากเหลือเกิน คืนนั้นนางจึงใช้มือจับเสาไม้ต้นหนึ่ง เดินเวียนเสาไม้เจริญสมณธรรม

    ขณะเดินจงกรมแก้ง่วง ก็เอามือจับเสาไม้ไปด้วย เพราะเกรงว่าศีรษะจะกระทบกับต้นไม้หรือสะดุดหกล้ม เพราะนางเป็นคนแก่ชรา จะเดินเหินเหมือนคนหนุ่มสาวทั่วไปไม่ได้แล้ว เดินจงกรมไป ใจตรึกระลึกนึกถึงคำสอนของพระบรมศาสดาไปด้วย แล้วพยายามประคับประคองใจให้หยุดนิ่ง คือ ข้างนอกเคลื่อนไหวภายในหยุดนิ่ง ในขณะที่ใจของนางกำลังหยุดนิ่งอยู่นั่นเอง พระบรมศาสดาซึ่งประทับอยู่ในพระคันธกุฎี ได้เห็นความตั้งใจจริงของนาง จึงแผ่พระรัศมีออกไป เหมือนประทับนั่งอยู่ต่อหน้า แล้วตรัสพระธรรมเทศนาว่า...
 
    "ผู้ใดไม่เห็นธรรมอันยอดเยี่ยม พึงเป็นอยู่ 100ปี ความเป็นอยู่วันเดียวของผู้เห็นธรรมอันยอดเยี่ยม ประเสริฐกว่าความเป็นอยู่ของผู้นั้น"
 
    นางได้ปล่อยใจตามกระแสพระธรรมเทศนา พิจารณาธรรมตามที่พระองค์ทรงแสดง แล้วดำเนินจิตเข้าสู่กลางของกลางภายในเข้าไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ หมดสิ้นความอาลัยในโลกทั้งปวง เป็นผู้ถึงฝั่งแห่งใจหยุดนิ่ง มีพระนิพพานเป็นอารมณ์อย่างเดียว

    นี่คือตัวอย่างของผู้ไม่ประมาทในชีวิต ผลของความเพียรในการฝึกฝนใจให้หยุดนิ่ง ย่อมมีความสุขเป็นผลเสมออย่างนี้แหละ

    เพราะฉะนั้น ทุกท่านก็ควรดำเนินตามปฏิปทาของท่าน วันเวลาที่ผ่านไป ก็ให้ความสำคัญทั้งภารกิจและจิตใจไปพร้อมๆกัน ทางโลกก็ทำงานที่สุจริต ไม่ประกอบมิจฉาวณิชชา ไม่เกียจคร้าน ไม่เอารัดเอาเปรียบ แสวงหาทรัพย์เพื่อจะได้เอามาหล่อเลี้ยงครอบครัวและมีไว้ทำบุญ ทางธรรมก็หมั่นศึกษาธรรมะของพระบรมศาสดา แล้วมุ่งสั่งสมบุญ ชำระกาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์อยู่เป็นประจำ

    โดยเฉพาะพรรษานี้ ควรให้เป็นพรรษาแห่งความสมปรารถนา พรรษาแห่งการเข้าถึงธรรม ท่านใดยังไม่ได้ตั้งใจที่จะให้ของขวัญอันล้ำค่าให้กับตนเอง ด้วยการปรารภความเพียรตลอดพรรษา ก็ให้เริ่มต้นกันเสีย ตั้งใจกันให้มั่นเลยว่า จะนั่งธรรมะมิให้ขาดแม้แต่วันเดียว เมื่อถึงวันออกพรรษา เราจะได้มีความปีติใจภาคภูมิใจ ที่ได้ทำหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนได้อย่างสมบูรณ์แบบ

    ดังนั้น ให้หมั่นปรารภความเพียร ฝึกฝนใจให้หยุดนิ่งเป็นประจำ จนกว่าจะเข้าถึงพระธรรมกายภายในกันทุกคน
 
พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
 
*มก. พระพหุปุตติกาเถรี เล่ม 41 หน้า 505


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
มงคลที่ 38 - จิตเกษม - ปล่อยวางอย่างพระอริยะมงคลที่ 38 - จิตเกษม - ปล่อยวางอย่างพระอริยะ

มงคลที่ 38 - จิตเกษม - สำคัญที่ดวงจิตมงคลที่ 38 - จิตเกษม - สำคัญที่ดวงจิต

มงคลที่ 38 - จิตเกษม - ผู้มีจิดเกษมมงคลที่ 38 - จิตเกษม - ผู้มีจิดเกษม



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ธรรมะเพื่อประชาชน