ชาวพุทธรวมใจฟื้นฟูพระพุทธศาสนา

   ยิ่งใกล้ถึงวันเข้าอบรมในโครงการบวชพระหนึ่งแสนรูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย ในวันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ.2553 นี้ ความคึกคักทุกพื้นที่ก็ยิ่งทวีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ชายแมนแมนต่างหลั่งไหลมาใช้สิทธิ์ของการเกิดมาเป็นชาย ด้วยการสมัครบวชพระหนึ่งแสนรูปในทุกวัดทั่วประเทศ

 

    ที่จังหวัดชลบุรี ทั้งคณะสงฆ์และผู้นำบุญต่างตื่นตัวกันทั่วหน้า งานประชาสัมพันธ์ครั้งใหญ่ที่สุดของชลบุรีจัดขึ้นที่วัดท้ายดอนเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ.2553 โดยนิมนต์พระและคณะกรรมการวัดมาจากทุกวัดในจังหวัดชลบุรีกว่า 1,000รูป เริ่มต้นงานด้วยการทำบุญใหญ่ ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน โดยมีพระเดชพระคุณพระราชสิทธิวิมล รองเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี เมตตามาเป็นประธานในพิธี

 

    หลังจากนั้นคุณสัมพันธ์ เสริมชีพ บรรยายเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับศาสนา ตอนท้ายของการบรรยาย คุณสัมพันธ์ได้ถามในที่ประชุมว่า “ไม่ทราบพระคุณเจ้าองค์ใดสมัครใจจะต่อสู้เพื่อกอบกู้พระพุทธศาสนาบ้าง”

 

    ถามอยู่สามครั้งก็มีเสียงสาธุการและยกมือกันทั้งห้อง เจ้าหน้าที่จึงได้ถวายสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อไปทำหน้าที่ชักชวนคนบวช พระอาจารย์บางรูปก็ยกมือบอกว่าแบ่งเป้ากันไปเลยถึงจะสำเร็จ งานนี้ต้องช่วยกันทุกวัด หลังจากนั้น งานไหนที่มีการนิมนต์พระอาจารย์ไปร่วมงาน ท่านก็จะถือโอกาสช่วยแจ้งข่าวการบวชไปด้วย

 

    โดยเฉพาะ พระเดชพระคุณพระครูอุดมวิสุทธิคุณ เจ้าคณะอำเภอบ่อทอง ท่านได้จัดสัมมนาขึ้น โดยทำจดหมายเรียกกำนันผู้ใหญ่บ้านมาประชุมฟังข้อมูล พร้อมติดตามผลการทำงานของผู้นำชุมชนอีกด้วย และไม่ว่าจะมีการจัดประชุมวาระต่างๆของส่วนงานไหน ทีมงานผู้นำบุญของเราจะขอแทรกวาระการประชุมเร่งด่วนเข้าไปนำเสนอเรื่องงานบวช วันหนึ่งไปกันหลายที่ แถมช่วงบ่าย-เย็นก็ลงพื้นที่น็อคดอร์กันอีก เรียกได้ว่าสารถีที่นี่ต้องขับรถให้เร็วยิ่งกว่ามาตุลีเทพบุตรถึงจะทันการ เพราะต้องไปติดตั้งอุปกรณ์ฉายสื่อด้วย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ได้ใบสมัครมาจนล้นไม่มีเวลาจะพิมพ์ใบสมัครส่งส่วนกลาง และยังไม่ทันที่จะให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านไปทำหน้าที่ แค่นำเสนอเรื่องงานบวชจบก็ได้ใบสมัครจากผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บวชเป็นต้นบุญก่อนทันที

 

    ในเขตพื้นที่ของอำเภอบ่อทอง ถึงแม้จะมีผู้นำบุญเพียงคนเดียว เป็นแม่ค้าขายของในตลาดที่มีหัวใจพันธุ์ตะวัน แต่ก็ได้ลุยทำหน้าที่ชวนคนบวชได้แล้วเกือบยี่สิบคน และยังประสานงานขอกำลังเด็กดีวีสตาร์มาช่วยเดินขบวนพาเหรด จนทำให้ผู้นำบุญในเขตอำเภอเมือง ต้องส่งเสบียงขนกำลังพลไปเสริมแนวรุกอีกด้วย จึงทำให้ตอนนี้ในเขตพื้นที่ของจังหวัดชลบุรี มียอดผู้สมัครบวชพุ่งกระฉูด ล้นแล้วทุกวัด

 

    มีเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นเกิดขึ้นที่อำเภอศรีราชา คือ ผู้หญิงคนหนึ่งคิดที่จะฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดจากเกาะกลางถนนให้รถชน กำลังถูกห้ามปรามโดยชายหนุ่ม ผู้นำบุญของเราเห็นสภาพการถูกยื้อยุดกันอย่างนั้นก็เลยเข้าไปบอกว่า “ช้าก่อนน้องทั้งสอง พี่มีข่าวดีมาบอก มาฟังก่อนอย่าเพิ่งรีบตาย ฟังแล้วอยากจะตายก็จะไม่เสียดายชีวิต ตอนนี้มีโครงการบวชพระแสนรูป มาบวชพระแสนรูปกันก่อน บวชแล้วได้บุญ ตายตอนนี้ไม่ได้บุญใหญ่นะ”

 

    พูดไปเรื่อยๆ พูดไปพูดมาสาวเจ้าเลยเกิดเปลี่ยนใจ ไม่อยากตายตอนนี้ เลยชวนกันไปนั่งคุยที่บ้าน สรุปแล้วคุณผู้ชายก็บวช คุณผู้หญิงก็จะไปชักชวนคนมาบวชให้มากๆ

 

    จากชลบุรีมาต่อกันที่ฉะเชิงเทรา การทำหน้าที่ของลูกพระธัมฯตอนนี้ทะลุเป้าไปแล้วทุกวัด กลเม็ด คือ ชวนแล้วให้บอกต่อ ให้คนที่จะบวชทำหน้าที่ชวนคนอื่นบวชด้วย ผู้นำบุญทำหน้าที่แล้วก็หมั่นตามไปดูแล ไปเล่าธรรมะพูดคุยในเรื่องบุญ จนผู้สมัครบวชเข้าใจเรื่องบุญ เห็นความสำคัญของการบวชในครั้งนี้และไปชวนต่อ

 

    บางสายมีผู้นำบุญสองคน แต่ชวนได้เกือบร้อยคน มีคุณลุงคนหนึ่งประทับใจการทำงานของผู้นำบุญที่ดูแลให้ธรรมะอย่างดีมาก เช้าวันต่อมาก็ขับรถไปหาลูกที่จังหวัดกาฬสินธุ์ไปชวนให้มาบวชเป็นเพื่อนกันที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ทุกวันหลังทำหน้าที่เสร็จแล้วก็จะมีการสรุปผลการทำหน้าที่ แก้ปัญหาต่างๆร่วมกัน มีกรณีศึกษาที่สนุกๆและอัศจรรย์ก็นำมาเล่าสู่กัน เช่น มีผู้นำบุญของเราคนหนึ่ง ขณะกำลังทำหน้าที่ชวนคนบวช วิ่งเข้าบ้านโน้นออกบ้านนี้ ก็มีสุนัขวิ่งมากัด ตอนแรกก็ตกใจมาก เพราะรู้สึกเจ็บ แต่พอก้มลงดู นอกจากจะกัดไม่เข้าแล้ว สุนัขตัวนั้นยังอ้าปากค้าง เพราะฟันนั้นยื่นออกมา หุบปากไม่สนิทไปเลย โอ...ลูกของพระเดชพระคุณหลวงพ่อนี้นอกจากจะดวงแข็งแล้ว ยังแข้งเหล็กอีกด้วย สมเป็นหลานคุณยายอาจารย์จริงๆ

 

    บรรยากาศการทำหน้าที่ของคณะสงฆ์ในจังหวัดฉะเชิงเทราก็ไม่ธรรมดา หลังจากที่มีการสัมมนาพระและผู้นำบุญทั้งจังหวัด ในวันที่ 8 มกราคม พ.ศ.2553 ที่ผ่านมา แม้ว่าฎีกาเชิญมาประชุมของเจ้าคณะจังหวัดยังไปไม่ถึงทุกวัด ผู้นำบุญของเราก็ใช้วิธีโทรศัพท์นิมนต์ ใช้เวลาเพียงสองวัน ก็เกิดความตื่นตัวอยากมารับฟังข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา มาร่วมฟังการสัมมนากันอย่างพร้อมเพรียงกว่า 600รูปจากทุกวัด

 

    ตลอดการสัมมนาพระทุกรูปต่างตั้งใจฟัง มีข้อสรุปหลังการสัมมนา คือ ต้องลุกขึ้นมาสู้ด้วยหัวใจ เร่งสร้างศาสนทายาทให้มากที่สุด ฟื้นฟูวัดและพระพุทธศาสนาอย่างเร่งด่วน ด้วยการชวนคนมาบวชศึกษาธรรมะในโครงการบวชพระหนึ่งแสนรูป มาถึงวันนี้แต่ละวัดต่างพากันส่งคนมาบวชวัดละ 5-10คน และยังคงเดินหน้าหาผู้ชายแมนแมนให้มาร่วมบวชพระแสนรูปให้ทะลุเป้า

 

 

    ที่จังหวัดชัยนาท ได้จัดกิจกรรมโหมโรงแจ้งข่าวให้กระหึ่มไปทั่วทั้งจังหวัด โดยเด็กดีวีสตาร์จากโรงเรียนอนุบาลชัยนาทจำนวน 400คน ร่วมเดินขบวนประชาสัมพันธ์โครงการบวช ท่ามกลางแสงแดดอันเจิดจ้า และระยะทางอันยาวไกล แต่ความลำบากใดๆก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อหัวใจยอดนักสร้างบารมีตัวน้อย เด็กๆหน้าตาสดใสต่างพากันทำหน้าที่ชวนคนบวชไปทุกตรอกซอกซอยตามถนนในเมืองชัยนาท ยื่นมือน้อยๆพร้อมแผ่นพับงานบวชให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ชาวชัยนาท แล้วพูดว่า “มาบวชเพื่อช่วยฟื้นฟูศีลธรรมโลกกันนะครับ/คะ”

 

    ชายแมนแมนที่ได้รับแผ่นพับ ต่างก็ส่งรอยยิ้มพร้อมสายตาชื่นชมความน่ารักและความเก่งและดีของเด็กๆ ไฮไลท์ของงานนี้ คือ อดีตธรรมทายาทรุ่นกองพลสถาปนา รัตนพล ส.วรพิน มาทำหน้าที่ชักชวนคนบวชด้วยตัวเอง แม้ว่าคืนที่ผ่านมาจะขายของอยู่ทั้งคืน ยังไม่ได้นอน ขายเสร็จก็นั่งรถตรงมาที่ชัยนาท ตรงดิ่งขึ้นรถประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวดีเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับชาวชัยนาทผู้มีบุญในทันที ผู้คนที่อยู่ในเส้นทางขบวนแห่ต่างก็ออกมาโบกไม้โบกมือให้กำลังใจ ทำให้รัตนพล ถึงกับน้ำตาคลอด้วยความปีติที่คนไทยยังไม่ลืมอดีตแชมป์โลก

 

    สุดยอดสองพี่น้องนักสร้างบารมี ต้องยกนิ้วให้น้องน้ำเย็น อายุห้าขวบ และน้องออมสิน อายุหกขวบ นักเรียนอนุบาลจากจังหวัดชัยนาท เมื่อทราบว่าคุณพ่อและผู้นำบุญจะไปทำหน้าที่ชวนคนบวชก็ขออาสาไปช่วยด้วย ถือโทรโข่งร้องเพลง “พ่อบวชได้ พ่อบวชได้” พร้อมป่าวประกาศด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วสดใสตลอดทางว่า “ออกมาบวชกันนะคะ...หนูอยากให้คนมาบวชกันเยอะๆนะคะ” เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูมากๆ

 

    ไม่ว่าจะเดินในตลาดขึ้นรถ-ลงเรือ-เข้าสวน-ไปพบลุงกำนัน หนูน้อยทั้งสองก็เดินนำหน้า ขอลุยไปทุกสถานที่ ผู้ใหญ่ใช้คำพูดชักชวนคนอย่างไรหนูน้อยก็จดจำคำต่างๆมาพูดอย่างนั้น บรรยากาศจึงเบิกบานสดใส ผู้ใหญ่ก็มีหัวใจกระชุ่มกระชวย ไปพื้นที่ไหนก็มีแต่คนแห่กันมาดู เพราะได้ยินเสียงหนูน้อยทำหน้าที่กัลยาณมิตรได้ราวกับเป็นผู้ใหญ่ กลับมาถึงบ้านหนูน้อยก็รีบอาบน้ำ ก่อนนอนก็ไม่ลืมที่จะไปกราบเท้าคุณพ่อคุณแม่และสวดมนต์ไหว้พระ

 

    คืนไหนที่หนูน้อยเหน็ดเหนื่อย ล้มตัวลงนอนโดยไม่ได้กราบพระ เมื่อนึกขึ้นได้ก็จะบอกกับตัวเองว่า “ไม่ได้ ไม่ได้เราต้องลุกขึ้นมากราบพระก่อน เดี๋ยวอายควายมัน” เพราะจำวิดีโอที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเคยเปิดเรื่องควายกราบพระให้ดู คืนนั้นใจของหนูน้อยทั้งสองยังคงสนุกอยู่กับการทำหน้าที่ นอนหลับไปด้วยรอยยิ้ม ถึงขนาดนอนละเมอว่า “มาบวชกันเยอะๆนะคะ”