ปรโลกนิวส์...ต่างคนต่างมา ต่างคนต่างไป 3

 

 

        ท่านเทพบุตรใหม่ก็เริ่มทักทายท่านเทพธิดาก่อนว่า “ท่านเทพธิดา ท่านเดินทางมาจาก ณ ที่แห่งใด และเพราะเหตุใด ท่านและเหล่าบริวารถึงเดินทางมาที่วิมานของเรา”

 

        ท่านเทพธิดาได้ตอบท่านเทพบุตรว่า “เราเป็นเทพธิดาใหม่ซึ่งมีวิมานอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อตัวเราได้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แล้ว ก็ได้มีพระมาบอกให้เราเดินทางมาพบใครคนหนึ่งซึ่งมีวิมานอยู่ ณ ที่แห่งนี้”

 

        ท่านเทพบุตรใหม่แนะนำตัวกับท่านเทพธิดาว่า “สำหรับตัวของเรานั้น ก็เพิ่งมาเกิดเป็นเทพบุตรใหม่อยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาเหมือนกัน แต่ก่อนหน้าที่เราจะมาบังเกิดอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกานั้น ตัวเรากำลังได้รับทัณฑ์ทรมานอย่างแสนสาหัสอยู่ในอบาย และที่เรามาอยู่ ณ ที่แห่งนี้ได้ ก็เพราะมีพระไปช่วยให้เราได้เห็นภาพบุญที่ลูกชายทำแล้วส่งบุญมาให้ จนสุดท้าย พระก็ช่วยให้เราพ้นจากการถูกทัณฑ์ทรมานในอบาย และช่วยให้เราได้มาเป็นเทพบุตรคนธรรพ์ ระดับกลาง ในที่สุด”

 

        เมื่อท่านเทพบุตรแนะนำตัวเองจบ ท่านเทพธิดาใหม่ก็ได้กล่าวกับท่านเทพบุตรในทันทีว่า “ตัวของเราก็ได้พบกับพระด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งก่อนหน้าที่เราจะได้มาเจอพระนั้น เราได้บังเกิดเป็นเทพธิดายักษ์อยู่บนสวรรค์ชั้นเดียวกันกับท่านนี่แหละ แต่ว่าเมื่อพระได้มาหา และได้นำภาพของลูกชายและบุญที่ตัวเราเองเคยทำในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ มาให้เราได้เห็นและทบทวนบุญ แล้วพระก็ได้พาเราไปบังเกิดเป็นเทพธิดาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เฟสสอง ในทันที”

 

 

        หลังจากนั้น ท่านเทพบุตรและเทพธิดาต่างก็ได้คุยกันถึงเรื่องราวของแต่ละฝ่าย จนกระทั่งมาถึงคำถามสำคัญที่ทำให้ทั้งคู่พบกับคำตอบที่ว่า เขาและเธอที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นคือใคร ซึ่งคำถามดังกล่าว คือ คำถามที่ท่านเทพธิดาได้ถามท่านเทพบุตรใหม่ว่า “ในสมัยที่ท่านยังเป็นมนุษย์ ท่านเป็นใครกัน”

 

        ท่านเทพบุตรตอบว่า “ในสมัยที่เรายังเป็นมนุษย์นั้น เรามีนามว่า นาย... ส่วนลูกชายที่ส่งบุญให้ตัวเรานั้นชื่อ นาย...”

 

        เมื่อท่านเทพธิดาใหม่ได้ฟังชื่อเสียงเรียงนามของท่านเทพบุตร ก็ทราบในทันทีว่า ทำไมพระถึงพาตนมาหาท่านเทพบุตรใหม่ผู้นี้ จากนั้น ท่านเทพธิดาก็ได้บอกชื่อเสียงเรียงนามของตนในสมัยที่ยังเป็นมนุษย์ให้แก่ท่านเทพบุตรใหม่ได้ทราบว่า “ส่วนตัวเรานั้น มีนามว่า นาง... และมีลูกชายชื่อ นาย... ซึ่งเขาได้ไปช่วยงานหลวงพ่ออยู่ที่วัดพระธรรมกาย และส่งบุญมาให้เราอยู่ตลอดเวลาเลย”

 

 

        และเมื่อบทสนทนาได้ดำเนินมาถึงตรงนี้ ท่านเทพบุตรใหม่และท่านเทพธิดาสุดสวย ต่างก็ได้ทราบความจริงที่ว่า เขาและเธอที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นคือใครกัน ซึ่งทั้งคู่ต่างก็หายสงสัยว่า ทำไมพระถึงเมตตาช่วยให้ทั้งสองได้เจอกัน

 

 

        แต่ก็มีเรื่องแปลกอยู่อย่างหนึ่ง กล่าวคือ ภายหลังจากที่ทั้งคู่ได้รับรู้ว่า ต่างคนต่างเคยเป็นสามีภรรยาที่รักกันมากมาก่อน แต่ความรู้สึกผูกพันฉันสามีภรรยาเหมือนในสมัยที่เป็นมนุษย์ กลับเจือจางลงไปมาก เรียกว่า มากเสียจน...ต่างคนต่างไม่เหลือความรู้สึกใดๆแบบนั้นให้กันอีกเลย แม้แต่น้อย

 

        นี่ก็เป็นเรื่องที่น่าศึกษาว่า เมื่อไปอยู่บนสวรรค์ คนละชั้น ความรู้สึกจะไปคุ้นเคยกับสังคมใหม่ในเทวโลกที่ต่างคนต่างอยู่กัน ยกเว้นว่าอยู่ชั้นเดียวกัน อันนี้...น่าศึกษาต่อไปว่า ถ้าอยู่ชั้นเดียวกัน จะเป็นอย่างไร เช่น มีวิมานเคียงกัน เป็นต้น 

 

        แต่ถึงกระนั้น ทั้งคู่ต่างก็มีความรู้สึกร่วมกัน หรือเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือความรู้สึกปลาบปลื้มในตัวลูกชาย และด้วยบุญที่ลูกชายได้ทำแล้วอุทิศส่งไปให้พวกตน

 

        ซึ่งบุญที่ตัวลูกชายได้ตั้งใจทำ และทุ่มเทในการสร้างบารมีนี้แหละ จึงเป็นที่มาของเรื่องราวการเปลี่ยนภพภูมิของท่านเทพธิดาสุดสวยและท่านเทพบุตรใหม่ดังที่ได้กล่าวมา