ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2553 ช่วงที่ 3
กรณีศึกษากฎแห่งกรรม
Case Study (ตอนพิเศษ)
ปรโลกนิวส์...วันพิพากษา
เรียงเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
กระผมเป็นพระลูกชายของพระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ กระผมได้รับนโยบายของหมู่คณะไปปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าศูนย์อบรมในโครงการบวชพระ และโครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน มาแล้วสองโครงการครับ กระผมขอถวายบุญนี้แด่คุณครูไม่ใหญ่ด้วยนะครับ กระผมตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะดำเนินโครงการต่อไป เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย ให้ขยายไปทั่วโลกครับ และที่กระผมอะเลิร์ทขนาดนี้ ก็เพราะในใจของกระผมมีแต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ธรรมะ และภารกิจ สามสิ่งนี้เท่านั้น...อยู่ในหัวใจของกระผมครับ
กระผมบวชมาแล้วได้สามพรรษาครับ พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ...กระผมบอกจากใจจริงเลยนะครับ กระผมรักชีวิตสมณะมากๆครับ กระผมกราบขอความเมตตาพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฝันในฝันเรื่องราวของโยมพ่อของกระผมเลยนะครับ และเพื่อเป็นกำลังใจแก่นักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทั่วโลก ทุกๆท่านครับ
โยมพ่อของกระผมประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โยมพ่อเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อวันเสาร์ที่ 27_มีนาคม พ.ศ.2553_ในสภาพ...รถยับเยินพังทั้งคัน เป็นเหตุให้โยมพ่อของกระผมเสียชีวิต เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิริรวมอายุได้ 45ปี 2เดือน
เมื่อกระผมทราบข่าวการจากไปของโยมพ่อ ซึ่งเป็นบุคคลอันเป็นที่รัก กระผมจึงสละทรัพย์ของกระผมสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว จารึกชื่อของโยมพ่อ ไว้ที่มหาธรรมกายเจดีย์นี้ เพื่อให้มนุษย์และเทวดาทั้งหลายได้กราบไหว้บูชา และเป็นศูนย์รวมใจของชาวพุทธทั่วโลกตราบนานเท่านานนับพันปี ทันทีหนึ่งองค์ครับ
กระผมได้สร้างองค์พระรวมทั้งหมดสิบองค์แล้วนะครับ และยังตั้งใจมั่นกับบุญสร้างองค์พระปิดเจดีย์นี้ โดยกระผมปวารณาสร้างเพิ่มขึ้นอีกสององค์ เพื่อจารึกชื่อมหาปูชนียาจารย์ และจารึกชื่อของตัวกระผมเองครับ ที่กระผมกล้าทำก็เพราะว่ากระผมอยากได้บุญ
เมื่อครั้งที่โยมพ่อของกระผมยังมีชีวิตอยู่ มักจะดื่มสุราและสูบบุหรี่ แต่ท่านก็ชอบทำบุญ หรือช่วยทำงานบุญจากวัด โดยมีกระผมเป็นผู้ชวนทำบุญอย่างต่อเนื่อง ท่านเป็นคนร่าเริง เข้ากับคนได้ง่าย รักครอบครัว อีกทั้งโยมพ่อก็ได้มีโอกาสมาร่วมงานบวชของกระผม และเมื่อมีโอกาสมาส่งผู้โดยสารในบริเวณใกล้วัดพระธรรมกาย โยมพ่อก็มักจะแวะเข้ามาเยี่ยมกระผมเป็นประจำ และพูดอยู่เสมอเมื่อเจอกระผมว่า “ให้บวชเป็นพระไปนานๆ ไม่ต้องออกไปลำบากเหมือนพ่อ”
ก็ยิ่งทำให้กระผมมีกำลังใจ ในการดำรงเพศสมณะไปวันต่อวัน...ไปเรื่อยๆ
คำตอบ
เมื่อวันเวลาผ่านไปได้เจ็ดวัน ก็ได้มีเจ้าหน้าที่จากยมโลก มาฉุดข้อมือแล้วพาท่านเข้าไปสู่มิติอันดำมืด...แห่งยมโลกของมหานรกขุมที่ห้า
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว กฎแห่งกรรมนั้น ย่อมตั้งอยู่ในหลักของเหตุและผล กล่าวคือ ใครประกอบเหตุเช่นไรก็ย่อมจะได้รับผลเช่นนั้น ใครทำกรรมดีอยู่เป็นนิจ เมื่อละจากโลกนี้ไปก็ย่อมไปสู่สุคติโลกสวรรค์ แต่ถ้าผู้ใดทำกรรมชั่วอยู่เป็นนิจ เมื่อละจากโลกนี้ไปผู้นั้นย่อมไปสู่อบาย ทุคติวินิบาต
ขยายความเพิ่ม...ส่วนใครจะได้ไปสุคติหรือทุคตินั้น ก็ขึ้นอยู่กับกรรมนิมิตก่อนตายเป็นหลัก ถ้าหากผู้ใดเห็นกรรมนิมิตหรือภาพที่ฉายมาให้เห็น เป็นฝ่ายกุศลกรรมหรือกรรมดี...ก่อนตาย จิตของผู้นั้นย่อมผ่องใส และก็มีสุคติเป็นที่ไป ส่วนถ้าผู้ใดเห็นกรรมนิมิต ที่เป็นฝ่ายอกุศลกรรมหรือกรรมชั่ว ภาพที่ตัวเองเคยทำความชั่วก่อนตาย จิตของผู้นั้นย่อมเศร้าหมอง และก็มีทุคติเป็นที่ไป
แต่ก็มีบางคนเหมือนกันที่กรรมนิมิตก่อนตายไม่ชัดเจน ถ้าเป็นกรณีนี้ บุคคลนั้นก็จะถูกพาตัวมาที่ยมโลก เพื่อเข้าสู่ขบวนการพิจารณาถึงผลบุญและผลบาป ที่ตนเองได้ทำไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่
คำตอบ
เมื่อพระไปถึงแล้ว พระก็ได้บอกให้โยมพ่อของลูกนึกถึงบุญที่ตัวท่านเคยทำในสมัยที่ยังมี
ชีวิต รวมถึงบอกให้โยมพ่อของลูกนึกถึงบุญบวชพระลูกชาย และบุญทุกๆบุญที่พระลูกชายของท่านได้ทำแล้วอุทิศส่งไปให้ท่าน ซึ่งโยมพ่อของลูกก็ได้ทำตามที่พระบอกมาทั้งหมด
จากนั้น โยมพ่อของลูกก็นั่งสมาธิ ในช่วงที่กำลังนั่งสมาธิอยู่นั้น พระก็ยังอยู่ตรงนั้น ท่านก็ได้คำนวณบุญของโยมพ่อของลูก แล้วก็เห็นว่าด้วยกำลังบุญขนาดนี้(บุญที่ท่านทำเองและบุญที่พระลูกชายอุทิศส่งไปให้ บุญที่ทุกๆคนอุทิศส่งไปให้)โยมพ่อของลูกจะสามารถไปเกิดอยู่ที่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา เป็นเทพบุตรคนธรรพ์ ระดับกลางได้ แล้วพระก็ได้นำโยมพ่อของลูกไปไว้ที่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ดวงบุญของโยมพ่อของลูกก็ได้ประกอบวิมานพร้อมด้วยเหล่าบริวารขึ้นมารองรับโยมพ่อของลูก ที่กำลังจะเกิดใหม่เป็นครั้งที่สอง หลังจากพ้นจากอบายขึ้นมาแล้ว
แล้วท่านเทพบุตรใหม่ก็ไม่รอช้า รีบลงจากรัตนบัลลังก์ ก้มลงกราบพระด้วยความเคารพรักอย่างสูงสุด พร้อมกับกล่าวคำขอบพระคุณพระ ที่พระได้เมตตาพาตัวท่านมาอยู่ ณ สวรรค์ที่สวยงามแห่งนี้ เพราะเวลานี้ในใจของเทพบุตรใหม่มีแต่ภาพการสร้างบารมีของพระลูกชายอยู่ตลอดเวลา ใจของท่านก็รู้สึกปลื้มปีติในบุญเป็นอย่างมาก(เห็นทั้งบุญของตัวเองที่เคยทำมา และเห็นทั้งบุญของพระลูกชาย)
ท่านเทพบุตรใหม่ได้ฝากข้อความมาถึงพระลูกชายว่า ท่านขอบใจมากที่ได้สั่งสมบุญแล้วอุทิศบุญไปให้ท่าน จนกระทั่งมีพระมาโปรดท่านให้พ้นอบาย และให้พระลูกชายตั้งใจบวชสร้างบารมีกับหมู่คณะอย่างเต็มที่เต็มกำลังไปตลอดชีวิต อีกทั้งให้อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ท่านบ่อยๆ
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
คำถาม
1.โยมพ่อของกระผม ท่านเสียชีวิตแล้วไปไหน มีความเป็นอยู่อย่างไรบ้างครับ
ภายหลังจากที่โยมพ่อของลูกได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิตแล้ว กายมนุษย์ละเอียดของท่าน ก็ได้หลุดออกมาจากายหยาบในทันที และเมื่อกายละเอียดของท่านหลุดออกมาแล้ว ท่านก็มานั่งอยู่ข้างถนน ด้วยอาการมึนๆงงๆอยู่ในบริเวณนั้น ยาวนานถึงสามวัน
เมื่อเข้าสู่วันที่สาม โยมพ่อของลูกก็เริ่มรู้สึกตัวและมีสติมากขึ้น และภายหลังจากที่สติของท่านเริ่มกลับมา สิ่งแรกที่ท่านนึกถึงก็คือบ้าน ด้วยความคุ้นเคย พอท่านนึกถึงบ้านปุ๊บ กายละเอียดของท่านก็แวบกลับมาอยู่ที่บ้านของท่านปั๊บ จากนั้นท่านก็ได้พยายามที่จะพูดคุยกับคนในบ้าน แต่กลับไม่มีใครเห็นท่าน หรือมีใครสนใจที่จะพูดคุยโต้ตอบกับท่านเลยสักคนเดียว
เมื่อท่านเห็นเหตุการณ์เป็นเช่นนั้น ท่านจึงเริ่มฉุกคิดและรู้สึกตัวขึ้นมาในทันทีว่า ตัวเองคงเสียชีวิตไปแล้ว เมื่อท่านคิดได้เช่นนั้น...ท่านก็เริ่มสติแตก และรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก และด้วยความที่ตัวท่านกำลังอยู่ในอาการหวาดกลัวและสติแตกอยู่นี่เอง จึงเป็นเหตุทำให้ท่านไม่สามารถนึกถึงบุญหรือนึกถึงภาพที่เคยทำมาในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กายละเอียดของท่านในตอนนั้น ยังคงวนเวียนอยู่แต่ภายในบ้านของท่าน
เมื่อท่านไปถึงยมโลกแล้ว ท่านก็ได้ถูกนำตัวไปต่อแถวเพื่อรอพิจารณาคดี อยู่บริเวณลานด้านหน้าโรงพิพากษา ด้วยร่างกายอันเปลือยเปล่า เมื่อโยมพ่อของลูกถูกพามาที่ยมโลก ท่านก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที และเข้าใจว่าตัวเองคงตกนรกแล้วแน่ๆ เมื่อท่านรู้สึกตัวเช่นนั้น ท่านจึงรู้สึกหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน (กลัวตอนอยู่ในเมืองมนุษย์ กับตอนอยู่หน้าลานพิพากษานั้นต่างกันมาก ประมาณว่า ตรงนั้นความกลัวต้องเอาล้านคูณ...เป็นต้น เพราะบรรยากาศในยมโลก ทั้งร้อนและน่ากลัวเป็นอย่างมาก)
นอกจากนั้น ท่านยังรู้สึกสับสนและสงสัยสิ่งต่างๆที่มันเกิดขึ้นกับตัวท่านในขณะนั้นว่า เพราะเหตุใด ทำไมท่านถึงต้องมาอยู่ตรงนี้ ต้องมาตกนรกแบบนี้
ในกรณีโยมพ่อของลูกนั้น ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิต ท่านก็เคยประกอบเหตุทั้งดีและไม่ดีมาก่อน คือ ท่านก็เป็นคนที่ชอบทำบุญ และชอบกินเหล้าและสูบบุหรี่ ประมาณว่าวัดก็เข้า...เหล้าก็กิน เป็นต้น แต่ด้วยความที่ท่านมีอาการสติแตก จนนึกถึงบุญและบาปไม่ออกเลย อีกทั้งยังเสียชีวิตแบบปัจจุบันทันด่วน ฉุกละหุก(คือ ตายแบบไม่ทันตั้งตัว)กรรมนิมิตของท่านจึงยังไม่ชัดเจน ด้วยเหตุนี้เมื่อท่านเสียชีวิตไปได้เจ็ดวัน ท่านจึงถูกเจ้าหน้าที่จากยมโลกมารับตัวท่านไปยืนรออยู่ที่ลานด้านหน้าโรงพิพากษา เพื่อเข้าสู่ขบวนการพิพากษาในผลบาปและผลบุญที่ตัวท่านเคยทำเอาไว้
คำถาม
2.บุญสร้างองค์พระส่งผลให้โยมพ่ออย่างไรครับ และท่านมีข้อความฝากถึงกระผมบ้างไหมครับ
ถ้าจะพูดถึงผลบุญที่ลูกตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ตามที่หมู่คณะมอบหมายให้อย่างเต็มที่เต็มกำลัง ไม่ว่าจะเป็นบุญจากการที่ลูกตั้งใจบวชเพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา รวมถึงบุญที่ลูกตั้งใจทำหน้าที่เป็นหัวหน้าศูนย์อบรมโครงการบวชพระ หนึ่งแสนรูปทั่วไทย และโครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน หนึ่งแสนคน อีกทั้งบุญล่าสุดที่ลูกตั้งใจสร้างให้กับท่าน นั่นก็คือ...บุญจากการสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว แต่ละบุญล้วนแล้วแต่เป็นบุญที่มีอานิสงส์มากมายทั้งสิ้น
ด้วยเหตุที่ตัวลูกตั้งใจสั่งสมบุญอยู่ในเขตใน แม้ว่าเพิ่งบวชได้แค่สามพรรษา แต่ก็ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่เต็มกำลังมาตลอดนี่เอง จึงส่งผลทำให้มีพระไปช่วยโยมพ่อของลูกที่ยมโลก ซึ่งในขณะนั้นท่านกำลังรอถูกเรียกตัว เพื่อเข้าไปสู่ขบวนการพิจารณาคดี อยู่บริเวณลานด้านหน้าโรงพิพากษา
เมื่อท่านทำตามที่พระบอกแล้ว พระเห็นว่าใจของท่านใสดีแล้ว ก็ได้ช้อนพาตัวโยมพ่อของลูกกลับมาอยู่บริเวณหน้ามหาธรรมกายเจดีย์ในทันที หลังจากพระได้ช่วยนำโยมพ่อของลูกมาที่หน้ามหาธรรมกายเจดีย์แล้ว กายของท่านก็เปลี่ยนไปจากกายที่เปลือยเปล่า ก็เป็นกายละเอียดที่ใส่เสื้อผ้าสีขาวสะอาดสะอ้าน ร่างกายของท่านก็ดูดีมีน้ำมีนวลขึ้น ในตอนนี้ โยมพ่อของลูกก็รู้สึกปลื้มปีติ และซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก ท่านจึงก้มลงกราบพระ แบบเบญจางคประดิษฐ์ ด้วยความเคารพอย่างสูงสุด พร้อมกับขอบพระคุณพระที่ได้ช่วยตัวท่านให้พ้นขึ้นมาจากยมโลก
จากนั้น พระก็ได้บอกโยมพ่อของลูกให้นึกถึงบุญไปเรื่อยๆ พร้อมกับสอนให้ท่านนั่งสมาธิ และพระก็สั่งกำชับโยมพ่อของลูกว่า ที่มาอยู่ตรงนี้ได้ล้วนเป็นบุญของพระลูกชายที่ได้ทำอย่างเต็มกำลัง ได้อุทิศส่งมาให้เป็นหลัก ดังนั้นอย่าประมาท ต้องนั่งสมาธิให้ได้ทุกวัน ไม่เช่นนั้นท่านจะต้องกลับลงไปใช้วิบากกรรมอยู่ในยมโลก เพราะบาปที่ทำไว้ยังรอส่งผลอยู่ เพียงแต่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้ช่องส่งผลเท่านั้น เพราะบุญยังหล่อเลี้ยงอยู่ จึงยังประมาทไม่ได้ต้องเติมบุญด้วยตนเองมากๆ
ส่วนกายใหม่ของโยมพ่อของลูก ตอนนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นกายเทพบุตรคนธรรพ์สุดหล่อ ซึ่งขณะนี้เทพบุตรใหม่มีกายที่สวยงามมาก และกำลังนั่งเบิกบานกับทิพยสมบัติ อยู่กลางวิมานของท่าน ในตอนนี้เทพบุตรใหม่รู้สึกอัศจรรย์และซาบซึ้งใจ ในความเมตตาที่ยากจะหาใดเปรียบของพระที่ได้ช่วยตัวท่านมา เป็นอย่างมาก ถ้าไม่มีพระมาช่วยตัวท่านแล้ว ป่านนี้ตัวท่านก็คงไม่รอดพ้นจากวิบากกรรมที่ได้กระทำไว้อย่างแน่นอน โดยที่ท่านก็ไม่รู้ว่าจะต้องรับกรรมเจ็บปวดรวดร้าวและทุกข์ทรมานแค่ไหน ซึ่งท่านเทพบุตรใหม่ก็ไม่รู้จะตอบแทนพระคุณพระที่ได้มาช่วยในครั้งนี้ได้อย่างไร
ในตอนท้ายก่อนที่พระจะจากเทพบุตรใหม่มา พระก็ได้สั่งกำชับให้เทพบุตรใหม่นั่งสมาธิอย่าได้ขาด ไม่เช่นนั้นจะต้องตกไปสู่อบาย กลับไปอยู่ที่เดิมอีก(เทวดาก็เหมือนมนุษย์ที่บางทีก็ประมาทในการดำเนินชีวิตในเทวโลก จากเทวโลกหล่นลงไปในอบายก็มี เป็นเทวดาตกสวรรค์ เพราะฉะนั้น...ประมาทไม่ได้)
ให้พระลูกชายช่วยนำข้อความนี้ไปบอกกับทุกคนในครอบครัวว่า ตอนนี้ท่านสบายดีแล้ว ถ้าคิดถึงท่านก็ขอให้ทุกคนเร่งสร้างบารมีกันอย่างเต็มที่และทำกันอย่างสุดชีวิต เพราะในตอนนี้ท่านได้เห็นด้วยตาของท่านเองแล้วว่า ผลแห่งบุญมีจริง นรกมีจริง สวรรค์มีจริง และเมื่อลูกทุกๆคนได้สั่งสมบุญแล้วก็อย่าลืมอุทิศส่วนกุศลทั้งหลายเหล่านั้นมาให้ท่านบ่อยๆ
มีปัญหาการรับชมวิดีโอ กรุณากดที่นี่ เพื่อใช้เครื่องเล่นแบบเก่า window media player