ยุทธศาสตร์ชีวิต-พิชิตใจตน


[ 24 ก.ย. 2553 ] - [ 18272 ] LINE it!

กลยุทธของชีวิต ที่ทำให้ประสบความสำเร็จ

 
"ยุทธศาสตร์ชีวิต พิชิตใจตน"
 
 
พระมหา ดร.สมชาย ฐานวุฑฺโฒ
 
        พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงตรัสไว้ว่า ธรรมที่เป็นแก่นสารของชีวิต เรียกว่า สารธรรม  ได้แก่ ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และปัญญา
 
 
         1.ศรัทธา ในการทำงานเราจะต้องรู้ว่าเราชอบงานอะไร รักงานอะไร ซึ่งคนจำนวนมากไม่ทราบ เช่น บังเอิญสอบติดก็เลยเรียนไป พอจบก็ทำงานด้านที่เรียนมาทำไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าตัวเองถนัดอะไร ชอบงานแบบไหน ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าคนเราได้ทำงานที่ตัวเองถนัดย่อมจะได้ผลดีที่สุด เราต้องหาตัวเองให้เจอ “ถ้าได้หยุดคิด ก็จะคิดได้” คนทั่วไปไม่รู้เพราะว่าไม่ได้หยุดคิด บางคนจนละโลกไปก็ยังไม่ได้คิดเลยก็มี ในทางธรรมคือ ถ้าเรามีศรัทธาในพระพุทธศาสนา รู้ว่าคนเราไม่ได้มีแค่ว่าทำงาน หาเงิน หาทอง กินอยู่ แล้วก็จากโลกไป เป้าหมายสูงสุดในชีวิตคืออะไร ถ้าเราทราบจะทำให้ชีวิตมีคุณค่ามากขึ้น

 
         2. ศีล นัยยะทางโลกคือ วินัยต่อตนเอง เราตั้งเป้าจะเป็นอะไรแล้ว ต้องมีวินัยมากำกับเพื่อบรรลุผลสำเร็จ ในทางธรรมคือว่าอย่างน้อยต้องมีศีล 5 วันพระศีล 8 ได้ยิ่งดี นี่แหละคือแก่นของชีวิต
 

         3. สุตะ ให้มีความรู้ ต้องทุ่มเทอย่างฉลาด จะทำให้ความทุ่มเทที่ทำไป ได้ผลเต็มเม็ดเต็มหน่วย ต้องฉลาดและขยันด้วยผลลัพธ์ถึงจะคุ้มค่า
 
        4. จาคะ ความเสียสละ คนเราในชีวิตต้องเจอทั้งเรื่องที่สมหวังและผิดหวัง เจอคนที่ทำถูกใจและไม่ถูกใจ ถ้าเราเก็บขยะไว้เต็มหัวใจของเรานั้น มันจะรกใจเราเปล่าๆ เราต้องรู้จักสละอารมณ์นั้นออกไป อย่าให้มันมาขวางทางการดำเนินชีวิตไปสู่เป้าหมายของเราได้ มีตัวอย่างคือ นโปเลียนจอมจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศส มีอยู่คราวหนึ่งยกทัพไปตีอิตาลี พอไปถึงเทือกเขาแอลป์ ได้เจอกลุ่มโจรภูเขา ขณะนั้นนโปเลียนซึ่งยกทัพไปเป็นแสน ส่วนโจรมีเพียงหลักร้อยหลักพันเท่านั้น แต่มาขอเรียกค่าผ่านทาง ทหารเอกของนโปเลียนจึงเอ่ยขึ้นว่าพวกโจรกลุ่มนี้มีเพียงนิดเดียว บังอาจมาเรียกค่าผ่านทางกับกองทัพเรา อย่างนี้ต้องลุยเสียให้ราบ นโปเลียนได้ยินอย่างนั้นจึงบอกกลับไปว่า
 
        “หยุดก่อน เรายกทัพมาเพื่อจะไปรบกับอิตาลี ไม่ได้ยกทัพมาลุยกับพวกโจรภูเขานี่ อย่ามาเสียกำลังเพราะเรื่องเล็กน้อยนี้เลย จ่ายค่าผ่านทางไปเถอะ” หลังจากได้รับค่าผ่านทางพวกโจรก็พอใจและจากไป นโปเลียนจึงยกทัพไปต่อ รบจนชนะยึดประเทศอิตาลีไว้ได้ นี่เป็นตัวอย่างของจาคะในทางโลก ส่วนจาคะในทางธรรมคือ การรู้จักทำบุญ ทำกุศล ให้ทาน ช่วยเหลืออนุเคราะห์ชาวโลกทั้งหลาย ถ้าเป็นอย่างนี้ละก็ ใจเราก็จะชุ่มชื่นใน บุญ แล้วกำลัง บุญ จะหนุนส่งให้ชีวิตดียิ่งขึ้นไปด้วย
 
 
        5. ปัญญา ปัญญาตรงนี้ ต่างจาก ความรู้ ความรู้เป็นข้อมูลที่เราศึกษารับเข้ามา แต่ปัญญาคือเรื่องการใช้ไหวพริบ ปฏิภาณทุกอย่างในการแก้ไขปัญหาจริงๆ  แบ่งเป็น 2 อย่างคือ ปัญญาทางโลกก็ใช้ทำงานประกอบธุรกิจ ใครปัญญาเยอะออกแรงน้อยได้ผลมาก ใครปัญญาน้อยก็ต้องเหนื่อยมากได้ผลน้อย ปัญญาทางธรรมก็คือ ฉลาดในการดำเนินชีวิต คือ รู้จักการทำความดี ทั้งทาน ศีล ภาวนา แล้วบาปกรรมอกุศลอย่าไปยุ่ง อย่างนี้ละก็จะประสบความสำเร็จทั้งชาตินี้ และชาติหน้า เพราะชีวิตเราไม่ได้มีแค่ชาตินี้จบ ดังนั้นจึงต้องใช้ปัญญาทางธรรม ประกอบกำกับการใช้ชีวิต ให้เกิดประโยชน์ทั้งชาตินี้ ชาติหน้าอย่างนี้จึงจะคุ้มค่า
 

        กล่าวโดยสรุปยุทธศาสตร์ของชีวิต คือ 1. ตั้งเป้าหมายชีวิตให้ชัดเจน มีศรัทธา 2. มีวินัยกำกับตัวเองให้มุ่งตรงต่อเป้าหมายนั้น ฝันให้ไกล ต้องทำให้ถึงด้วย  ถึงจะถึงที่ฝัน  3. แสวงหาความรู้เพื่อจะได้นำไปสู่เป้าหมายนั้นได้จริงๆ 4. รู้จักสละอารมณ์ที่ไม่ดีออกไปจากใจ อย่าไปติดใจประเด็นเล็กๆ จนทำให้เราเบี่ยงเบนไปจากเป้าหมาย 5. มีปัญญาในการนำสรรพกำลังทั้งปวงมาทุ่มเทแก้ปัญหาจนบรรลุเป้าหมายปลายทางในที่สุด รู้จักสร้างบุญกุศล ไว้เป็นเสบียงข้ามภพข้ามชาติ  เพื่อเป็นประโยชน์ทั้งโลกนี้และโลกหน้า และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งคือ การเข้าพระนิพพานนั่นเอง
 
รับชมวิดีโอ
 

รายการวิดีโอที่เกี่ยวข้อง

ทันโลกทันธรรม

 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
สัปปุริสธรรม 7 ธรรมของสัตบุรุษสัปปุริสธรรม 7 ธรรมของสัตบุรุษ

การตลาดเพื่อสังคมการตลาดเพื่อสังคม

มหกรรมโลกสู่มหกรรมเรามหกรรมโลกสู่มหกรรมเรา



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

Review รายการ