สงครามนำมาซึ่งความสูญเสีย


[ 22 ม.ค. 2554 ] - [ 18268 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 22 มกราคม พ.ศ.2554

ปรโลกนิวส์ สงครามนำมาซึ่งความสูญเสีย

 
ปรโลกนิวส์ สงครามนำมาซึ่งความสูญเสีย
(ตอนต่อจาก เมื่อวิบากกรรมส่งผล...ตายก่อนหมดอายุขัย)
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ
 
        กระผม เดวิด มาซาฮิโกะ มัสสึโมโตะ กระผมเกิดที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อายุ 54-ปีครับ กระผมมีประสบการณ์ทางด้านธุรกิจบันเทิงในระดับนานาชาติมากว่าสามสิบปี โดยเป็นบุคคลหลักในโครงการ We-are-the-World-ที่ประสบความสำเร็จ และโด่งดังที่สุดในโลก อีกทั้งเคยจัดโครงการเกียวโตฟอรั่ม (Kyoto-Forum)-ในหัวข้อเรื่องการแก้ปัญหาโลกร้อน ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในงานนี้กระผมได้เชิญผู้นำของโลกมากว่าสี่สิบประเทศ ห้าร้อยผู้นำทางศาสนาของโลก อาทิ ท่านดาไลลามะ แม่ชีเทเรซ่า ประธานาธิบดีโกบาชอฟ เป็นต้น นอกจากนี้ กระผมยังเป็นผู้ก่อตั้งและอุปถัมภ์ Nobel-Charitable-Trust-Foundation-ของดร.ไมเคิล โนเบล และเป็นนักลงทุนในธุรกิจต่างๆในหลายประเทศทั่วโลก เช่น นายทุนสร้างหนัง เป็นต้น
 
        นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลงานที่ประสบความสำเร็จ แต่นั่นก็ไม่ได้มาเติมเต็มชีวิตของกระผม หรือมาเติมเต็มในส่วนที่กระผมอยากจะทราบ จนกระทั่ง...เมื่อยอดกัลยาณมิตร หม่อมหลวงรัชฎาราศี ชยางกูร ได้พากระผมมาพบกับคุณครูไม่ใหญ่ และเมื่อกระผมได้นั่งสมาธิตามคำแนะนำของคุณครูไม่ใหญ่แล้ว ทำให้กระผมเกิดความตั้งใจมั่นว่า “ชีวิตที่เหลือจากนี้ไป...ขอถวายให้กับวัดพระธรรมกายครับ”
 
        กระผมกราบขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ ช่วยไขข้อข้องใจในบุคคลอันเป็นที่รักของกระผมด้วย คือ ลูกชายวัยสองขวบที่เสียชีวิตจากการจมน้ำตายในสระว่ายน้ำ เหตุการณ์ในวันนั้น...ทำให้กระผมรู้สึกเสียใจมาก เหมือนโลกใบนี้ดับไปพร้อมกับการจากไปของลูกชาย ตอนนี้เวลาผ่านล่วงเลยมายี่สิบกว่าปีแล้ว แต่กระผมก็ยังเชื่อว่าลูกชายยังอยู่กับกระผมตลอดเวลา กระผมยังรักและคิดถึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนี้มาก เมื่อนึกทีไร...น้ำตาของกระผมก็จะไหลออกมาทุกครั้งครับ
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
 
มาซาฮิโกะ มัสสึโมโตะ
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
คำถามข้อที่ 2.ตอนนี้ลูกชายของผมอยู่ที่ไหน และผมจะช่วยเขาได้อย่างไรครับ
 
        หลังจากที่ลูกชายของลูกเสียชีวิตลงไปแล้ว กายละเอียดของเขาก็ได้หลุดออกจากกายหยาบ และในช่วงแรกๆ ได้ไปนั่งเฉยๆอยู่ภายในบริเวณบ้าน และด้วยความที่ลูกชายของลูกยังไม่หมดอายุขัย อีกทั้งตัวเขายังเด็กเกินไปที่จะนึกถึงบุญและบาป เนื่องจากยังไม่มีความรู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต ด้วยเหตุนี้เอง...จึงทำให้ลูกชายของลูกยังคงวนเวียนเดินไปเดินมาอยู่ภายในบ้าน เมื่อเวลาผ่านไปได้สักพัก ลูกชายของลูกก็เอาแต่ร้องไห้ ร้องไห้ และร้องไห้ เพราะเวลาที่เขาเดินไปหาใคร กลับไม่มีใครเห็น ไม่มีใครสนใจ และไม่มีใครเล่นกับเขาเลยสักคน
 
เมื่อเสียชีวิตใหม่ๆ ลูกชายของลูกได้กลับมาที่บ้าน
 
        ในขณะนั้นเอง ได้มีภุมมเทวาระดับหัวหน้าเขต ซึ่งอยู่ในละแวกนั้น ได้มาพบลูกชายของลูกกำลังร้องไห้อยู่ เมื่อภุมมเทวาระดับหัวหน้าเขต เห็นเช่นนั้น เขาก็เกิดความรู้สึกสองอย่างขึ้นมาในใจ นั่นก็คือ...รู้สึกสงสาร และรู้สึกเอ็นดูลูกชายของลูก ขึ้นมาอย่างจับจิตจับใจ ด้วยเหตุนี้เอง ภุมมเทวาระดับหัวหน้าเขตจึงได้พาลูกชายของลูกไปอยู่ที่วิมานของเขา ครั้นลูกชายของลูกได้ไปอยู่ที่วิมานของภุมมเทวาระดับหัวหน้าเขตท่านนี้แล้ว ลูกชายของลูกก็เริ่มสนใจกับสิ่งใหม่ๆในสังคมของภุมมเทวา และด้วยความที่กายละเอียดของลูกชายของลูกในตอนนั้น เป็นกายละเอียดของเด็กน้อยที่กำลังน่ารักน่าเอ็นดูเป็นอย่างมาก ดังนั้น ภุมมเทวาท่านนี้จึงรักและเอ็นดูลูกชายของลูกเป็นอย่างมาก ซึ่งภุมมเทวาระดับหัวหน้าเขตท่านนี้ ก็มีความตั้งใจที่จะเลี้ยงดูลูกชายของลูกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงเวลาที่ลูกชายของลูกจะได้ไปเกิดใหม่
 
ต่อมาภุมมเทวาระดับหัวหน้าเขต ได้มานำลูกชายของลูกไปอยู่ด้วย
 
        เมื่อกาลเวลาได้ล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบัน ลูกชายของลูกก็ได้เติบโตขึ้นไปตามลำดับ ซึ่งในตอนนี้ลูกชายของลูก แลดูเหมือนเด็กหนุ่มที่มีอายุประมาณ 15-16-ปี และยังใช้ชีวิตอยู่กับภุมมเทวาระดับหัวหน้าเขตท่านนี้อยู่ ซึ่งตัวเขาก็มีความเป็นอยู่ที่สุขสบายดี เพราะท่านภุมมเทวาระดับหัวหน้าเขตท่านนี้ ได้เลี้ยงดูลูกชายของลูกเป็นอย่างดีมาโดยตลอด
 
ขณะนี้ลูกชายของลูกมีอายุประมาณ 15 ปี ในภพภูมิของภุมมเทวา
 
        ส่วนลูกชายของลูกจะได้ไปเกิดใหม่เมื่อไหร่และที่ไหนนั้น ก็คงต้องรอเหตุและปัจจัยแห่งการไปเกิดใหม่ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 ประการ กล่าวคือ
 
1.รอเวลาอันเหมาะสมที่ลูกชายของลูกจะไปเกิด หมายถึง รอเวลาที่บุญเก่าของเขาได้ช่องส่งผล ถ้าบุญเก่าได้ช่องส่งผลเมื่อไหร่ ก็ต้องมีปัจจัยข้อที่ 2 ตามมา
 
2.รอครอบครัวที่มีกำลังบุญพอเหมาะพอสมกับกำลังบุญของลูกชายของลูก
 
        วันใดที่องค์ประกอบทั้งสองประการนี้ครบถ้วนบริบูรณ์ วันนั้น...ภุมมเทวาระดับหัวหน้าเขตท่านนี้ ก็จะส่งให้ลูกชายของลูกไปเกิดใหม่ในทันที
 
การจะไปเกิดต้องรอเวลาบุญเก่าส่งผล และรอครอบครัวที่มีกำลังบุญพอๆกัน
 
        ส่วนวิธีที่จะช่วยให้ลูกชายของลูกมีความสุขยิ่งๆขึ้นไปในปรโลกนั้น ตัวลูกก็ต้องหมั่นทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา อยู่เป็นนิจ เมื่อตัวลูกได้สั่งสมบุญทุกบุญอย่างถูกหลักวิชาแล้ว ก็ให้ลูกนั่งสมาธิ พร้อมกับนึกถึงบุญทุกๆบุญที่ตัวลูกได้เคยทำผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นบุญที่ตัวลูกเคยทำในพระพุทธศาสนา หรือบุญที่ตัวลูกเคยทำสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือชาวโลก โดยให้ลูกนึกถึงบุญเหล่านี้ด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปลื้มปีติสุข อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด
 
ลูกต้องหมั่นทำบุญแล้วอุทิศไปให้ลูกชายของลูก
 
        จากนั้น ก็ให้ตัวลูกนึกถึงลูกชายของลูกไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด พร้อมกับนึกอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลทั้งหมดนี้ ส่งไปให้กับลูกชายของลูก เมื่อตัวลูกได้อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งไปให้เขาในทุกๆครั้งที่ลูกทำบุญแล้ว กระแสบุญเหล่านี้ก็จะส่งผ่านไปเชื่อมติดอยู่ที่ศูนย์กลางกายของเขา ซึ่งบุญเหล่านี้จะส่งผลทำให้ลูกชายของลูก มีรูปกายที่สว่างไสวยิ่งๆขึ้นไป อีกทั้งจะทำให้ชีวิตในปรโลกของเขา มีความสุขและดียิ่งๆขึ้นไปกว่าเดิมอีกด้วย นอกจากจะมีผลทำให้ลูกชายของลูกมีความสุขในปรโลกยิ่งๆขึ้นไปแล้ว บุญทุกๆบุญที่ลูกได้ทำและอุทิศส่งไปให้เขานี้ จะเป็นเสมือนสายใยแห่งความรักและความคิดถึงที่จะทำให้ลูกชายของลูกรับรู้ว่า “ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหน พ่อของเขาคนนี้ก็ยังคงรักและคิดถึงเขาอยู่เสมอ”
 
บุญที่ลูกอุทิศไปให้จะทำให้ลูกชายของลูกมีความสุข ยิ่งๆขึ้นไปในปรโลก
 
        แต่ถ้าตัวลูกต้องการให้ลูกชายของลูกได้ไปอยู่ในภพภูมิที่สูงยิ่งๆขึ้นไปกว่านี้ ตัวลูกก็ต้องตั้งใจและขยันนั่งธรรมะให้เข้าถึงพระธรรมกายภายในให้ได้ เมื่อลูกเข้าถึงพระธรรมกายภายในได้แล้ว ก็ให้มาศึกษาวิชชาธรรมกาย ลูกจะได้อาศัยอานุภาพแห่งวิชชาธรรมกาย ไปหาลูกชายของลูกในปรโลก เหมือนอย่างที่คุณยายอาจารย์ของเรา ได้ใช้วิชชาธรรมกายไปช่วยบิดาของท่านขึ้นมาจากยมโลก ที่สำคัญที่สุด...นอกจากลูกจะได้พบกับลูกชายของลูกแล้ว ลูกยังจะได้อธิบายให้ลูกชายของลูกได้เข้าใจเรื่องบุญและการอนุโมทนาบุญ ด้วยตัวของลูกเองอีกด้วย เมื่อลูกทำได้เช่นนี้ ลูกชายของลูกก็จะสามารถรับบุญทุกๆบุญที่ลูกได้ทำ แล้วอุทิศส่งไปให้เขาได้อย่างเต็มที่ และเมื่อบุญของเขามีกำลังมากพอที่จะเปลี่ยนภพภูมิไปอยู่บนสวรรค์ชั้นที่สูงกว่านี้ได้ เมื่อนั้น...ลูกชายของลูกก็จะพ้นจากการเป็นภุมมเทวาที่มีวิมานอยู่บนโลกมนุษย์ แล้วขึ้นไปเสวยสุขอยู่บนสุคติโลกสวรรค์ ที่ละเอียด ประณีต และมีความสุข มากกว่าที่เขาได้รับอยู่ในตอนนี้มากมายนัก
 
ลูกต้องนั่งธรรมะจนเข้าถึงองค์พระภาย และเรียนวิชชาธรรมกายเพื่อไปหาลูกชายในปรโลก
 
คำถามข้อที่ 3.ผมเคยสร้างบุญร่วมกันมาอย่างไรกับเทพธิดาข้างกาย เราจึงต้องมาเจอกันในช่วงบั้นปลายชีวิตครับ
 
        ในพุทธันดรที่ผ่านมา ตัวลูกและเทพธิดาข้างกายของลูกในภพชาติปัจจุบัน ก็ได้สร้างบารมีร่วมกันกับหมู่คณะมาโดยตลอด เรื่องมีอยู่ว่า...ในพุทธันดรที่ผ่านมา ตัวลูกได้เกิดเป็นเจ้าชายรูปงาม โดยเป็นโอรสของพระราชอนุชาของกษัตริย์พระองค์หนึ่ง ที่ปกครองแคว้นๆหนึ่งซึ่งตั้งอยู่บนเกาะขนาดใหญ่ ซึ่งเกาะแห่งนี้เป็นหนึ่งในหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นพระราชาองค์ที่ออกบวช 
 
ลูกเคยเกิดเป็นเจ้าชายของแคว้นแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะขนาดใหญ่
 
        แต่ก่อนที่จะกล่าวถึงเรื่องราวของตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมา ต้องขอเกริ่นถึงลักษณะทางภูมิประเทศ และลักษณะทางการเมือง การปกครอง ของหมู่เกาะแห่งนี้ก่อนสักเล็กน้อย...สำหรับหมู่เกาะทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นพระราชาองค์ที่ออกบวชแห่งนี้ จะประกอบไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ จึงมีการทำสัญญาแบ่งเขตการปกครองหมู่เกาะต่างๆออกเป็นสามเขตหรือสามแคว้นใหญ่

บนเกาะแห่งนี้แบ่งออกเป็นสามแคว้นใหญ่ๆ คือ แคว้นที่หนึ่ง แคว้นที่สอง และแคว้นที่สาม

        โดยในแต่ละแคว้นจะมีกษัตริย์ที่ทำหน้าที่ปกครอง และดูแลพื้นที่ในเขตของตนเอง ซึ่งตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมานั้น ได้มาเกิดเป็นโอรสของพระราชอนุชาของกษัตริย์ที่ปกครองแคว้นที่หนึ่ง ด้วยความที่พื้นที่ทำกินของแต่ละแคว้นมีน้อย เพราะส่วนใหญ่เป็นเกาะเป็นแก่ง จึงทำให้แคว้นทั้งสาม เกิดการกระทบกระทั่งเพื่อแย่งชิงดินแดนกันอยู่บ่อยๆ
 
แต่ละแคว้นจะมีกษัตริย์ปกครองพื้นที่ของตนเอง
 
        ดังนั้น เมื่อตัวลูกเติบใหญ่ ลูกจึงได้รับมอบหมายให้ไปดูแลกองทัพที่ประจำการอยู่ตามเขตหัวเมืองชายแดนของแคว้นที่หนึ่ง ทั้งทางบกและทางน้ำ ส่วนพื้นที่ซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของเกาะนั้น คุณพ่อของลูกในพุทธันดรที่ผ่านมา หรือพระราชอนุชาของกษัตริย์ (ต่อไปจะเรียกว่า คุณพ่อของลูก)-เป็นผู้ดูแล ทั้งตัวลูกและคุณพ่อของลูกจะเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจของกษัตริย์ประจำแคว้นที่หนึ่งเป็นอย่างมาก เนื่องจากตัวลูกและคุณพ่อของลูกได้ทำหน้าที่ดูแลหัวเมืองตามเขตแนวชายแดนแห่งนั้นอย่างเข้มแข็ง
 
ลูกได้รับมอบหมายให้ไปดูแลกองทัพที่ประจำการอยู่ ตามเขตหัวเมืองชายแดน
 
        ด้วยความที่ตัวลูกดูแลหัวเมืองตามเขตแนวชายแดนอย่างเข้มแข็งนี้เอง จึงทำให้อีกสองแคว้นที่เหลือ (หมายถึงแคว้นที่สองและแคว้นที่สาม)-ไม่กล้าที่จะเข้ามารุกราน หรือปะทะกับแคว้นของลูก จากจุดนี้เอง...จึงเป็นผลทำให้ประชาชนทุกคนภายในแคว้นที่ตัวลูกอาศัยอยู่นี้ ต่างใช้ชีวิตอย่างร่มเย็นเป็นสุข และด้วยความที่ตัวลูกคอยดูแลประชาชนที่อาศัยอยู่ตามเขตแนวชายแดนที่ตัวลูกดูแล อย่างใกล้ชิด ชาวบ้านทุกคนจึงรักและเคารพตัวลูกเป็นอย่างมาก 
 
ลูกดูแลประชาชนในเขตปกครองของตนเองเป็นอย่างดี
 
        นอกจากตัวลูกจะดูแลชาวบ้านในเขตพื้นที่ที่ตัวเองรับผิดชอบแล้ว ในยามที่ชาวบ้านตามเขตหัวเมืองที่อยู่ใกล้เคียงกับเขตหัวเมืองที่ลูกดูแลอยู่ ถูกกลุ่มโจรสลัดหรือกลุ่มกองโจรออกอาละวาดปล้นสะดมชิงทรัพย์ ลูกก็จะส่งกองกำลังไปช่วยปราบปรามเหล่าโจรสลัดและกองโจรเหล่านั้น ซึ่งเป็นผลทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามเขตหัวเมืองชายแดนที่ตัวลูกดูแลอยู่ รวมถึงพื้นที่โดยรอบมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีและมีเศรษฐกิจที่มั่นคงไปตามๆกัน 
 
ประชาชนในเขตปกครองของลูกต่างอยู่ดีมีสุข
 
        เมื่อเวลาผ่านไปได้สักระยะ ก็ได้มีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นในบริเวณเขตหัวเมืองชายแดนที่ตัวลูกดูแลอยู่ ส่วนสาเหตุก็เกิดมาจากแคว้นที่สองและแคว้นที่สามได้รวมหัวกัน เพื่อหวังจะยึดครองเขตหัวเมืองที่ตัวลูกดูแลอยู่ ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้เกิดการปะทะระหว่างกองกำลังจากแคว้นของลูกและแคว้นทั้งสอง แต่ด้วยความที่แคว้นทั้งสองได้รวมกองทัพ และยกพลกันมาเต็มอัตราศึก จึงทำให้กองทัพที่ลูกดูแลอยู่ แม้จะเก่งกาจขนาดไหน แต่ก็ยากที่จะรับมือกับกองทัพจากแคว้นทั้งสองได้
 
ต่อมากองทัพของแคว้นที่สองและแคว้นที่สาม ได้ร่วมกันมาโจมตีกองทัพของลูก
 
        เมื่อเห็นท่าไม่ดี ลูกจึงประกาศให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่หัวเมืองแห่งนั้น อพยพออกจากเมืองในทันที ครั้นกองกำลังทหารของแคว้นที่สองและแคว้นที่สามกรูเข้ามาในเขตพื้นที่ของลูกได้แล้ว กองกำลังทหารของลูกก็ถูกกองกำลังจากแคว้นทั้งสองตีแตกกระจุยกระจาย และในขณะนั้นเอง เมื่อตัวลูกได้เห็นสภาพของชาวบ้านที่ต้องหอบลูกจูงหลานหนีภัยสงคราม และเห็นเหล่าทหารหาญที่ลูกดูแลอยู่บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ลูกก็พลันรู้สึกสลดใจกับภาพเหตุการณ์ที่มนุษย์ต้องมาฆ่าฟันกันเองเป็นอย่างมาก
 
เมื่อสู้ไม่ไหวลูกจึงสั่งให้ประชาชนอพยพหนีข้าศึก
 
        ในระหว่างที่กองทัพของลูกกำลังเพรี่ยงพร้ำกองทัพของข้าศึกอยู่นั้น กองทัพใหญ่ที่คุณพ่อของลูกดูแลอยู่ก็ยกทัพมาช่วยทันเวลาพอดี ซึ่งเป็นผลทำให้กองทัพของฝ่ายข้าศึกถูกกองทัพใหญ่สวนกลับ จนต้องถอยร่นออกไปแบบไม่เป็นท่า เมื่อตัวลูกและคุณพ่อของลูกได้พบกันแล้ว ลูกก็ทราบข้อมูลจากคุณพ่อของลูกว่า “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ แท้ที่จริงแล้ว คุณอาของลูกเป็นไส้ศึกที่คอยวางแผน และบอกจุดอ่อนให้ฝ่ายตรงข้ามได้รู้วิธีในการเข้ามาตีหัวเมืองที่ลูกดูแลอยู่”-ครั้นตัวลูกได้ทราบความจริงทั้งหมดแล้ว ลูกก็ยิ่งรู้สึกสลดใจหนักขึ้นไปกว่าเดิมที่คนกันเองกลับมาทรยศ และแทงข้างหลังกันขนาดนี้
 
ต่อมากองทัพของคุณพ่อของลูกในชาตินั้นได้ตามมาช่วย
 
        เมื่อกองทัพของฝ่ายข้าศึกได้ถูกกองทัพใหญ่สวนกลับ จนต้องถอยร่นกลับออกไปแล้ว คุณพ่อของลูกก็ไม่รอช้า รีบวางแผนตีโต้รุกกลับเข้าไปในเขตแดนของแคว้นที่สามในทันที เมื่อวางแผนกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณพ่อของลูกและตัวลูกก็ได้นำกองทัพทั้งหมดไปร่วมออกรบด้วยกัน ครั้นไปถึงเมืองหน้าด่านของแคว้นที่สามแล้ว กองทัพทั้งหมดก็ได้กรีฑาทัพบุกเข้าโจมตีอย่างไม่ให้กองทัพของฝ่ายข้าศึกได้ทันตั้งตัว และด้วยความที่คุณพ่อของลูกวางแผนมาเป็นอย่างดี กองทัพใหญ่จึงสามารถบุกทะลวงเข้ายึดเมืองหลวงของแคว้นที่สามได้ในที่สุด
 
ลูกและคุณพ่อของลูกในชาตินั้นได้บุกไปยึดแคว้นที่สามได้
 
        เมื่อกองทัพใหญ่ซึ่งคุณพ่อของลูกและตัวลูกเป็นผู้คุมกองทัพ สามารถเข้ายึดเมืองหลวงของแคว้นที่สามได้แล้ว ตัวลูกก็ได้รับคำสั่งจากส่วนกลางให้เป็นผู้ดูแลจัดการกับแคว้นที่เพิ่งยึดมาได้ ส่วนทางฝ่ายคุณพ่อของลูกก็ไม่รอช้า รีบวางแผนและรวบรวมกองกำลังทหารเพื่อที่จะไปตีแคว้นข้าศึกที่เหลือ ซึ่งก็คือแคว้นที่สองต่อไป ด้วยตั้งใจว่า “ในคราวนี้แหละ เราจะจัดการถอนรากถอนโคนให้สิ้นซาก”-และเมื่อตัวลูกได้เห็นสภาพบ้านเมืองที่กลายเป็นซากปรักหักพัง และสีหน้าของประชาชนภายในแคว้นที่สามที่ต่างกำลังเศร้าโศกเสียใจในภัยสงครามที่เกิดขึ้น ซึ่งภาพที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ไม่ต่างจากภาพตอนที่ตัวลูกได้เห็นประชาชนภายในเมืองของตนเองอพยพหนีออกจากเมืองเพราะภัยสงครามเลย ดังนั้น เมื่อตัวลูกได้เห็นภาพอันชวนสลดหดหู่ใจเช่นนี้อีกครั้ง ตัวลูกจึงยิ่งรู้สึกสลดใจแบบทับทวีคูณหนักขึ้นไปกว่าเดิม 
 
ลูกรู้สึกสลดใจในภัยจากสงคราม
 
        เมื่อตัวลูกรู้สึกสลดหดหู่ใจ และเห็นพิษภัยของสงครามเช่นนี้แล้ว ตัวลูกจึงปกครองและดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนภายในแคว้นที่สาม ซึ่งในตอนนี้ได้กลายเป็นแคว้นประเทศราชของแคว้นที่หนึ่ง ให้กินดีอยู่ดีประดุจเป็นประชาชนภายในแคว้นบ้านเกิดของตัวเอง และที่สำคัญ...ตัวลูกได้สั่งห้ามกองกำลังทหารของตัวเองไปเบียดเบียนและรังแกพวกชาวบ้านในแคว้นที่สามอีกด้วย 
 
ลูกปกครองประชาชนในแคว้นประเทศราชเสมือนว่า เป็นประชาชนในบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง
 
        ด้วยความที่ตัวลูกรู้สึกเบื่อสงคราม และหดหู่ใจที่มนุษย์ต้องมาฆ่าฟันกันเอง อย่างสุดขีด ลูกจึงตั้งมโนปณิธานอย่างแน่วแน่ว่า “นับต่อแต่นี้ไป เรานี่แหละ...ที่จะเป็นผู้หยุดสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น”-เพราะตัวลูกรู้สึกสงสารพวกชาวบ้านที่ต้องมาเสียชีวิต และได้รับความเดือดร้อน อันสืบเนื่องมาจากผลกระทบของภัยสงคราม เมื่อตัวลูกมีความตั้งใจ เช่นนี้แล้ว ลูกจึงได้ไปเจรจากับคุณพ่อของลูก เพื่อให้ท่านชะลอการเคลื่อนกองทัพไปตีแคว้นที่สอง โดยตัวลูกจะขอทำหน้าที่เป็นทูตสันถวไมตรี ไปเจรจาให้พระราชาของแคว้นที่สองยอมแพ้แต่โดยดี ซึ่งคุณพ่อของลูกก็ได้ตอบตกลงกับข้อเสนอของลูก
 
ลูกได้อาสาที่จะเป็นทูตไปเจรจากับแคว้นข้าศึก ให้ยอมแพ้แต่โดยดี
 
        เมื่อทุกฝ่ายเห็นพร้อมว่า จะใช้สันติวิธีในการเข้ายึดครองแคว้นที่สองแล้ว ลูกจึงได้เดินทางไปเจรจากับพระราชาของแคว้นที่สองในทันที ซึ่งในช่วงแรกๆของการเจรจาหย่าศึกนั้น พระราชาของแคว้นที่สองไม่มีท่าทีที่จะตอบรับกับข้อเสนอใดๆเลยทั้งสิ้น อีกทั้งยังประกาศกร้าวที่จะยอมสู้ตายเพื่อปกป้องอธิปไตยภายในแคว้นของตนเองอีกด้วย แต่สุดท้าย...ด้วยความที่ตัวลูกมีความตั้งใจอยากจะให้สันติภาพระหว่างแคว้นเกิดขึ้นจริงๆ กอปรกับการเจรจาในครั้งนี้ ตัวลูกได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหญิงผู้มีสิริโฉมงดงามพระองค์หนึ่ง (คือ เทพธิดาข้างกายของลูกในภพชาติปัจจุบัน)-ซึ่งในขณะนั้น...เธอได้เดินทางมาทำหน้าที่เป็นทูตทางการค้าให้กับแคว้นกันชนฝั่งทิศเหนือพอดี
 
การเจรจาในครั้งนี้ได้รับความช่วยเหลือจาก เจ้าหญิงแห่งแคว้นกันชนฝั่งทิศเหนือ
 
โปรดติดตามตอนต่อไป...เจ้าชายผู้รักสันติภาพ
 
ชม Video Scoop สงครามนำมาซึ่งความสูญเสีย

รับชมคลิปวิดีโอสงครามนำมาซึ่งความสูญเสีย
ชมวิดีโอสงครามนำมาซึ่งความสูญเสีย  MP3 ธรรมะสงครามนำมาซึ่งความสูญเสีย   Download ธรรมะสงครามนำมาซึ่งความสูญเสีย


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
Change the World in JohannesburgChange the World in Johannesburg

พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนที่ 61 อัธยาศัยของพระโพธิสัตว์พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนที่ 61 อัธยาศัยของพระโพธิสัตว์

หยุดตามกระแสโลก เกาะติดกระแสบุญหยุดตามกระแสโลก เกาะติดกระแสบุญ



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน