วางความเชื่อดั้งเดิมไว้ชั่วคราว
นับจากวันเข้าพรรษามาได้ 55 วันแล้ว เหลืออีกเพียง 35 วัน ก็จะออกพรรษาแล้ว เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เดี๋ยววันเดี๋ยวคืนเดี๋ยวก็จะหมดเวลากันแล้ว เวลาแห่งการสร้างบารมีด้วยกายมนุษย์มันกระชั้นเข้ามาเรื่อย ๆ ภายในพรรษานี้เรานับกันวันต่อวันเลย เพื่อที่เราจะได้ไม่ประมาท ไม่ชะล่าใจว่ายังเหลือเวลาอีกตั้งเยอะในพรรษา ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ได้นานเท่าไรพรรษานี้เราตั้งใจกันว่าจะประพฤติปฏิบัติธรรมให้เต็มที่ เพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายในตัว ไม่ว่าจะเป็นพระหรือคฤหัสถ์ เพราะฉะนั้นพระต้องเห็นพระ เณรต้องเห็นพระ โยมก็ต้องเห็นพระ พรรษานี้ก็เลยตั้งชื่อว่า พรรษาแห่งการบรรลุธรรม คำเต็มคือ บรรลุพระธรรมกาย เป็นพระรัตนตรัยในตัวซึ่งมีอยู่ทุก ๆ คนในโลก
ไม่ว่าเชื้อชาติศาสนาหรือเผ่าพันธุ์ใดก็ตาม จะเชื่อหรือไม่เชื่อรู้หรือไม่รู้ก็แล้วแต่ ทุกคนล้วนมีพระรัตนตรัยในตัวไม่ว่าเราจะไปเกิดในครอบครัวที่มีความเชื่อแตกต่างจากชาวพุทธก็ตาม หรือจะปฏิเสธพระแค่ไหน เจอพระพุทธรูปก็ทุบบ้าง ทำลายบ้างไม่อยากเห็นบ้าง หรือให้เอาออกจากห้องก็ตาม แม้จะปฏิเสธแค่ไหนก็ยังมีพระรัตนตรัยอยู่ในตัว แต่เราไม่รู้ เพราะไม่ให้โอกาสตัวเองได้ศึกษาเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตเพิ่มเติมจากความรู้ที่เราเคยได้ยินได้ฟังมาจากบรรพบุรุษ หรือจากครอบครัวที่เขาเล่าสู่กันฟังเราปิดหูปิดตาตัวเอง เหมือนอยู่ในกรอบ อยู่ในเส้นรอบวง แต่ถ้าหากเราตัดเส้นรอบวงออก ลืมไปชั่วคราวว่าเรามีความเชื่ออย่างไร แล้วทำใจให้เป็นอิสระ ทำใจให้เป็นสากล ไม่ว่าความรู้อะไรเราศึกษาทั้งนั้น เหมือนเวลาเราเข้าเรียนในโรงเรียน ตั้งแต่ชั้นประถม มัธยม เตรียมอุดม อุดมศึกษามีความรู้อะไรเราก็ศึกษาทั้งนั้น ความรู้เป็นของสากลเหมือนอากาศที่ทุกคนขาดไม่ได้ เมื่อศึกษาแล้วก็ใช้สติปัญญาพิจารณาเอาว่าควรจะเชื่อหรือไม่เชื่อแค่ไหน ดีกว่าปิดหูปิดตาปิดโอกาสตัวเอง มันต้องเปิดโอกาสให้กับตัวเองได้ศึกษาความรู้อันยิ่งใหญ่และเป็นความรู้ที่แท้จริงจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ ทุกคนล้วนมีพระรัตนตรัยอยู่ในตัว ไม่เชื่อก็ลองดูสิ ถ้าไม่มีก็เจ๊ากัน เท่าทุน ไม่มีขาดทุน
ดังนั้นควรจะมาศึกษา อย่าให้โอกาสเป็นวิกฤติ ตอนนี้ความรู้ที่แท้จริงยังมีอยู่ ยังถูกบันทึกเก็บเอาไว้ และยังมีผู้ที่ได้ศึกษาเรียนรู้ไปถึงในระดับหนึ่งแล้ว เรายังแข็งแรงสดชื่นควรจะให้โอกาสตัวเองได้มาศึกษา ถ้าเราปล่อยจนกระทั่งถึงวัยชราแก่หง่อม เป็นอุ้ยเป็นหม่อน เป็นทวด เป็นปู่ทวดไปแล้ว หรืออยู่บนเตียงผู้ป่วยแล้วก็ไม่ไหวโอกาสก็จะเป็นวิกฤติ ถ้าไม่เตรียมเนื้อเตรียมตัวให้ดีสักวันหนึ่ง ถ้าเราไม่ตายด้วยอุบัติเหตุ เราต้องอยู่บนเตียงผู้ป่วยแน่นอน ไม่ว่าเตียงนั้นจะอยู่ในบ้านหรือนอกบ้านก็ตาม อย่างไรก็ต้องอยู่ถ้าไม่เตรียมตัวไว้ เราไม่พร้อมนะลูกนะ ไม่พร้อมนี่เป็นอันตรายสำหรับชีวิตเพราะว่ามันมีสูตรชีวิตอยู่ สูตรที่จะไปสู่ปรโลกขึ้นอยู่กับความหมองความใสของใจ ถ้าใจผ่องใสไม่เศร้าหมองก็เป็นรหัสผ่านไปสู่สุคติโลกสวรรค์ ถ้าใจหมองไม่ผ่องใสก็เป็นรหัสผ่านไปสู่อบาย ตรงนี้อันตรายสำหรับเรา
เพราะฉะนั้น เตรียมเนื้อเตรียมตัวของเราให้ดี สักวันหนึ่งเราจะต้องมีสภาพอย่างนั้น มันหมดเรี่ยวหมดแรงเลยนะ แต่ถ้าเราเตรียมตัวอย่างดี แม้อยู่บนเตียงผู้ป่วย ขยับเนื้อขยับตัวไม่ไหว ก็ป่วยอย่างสง่างาม อย่างองอาจไม่หวาดหวั่นในมรณภัย ไม่ตีโพยตีพาย ไม่วิตกกังวลว่าตายแล้วจะไปไหนก็ไม่รู้ บุญกุศลเราก็ไม่ได้ทำเอาไว้ ถ้าเกิดนรกมีจริงเราท่าจะแย่ จะได้ไม่ต้องไปนอนกลุ้มกันตอนนั้น
เพราะฉะนั้น เตรียมเนื้อเตรียมตัวของเราให้ดี สักวันหนึ่งเราจะต้องมีสภาพอย่างนั้น มันหมดเรี่ยวหมดแรงเลยนะ แต่ถ้าเราเตรียมตัวอย่างดี แม้อยู่บนเตียงผู้ป่วย ขยับเนื้อขยับตัวไม่ไหว ก็ป่วยอย่างสง่างาม อย่างองอาจไม่หวาดหวั่นในมรณภัย ไม่ตีโพยตีพาย ไม่วิตกกังวลว่าตายแล้วจะไปไหนก็ไม่รู้ บุญกุศลเราก็ไม่ได้ทำเอาไว้ ถ้าเกิดนรกมีจริงเราท่าจะแย่ จะได้ไม่ต้องไปนอนกลุ้มกันตอนนั้น