กรณีศึกษาคุณหมอปุ้ยตายแล้วไปไหน ตอนที่ 5


[ 9 ม.ค. 2556 ] - [ 18271 ] LINE it!

 
ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 7 มกราคม พ.ศ.2556
 
 
 
Case Study
คุณหมอปุ้ยตายแล้วไปไหน ตอนที่ 5
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
  
  
 
        จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง พระภิกษุหนุ่มรูปนี้ก็ได้เกิดอาการอาพาธหรือล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน เมื่อเธอทราบข่าว เธอก็ได้ขอเป็นเจ้าภาพในการดูแลรักษาพยาบาลพระภิกษุหนุ่มรูปนี้ และที่พิเศษกว่าทุกๆ ครั้ง และทุกๆ เคสคือในครั้งนี้เธอได้แวะมาเยี่ยมเยียน และคอยดูแลอาการของพระภิกษุหนุ่มรูปนี้อย่างใกล้ชิด ชนิดที่เรียกว่าเอาใจใส่มากกว่าตอนอุปัฏฐากดูแลพระภิกษุรูปอื่นๆ ทั้งหมด
 
วันหนึ่งพระภิกษุหนุ่มรูปนี้ได้เกิดอาการอาพาธอย่างกะทันหัน
วันหนึ่งพระภิกษุหนุ่มรูปนี้ได้เกิดอาการอาพาธอย่างกะทันหัน
 
 
        และด้วยความใกล้ชิดของคนทั้งคู่เป็นเหตุ อีกทั้งในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทั้งคู่ต่างก็มีความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันตั้งแต่แรกเจอ เมื่อเป็นเช่นนี้ทั้งคู่จึงเผลอใจปล่อยให้กิเลสได้ช่องเข้าไปทำงานอยู่ภายในใจ เมื่อกิเลสเข้าไปทำงานอยู่ภายในใจของคนทั้งคู่แล้ว กิเลสซึ่งพญามารสอดมานั้นลักษณะเป็นดวงดำๆ ก็ได้ขยายผลโดยเอาเชื้อหรือผังที่ทั้งคู่เคยใช้ชีวิตคู่ร่วมกันในหลายภพชาติก่อนๆ นู้นซึ่งยาวนานมากๆ ให้กลายเป็นภาพที่ติดตรึงอยู่ภายในใจของคนทั้งคู่ กล่าวคือถ้าหากย้อนอดีตก่อนพุทธันดรที่ผ่านมาไปอีกไกลๆ แสนไกลนู้น ก็มีอยู่หลายชาติที่ทั้งเธอและพระภิกษุหนุ่มรูปนี้เคยใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมาก่อน
 
ทั้งคู่จึงเผลอใจปล่อยให้กิเลสได้ช่องเข้าไปทำงานอยู่ภายในใจ
ทั้งคู่จึงเผลอใจปล่อยให้กิเลสได้ช่องเข้าไปทำงานอยู่ภายในใจ
 
        ดังนั้นเมื่อทั้งคู่ได้มาเจอกันอีกในพุทธันดรที่ผ่านมา ผังแห่งความผูกพันในแบบคนรักจึงยังพอมีเชื้อให้กิเลสนำมาขยายผลอยู่ภายในใจของคนทั้งคู่ เพียงแต่ว่าของฝ่ายชายหรือฝ่ายของพระภิกษุหนุ่มรูปนี้ จะเจือจางและเบาบางกว่าของฝ่ายหญิง เพราะโดยส่วนใหญ่ในหลายภพชาติหลังๆ ก่อนหน้าจะถึงพุทธันดรที่ผ่านมา ฝ่ายชายหรือฝ่ายของพระภิกษุหนุ่มรูปนี้จะตั้งใจสั่งสมเนกขัมมะบารมีหรือออกบวชสร้างบารมีมาโดยตลอด และด้วยเหตุที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จึงส่งผลทำให้ทั้งคู่โดยเฉพาะฝ่ายหญิง เผลอใจเกิดมีจิตปฏิพัทธ์ หรือมีจิตที่คิดรักใคร่แบบชายหนุ่มและหญิงสาวต่อกัน จากเรื่องดังกล่าวนี้สอนให้เรารู้ว่า “ทุกอย่างเผลอเป็นเสร็จ
 
        ดังนั้นภายหลังจากที่พระภิกษุหนุ่มรูปนี้หายจากอาการป่วยแล้ว ด้วยความที่พระภิกษุหนุ่มรูปนี้ปล่อยให้อำนาจกิเลส ซึ่งก็คือความรักและความหลงเข้าครอบงำจิตใจ จึงทำให้ภายในใจของพระภิกษุหนุ่มรูปนี้ นึกถึงแต่ภาพของการสึกออกไปอยู่กินกับหญิงสาว คือทำให้เห็นแต่ภาพดีเพียงด้านเดียว ซึ่งก็คือด้านที่พญามารเขาสอดมาว่า “ถ้าตัวเองสึกออกไปแล้วชีวิตคู่จะมีแต่ความหวานชื่น และเธอคนนี้จะนำมาซึ่งความสุขอันหอมหวานสดชื่น เป็นต้น” และเมื่อภาพภายในใจวนเวียนแต่เรื่องราวแบบนี้มากเข้า มากเข้า ความกำหนัดยินดีในกามก็เลยครุกรุ่นอยู่ภายในใจ แล้วก็ไปบีบบังคับทำให้พระภิกษุรูปหนุ่มรูปนี้ทนอยู่ในเพศภาวะอันประเสริฐนี้ไม่ไหว
 
ภายในใจของพระภิกษุหนุ่มรูปนี้ นึกถึงแต่ภาพของการสึกออกไปอยู่กินกับหญิงสาว
ภายในใจของพระภิกษุหนุ่มรูปนี้ นึกถึงแต่ภาพของการสึกออกไปอยู่กินกับหญิงสาว
 
        และด้วยเหตุดังกล่าวนี้เอง จึงส่งผลทำให้พระภิกษุหนุ่มรูปนี้ยอมละทิ้งมโนปณิธานที่จะออกบวชสร้างบารมีตามพระเถระไปจนตลอดชีวิต หรือพูดง่ายๆ ก็คือตัดสินใจลาสิกขาหรือสึกออกมาขอเธอแต่งงานนั่นเอง ซึ่งเธอก็ได้ตอบตกลงด้วยความเต็มใจ แล้วก็ดีใจ ทั้งๆ ที่ครอบครัวของเธอ ซึ่งก็ถือว่าเป็นครอบครัวที่เข้าวัดกันทั้งบ้าน ต่างก็ไม่เห็นด้วยและคัดค้านกับการตัดสินใจของคนทั้งคู่ในครั้งนี้
        แต่ด้วยความที่ทั้งคู่ต่างก็ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือความถูกต้อง คือต่างก็ปล่อยใจให้อำนาจกิเลสซึ่งก็คือความรักและความหลงเข้าครอบงำจิตใจ จึงเป็นผลทำให้แม้จะมีเสียงคัดค้านจากผู้หลักผู้ใหญ่หรือคนในครอบครัวโดยเฉพาะของฝ่ายหญิง แต่ทั้งคู่ก็ไม่สนใจและยังคงยืนกรานที่จะแต่งงานอยู่กินกันแบบฉันท์สามีภรรยาให้ได้
 
ครอบครัวของฝ่ายหญิงต่างก็ไม่เห็นด้วยและคัดค้านกับการตัดสินใจของคนทั้งคู่
ครอบครัวของฝ่ายหญิงต่างก็ไม่เห็นด้วยและคัดค้านกับการตัดสินใจของคนทั้งคู่
 
        ซึ่งผลจากการกระทำของทั้งคู่ในครั้งนี้ แม้ดูผิวเผินจะเป็นเรื่องปกติของใครบางคนที่ยังไม่หมดกิเลส แต่ถ้าพิจารณากันให้ลึกซึ้งตามหลักของกฎแห่งกรรม และแง่มุมของนักสร้างบารมีที่มีเป้าหมาย ที่จะไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม ก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่สมควรที่จะกระทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะสิ่งเหล่านี้จะมีผลกระทบต่อชีวิตการสร้างบารมีของคนทั้งคู่ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นในภพชาติเดียวกันนั้น หรือในภพชาติต่อมา ซึ่งก็คือภพชาติปัจจุบันนี้ แล้วก็อาจจะตามส่งผลในภพชาติต่อๆ ไปอีกด้วย
 
        สำหรับผลกรรมที่ผู้หญิงคนไหนก็ตาม เกิดความคิด จนกระทั่งออกมาเป็นคำพูดแล้วก็ลงมือกระทำจนเป็นเหตุทำให้พระภิกษุรูปหนึ่งจำต้องสึกออกมา จะมีกำลังมากหรือน้อย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า พระภิกษุรูปนั้นเป็นพระที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบมากน้อยขนาดไหน อีกทั้งท่านใช้ระยะเวลาในการออกบวชมายาวนานเท่าใด และที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือพระภิกษุรูปนั้นมีมโนปณิธานในการบวชเป็นอย่างไร
 
ผู้หญิงคนไหนก็ตาม เกิดความคิดจนกระทั่งออกมาเป็นคำพูด แล้วลงมือกระทำจนเป็นเหตุทำให้พระภิกษุรูปหนึ่งจำต้องสึกออกมา
ผู้หญิงคนไหนก็ตาม เกิดความคิดจนกระทั่งออกมาเป็นคำพูด แล้วลงมือกระทำจนเป็นเหตุทำให้พระภิกษุรูปหนึ่งจำต้องสึกออกมา
 
 
        อย่างในกรณีแรก ถ้าหากพระภิกษุรูปนั้นเป็นพระที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบ อีกทั้งท่านยังเป็นพระที่มีมโนปณิธานในการออกบวชที่แน่วแน่มั่นคง คือตั้งใจที่จะออกบวชสร้างบารมีไปจนตลอดชีวิต แล้วเราเป็นต้นเหตุหรือมีส่วนทำให้พระภิกษุรูปนั้นจำต้องสึกออกมาไม่ว่าด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง ผลกรรมที่เกิดขึ้นก็จะมีกำลังมากๆ มากๆ เพราะเหมือนเราไปตัดรอนหนทางการสร้างบารมีของท่าน ซึ่งกว่าท่านจะสั่งสมเนกขัมมะบารมีจนมีมโนปณิธานแบบนี้ได้ ท่านต้องผ่านความยากลำบากและใช้ระยะเวลาในการสั่งสมบารมีมาอย่างยาวนาน ไม่เพียงเท่านั้น เรายังเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่า “เป็นผู้ที่มีส่วนทำให้อายุของพระพุทธศาสนาสั้นลงอีกด้วย”
 
หากพระภิกษุรูปนั้นเป็นพระที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ผลกรรมที่เกิดขึ้นจะมีกำลังมากๆ
หากพระภิกษุรูปนั้นเป็นพระที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ผลกรรมที่เกิดขึ้นจะมีกำลังมากๆ
 
        ซึ่งผลจากการกระทำดังกล่าวนี้ ก็จะกลายเป็น“กรรมที่มาตัดรอน” ทำให้กำลังบุญที่ตัวเราเคยสั่งสมเอาไว้ด้วยความยากลำบากในอดีตชาติ ไม่ว่าจะเป็นบุญอะไรก็ตามอ่อนกำลังลง นอกจากนั้น ถ้าเรามีวิบากกรรมหรือเศษกรรมที่มีกำลังเร็วแรงคอยตามส่งผลอยู่ ผลกรรมดังกล่าวนี้ ก็จะไปดึงดูดเอาวิบากกรรมหรือเศษกรรมเหล่านั้น ให้ตามมาส่งผลในแบบทันทีทันใดอีกด้วย เพราะฉะนั้นใครรู้แล้วจงอย่าประพฤติ แม้เพียงแค่คิดก็ไม่ได้
 
        ในกรณีที่สอง ถ้าพระภิกษุรูปที่เราเป็นเหตุทำให้ท่านจำต้องสึกออกมา เป็นพระที่ยังไม่มีมโนปณิธานในการบวชสร้างบารมีที่แน่วแน่มั่นคง หรือยังไม่มีความคิดที่จะบวชสร้างบารมีไปจนตลอดชีวิต แต่ก็เป็นพระที่ตั้งใจบวช ตั้งใจฝึกตัว แล้วก็มีความคิดที่จะบวชต่อไปเรื่อยๆ โดยยังไม่มีกำหนดสึก ผลกรรมที่เกิดขึ้นก็ยังถือว่ามีกำลังมาก แต่ก็ไม่มากเท่ากับกรณีแรก
 
การส่งผลจะมีกำลังมากน้อยขนาดไหน ขึ้นอยู่กับการตั้งใจฝึกตัวของพระภิกษุรูปนั้นๆ
การส่งผลจะมีกำลังมากน้อยขนาดไหน ขึ้นอยู่กับการตั้งใจฝึกตัวของพระภิกษุรูปนั้นๆ
 
        ส่วนต่างในการส่งผลจะมีกำลังมากน้อยขนาดไหน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตั้งใจฝึกตัวของพระภิกษุรูปนั้นๆ ว่าท่านเป็นพระที่ตั้งใจฝึกตัวมากน้อยแค่ไหน และท่านใช้ระยะเวลาในการบวชมายาวนานเท่าใด เช่นถ้าตั้งใจฝึกตัวมากและบวชมายาวนาน ผลกรรมที่เกิดขึ้นก็จะมีกำลังมาก แต่ถ้าตั้งใจฝึกตัวมากแต่บวชมาได้ไม่นาน ผลกรรมที่เกิดขึ้นก็จะมีกำลังลดลงไปตามส่วน อย่างนี้เป็นต้น
 
        ในกรณีที่สาม ถ้าพระภิกษุรูปที่เราเป็นเหตุทำให้ท่านจำต้องสึกออกมาเป็นพระที่ตั้งใจบวช แต่ท่านมีความตั้งใจที่จะสึกออกมาอยู่แล้ว หรือตั้งใจที่จะบวชเพียงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แล้วเราเป็นต้นเหตุทำให้ท่านจำต้องสึกออกมาก่อนกำหนด ผลกรรมที่เกิดขึ้น ก็จะขึ้นอยู่กับเจตนาของเราเป็นหลักว่า เรามีเจตนาให้ท่านสึกออกมาเพื่อวัตถุประสงค์อะไร เป็นเพราะเหตุจำเป็น หรือเป็นเพราะความต้องการของตัวเราเองกันแน่
 
ถ้าพระภิกษุท่านมีความตั้งใจที่จะสึกออกมาอยู่แล้ว ผลกรรมที่เกิดขึ้นก็จะขึ้นอยู่กับเจตนาของเราเป็นหลัก
ถ้าพระภิกษุท่านมีความตั้งใจที่จะสึกออกมาอยู่แล้ว ผลกรรมที่เกิดขึ้นก็จะขึ้นอยู่กับเจตนาของเราเป็นหลัก
 
        ถ้าเป็นเพราะเหตุจำเป็นจริงๆ เช่น มาตามให้สึกเพราะเกิดปัญหาที่เจ้าตัวต้องออกไปเคลียร์ด้วยตัวของเขาเองเท่านั้น เป็นต้น เราก็จะไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในกรรมตรงนี้ แต่ถ้าเป็นเพราะความต้องการของตัวเราเอง คือไม่มีเหตุจำเป็น แต่ก็อยากให้สึกออกมา ผลกรรมที่เกิดขึ้นก็จะมีกำลังมากในระดับหนึ่ง เพียงแต่กำลังในการส่งผลจะอยู่ในระดับของเศษกรรม คือไม่ได้มีกำลังมากเหมือนอย่างกรณีที่หนึ่งและกรณีที่สอง ซึ่งมีกำลังส่งผลอยู่ในระดับของวิบากกรรม
 
        จากที่คุณครูไม่ใหญ่ยกผลกรรมของฝ่ายหญิงมาทั้งสามกรณี มันเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่คุณครูไม่ใหญ่นำมาขยายความให้พวกเราได้ฟังพอเข้าใจเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงแล้ว มันยังมีองค์ประกอบ และมีรายละเอียดปลีกย่อยในการส่งผลของกรรมประเภทนี้อีกเยอะแยะมากมาย ซึ่งถ้าเราจะลงรายละเอียดกันอย่างจริงๆ มันก็จะยาวมาก เอาไว้โอกาสหน้า อาจจะนำมาขยายความแบบเจาะลึกให้ฟังกันอีกครั้งหนึ่ง
 
        แต่ที่แน่ๆ ใครก็ตามที่กำลังมีความคิดหรือกำลังจะลงมือกระทำกรรมในลักษณะแบบนี้ ก็ขอให้กลับไปคิดทบทวนใหม่ให้ดีๆ เพราะไม่เช่นนั้น เราอาจจะเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่า “เป็นผู้ที่มีส่วนทำให้อายุของพระพุทธศาสนาสั้นลง” ซึ่งผลกรรมที่เราจะได้รับ มันไม่คุ้มกันนะลูกนะ เห็นไหมจ๊ะว่าเรื่องราวของกฏแห่งกรรม เราจะละเลยหรือไม่ศึกษาไม่ได้
 
        และถ้าเราจะสรุปผลกรรมดังกล่าวนี้ในพุทธันดรที่ผ่านมา ที่เธอดูเหมือนจะเป็นผู้เริ่มต้นในการสานสายสัมพันธ์ที่เกินเลยก่อน คือเป็นฝ่ายที่พยายามเข้าไปทำความใกล้ชิดสนิทสนม จนเป็นเหตุทำให้พระภิกษุรูปหนึ่งซึ่งแต่เดิมมีความตั้งใจอยากที่จะสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา ด้วยการออกบวชสร้างบารมีไปจนตลอดชีวิต ต้องเปลี่ยนเป้าหมายในการออกบวชสร้างบารมีด้วยการสึกออกมาครองเรือน ก็ถือว่าเข้าข่ายในกรณีแรก เพียงแต่ผลกรรมที่เกิดขึ้นอาจจะไม่เข้มข้นมากถึงขนาดให้ผลแบบเต็มร้อย ที่เป็นเช่นนี้ ทั้งนี้ก็เพราะว่า พระภิกษุรูปนี้เพิ่งออกบวชมาได้ไม่นาน ดังนั้นระดับความเข้มข้นในการส่งผลของกรรมก็จะหย่อนลงมาตามส่วน ถึงแม้กำลังของมันจะหย่อนลงมา แต่มันก็ยังถือว่าเป็นกรรมมีกำลังมากอยู่ดี
 
ในพุทธันดรที่ผ่านมาดูเหมือนเธอจะเป็นผู้เริ่มต้นในการสานสายสัมพันธ์ที่เกินเลยก่อน
ในพุทธันดรที่ผ่านมาดูเหมือนเธอจะเป็นผู้เริ่มต้นในการสานสายสัมพันธ์ที่เกินเลยก่อน
 
 
        และด้วยผลจากการกระทำดังกล่าวนี้ ก็ได้ถูกเซ็ตจนกลายเป็น “กรรมที่มาตัดรอน” ทำให้กำลังบุญที่เธอเคยสั่งสมเอาไว้ด้วยความยากลำบากในอดีตชาติอ่อนกำลังลง เช่นทำให้อะไรที่เธอควรจะได้ ก็อาจจะไม่ได้ หรือถ้าได้ก็ต้องใช้เวลามากกว่าที่ควรจะเป็น เป็นต้น และในเวลาเดียวกัน กรรมดังกล่าวก็จะคอยหาจังหวะหรือหาช่องเพื่อไปดึงดูดเอาวิบากกรรม หรือเศษกรรมต่างๆ ที่เธอเคยทำผิดทำพลาดเอาไว้ในอดีตชาติ ซึ่งมีกำลังที่แรงที่สุด ให้มาส่งผลเร็วขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน
 
ด้วยผลจากการกระทำดังกล่าวนี้ ก็ได้ถูกเซ็ตจนกลายเป็นกรรมที่มาตัดรอน
ด้วยผลจากการกระทำดังกล่าวนี้ ก็ได้ถูกเซ็ตจนกลายเป็นกรรมที่มาตัดรอน
 
 
        ดังนั้นเมื่อเธอลงมาเกิดสร้างบารมีในภพชาติปัจจุบันนี้อีกครั้งหนึ่ง ผลกรรมดังกล่าว ซึ่งก็คือผลกรรมที่เธอเป็นต้นเหตุทำให้พระภิกษุหนุ่มรูปหนึ่ง ซึ่งแต่เดิมมีความตั้งใจอยากออกบวชสร้างบารมีไปจนตลอดชีวิตต้องสึกออกมาครองเรือน ก็ได้ตามมาส่งผลและหาช่องเข้ามาตัดรอนตั้งแต่ตอนเธอลงมาเกิดแล้ว คือทำให้รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติของเธอสมบูรณ์น้อยกว่าในภพชาติที่ผ่านๆ มา คือจริงๆ แล้วจะต้องสมบูรณ์กว่านี้
 
วิบากกรรมดังกล่าวจึงได้ช่องส่งผลให้เธอต้องล้มป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
วิบากกรรมดังกล่าวจึงได้ช่องส่งผลให้เธอต้องล้มป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
 
        นอกจากนั้นในช่วงเบื้องกลางของชีวิต วิบากกรรมดังกล่าวก็ได้ไปดึงดูดเอาวิบากกรรมปาณาติบาตในภพชาติก่อนๆ ที่มีกำลังเร็วแรง ซึ่งก็คือภพชาติที่เธอเป็นหมอรักษาโรคแล้ววินิจฉัยโรคคนไข้แบบผ่านๆ จนเป็นเหตุทำให้คนไข้รายนั้นซึ่งจริงๆ แล้วมีสิทธิ์รอด กลับต้องมาเสียชีวิตโดยไม่ได้เจตนา ให้มาส่งผลแบบปัจจุบันทันด่วน ซึ่งก็เป็นผลทำให้เธอต้องล้มป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองบริเวณปอดอย่างในภพชาติปัจจุบันนี้
 
        ส่วนว่าผลกรรมของฝ่ายชายหรือพระภิกษุรูปนั้นจะเป็นอย่างไร แล้วพระภิกษุรูปนั้นได้มาเกิดเป็นใครในภพชาติปัจจุบันนี้ เราก็คงจะต้องมาติดตามกันต่อในตอนต่อไปจ้า
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
DMC ที่โซโลมอนDMC ที่โซโลมอน

Solomon Islands หมู่เกาะมนุษย์กินคนSolomon Islands หมู่เกาะมนุษย์กินคน

เกาะที่ใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุด ที่มนุษย์อยู่ได้เกาะที่ใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุด ที่มนุษย์อยู่ได้



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน