สัญญารัก

CASE STUDY

สัญญารัก

เรียบเรียง จากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

กราบแทบเท้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ที่ลูกเคารพยิ่ง

ลูกมีพี่น้องสามคน คือ พี่ชายคนโต พี่สาวคนที่สอง และตัวลูกเป็นคนสุดท้อง ขณะนี้ลูกและพี่สาวอยู่ที่อเมริกา และได้เรียนจบปริญญาเอกกันทั้ง 2 คนแล้วเจ้าค่ะ เท่าที่จำความได้ลูกได้เข้าวัดพระธรรมกายตั้งแต่เด็ก วิ่งเล่นด้วย นั่งสมาธิด้วย เห็นคุณครูไม่ใหญ่สง่างามมาตั้งแต่เด็กจนโตป่านนี้ คุณครูไม่ใหญ่ของลูกดูไม่เปลี่ยนเลย ลูกมีความสุขที่ได้สร้างบารมี สร้างความดีไปกับคุณครูไม่ใหญ่มาโดยตลอด

คุณยายทวดของลูก เป็นคนที่คุณแม่รักมาก ท่านเคยอยู่ในวังมาก่อน คุณยายทวดชอบดื่มเหล้าโรง ชอบเล่นไพ่ตอง และสูบบุหรี่ยาฉุนเป็นประจำ ท่านป่วยเป็นโรคหัวใจ และได้เสียชีวิตลงเมื่ออายุ 72 ปี ขณะที่ท่านเสียชีวิตนั้น ทั้งคุณแม่และคุณยายของลูกไม่มีใครอยู่บ้าน เมื่อท่านทั้งสองกลับมาพบว่าคุณยายทวดเสียชีวิต จึงเสียใจมาก ว่าไม่ได้อยู่ดูแล

คุณตา เป็นลูกคุณพระสมัยรัชกาลที่ 6 มีฐานะดีมาก ท่านชอบยิงนก ตกปลาตั้งแต่วัยหนุ่ม เมื่อแต่งงานกับคุณยาย ท่านมีความสุขกันมาก แต่ความสุขนั้นมีระยะเวลาสั้นนัก เนื่องจากคุณตาได้ล้มป่วยลงอย่างกะทันหันด้วยโรควัณโรค และเสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 25 ปี ทำให้คุณยายต้องดูแลลูกเล็กๆ ถึง 4 คน ด้วยตัวเอง ขณะนั้น คุณแม่ของลูกมีอายุเพียง 5 ขวบ

คุณยายได้เลี้ยงลูก โดยลูกๆ ต้องช่วยคุณยายทำขนมและหาบขนมขาย ต่อมาเนื่องจากคุณยายยังสาว มีหนุ่มๆ มาเลียบเคียงมาก และมีคนชอบเข้ามาพูดว่า “แม่ม่ายลูกติด” ทำให้คุณยายเบื่อหน่ายที่จะต้องคอยตอบคำถาม จึงตัดสินใจแต่งงานใหม่กับคุณตาเลี้ยง ซึ่งโชคร้าย ท่านชอบเฆี่ยนตีลูกเลี้ยง บางทีก็เอาคุณลุง (พี่ชายของคุณแม่) ไปขึงไว้บนต้นไม้ แล้วปล่อยรังมดแดงให้มากัดทั้งตัว บางทีก็ตีจนเนื้อแตก บางครั้งคุณลุงถูกจับผูกขื่อแล้วเฆี่ยนโดยเฉพาะเวลาที่คุณตาเลี้ยงดื่มเหล้าเมา จะยิ่งเพิ่มดีกรีความเหี้ยมเกรียมมากขึ้นไปอีก

เมื่อคุณยายอายุมากขึ้น ท่านได้ล้มป่วยลงด้วยโรคต้อหิน โรคต้อกระจก โรคเบาหวาน โรคความดันสูง โรคหัวใจโต และสุดท้าย ก็คือ โรคมะเร็งในโพรงจมูก ต่อมาเมื่อเบาหวานขึ้นตา ทำให้ท่านต้องตาบอดสนิท แต่ที่ร้ายที่สุด เห็นจะเป็นโรคมะเร็งในโพรงจมูก เพราะเวลานั่งเก้าอี้ ท่านจะทำอาการหัวสะบัด เหมือนถูกใครกระชาก ท่านบอกว่า ปวดหัวซีกซ้ายบ้าง ซีกขวาบ้าง ปวดจนหัวกระตุก จะมีเนื้อเยื่อสีแดงขยายใหญ่ ยื่นออกมาทางโพรงจมูก และต่อมาท่านก็มีเลือดไหลออกมาจากโพรงจมูก เป็นเลือดสีดำ เป็นลิ่มๆ ทะลักออกมาไม่หยุด ต้องนำส่งโรงพยาบาลกะทันหันกลางดึกเป็นประจำ เมื่อผ่าตัดเอาเนื้อมะเร็งออก อาการก็ดูเหมือนจะดีขึ้นระยะหนึ่ง แต่แล้ว ก็กลับทรุดลง จนทำให้ท่านต้องเสียชีวิตไปในที่สุด ด้วยวัย 75 ปี

คุณลุงของลูกเป็นคนใจดี แต่ติดเล่นม้าอย่างหนักจนเกือบหมดตัว สมัยหนุ่มๆกินเหล้าสูบบุหรี่จัด เพิ่งมาเลิกตอนป่วย สุดท้ายตายด้วยโรคมะเร็งปอดแม้ว่าจะเลิกสูบบุหรี่มานานแล้ว ตอนงานศพคุณป้าถึงกับงงไปเลย เพราะมีคนมากมายมาแสดงตัวว่าเป็นภรรยาและลูกๆของคุณลุง โดยที่คุณป้าไม่เคยทราบเรื่องมาก่อน

คุณแม่ของลูก เมื่อโตขึ้น คุณยายได้ส่งมาเรียนหนังสือในกรุงเทพ และก็ได้พบกับคุณพ่อขณะเรียนมหาวิทยาลัย ต่อมาเมื่อคุณพ่อได้รับทุนไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกา แล้วท่านก็ได้สัญญาความรักกับคุณแม่ไว้โดยได้หมั้นคุณแม่ไว้ถึง 2 ปี ในที่สุด ท่านก็ได้กลับมาแต่งงานกันตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้แก่กัน คุณแม่เมื่อเรียนจบปริญญาตรี ก็ได้บรรจุเข้าทำงานเป็นครูใหญ่ของโรงเรียนทันที ทั้งๆ ที่อายุเพียงแค่ 21 ปี และท่านประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมาโดยตลอด จนได้เป็นถึงผู้บริหารระดับสูงสุดในสายงาน ซึ่งมีเพียง 9 คนจากทั่วประเทศ

คุณแม่มาป่วยเป็นโรคตา มีอาการตามัว มองภาพไม่ชัดเจน หมอบอกว่าเป็นต้อหิน ต่อมาเป็นต้อกระจก ต้องผ่าตัด ต่อมา ประสาทตา จอตาอักเสบ ต้องผ่าตัดใหญ่ อีกหนึ่งครั้ง ขณะที่ผ่าตัด ยาชาเข้าไปไม่ถึง ทำให้คุณแม่รู้ตัวตลอดเวลาว่าตัวเองเจ็บ และหลังจากผ่าตัด ตาข้างซ้าย ก็ยังมองเห็นภาพแบบ เส้นคดๆ และภาพก็เบลอๆ เบี้ยวๆ ต้องใส่แว่นช่วยปรับสายตา และต้องหยอดยาไปตลอดชีวิต หมอบอกว่า หยุดหยอดก็บอดเลย และเมื่อไปตรวจเลือด ก็พบว่าเป็นโรคเบาหวาน กับไขมันในโลหิตสูงอีกด้วย

คุณพ่อของลูก ลำบากมาตั้งแต่เด็ก ต้องขึ้นต้นตาลสูงๆ เพื่อไปเก็บลูกตาล แล้วบางทีก็ตกต้นตาลลงมา แต่ก็ไม่ตาย เคยเหยียบตะปูทะลุจากฝ่าเท้า ขึ้นมาถึงหลังเท้า มองเห็นตะปูโผล่ เคยป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งหมอบอกว่าไม่รอดแน่ ต้องนอนอยู่โรงพยาบาลถึง 3 เดือน ท่านเล่าว่า ขณะที่นอนอยู่โรงพยาบาล ได้ฝันเห็นพระธุดงค์มาหา คุณพ่อได้ก้มลงกราบ แล้วพระธุดงค์องค์นั้นก็ได้นำกลดมาแตะที่ศีรษะคุณพ่อ จากนั้น ท่านก็หายวันหายคืน

คุณพ่อ คุณแม่ เข้าวัดตั้งแต่เป็นทุ่งนาฟ้าโล่ง คุณพ่อเล่าว่า ไปช่วยกันขุดดิน ถางหญ้า ดินแข็งมากๆ ขุดจนมือไม้พองกันเลย คุณพ่อคือกัลยาณมิตรท่านแรกที่พาครอบครัวเข้าวัดหมดทุกคน ท่านพาคุณแม่ไปปฏิบัติธรรมที่บ้านธรรมประสิทธิ์ โดยการชักชวนของคุณป้าถวิล วัติรางกูร ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดให้ทุกคนในครอบครัวได้สร้างบารมีกันมันหยดมาจนถึงปัจจุบันนี้ ครอบครัวของลูกไม่เคยขาดซักบุญเดียวเลยค่ะ สำหรับงานบวชพระตลอดชีวิตคุณแม่บอกว่า คุณแม่ไปทุกครั้ง นอกจากนี้ยังได้สร้างโบสถ์ , ปลูกต้นกัลปพฤกษ์จำได้ว่าตัวจมโคลนเลยค่ะ แล้ว M แรกของครอบครัวเรา ก็คือ บุญรูปหล่อทองคำหลวงปู่ ลูกปลื้มที่สุดเลย เพราะว่าลูกเป็นคนบอกให้คุณพ่อทำ คุณพ่อก็บอกลูกว่า “จำไว้นะ ว่าพ่อทำบุญนี้เพราะลูก” นึกถึงทีไรก็รู้สึกสุขใจจริงๆ เลยเจ้าค่ะ จากนั้นก็มี M นู้น M นี้ มาเรื่อยๆ ล่าสุด ก็คือ เสาแก้วพันปี สำเร็จแล้วดีใจจังเลยค่ะ

ครอบครัวของลูกอยู่กันอย่างมีความสุข เป็นครอบครัวอบอุ่น เราสามพี่น้องจะกราบเท้าคุณพ่อคุณแม่ทุกวัน เมื่อกลับมาบ้านในตอนเย็น ตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโวท่านได้เทศน์สอนไว้ ในใจของพวกเรามีแต่เรื่องจะทำบุญ จะนั่งสมาธิเป็นส่วนใหญ่ของชีวิต แต่วันหนึ่งก็เกิดปรากฎการณ์ที่เราไม่คาดคิด ทำให้ลูกถึงกับงงชีวิต เลยเห็นสมควรว่า ควรกราบเรียนคุณครูไม่ใหญ่ให้ช่วยชี้นำชีวิตให้ครอบครัวลูกด้วยนะคะ คือ คุณพ่อที่แสนดีของลูก ท่านไม่ทราบเป็นยังไง หลังจากเกษียณแล้วชอบเล่นเครื่องสลอตมาก หยอดตู้แล้วก็ลุ้นให้ แจ๊คพอตแตก รวยเละ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า รวยเละ แล้วมันจะไปเหลือเหรอคะ ทีนี้ ท่านมีความสุข ลูกก็ไม่อยากขัด เวลาท่านมาอเมริกามาเยี่ยมลูกๆ พวกเราก็ไม่ได้ไปไหนเลยค่ะ นอกจากลาสเวกัส ลูกกลายเป็นสาวท่องราตรี เข้าโรงแรมนู้น ออกโรงแรมนี้ เพราะในลาสเวกัสทุกโรงแรม ก็คือบ่อนการพนัน มีบ่อนหมดทุกโรงแรม บางทีลูกก็เบื่อๆ เลยขึ้นห้องมานั่งสมาธิบนโรงแรม แล้วก็มี คุณแม่ พี่สาวมานั่งอยู่เป็นเพื่อน แต่ว่าบางทีคุณแม่ก็ลงไปเล่น เพื่อเป็นเพื่อนคุณพ่อ ทุกอย่างก็ดูไม่หนักหนา

แต่พอมีโรงเรียนอนุบาล ได้ฟังคุณครูไม่ใหญ่ สอนมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงเรื่องนรก ขุม 6 มีตู้โยกสลอตสี่เหลี่ยมใหญ่ๆ สีดำ เป็นเหล็กร้อน ตกทับร่างสัตว์นรก แบนแต๊ดแต๋ เจ็บปวดทรมาน ร่างแหลกแหลวแป๋ว ลูกใจคอไม่ดีเลย พนันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแล้ว คุณแม่และลูกๆก็กลัว แต่ก็ต้องตามใจคุณพ่อต่อไป ไม่มีใครสามารถห้ามท่านได้

ในชีวิตการงานของคุณพ่อ ท่านขยันมากๆ ประวัติศาสตร์การรับใช้สังคมเต็มร้อย ชีวิตการเป็นหัวหน้าครอบครัวก็ไม่บกพร่อง ดูแลทุกคน อบอุ่น มีความสุข แต่ทำไม ทำไม๊ ทำไม ? ? ?

สำหรับคำถามมีดังนี้ค่ะ

1. คุณยายทวด ที่เลี้ยงดูคุณแม่ตอนเด็กๆ ตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่อุทิศให้หรือไม่

2. คุณตาของลูกทำกรรมใดไว้ จึงต้องตายตั้งแต่ยังหนุ่ม ด้วยโรควัณโรค และคุณยายของลูกทำกรรมใดไว้ จึงต้องป่วยด้วยโรคมากมาย โรคต้อหิน โรคต้อกระจก โรคเบาหวาน โรคความดันสูง โรคหัวใจโต และสุดท้ายเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในโพรงจมูก , ขณะนี้ท่านทั้ง 2 อยู่ที่ไหน และอยู่ด้วยกันหรือไม่คะ , ได้รับบุญที่ลูกๆ ทำบุญอุทิศไปให้หรือไม่

3. คุณลุงของลูก ทำกรรมใดจึงต้องโดนเฆี่ยนและทารุณในสมัยเด็ก ท่านสูบบุหรี่จัด ดื่มเหล้า เล่นม้า เจ้าชู้ มีภรรยาหลายคน ตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่

4. ทำไมคุณแม่จึงกำพร้าตั้งแต่เด็ก และที่ป่วยเป็นโรคตาต้องผ่าตัดหลายครั้ง และหยอดยาตลอดชีวิต และเป็นโรคเบาหวานด้วย เกิดจากกรรมใด ชาตินี้จะถึงกับตาบอดรึไม่ ต้องทำบุญอะไรพิเศษจึงจะแก้ไขได้เจ้าคะ

5. กรรมใดคุณพ่อต้องตกต้นตาล เหยียบตะปูทะลุถึงฝ่าเท้า ป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี จนเกือบเสียชีวิต

6. ทำไมอยู่ๆคุณพ่อ กลับหันมาเล่นการพนันตอนอายุเยอะแล้ว ที่สำคัญดูจะไม่สามารถตัดใจเลิกได้และดูจะหนักขึ้นทุกที ทำอย่างไรจึงจะทำให้ท่านเลิกได้

7. การที่คุณแม่และลูกๆ บางครั้งต้องยอมผิดศีลข้อสี่ เพื่อหลบเลี่ยงการนำเงินไปให้ท่าน แต่หากเลี่ยงไม่ได้ ก็จำเป็นต้องนำเงินส่งให้ท่านเล่นพนันโดยที่เราก็ไม่เต็มใจ เราจะมีวิบากกรรมทั้งสนับสนุนเล่นการพนันและผิดศีลไปด้วยไหมคะ, พวกเราทำกรรมใดมาคะ จึงต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ จะแก้ไขวิบากกรรมให้หมดไปได้อย่างไร และจะทำอย่างไรให้หนีแวดวงการพนันและอบายมุขทั้งปวงไปได้คะ

8. คุณพ่อคุณแม่ทำบุญอะไรมา จึงประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมาโดยตลอด, คุณพ่อกับคุณแม่เคยเป็นคู่แบบไหนกันมาคะ เป็นคู่เวรคู่กรรม คู่สร้างคู่สม หรืออย่างไรคะ, ท่านทั้ง 2 สร้างบารมีกับหมู่คณะอย่างไร จะได้กลับดุสิตบุรีไหมคะ

9. พี่ชายของลูกป่วยเป็นโรคไมเกรนเป็นประจำ และเป็นโรคต่อมทอนซิลอักเสบบ่อยๆ ตั้งแต่เด็ก จนต้องไปตัดต่อมทอนซินออก เป็นเพราะวิบากกรรมใด จะแก้ไขได้อย่างไร และพี่ชายของลูก ดี ดี๊ ดี จนน่าใจหาย เพราะสาวๆ พากันซาบซึ้งในความดี ก็เลยดูเสี่ยงภัยกับผิดศีลข้อ3 อย่างนี้พี่ชายจะมีโอกาสบวชตลอดชีวิตหรือไม่ เขามีผังการบวชหนาแน่นไหม, พี่ชายเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไรคะ ชาติต่อไปจะได้เกิดเป็นผู้ชายหรือไม่คะ

10. พี่สาวของลูก ประสบความสำเร็จด้านการศึกษามาโดยตลอด และได้ทำงานที่ดี แต่มักมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ทำให้การทำงานเครียด จนมีผลให้พี่สาวเกิดความกดดัน กลัวการติดต่อกับคน และขาดความมั่นใจในตัวเองไปเลย เขาทำกรรมใดมาจึงประสบความสำเร็จในการศึกษา ได้งานดี แต่มีปัญหาในการทำงานร่วมกับผู้อื่น และจะสามารถแก้ได้อย่างไรคะ

11. เมื่อ10 ปีที่แล้ว ตอนอยู่เมืองไทย ลูกป่วยด้วยโรคหอบหืดจนถึงกับหายใจไม่ออกเกือบตาย ต้องเข้าโรงพยาบาลกลางดึก เพราะบุพกรรมใด แต่พอได้มาปฏิบัติธรรมระยะยาวที่วัดเป็นเวลาเกือบปี ก็ทำให้หายป่วยและก็ไม่เป็นอีกเลยจนถึงปัจจุบัน ลูกมีกรรมกลับมาเป็นโรคหอบหืดอีกหรือไม่คะ จะทำอย่างไรไม่ให้เจ็บป่วยใดๆอีก

12. คำถาม Top hit ติดชาร์ท ลูกและพี่สาว สร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไร เราทั้ง 2 จะมีบุญได้มาเป็นอุบาสิกาไหมคะ พวกเราพอจะมีแววกลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตในไหวไหมคะ และจะต้องสร้างบารมีเข้มงวดขนาดไหนจึงจะได้แบบประทับตราวงบุญพิเศษเจ้าคะ

กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่เป็นอย่างสูงค่ะ

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที

แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1. “คุณยายทวด” ตายแล้ว ก็ไปอยู่ “ยมโลก” ของมหานรกขุม 5 ด้วยกรรมดื่มสุรา , เล่นไพ่ และสูบยาฉุนเป็นประจำ แต่ไม่ได้ไปลงมหานรก เพราะมีบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนาตามประเพณีช่วยไว้ , กำลังโดนเจ้าหน้าที่ “กรอกน้ำทองแดงร้อน”อยู่ด้วยความทุกข์ทรมานมาก

ได้รับบุญที่อุทิศไปให้ ก็ได้รับลดหย่อนผ่อนโทษลงมา แต่ยังไม่หมดกรรม ต้องอุทิศไปให้ท่านอีกจ่ะ !

2. “คุณตา” ตายตั้งแต่ยังหนุ่มด้วย “วัณโรค” เพราะ....กรรมในอดีตเคยเป็นอำมาตย์ ได้ตัดสินผู้ต้องขังให้ไปขังไว้ในคุก ที่อับชื้นทรมานจนตาย วิบากกรรมนี้มาส่งผล

ตายแล้ววนเวียนอยู่ระยะหนึ่ง ก็ไปเกิดใหม่เป็น “มนุษย์” เพราะหมดวิบากกรรมนี้ จึงไม่ได้รับบุญที่อุทิศไปให้จ่ะ !

“คุณยาย” ป่วยด้วยโรคหลายชนิด เช่น “โรคต้อหิน” , “โรคต้อกระจก” , “โรคเบาหวาน” , “โรคความดันโลหิตสูง” , “โรคหัวใจโต” และเสียชีวิตด้วยโรค “มะเร็งในโพรงจมูก” เพราะ....กรรมปาณาติบาตที่ฆ่าสัตว์เล็ก , สัตว์ใหญ่ เพื่อขายและทำเป็นอาหารทั้งในอดีตและปัจจุบัน

รวมทั้งมีกรรมในอดีต ที่เคยสั่งขังนักโทษในคุกมืดในสมัยที่ท่านเป็นผู้ชายคล้ายคุณตา จนนักโทษตามองไม่ค่อยเห็น , กับสั่งทรมานนักโทษด้วยวิธีการต่าง ๆ ทั้งกระชากศีรษะ , ทุบตีชกจนหน้าเละ เลือดกำเดาออก , กรรมทั้งหมดมารวมส่งผล ตายแล้วก็วนเวียนช่วงแรกอยู่ไม่นาน ก็ไปเกิดใหม่เป็น “มนุษย์” คล้าย ๆ คุณตา จึงไม่อาจรับบุญได้จ่ะ !

3. “คุณลุง” ของลูก โดนเฆี่ยนและถูกทรมานในสมัยเด็ก เพราะ....กรรมในอดีตชอบเฆี่ยนตีลูกหลานบริวาร ทั้งทำผิดและไม่ทำผิดโดยใช้อารมณ์ มาส่งผลจ่ะ !

ท่านสูบบุหรี่จัด , ดื่มเหล้า , เล่นม้า , เจ้าชู้มีภรรยาหลายคน ตายแล้วไปอยู่ใน “ยมโลก” ของมหานรกขุม 5 ด้วยกรรมดื่มสุราและจะต้องไปอีกหลายขุม , ที่ไม่ได้ไปมหานรก เพราะยังมีบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนาอยู่บ้างคอยอุ้มเอาไว้ , ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว ก็ได้รับลดหย่อนผ่อนโทษลงมาบ้าง , ต้องทำบุญอุทิศไปให้อีกเยอะจ่ะ !

4. “คุณแม่” เป็นกำพร้าตั้งแต่ยังเด็ก , ป่วยเป็น “โรคตา” ต้องถูกผ่าตัดหลายครั้งและหยอดยาตลอดชีวิต , ทั้งเป็น “เบาหวาน” อีกด้วย เพราะ....กรรมในอดีตในสมัยเกิดในสังคมเกษตรกรรม ชอบพรากลูกสัตว์จากพ่อ - แม่

บางทีก็ขายพ่อพันธุ์, แม่พันธุ์ทิ้งไป จึงทำให้กำพร้าตั้งแต่ยังเด็ก , กับกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารและเลี้ยงไว้ฆ่าขาย จึงทำให้เป็นเบาหวาน และขังปลาไว้ในตุ่มในที่มืดเก็บไว้ฆ่ากิน ทำให้มาป่วยเป็น “โรคตา” ดังกล่าวจ่ะ !

จะแก้ไข ต้องสั่งสมบุญทุกบุญ ทั้งทาน , ศีล , ภาวนา โดยเฉพาะบุญถวายประทีปและบุญปล่อยสัตว์ปล่อยปลา อุทิศไปให้กับสัตว์ที่เราไปล่วงเกินเอาไว้ , บุญนี้ก็จะไปตัดรอนวิบากให้หนักเป็นเบา แต่คงไม่ถึงกับหายขาด , ดังนั้นอย่าประมาทให้ สั่งสมบุญดังกล่าวให้เยอะจ่ะ !

5. “คุณพ่อ” ต้อง “ตกต้นตาล” , “เหยียบตะปูทะลุถึงฝ่าเท้า” ป่วยเป็น “โรคไวรัสตับอักเสบบี” จนเกือบเสียชีวิต เพราะ....ในอดีตตอนเป็นเด็กเคยเล่นกับเพื่อนโดยปีนต้นไม้เล่นกัน แล้วแกล้งเขย่าจนเพื่อนตกต้นไม้ลงมาโดยไม่เจตนา ,

กับความคะนองในวัยเด็กได้ทำ “กับดัก” ขโมยที่จะมาตอนกลางคืน แต่คนในบ้านไปเหยียบกับดักเสียก่อนจนฝ่าเท้าทะลุ , กับเศษกรรมสุราและปาณาติบาตทำกับแกล้มในอดีตมาส่งผลจ่ะ !

6. “คุณพ่อที่แสนดี” อยู่ ๆ มาเล่นการพนันจนติด ไม่สามารถจะหักดิบเลิกได้ มีแต่จะหนักขึ้นนั้น

เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดในชาตินี้ ในตอนอายุเยอะแล้ว , แม้ในอดีตชาติชาติหนึ่งเมื่อกัปที่แล้ว ก็เคยติดการพนันจนชีวิตประสบความเสื่อม จนหมดเนื้อหมดตัว และครอบครัวแตกร้าว แต่ก็ได้คิดในภายหลังตอนเกือบจะสายไปแล้ว

เรื่องมีอยู่ว่า ในชาตินั้นเกิดเป็น “เศรษฐีบุตร” หรือลูกเศรษฐีใหญ่ในเมือง , เนื่องจากฐานะดี , บิดามารดารักมาก จึงไม่ได้อบรมเคี่ยวเข็ญแต่อย่างใด , จึงทำให้ใช้ชีวิตสนุกสนานจนไปคบกับนักเลงพนัน จนติดพนันแบบถอนตัวไม่ขึ้น , เมื่อบิดามารดาละโลกไปแล้ว ก็ขายสมบัติเล่นการพนันเพื่อหวังเอาคืน , หวังสนุกเพลิดเพลิน , หวังรวย เป็นต้นจ่ะ!

แต่ปรากฏว่าไม่เป็นไปตามคาดหวังกระทั่งชีวิตหายนะต้องขายสมบัติหมด ,

จนภรรยาต้องหอบลูกกลับไปบ้านเดิม เพราะทนสามีติดการพนันไม่ไหว , ส่วนตัวเองก็ต้องไปทำงานรับจ้างไปเรื่อย เมื่อได้เงินมาก็มาเล่นการพนันอีก เพื่อหวังจะได้ทรัพย์คืน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ชีวิตก็หายนะไปเรื่อย ๆ ,

จนวันหนึ่งภายหลังจากเล่นการพนันมาทั้งคืน จนหมดตัว กระทั่งไม่มีเงินซื้ออาหารและไม่มีที่อยู่ด้วย , ตอนเช้าก็ได้เจอพระมาบิณฑบาตผ่านมาระหว่างทาง

ก็เริ่มได้คิด จึงเดินตามท่านไปจนถึงอารามเพื่อขออาหารที่เหลือจากพระและขอพักอาศัยด้วย ซึ่งพระท่านก็ให้อาหารและได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับท่าน ,

ในที่สุดท่านก็สอนให้ “หักดิบ” เพราะยิ่งเล่นยิ่งฉิบหายซึ่งตัวเองก็ตัดสินใจ “หักดิบ” เพราะหมดตัวแล้ว อีกทั้งได้เข้าใจเรื่องราวความจริงของชีวิตเพิ่มขึ้น

จึงได้ตั้งสัจจะว่า จะเลิกยุ่งเกี่ยวกับการพนันแล้ว และได้อยู่รับใช้อุปฐากพระในวัดนั้น

อีกทั้งได้ตั้งสัจจะว่า อย่าได้มายุ่งเกี่ยวกับการพนันอีกเลย เมื่อกลับตัวกลับใจได้แล้วภรรยาและลูกก็มารับกลับไป

ซึ่งผลจากการตั้งสัจจะนี้ ก็ได้ทำมาต่อเนื่องได้หลายชาติแล้ว , แต่เชื้อเก่ายังไม่สิ้น เมื่อชาตินี้ประมาทในการดำเนินชีวิต เชื้อนี้จึงกลับมาอีก

ดังนั้นอย่าถอยหลังกลับไปอีกเลย ชีวิตจะตกต่ำและจะพลัดจากหมู่คณะ , ภรรยา – และบุตรในชาตินี้ ก็คือ ภรรยาและบุตรในชาตินั้น ,

พระอาจารย์องค์ที่บิณฑบาตและเทศน์โปรดในชาตินั้น ก็คือ หลวงพ่อทัตตชีโวในชาตินี้จ่ะ !

7. การที่คุณแม่และลูก ๆ บางครั้งต้องยอมผิดศีลข้อ 4 เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ท่านเอาเงินไปเล่นการพนัน , แต่บางครั้งก็หลีกเลี่ยงไม่ได้นั้น ก็ไม่ได้ชื่อว่าสนับสนุนให้เล่นการพนันโดยตรง เพราะจำใจ แต่ก็จะมีวิบากกรรมร่วมกัน คือ ต้องมาเจอกันอีก และต้องเดือดร้อนเหมือนชาติที่ผ่านมาในกัปก่อนโน้นและเดือดร้อนในปัจจุบันจ่ะ !

และถือว่าผิดศีลข้อ 4 และจะต้องไปเจอกันอีกดังกล่าวจ่ะ !
จะแก้ไข ก็ต้องยื่นคำขาดและให้พามาหาอดีตพระอาจารย์ในกัปที่แล้ว ที่เคยโปรดท่านได้ตอนที่ท่านหมดตัว , ไม่มีที่อยู่อาศัยและอาหารการกินจ่ะ !
ให้สั่งสมบุญทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิตให้พ้นจากวิบากกรรมนี้และอย่าได้อยู่ในแวดวงของอบายมุข อีกทั้งอย่าได้มีครอบครัวหมู่ญาติติดอบายมุขเลยจ่ะ !

8. คุณพ่อ , คุณแม่ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เพราะ....บุญเก่าในชาติหลัง ๆ ที่สั่งสมบุญมาตลอด ท่านทั้งสองเป็นสามีภรยากัน เป็นทั้งคู่กรรมคู่เวร , และคู่บุญคู่บารมี คือ ตอนช่วงที่สร้างบุญด้วยกันก็เป็นคู่บุญคู่บารมี , ในช่วงเล่นการพนันก็เป็นคู่กรรมคู่เวรกันจ่ะ ! แต่เป็นคู่บุญคู่บารมีมากกว่า เพราะในชาติหลัง ๆ ได้สร้างบุญใหญ่มาด้วยกันจ่ะ !

ท่านทั้ง 2 เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง” ได้ทำสม่ำเสมอมาตลอดในช่วงที่กลับตัวกลับใจหันหลังให้กับการพนันจ่ะ !
ส่วนจะได้กลับดุสิตบุรีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการประกอบเหตุในปัจจุบัน ที่จะต้องทำแต่ความดีอย่างเดียวจ่ะ !

9. “พี่ชาย” ของลูกป่วยเป็น “โรคไมเกรน” เป็นประจำ และต้องไปตัดต่อมทอมซิลออก เพราะ...ความเครียดในปัจจุบันเป็นหลัก กับอดีตชอบเถียงพ่อเถียงแม่ในช่วงวัยรุ่น เมื่อท่านทั้ง 2 เตือนด้วยความหวังดี และบางครั้งก็ทำให้ท่านกลุ้มใจและปวดหัวบ่อย ๆ , วิบากกรรมดังกล่าวมารวมส่งผลจ่ะ !

พี่ชายเป็นคนดีมีเสน่ห์มาก สาว ๆ ติดกันตรึมนั้น ก็เคยบวชกับหมู่คณะมา บางช่วงก็สั้น , บางช่วงก็บวชยาว , มีผังบวชตลอดชีวิตบ้าง แต่ยังไม่หนาแน่น , ส่วนใหญ่มักจะเป็น “กองเสบียง”ประเภทบางครั้งก็เต็มที่ , บางครั้งก็ตามอารมณ์จ่ะ !
ส่วนชาติต่อไปจะได้เป็นผู้ชายหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการกระทำในปัจจุบันเป็นหลักจ่ะ !

10. “พี่สาวของลูก” ประสบความสำเร็จในการศึกษาและได้ทำงานดี แต่มักมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ทำให้ “เครียด” จนทำให้พี่สาวเกิดความกดดันกลัวการติดต่อกับผู้คน และขาดความมั่นใจในตนเอง

เพราะ.... มีบุญด้านปัญญาบารมีสั่งสมเรื่องการศึกษามาข้ามชาติ แต่ขาดบุญชวนคนทำความดีหรือหน้าที่กัลยาณมิตรมาในอดีต และปัจจุบันชีวิตที่ผ่านมาก็มักจะเรียนเป็นหลัก จึงขาดมนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานไปบ้าง

วิธีแก้ไข ก็ให้ทำใจสบาย ยิ้มแย้มแจ่มใส แผ่เมตตาให้กับเพื่อนร่วมงานบ้าง , และบางครั้งก็ต้องยืดหยุ่น , เยือกเย็น , ยิ้มแย้ม , ยินยอมเขาบ้าง ก็จะชนะใจเพื่อนร่วมงานได้ อีกทั้งต้องมีสังคหวัตถุ 4 กับทุกคนที่อยู่รอบข้าง แค่นั้นเองแหละจ่ะ !

11. เมื่อ 10 ปีที่แล้วลูกอยู่ในเมืองไทย ป่วยเป็นโรค “หอบหืด” จนเกือบหายใจไม่ออก ต้องเข้าโรงพยาบาลกลางดึก เพราะ....กรรมในอดีตตอนเด็ก ๆ ชอบแกล้งลูกสัตว์ โดยได้โยน “ลูกแมว” ลงไปในน้ำเพื่อหัดให้มันว่ายน้ำ , แต่มันก็จมเกือบตาย แล้วก็ช่วยขึ้นมา วิบากกรรมดังกล่าวมาส่งผลจ่ะ !

แต่ต่อมาได้มาปฏิบัติธรรมในระยะยาวเกือบปีที่วัด ทำให้อาการนั้นหายไป และไม่ได้เป็นอีกเลยจนปัจจุบันนี้ เพราะ....บุญปฏิบัติธรรมในปัจจุบัน ได้ไปตัดรอนวิบากกรรมดังกล่าวจ่ะ !
หากลูกได้ปฏิบัติธรรมทุกวันต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะไม่หวนกลับมาเป็นอีก แต่ถ้าหากประมาทชะล่าใจไม่ปฏิบัติธรรม ก็มีสิทธิ์อาจกลับมาเป็นอีกได้จ่ะ !

12. ลูกและพี่สาวสร้างบารมีกับหมู่คณะมา โดยพุทธันดรที่ผ่านมาทั้งคู่ได้เป็น “กุลธิดา” ในตระกูลมีฐานะ ได้ตั้งความปรารถนาที่จะมาช่วยงานพระศาสนาในแบบ “เผยแผ่” เพราะเบื่อหน่ายชีวิตในการครองเรือน ,

ถ้าลูกทั้ง 2 ตั้งใจจริงก็สามารถมาเป็นอุบาสิกาได้ แต่ต้องอดทนเพราะชีวิตการสร้างบารมีไม่สะดวกสบายนัก , ถ้าอดทนผังนี้ก็จะแน่นหนากว่าที่ผ่านมา ซึ่งได้แค่เพียงอธิษฐานจิตไว้เท่านั้น และเมื่อสร้างบารมีได้เต็มที่แล้วดุสิตบุรีวงบุญพิเศษก็อยู่ในกำมือจ่ะ !

ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญแล้วอธิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !