ลูกชื่อ ฉวีวรรณ ภิรมย์ชม เป็นผู้นำบุญอำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ เป็นพยาบาลวิชาชีพ ชาวบ้านเรียกลูกว่า หมอต่อม ตอนนี้ทีมงานของลูกสามารถพิชิตใจว่าที่อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนได้แล้วกว่า 100-คนค่ะ เนื่องจากว่าลูกและทีมงานได้มีการวางแผนสร้างเครือข่ายคนดีขึ้น ตั้งแต่สมัยรุ่นบวชล้านที่ผ่านมา ทำให้รุ่นล้านปัจจุบันนี้ได้คนมาบวชแบบง่ายๆสบายๆค่ะ โดยเริ่มตั้งแต่การรับสมัครบวชอุบาสิกาแก้วรุ่นล้านที่ผ่านมา ลูกได้ไปปรึกษา คุณพินิจ บุญวรรณ นายอำเภอจัตุรัส ท่านก็เห็นดีเห็นงามกับโครงการของเราทุกอย่าง เพราะท่านบอกว่า โครงการดีๆแบบนี้ต้องสนับสนุนอย่างเต็มที่ จึงได้ช่วยกันคิด ช่วยกันวางแผนว่า ทำอย่างไรถึงจะหาคนมาบวชอุบาสิกาแก้วได้ ในที่สุดก็ได้แนวคิดเก๋ๆมาว่า “น่าจะจัดให้มีการสวดมนต์นั่งสมาธิ ระดับอำเภอขึ้น เพราะนอกจากจะได้สวดมนต์นั่งสมาธิพร้อมกันแล้ว ยังได้ประชาสัมพันธ์โครงการบวชอุบาสิกาแก้วทีเดียวทั้งอำเภอ”

 

 

 

        นายอำเภอจึงได้สั่งการทันที ทำหนังสือถึงผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน ให้พาลูกบ้านมาร่วมกิจกรรมนี้อย่างน้อยหมู่บ้านละสิบคน ซึ่งทำให้ในวันงานมีผู้มาร่วมสวดมนต์นั่งสมาธิมากถึง 1,500-คน และมีผู้สนใจสมัครบวชมากกว่า 100-คนค่ะ เรียกได้ว่าจัดงานครั้งเดียวก็เกินควรเกินเป้ากันไปเลย ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลจัตุรัส อีกทั้ง นายกอบจ.-นายกอบต.-ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน ได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่อีกด้วยค่ะ ในระหว่างที่จัดบวชอุบาสิกาแก้ว ลูกและทีมงานก็ได้มีการคัดเลือก คัดสรร ทำการแต่งตั้งแกนนำอุบาสิกาแก้วในระดับหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอ ทำให้ทุกคนเกิดปีติเบิกบาน ถึงแม้ว่าแกนนำส่วนใหญ่จะสูงวัย สังขารร่วงโรยไปนิดหน่อย แต่หัวใจเหมือนกลับมาเป็นสาวอีกครั้งเลยค่ะ สาวรอบสองทุกคนล้วนบอกว่า “เป็นไงเป็นกัน คุณครูไม่ใหญ่ว่าอย่างไร พวกเราก็ว่าอย่างนั้น พร้อมลุยทำหน้าที่ตามที่คุณครูไม่ใหญ่บอกทุกอย่างเลยค่ะ”

 

 

 

 

 

        พอจบโครงการบวชอุบาสิกาแก้วแล้ว ก็มีคนมาขอติดจานดาวธรรมร่วม 100-คน ขอสมัครไปปฏิบัติธรรมที่พนาวัฒน์กว่า 20-คน แล้วยังขอสมัครเปิดบ้านกัลยาณมิตรกว่า 40-หลัง ตอนนี้ลูกเข้าใจแล้วว่า ยังมีคนดีๆอีกจำนวนมากที่เขายังไม่รู้ตัวว่า เขาเกิดมาทำไม จึงทำให้ลูกและทีมงานรีบออกไปทำหน้าที่ชวนบวชพระ ชวนบวชอุบาสิกาแก้วรุ่นที่สี่ในครั้งนี้ อย่างไม่รีรอ ลูกจึงได้วางแผนรีบจัดประชุม เรียกรวมตัวผู้นำบุญ รวมถึงแกนนำยอดอุบาสิกาแก้วขึ้นทันที พร้อมกับแถลงนโยบายให้กับทุกคนได้รับทราบว่า วันที่ 1-กุมภาพันธ์ จะมีการเปิดศูนย์ปฏิบัติธรรมบ้านกัลยาณมิตรระดับอำเภอขึ้น ที่วัดราษี ให้แกนนำอุบาสิกาแก้วทุกคนไปพาสมาชิกในหมู่บ้านมาร่วมสวดมนต์นั่งสมาธิพร้อมกันให้ได้มากที่สุด

 

 

 

 

        พอถึงวันที่ 1-กุมภาพันธ์ ก็สรุปว่า มีคนมาร่วมสวดมนต์นั่งสมาธิแบบเกินเป้า ทะลุยอดที่ตั้งไว้อย่างน่าอัศจรรย์ ตอนแรกก็คิดว่าถ้ามาสัก 200-คน ก็นับว่ามากแล้ว ถ้า 300-คนได้ก็ยิ่งดี ลูกจึงจัดเตรียมเก้าอี้ไว้ 400-ตัว เผื่อๆไว้ก่อน แต่ที่ไหนได้ มีคนมาร่วมสวดมนต์นั่งสมาธิกว่า 500-คนเลยค่ะ เมื่อมีคนมารวมตัวกันมากๆแบบนี้ ลูกและทีมงานก็ไม่พลาด เมื่อสวดมนต์นั่งสมาธิเสร็จ พระอาจารย์ก็ไม่รอช้าจับไมโครโฟนพูดเชิญชวนให้มาบวชอุบาสิกาแก้วทันที ทำให้วันนี้วันเดียวมีผู้สมัครบวชอุบาสิกาแก้วรุ่นที่สี่ ไปแล้วกว่า 70 คน

 

 

 

        ลูกและทีมงานได้จัดสวดมนต์นั่งสมาธิ ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมบ้านกัลยาณมิตรวัดราษี เป็นประจำทุกวันอังคาร โดยมีนโยบายให้แกนนำอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนทุกคนไปชวนคนใหม่ และประคับประคองคนเก่า ให้มาสวดมนต์ นั่งสมาธิ ให้ได้ทุกอาทิตย์ จึงทำให้เมื่อวันอังคารที่ 8-กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีคนมาขอสมัครบวชอุบาสิกาแก้วเพิ่ม จนตอนนี้ยอดทะลุเกิน 100-คนไปแล้วค่ะ ที่การชวนบวชครั้งนี้ ดูจะสำเร็จแบบง่ายๆสบายๆ ก็เป็นเพราะลูกใช้สูตรเด็ดที่คุณครูไม่ใหญ่บอกไว้ คือ บ ว ร (บ้านวัดโรงเรียน)-นั่นเองค่ะ...สามประสานงานสำเร็จ ตัวแทนของบ้าน คือ ยอดมหาอุบาสิกาแก้วทุกคน ส่วนตัวแทนของวัด ลูกก็ได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระครูจันทโพธานุวัตร รองเจ้าคณะอำเภอจัตุรัส เจ้าอาวาสวัดราษี ประธานพระกัลยาณมิตรรุ่นที่ 43 ค่ะ

 

        ท่านเปิดเผยความในใจให้ฟังว่า ก่อนที่จะมาอบรมพระกัลยาณมิตร ท่านไม่ชอบวัดพระธรรมกายเลยค่ะ แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วนะคะ ท่านรักและเคารพคุณครูไม่ใหญ่มาก คุณครูไม่ใหญ่ว่าอย่างไร ท่านก็ว่าตามกันทุกอย่างเลยค่ะ ท่านบอกว่า หลังจากที่ท่านได้มาอบรมพระกัลยาณมิตร ก็ทำให้ทราบถึงมโนปณิธานของคุณครูไม่ใหญ่ว่า ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่องานพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น และก็ยิ่งประทับใจคุณครูไม่ใหญ่มากๆ ในช่วงระหว่างการอบรมคุณครูไม่ใหญ่ก็ได้เมตตา เดินทางมาเยี่ยมพระกัลยาณมิตรด้วยตนเอง ยิ่งพอได้มาทราบภายหลังว่าคุณครูไม่ใหญ่ป่วย สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ก็ยิ่งทำให้หลวงพ่อทึ่งในตัวของคุณครูไม่ใหญ่เป็นอย่างมาก ขนาดไม่สบายคุณครูไม่ใหญ่ยังไม่ยอมหยุดพัก ไม่เคยย่อท้อ ทุ่มเทชีวิตเป็นเดิมพันเพื่องานพระพุทธศาสนา พอจบการอบรม หลวงพ่อรองเจ้าคณะก็ให้การสนับสนุนทุกๆโครงการของคุณครูไม่ใหญ่อย่างเต็มที่เต็มกำลังเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นโครงการไหนๆ ท่านก็บอกว่า ผ่านฉลุยเต็มที่ โดยเฉพาะโครงการบ้านกัลยาณมิตร ท่านก็เปิดวัดของท่านให้เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมบ้านกัลยาณมิตรประจำอำเภออีกด้วยค่ะ

 

 

 

        ส่วนตัวแทนโรงเรียน ก็ได้แก่ อาจารย์ประสิทธิ์ โม่งใส คุณครูโรงเรียนบ้านกุดน้ำใส 3-พระครูอนุสรณ์ ซึ่งถือได้ว่าท่านเป็นกำลังสำคัญในการพาเด็กนักเรียน พ่อแม่ผู้ปกครอง และชาวบ้านในชุมชน มาร่วมสวดมนต์นั่งสมาธิเป็นประจำไม่เคยขาดเลยค่ะ หลวงพ่อเจ้าคะ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่า การจัดบวชอุบาสิกาแก้ว รวมถึงการจัดบวชพระนั้น จะทำให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุข ชุมชนและสังคมก็สงบสุขมากขึ้นอีกด้วยค่ะ และยิ่งได้มีโครงการบ้านกัลยาณมิตรด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ทุกคนอยู่ในศีลในธรรม ได้มารวมตัวกันทำความดี เปิดบ้านของตนให้เป็นทางมาแห่งบุญ บางคนบอกว่า ตั้งแต่สร้างบ้านมา วันนี้แหละ คุ้มค่า เกิดประโยชน์ และมีความสุขที่สุด บางคนถึงกับน้ำตาไหลที่ได้เปิดบ้านกัลยาณมิตร

 

 

 

 

        สุดท้ายนี้ ลูกก็อยากจะเชิญชวนพลังสตรีทุกคน ให้ออกไปทำหน้าที่ชวนบวชพระ ชวนบวชอุบาสิกาแก้วกันได้แล้วนะคะ เพราะเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วัน ก็จะปิดรับสมัครแล้ว เรามาพร้อมใจกันชวนบวชให้เกินล้านคนกันไปเลยค่ะ

 

กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง

 

กัลฯฉวีวรรณ ภิรมย์ชม

 

************************