CASE STUDY
ฆาตกรรม...อำพราง
(อดีตชอบอุทาน ปัจจุบันกาลจึงเป็นไส้เลื่อน)
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ ที่เคารพอย่างสูงค่ะ
ครอบครัวของลูกเข้าวัดเมื่อปีพ.ศ. 2529 เพราะมีอุบาสกที่วัดนำรถมาซ่อมที่ร้านของลูก และได้มอบวารสารกัลยาณมิตรให้อ่าน เพียงแค่ลูกและสามีได้เห็นภาพวัดในหนังสือเท่านั้น เราทั้งสองก็เกิดความศรัทธาขึ้นมาทันที นึกไม่ถึงเลยว่ายังจะมีวัดดี ๆ อย่างนี้อยู่ในเมืองไทย แรงบันดาลใจครั้งนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ครอบครัวของลูกได้มีโอกาสมาวัดเป็นครั้งแรก แล้วเราก็ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ ประทับใจทุกอย่าง บอกได้คำเดียวว่า “เราโชคดี...ที่มาถูกทางแล้ว” นับแต่นั้นมา ครอบครัวของลูกจึงมาทำบุญที่วัดเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ต้นเดือนมิได้ขาดเลย
ครอบครัวของเราทุ่มเทสร้างบารมีอย่างเต็มกำลังในทุกๆบุญ ไม่เคยขาดเลยแม้แต่บุญเดียวค่ะ เมื่อปี 2536 ได้ร่วมบุญหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ทองคำ 1 M, ปี 2537 ร่วมบุญทอดกฐินสามัคคี 1 M, ปี 2538 ร่วมบุญสร้างองค์พระ 2 M บอกบุญได้อีก 1 M และที่ลูกปลื้มใจมากๆก็คือ เมื่อมีการประกวดข้าวต้มมัดใจ ลูกก็ได้รับโล่รางวัลแชมป์ข้าวต้มมัดจำนวนสูงสุดและอร่อยสุด ถึง 3 ครั้ง สถิติจำนวนข้าวต้มมัดสูงสุดที่ลูกทำไว้มากถึง 14,320 มัดค่ะ ลูกกราบขอความเมตตาหลวงพ่อฝันในฝันถึงครอบครัวของลูกด้วยเจ้าค่ะ
น้องสาวของลูก เป็นคนน่ารัก ขยันขันแข็ง มีนิสัยประหยัด อดออม และรักความเจริญก้าวหน้า เราสนิทสนมกันมากและเคยทำธุรกิจร่วมกัน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ปี พ.ศ.2532 น้องสาวตัดสินใจเดินทางไปทำธุรกิจร้านอาหารไทยที่ประเทศนิวซีแลนด์ตามลำพัง แต่ทำอยู่ได้ไม่นาน ก็เลิกกิจการร้านอาหารไป ต่อมาเธอเห็นลู่ทางที่ดีกว่า จึงเปลี่ยนมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เธอลงทุนซื้อบ้านในเมืองอ๊อคแลนด์ให้ชาวต่างชาติที่มาตั้งรกรากในนิวซีแลนด์ได้มาเช่าพักอาศัย โดยมีทนายความเพื่อนสนิทของเธอเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์
เธอถูกชักชวนให้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์ แล้วเธอก็เปลี่ยนไปอย่างง่ายดาย และนอกจากเธอจะได้ไปร่วมกิจกรรมที่หอประชุมคริสตจักรเป็นประจำแล้ว เธอยังทุ่มเททำหน้าที่เชิญชวนคนใหม่ๆ มาเข้าร่วมพิธีปฏิญาณตนเป็นพยานของพระยะโฮวาอยู่เสมอ จนแทบไม่มีเวลากลับมาเยี่ยมญาติพี่น้องที่เมืองไทย ครั้งล่าสุด เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2547 น้องสาวกลับมาฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 50 ปี เธอถูกพี่ๆ ขอร้องให้กลับมาอยู่เมืองไทยเหมือนเดิม เธอตอบตกลงทันที และยืนยันว่า ปีหน้าเธอจะย้ายกลับมาอยู่ด้วยกันอย่างแน่นอน ...แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2547 มีโทรศัพท์ทางไกลจากนิวซีแลนด์แจ้งว่า น้องสาวได้หายตัวไปจากบ้านอย่างลึกลับ ทุกคนตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเธอได้อย่างไร จึงทำได้เพียงขอร้องให้เพื่อนของเธอรีบไปแจ้งความให้เร็วที่สุด ลูกก็ไม่รอช้า รีบทำบุญส่งไปให้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะบุญองค์พระและกฐินจักรพรรดิ ช่วยกันอธิษฐานจิตขอให้เธอปลอดภัย ลูกรอคอยด้วยความหวังว่าทางตำรวจจะพบตัวเธอโดยเร็ว
วันต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าได้พบตัวเธอแล้ว แต่....บัดนี้เธอกลับกลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณเสียแล้ว ศพของเธอลอยไปติดที่อวนของชาวประมงในแม่น้ำไวกาโต้ สภาพศพเน่าเฟะเพราะถูกปลาตอดกิน ศพห่อด้วยผ้านวมมัดเป็นปมอย่างแน่นหนา ตำรวจสันนิษฐานว่าฆาตกรต้องการทำลายหลักฐาน จึงนำศพของเธอไปถ่วงน้ำ ก่อนหน้าที่จะทราบเรื่องการตายของเธอ คนงานที่พักอยู่ที่บ้านหลังเดิมของเธอในเมืองไทย ฝันเห็นเธอกำลังนั่งโทรศัพท์อยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน โดยมีกระเป๋าสัมภาระติดตัวมาด้วย 3 ใบ
ต่อมาภายหลังเมื่อทราบว่าเธอเสียชีวิตแล้ว น้องชายคนสุดท้องก็ฝันเห็นเธอเข้ามาในบ้านพร้อมกับคุณแม่ซึ่งเสียชีวิตไปนานแล้ว น้องชายตกใจมาก รีบถามเธอว่า “เรื่องนี้มีสาเหตุมาจากอะไร ” เธอตอบว่า “เคลมประกัน” (คือ การเรียกร้องเงินประกันจากบริษัทประกันเมื่อผู้ทำประกันเสียชีวิตลง มีผลให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในเงินประกันของผู้ตาย)
ตลอดเวลาที่ผ่านมา น้องสาวเป็นคนขยันทำมาหากิน ใช้เงินอย่างประหยัดมาทั้งชีวิต โดยหวังจะเก็บเงินไว้ใช้เลี้ยงชีวิตในบั้นปลาย แต่ในที่สุดเธอก็ไม่มีโอกาสได้ใช้เงินอีกแล้ว
พ่อของลูก เป็นคนสุขภาพแข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอไม่ต่ำกว่าวันละ 4 ชั่วโมง เป็นครูสอนรำไท้เก๊กและมวยจีนเป็นวิทยาทาน และยังชอบนั่งสมาธิแบบโยคะ ท่านเคยพูดกับลูกๆว่า “ถ้าแข็งแรงอย่างนี้ ร้อยปีก็อยู่ไหว” แต่ยังไม่ทันถึงร้อยปี ท่านก็มีอาการอ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ หมอตรวจพบว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดีและหูรูดต่อมลูกหมากเสื่อม จึงเข้ารับการผ่าตัด แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ทั้งยังขยับตัวลุกขึ้นไม่ได้ กลายเป็นอัมพาตไปเลย คุณพ่อทนทุกข์อยู่ประมาณ 4 เดือนก็มาเสียชีวิตลงเมื่ออายุได้ 72 ปี
คุณแม่ของลูก เป็นคนใจบุญ ชอบไหว้เจ้า และทำบุญกับมูลนิธิคนชราและปอเต็กตึ้ง และยังฝากเงินให้ลูกมาทำบุญที่วัดอยู่เป็นประจำ เมื่ออายุ 79 ปี หมอตรวจพบว่า ท่านเป็นโรคหัวใจโตและโรคไต แต่ตัวท่านเองกลับรู้สึกปกติเหมือนไม่ได้เป็นอะไร ต่อมาท่านหกล้มทำให้เส้นเลือดในสมองแตก ทุกคนลงความเห็นตรงกันว่า ไม่ควรผ่าตัดเพราะท่านอายุมากแล้วและยังเคยสั่งว่า “ถ้าหากเป็นอะไร...ก็ไม่ให้ผ่าตัด” ลูกก็เลยทำใจว่า ถ้าหมดออกซิเจนถังนี้แล้ว ก็จะให้ท่านไปอย่างสงบค่ะ ลูกนิมนต์พระลูกชายของลูกจากวัดพระธรรมกายมาส่งท่านเป็นครั้งสุดท้าย บอกให้คุณแม่นึกถึงบุญที่ได้มาวัดและได้เคยสร้างองค์พระ เมื่อถึงวาระสุดท้าย พระลูกชายก็สวดชะยันโตไปเรื่อย ๆ กระทั่งท่านสิ้นลมจากไปด้วยอาการสงบ
พระลูกชายคนโต ปัจจุบันบวชอยู่ที่วัดได้ 5 พรรษาแล้วค่ะ ตั้งแต่เล็กจนโตก็มีเหตุให้ต้องเข้าโรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ บางครั้งก็ประสบอุบัติเหตุ บางครั้งก็ป่วยหนัก เช่น เมื่ออายุได้ 1 ขวบ ถูกโยมพ่อถอยรถมาทับโดยบังเอิญ แต่โชคดีที่ไม่เป็นอะไร ต่อมาก็หกล้มคะมำจนฟันหักทิ่มเข้าไปในเหงือก, พออายุ 2 ขวบ เล่นซุกซนทำจานตกจากโต๊ะ เศษจานกระเบื้องกระเด็นใส่หน้าจนต้องเย็บไปหลายเข็ม ต่อมาเป็นไข้ไทฟอยด์ชักหมดสติและกัดลิ้นตัวเอง แม้บวชแล้ว ก็ยังต้องมาผ่าตัดไส้ติ่ง ผ่าตัดไส้เลื่อน และมีพังผืดจากแผลไส้ติ่งมารัดลำไส้ ทำให้ลำไส้อุดตันอาหารจึงไม่ย่อย ต้องสวนสายยางทางโพรงจมูกเพื่อดูดเอาอาหารระบายออกมาจากลำไส้ พระลูกชายต้องเข้าโรงพยาบาลติดต่อกันปีละครั้ง จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่หายดีค่ะ
ลูกชายคนสุดท้อง เมื่อตอนอายุได้ ๑๓ ปี มีอาการปวดปัสสาวะบ่อย ร่างกายซูบผอมลง ลูกเข้าใจว่า เป็นอาการของคนในช่วงวัยรุ่น จึงชะล่าใจไม่ได้พาไปหาหมอ ต่อมาเขามีไข้ตัวร้อนประมาณ ๒-๓ วัน จึงได้พาเขาไปพบหมอ หมอได้ออกความเห็นว่า ควรให้กลูโคส เพื่อให้ร่างกายสดชื่นมีกำลังขึ้น จึงฉีดกลูโคสไป โดยที่มิได้ตรวจเลือดดูก่อนว่า มีน้ำตาลอยู่แล้ว หลังจากนั้นระหว่างทางกลับบ้าน เขามีความรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก ลูกเห็นเขาอ้าปากไม่ได้ เหมือนควบคุมร่างกายไม่ได้ ลูกจึงรีบนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลทันที หมอได้ตรวจพบว่า เขาป่วยเป็นโรคเบาหวาน โดยมีน้ำตาลในเลือดสูงถึง ๔๐๐ เศษๆ หมอจึงรีบส่งเข้าห้อง ICU ประมาณ ๓-๔ วัน จนปลอดภัยดี แล้วจึงนำเขากลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้าน ตั้งแต่นั้นมา เขาต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำทุกวัน จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ เป็นเวลา 8 ปี แล้ว
คำถาม
1. บุพกรรมใดทำให้น้องสาวของลูกต้องมาถูกฆาตกรรมอย่างทารุณตายลึกลับอย่างนี้ น้องสาวของลูกเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด เธอได้มาวนเวียนที่บ้านตั้งแต่วันที่เธอเสียชีวิตตามที่ลูกจ้างและน้องชายฝันหรือไม่ และที่เธอบอกกับน้องชายในฝันว่า สาเหตุเพราะการเคลมประกันชีวิตนั้น จริงหรือไม่คะ?
2. ปัจจุบันน้องสาวอยู่ในภพภูมิใด เธอมีคตินิมิตก่อนตายเป็นอย่างไร ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่, เธอเชื่อเรื่องบุญรึยังคะ, และบุญที่เธอเคยได้สร้างองค์พระไว้เมื่อปี พ.ศ.2537 จะส่งผลกับเธออย่างไรในปรโลก, เธอมีอะไรจะฝากบอกญาติพี่น้องทางนี้ไหมคะ
3. เหตุใดเธอต้องแยกตัวไปจากครอบครัวและเปลี่ยนไปนับถือความเชื่ออื่น, การที่เธออุทิศตนเป็นคริสเตียนที่เคร่งมานาน 7 ปี จะมีผลกับเธออย่างไรทั้งในปรโลกและภพชาติต่อๆ ไป
4. ทั้งๆที่คุณพ่อก็เป็นคนแข็งแรงมาก แต่เป็นเพราะบุพกรรมใดท่านจึงต้องจากไปอย่างไม่คาดคิดด้วยโรคนิ่วในถุงน้ำดีและหูรูดต่อมลูกหมากเสื่อม , ตอนนั้นหากลูกหลานตัดสินใจไม่ให้หมอผ่าตัด ท่านจะมีอายุขัยยืนยาวกว่านี้ไหมคะ
5. คุณแม่ของลูกทำกรรมอะไรมาจึงต้องมาเป็นโรคหัวใจโตและโรคไต และมาเสียชีวิตด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก
6. คุณพ่อและคุณแม่ของลูกตายแล้วมีคตินิมิตเป็นอย่างไร, ท่านได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่ และท่านได้ฝากข้อความอะไรมาบ้าง
7. เหตุใดพระลูกชายจึงเจ็บป่วยอยู่บ่อยๆ บุญอะไรจึงทำให้รอดชีวิตมาได้ทุกครั้ง อาการพังผืดรัดลำไส้จะมีโอกาสกลับมาเป็นอีกหรือไม่ หากต้องการให้หายขาดจากโรคต่าง ๆ ต้องแก้ไขอย่างไรจึงจะรอดพ้นจากวิบากกรรม
8. เพื่อนรุ่นพี่ของพระลูกชาย เคยบวชช่วงสั้นมาด้วยกัน เขาได้เป็นกัลยาณมิตรให้พระลูกชายตัดสินใจบวชอยู่ต่อจนถึงปัจจุบันนี้ ตัวเขามีกำลังบุญพอที่จะกลับมาบวชได้ตลอดชีวิตหรือไม่ และเขาเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร
9. ลูกชายคนสุดท้อง ทำไมจึงป่วยเป็นโรคเบาหวานตั้งแต่เด็ก ทั้งๆที่โรคนี้จะเป็นกับผู้ใหญ่ที่มีอายุแล้วเท่านั้น เป็นเพราะวิบากกรรมใด และจะแก้ไขได้อย่างไรคะ
10. สามีของลูก เป็นไส้เลื่อนเช่นเดียวกับพระลูกชาย ต้องผ่าตัดถึง 2 ครั้งเป็นเพราะบุพกรรมใดคะ
11. คุณพ่อสามีเสียชีวิตจากการถูกไฟฟ้าช๊อตขณะซ่อมไฟฟ้า ส่วนน้องสาวสามีโดยสารมากับรถมอเตอร์ไซด์แต่รถเสียหลักล้มลงแล้วถูกรถเมล์แซงมาทับศีรษะจนเสียชีวิต เป็นเพราะวิบากกรรมใดคะ ขณะนี้อยู่ภพภูมิใด ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่
12. ครอบครัวของลูกเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไรโดยเฉพาะพระลูกชายนั้น มีหน้าที่อย่างไรในกองทัพธรรมและในอดีตเคยเข้าถึงพระธรรมกายหรือไม่ ลูกชายคนกลางมีบุญบวชในอดีตมาบ้างหรือไม่ เขาควรเป็นกองเสบียงหรือมาอยู่ในวัดดีค่ะ ครอบครัวของลูกอยากไปอยู่ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษด้วยกันทุกคน ความปรารถนานี้จะสำเร็จหรือไม่ค่ะ และจะต้องทำอย่างไรคะ
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
1. น้องสาวถูก “ฆาตกรรม” เพราะ ...กรรมในอดีตเธอเป็นผู้ชาย เคยทำการค้ากับเพื่อนเป็นหุ้นส่วนกัน ต่อมาก็ขัดแย้งกัน เพราะความโลภของน้องสาว จึงวางแผน “ฆ่าหุ้นส่วน” เพื่อจะฮุบกิจการทั้งหมด จนหุ้นส่วนตาย ด้วยวิบากกรรมนี้ จึงทำให้เธอถูกฆาตกรรมในชาตินี้จ่ะ!
- เมื่อตายใหม่ ๆ จิตขุ่นเคืองคนที่ทรยศหักหลังและฆ่าเธอ , เธอจึงมีจิตเศร้าหมอง ดังนั้น เธอจึงหาหนทางกลับบ้านไม่ถูก ยังวนเวียนอยู่แถวที่บริเวณที่ถูกฆ่า
- แล้วถูกนำมาทิ้งในแม่น้ำ และไม่ได้กลับมาเมืองไทย เพราะกำลังจิตเศร้าหมอง จิตจึงไม่มีกำลังพอที่จะมาเมืองไทยได้
- ดังนั้นที่น้องชายฝัน จึงเป็นเรื่องจิตนิวรณ์จ่ะ!
- แต่ที่เธอไม่ได้ไปอบาย ทั้งๆที่จิตยังขุ่นเคือง เพราะบุญที่เคยสร้างพระธรรมกายประจำตัวยังคุ้มอยู่
2. ต่อมาเมื่ออุทิศบุญไปให้ ก็เลยทำให้ใจเธอคลายจากความเศร้าหมอง แต่ยังมี “ความห่วง” สมบัติที่นิวซีแลนด์อยู่ จึงทำให้เธอเป็นเหมือน “ภุมมเทวา” สายยักษ์ระดับชั้นกลาง วนเวียนอยู่ที่บริเวณที่พักอาศัยเดิม
- ตอนนี้เธอเริ่มเข้าใจเรื่องบุญมากขึ้น แต่ยังตัดใจไม่ค่อยได้ จากการห่วงสมบัติ
- ได้ฝากบอกญาติ พี่น้องมาว่า ขออยู่ดูสมบัติทางนี้ก่อนจ่ะ!
3. เหตุที่เธอหันไปนับถือศาสนาอื่น เพราะเธอยังทำบุญในพระพุทธศาสนาน้อย อีกทั้งไม่ค่อยได้ศึกษาคำสอนในพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง จึงทำให้ถูกชักชวนให้คล้อยตามได้ง่าย
- การที่ถือเคร่งในศาสนาอื่นนานถึง 7 ปี ก็จะมีผลทำให้เธอรับบุญที่อุทิศไปให้ได้ไม่เต็มที่ และจะทำให้เธอไปไม่สูง อีกทั้งภพชาติต่อไป ก็จะห่างไกลจากพระพุทธศาสนา
4. คุณพ่อทั้งๆที่ยังแข็งแรงดี แต่ต้องจากไปด้วยโรค “นิ่วในถุงน้ำดี” และ “หูรูด ต่อมลูกหมากเสื่อม” เพราะ กรรม “มักโกรธ” และ “ฆ่าสัตว์ทำอาหาร” ทั้งในอดีตและปัจจุบันตามมาส่งผล
- อีกทั้งหมดอายุขัยด้วย ดังนั้นไม่ว่าท่านจะผ่าตัดหรือไม่ผ่าตัดก็ตายจ่ะ!
5. คุณแม่เป็น “โรคหัวใจโต” และ “โรคไต” เพราะกรรมในอดีต ได้เกิดในสังคมเกษตรกรรม ได้ใช้แรงงานสัตว์และแรงงานคนมากเกินไป โดยไม่ค่อยให้พัก จึงทำให้เป็นโรคหัวใจโต
- แต่ชาตินั้นมีฐานะดี มักจะรับจำนองที่ดินบ้าง , ข้าวบ้าง โดยคิด “ดอกโหด” กรรมดังกล่าวตามมาส่งผลจ่ะ!
- เสียชีวิตด้วยเส้นเลือดในสมองแตก เพราะ กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหาร ทั้งในอดีตและปัจจุบันตามมาส่งผลจ่ะ!
6. คุณพ่อตายแล้วก็ไปเป็น “อากาศเทวา” ด้วยบุญที่ชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และให้วิทยาทาน
- ส่วนคุณแม่ไปเป็นเทพธิดามีวิมานทองของชั้น “ดาวดึงส์” เฟส 3 ด้วยบุญที่ทำในสาธารณะกุศล และที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนา
- ทั้ง 2 ท่านได้ รับบุญที่อุทิศไปให้แล้วจ่ะ! ก็ทำให้สภาพทุกอย่างดีขึ้นไปอีก
- ท่านฝากขอบคุณและอนุโมทนาบุญมาจ่ะ!
7. พระลูกชายในพุทธันดรที่ผ่านมา ได้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช ได้ออกรบและได้ฆ่าข้าศึกตายเป็นจำนวนมาก , กรรมนี้ตามมาส่งผล จึงทำให้ป่วยบ่อย ๆ
- ส่วนที่รอดชีวิตมาได้ เพราะ ,ในภายหลังได้ออกบวชตามพระราชา จนตลอดชีวิต โดยมีผลการปฏิบัติธรรมได้ “องค์พระภายใน” และได้ทำหน้าที่ “เผยแผ่” ด้วยบุญนี้ตามมาส่งผล จึงรอดทุกครั้งจ่ะ!
- หากต้องการหายขาดจากโรคนี้ ก็ต้องหมั่นออกกำลังกาย, บริหารขันธ์ 5 ให้ดี , สั่งสมบุญทุกบุญให้มากๆ และหมั่นปล่อยสัตว์ปล่อยปลาบ่อย ๆ , หนักก็จะเป็นเบา , เบาก็จะหายจ่ะ!
8. เพื่อนรุ่นพี่ของพระลูกชาย ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาหลายรูปแบบ เช่น เป็น “กองเสบียง” ในบางชาติ , และเป็น “พระ” ในบางชาติ ดังนั้น ผังนี้จึงยังไม่แน่นอน แล้วแต่เจ้าตัว จะตัดสินใจอย่างไร , แต่ก็มีบุญพอที่จะกลับมาบวชใหม่ได้ แต่ต้องใช้กำลังใจสูงจ่ะ!
9. ลูกชายคนสุดท้องป่วยเป็น “เบาหวาน” ตั้งแต่เด็ก เพราะ มีกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหาร และฆ่าเป็นเกมกีฬา อีกทั้ง มักโกรธ ขี้หงุดหงิด มักเอาแต่ใจตนเองในอดีต ตามมาส่งผลจ่ะ!
- จะแก้ไขต้องหมั่น ทำทาน , รักษาศีล และเจริญภาวนา , ปล่อยสัตว์ปล่อยปลาให้บ่อย ๆ แล้วอุทิศบุญกุศลนี้ไปให้สัตว์ที่เราเคยไปเบียดเบียนเขาไว้จ่ะ!
10. สามีของลูกเป็น “ไส้เลื่อน” และต้องถูกผ่าตัดถึง 2 ครั้ง เพราะ “วจีกรรม” ในอดีตที่ชอบอุทานออกมาเป็น “ของลับ”(ของรัก) ให้ผู้อื่นเสมอ ๆ และกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหาร ตามมาส่งผล
11. คุณพ่อสามีถูก “ไฟช๊อต” ขณะซ่อมไฟฟ้าจนเสียชีวิต เพราะ ...กรรมชอบสั่ง “ฆ่าสัตว์ใหญ่” มาทำเป็นอาหารและฆ่าขาย ในอดีตตามมาส่งผลจ่ะ!
- ตายแล้วก็ไปเป็น “ภุมมเทวา” อยู่ที่ “หมู่บ้านภุมมเทวาที่เป็นคนจีน” แห่งหนึ่งจ่ะ!
- ได้รับบุญที่อุทิศ ไปให้แล้ว ก็ทำให้ท่านมีสภาพทุกอย่างดีขึ้นจ่ะ!
- น้องสาวสามี ถูกรถเมล์ทับศีรษะเสียชีวิต เพราะ ...กรรมสั่งฆ่าสัตว์ใหญ่ เพื่อทำเป็นอาหารและฆ่าขายในอดีตเป็นอาจิณกรรม ตามมาส่งผล
- ตายแล้วก็ไปเกิดเป็น “มนุษย์” แล้วจ่ะ!
12. ครอบครัวของลูกก็เป็น “กองเสบียง”ของหมู่คณะจ่ะ!
- พระลูกชายก็ได้บวช และได้ทำหน้าที่เผยแผ่ และเคยเข้าถึงพระธรรมกายดังกล่าว
- ลูกชายคนกลางก็ยังสนุกทางโลกอยู่ , ยังไม่น้อมมาทางบวช , ให้ระวังเรื่องการคบเพื่อน และการผิดศีลข้อ 3 กับศีลข้อ 5 ด้วย
- ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ อย่าให้ตกบุญเลยแม้แต่เพียงบุญเดียว แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ!