ฆาตกรรมอำพราง


[ 22 มิ.ย. 2548 ] - [ 18279 ] LINE it!

CASE  STUDY
ฆาตกรรม...อำพราง
(อดีตชอบอุทาน ปัจจุบันกาลจึงเป็นไส้เลื่อน)
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ ที่เคารพอย่างสูงค่ะ
 
    ครอบครัวของลูกเข้าวัดเมื่อปีพ.ศ. 2529     เพราะมีอุบาสกที่วัดนำรถมาซ่อมที่ร้านของลูก และได้มอบวารสารกัลยาณมิตรให้อ่าน เพียงแค่ลูกและสามีได้เห็นภาพวัดในหนังสือเท่านั้น เราทั้งสองก็เกิดความศรัทธาขึ้นมาทันที นึกไม่ถึงเลยว่ายังจะมีวัดดี ๆ อย่างนี้อยู่ในเมืองไทย   แรงบันดาลใจครั้งนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ครอบครัวของลูกได้มีโอกาสมาวัดเป็นครั้งแรก แล้วเราก็ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ ประทับใจทุกอย่าง บอกได้คำเดียวว่า “เราโชคดี...ที่มาถูกทางแล้ว”   นับแต่นั้นมา ครอบครัวของลูกจึงมาทำบุญที่วัดเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ต้นเดือนมิได้ขาดเลย
 
    ครอบครัวของเราทุ่มเทสร้างบารมีอย่างเต็มกำลังในทุกๆบุญ ไม่เคยขาดเลยแม้แต่บุญเดียวค่ะ เมื่อปี 2536 ได้ร่วมบุญหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ทองคำ 1 M, ปี 2537 ร่วมบุญทอดกฐินสามัคคี 1 M,  ปี 2538 ร่วมบุญสร้างองค์พระ 2 M  บอกบุญได้อีก 1 M  และที่ลูกปลื้มใจมากๆก็คือ เมื่อมีการประกวดข้าวต้มมัดใจ ลูกก็ได้รับโล่รางวัลแชมป์ข้าวต้มมัดจำนวนสูงสุดและอร่อยสุด ถึง 3 ครั้ง สถิติจำนวนข้าวต้มมัดสูงสุดที่ลูกทำไว้มากถึง 14,320 มัดค่ะ   ลูกกราบขอความเมตตาหลวงพ่อฝันในฝันถึงครอบครัวของลูกด้วยเจ้าค่ะ
 
    น้องสาวของลูก เป็นคนน่ารัก  ขยันขันแข็ง  มีนิสัยประหยัด อดออม  และรักความเจริญก้าวหน้า  เราสนิทสนมกันมากและเคยทำธุรกิจร่วมกัน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
 
    ปี พ.ศ.2532 น้องสาวตัดสินใจเดินทางไปทำธุรกิจร้านอาหารไทยที่ประเทศนิวซีแลนด์ตามลำพัง แต่ทำอยู่ได้ไม่นาน ก็เลิกกิจการร้านอาหารไป   ต่อมาเธอเห็นลู่ทางที่ดีกว่า จึงเปลี่ยนมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เธอลงทุนซื้อบ้านในเมืองอ๊อคแลนด์ให้ชาวต่างชาติที่มาตั้งรกรากในนิวซีแลนด์ได้มาเช่าพักอาศัย โดยมีทนายความเพื่อนสนิทของเธอเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ 
 
    เธอถูกชักชวนให้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์ แล้วเธอก็เปลี่ยนไปอย่างง่ายดาย   และนอกจากเธอจะได้ไปร่วมกิจกรรมที่หอประชุมคริสตจักรเป็นประจำแล้ว เธอยังทุ่มเททำหน้าที่เชิญชวนคนใหม่ๆ มาเข้าร่วมพิธีปฏิญาณตนเป็นพยานของพระยะโฮวาอยู่เสมอ  จนแทบไม่มีเวลากลับมาเยี่ยมญาติพี่น้องที่เมืองไทย ครั้งล่าสุด เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2547   น้องสาวกลับมาฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 50 ปี เธอถูกพี่ๆ ขอร้องให้กลับมาอยู่เมืองไทยเหมือนเดิม เธอตอบตกลงทันที และยืนยันว่า ปีหน้าเธอจะย้ายกลับมาอยู่ด้วยกันอย่างแน่นอน ...แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
 
    วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2547 มีโทรศัพท์ทางไกลจากนิวซีแลนด์แจ้งว่า น้องสาวได้หายตัวไปจากบ้านอย่างลึกลับ ทุกคนตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเธอได้อย่างไร จึงทำได้เพียงขอร้องให้เพื่อนของเธอรีบไปแจ้งความให้เร็วที่สุด ลูกก็ไม่รอช้า รีบทำบุญส่งไปให้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะบุญองค์พระและกฐินจักรพรรดิ ช่วยกันอธิษฐานจิตขอให้เธอปลอดภัย ลูกรอคอยด้วยความหวังว่าทางตำรวจจะพบตัวเธอโดยเร็ว
 
    วันต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าได้พบตัวเธอแล้ว แต่....บัดนี้เธอกลับกลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณเสียแล้ว ศพของเธอลอยไปติดที่อวนของชาวประมงในแม่น้ำไวกาโต้ สภาพศพเน่าเฟะเพราะถูกปลาตอดกิน ศพห่อด้วยผ้านวมมัดเป็นปมอย่างแน่นหนา ตำรวจสันนิษฐานว่าฆาตกรต้องการทำลายหลักฐาน จึงนำศพของเธอไปถ่วงน้ำ ก่อนหน้าที่จะทราบเรื่องการตายของเธอ   คนงานที่พักอยู่ที่บ้านหลังเดิมของเธอในเมืองไทย ฝันเห็นเธอกำลังนั่งโทรศัพท์อยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน  โดยมีกระเป๋าสัมภาระติดตัวมาด้วย 3 ใบ
 
    ต่อมาภายหลังเมื่อทราบว่าเธอเสียชีวิตแล้ว น้องชายคนสุดท้องก็ฝันเห็นเธอเข้ามาในบ้านพร้อมกับคุณแม่ซึ่งเสียชีวิตไปนานแล้ว  น้องชายตกใจมาก รีบถามเธอว่า “เรื่องนี้มีสาเหตุมาจากอะไร ”  เธอตอบว่า  “เคลมประกัน”  (คือ การเรียกร้องเงินประกันจากบริษัทประกันเมื่อผู้ทำประกันเสียชีวิตลง มีผลให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในเงินประกันของผู้ตาย)
 
    ตลอดเวลาที่ผ่านมา น้องสาวเป็นคนขยันทำมาหากิน ใช้เงินอย่างประหยัดมาทั้งชีวิต โดยหวังจะเก็บเงินไว้ใช้เลี้ยงชีวิตในบั้นปลาย  แต่ในที่สุดเธอก็ไม่มีโอกาสได้ใช้เงินอีกแล้ว
 
    พ่อของลูก เป็นคนสุขภาพแข็งแรง  ออกกำลังกายสม่ำเสมอไม่ต่ำกว่าวันละ 4 ชั่วโมง เป็นครูสอนรำไท้เก๊กและมวยจีนเป็นวิทยาทาน และยังชอบนั่งสมาธิแบบโยคะ ท่านเคยพูดกับลูกๆว่า “ถ้าแข็งแรงอย่างนี้ ร้อยปีก็อยู่ไหว” แต่ยังไม่ทันถึงร้อยปี ท่านก็มีอาการอ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ  หมอตรวจพบว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดีและหูรูดต่อมลูกหมากเสื่อม  จึงเข้ารับการผ่าตัด แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ทั้งยังขยับตัวลุกขึ้นไม่ได้ กลายเป็นอัมพาตไปเลย  คุณพ่อทนทุกข์อยู่ประมาณ 4 เดือนก็มาเสียชีวิตลงเมื่ออายุได้ 72 ปี
 
    คุณแม่ของลูก เป็นคนใจบุญ ชอบไหว้เจ้า และทำบุญกับมูลนิธิคนชราและปอเต็กตึ้ง และยังฝากเงินให้ลูกมาทำบุญที่วัดอยู่เป็นประจำ  เมื่ออายุ 79 ปี  หมอตรวจพบว่า ท่านเป็นโรคหัวใจโตและโรคไต  แต่ตัวท่านเองกลับรู้สึกปกติเหมือนไม่ได้เป็นอะไร  ต่อมาท่านหกล้มทำให้เส้นเลือดในสมองแตก ทุกคนลงความเห็นตรงกันว่า ไม่ควรผ่าตัดเพราะท่านอายุมากแล้วและยังเคยสั่งว่า “ถ้าหากเป็นอะไร...ก็ไม่ให้ผ่าตัด” ลูกก็เลยทำใจว่า ถ้าหมดออกซิเจนถังนี้แล้ว ก็จะให้ท่านไปอย่างสงบค่ะ ลูกนิมนต์พระลูกชายของลูกจากวัดพระธรรมกายมาส่งท่านเป็นครั้งสุดท้าย บอกให้คุณแม่นึกถึงบุญที่ได้มาวัดและได้เคยสร้างองค์พระ เมื่อถึงวาระสุดท้าย พระลูกชายก็สวดชะยันโตไปเรื่อย ๆ กระทั่งท่านสิ้นลมจากไปด้วยอาการสงบ
 
    พระลูกชายคนโต ปัจจุบันบวชอยู่ที่วัดได้ 5 พรรษาแล้วค่ะ ตั้งแต่เล็กจนโตก็มีเหตุให้ต้องเข้าโรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ บางครั้งก็ประสบอุบัติเหตุ บางครั้งก็ป่วยหนัก เช่น เมื่ออายุได้ 1 ขวบ ถูกโยมพ่อถอยรถมาทับโดยบังเอิญ แต่โชคดีที่ไม่เป็นอะไร ต่อมาก็หกล้มคะมำจนฟันหักทิ่มเข้าไปในเหงือก,  พออายุ 2 ขวบ เล่นซุกซนทำจานตกจากโต๊ะ เศษจานกระเบื้องกระเด็นใส่หน้าจนต้องเย็บไปหลายเข็ม  ต่อมาเป็นไข้ไทฟอยด์ชักหมดสติและกัดลิ้นตัวเอง แม้บวชแล้ว ก็ยังต้องมาผ่าตัดไส้ติ่ง ผ่าตัดไส้เลื่อน และมีพังผืดจากแผลไส้ติ่งมารัดลำไส้ ทำให้ลำไส้อุดตันอาหารจึงไม่ย่อย ต้องสวนสายยางทางโพรงจมูกเพื่อดูดเอาอาหารระบายออกมาจากลำไส้ พระลูกชายต้องเข้าโรงพยาบาลติดต่อกันปีละครั้ง จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่หายดีค่ะ
 
    ลูกชายคนสุดท้อง เมื่อตอนอายุได้ ๑๓ ปี  มีอาการปวดปัสสาวะบ่อย ร่างกายซูบผอมลง ลูกเข้าใจว่า  เป็นอาการของคนในช่วงวัยรุ่น จึงชะล่าใจไม่ได้พาไปหาหมอ  ต่อมาเขามีไข้ตัวร้อนประมาณ ๒-๓ วัน    จึงได้พาเขาไปพบหมอ หมอได้ออกความเห็นว่า ควรให้กลูโคส เพื่อให้ร่างกายสดชื่นมีกำลังขึ้น จึงฉีดกลูโคสไป โดยที่มิได้ตรวจเลือดดูก่อนว่า  มีน้ำตาลอยู่แล้ว หลังจากนั้นระหว่างทางกลับบ้าน  เขามีความรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก  ลูกเห็นเขาอ้าปากไม่ได้ เหมือนควบคุมร่างกายไม่ได้  ลูกจึงรีบนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลทันที  หมอได้ตรวจพบว่า เขาป่วยเป็นโรคเบาหวาน โดยมีน้ำตาลในเลือดสูงถึง  ๔๐๐ เศษๆ หมอจึงรีบส่งเข้าห้อง ICU  ประมาณ  ๓-๔ วัน  จนปลอดภัยดี  แล้วจึงนำเขากลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้าน  ตั้งแต่นั้นมา  เขาต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำทุกวัน  จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้  เป็นเวลา 8 ปี แล้ว
 
คำถาม
 
1. บุพกรรมใดทำให้น้องสาวของลูกต้องมาถูกฆาตกรรมอย่างทารุณตายลึกลับอย่างนี้   น้องสาวของลูกเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด เธอได้มาวนเวียนที่บ้านตั้งแต่วันที่เธอเสียชีวิตตามที่ลูกจ้างและน้องชายฝันหรือไม่  และที่เธอบอกกับน้องชายในฝันว่า สาเหตุเพราะการเคลมประกันชีวิตนั้น จริงหรือไม่คะ?
 
2. ปัจจุบันน้องสาวอยู่ในภพภูมิใด เธอมีคตินิมิตก่อนตายเป็นอย่างไร  ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่, เธอเชื่อเรื่องบุญรึยังคะ, และบุญที่เธอเคยได้สร้างองค์พระไว้เมื่อปี พ.ศ.2537 จะส่งผลกับเธออย่างไรในปรโลก,   เธอมีอะไรจะฝากบอกญาติพี่น้องทางนี้ไหมคะ 
 
3. เหตุใดเธอต้องแยกตัวไปจากครอบครัวและเปลี่ยนไปนับถือความเชื่ออื่น, การที่เธออุทิศตนเป็นคริสเตียนที่เคร่งมานาน 7 ปี จะมีผลกับเธออย่างไรทั้งในปรโลกและภพชาติต่อๆ ไป
 
4. ทั้งๆที่คุณพ่อก็เป็นคนแข็งแรงมาก แต่เป็นเพราะบุพกรรมใดท่านจึงต้องจากไปอย่างไม่คาดคิดด้วยโรคนิ่วในถุงน้ำดีและหูรูดต่อมลูกหมากเสื่อม , ตอนนั้นหากลูกหลานตัดสินใจไม่ให้หมอผ่าตัด ท่านจะมีอายุขัยยืนยาวกว่านี้ไหมคะ
 
5. คุณแม่ของลูกทำกรรมอะไรมาจึงต้องมาเป็นโรคหัวใจโตและโรคไต และมาเสียชีวิตด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก
 
6. คุณพ่อและคุณแม่ของลูกตายแล้วมีคตินิมิตเป็นอย่างไร,  ท่านได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่  และท่านได้ฝากข้อความอะไรมาบ้าง 
 
7. เหตุใดพระลูกชายจึงเจ็บป่วยอยู่บ่อยๆ บุญอะไรจึงทำให้รอดชีวิตมาได้ทุกครั้ง อาการพังผืดรัดลำไส้จะมีโอกาสกลับมาเป็นอีกหรือไม่ หากต้องการให้หายขาดจากโรคต่าง ๆ  ต้องแก้ไขอย่างไรจึงจะรอดพ้นจากวิบากกรรม
 
8. เพื่อนรุ่นพี่ของพระลูกชาย เคยบวชช่วงสั้นมาด้วยกัน เขาได้เป็นกัลยาณมิตรให้พระลูกชายตัดสินใจบวชอยู่ต่อจนถึงปัจจุบันนี้  ตัวเขามีกำลังบุญพอที่จะกลับมาบวชได้ตลอดชีวิตหรือไม่    และเขาเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร 
 
9. ลูกชายคนสุดท้อง ทำไมจึงป่วยเป็นโรคเบาหวานตั้งแต่เด็ก ทั้งๆที่โรคนี้จะเป็นกับผู้ใหญ่ที่มีอายุแล้วเท่านั้น     เป็นเพราะวิบากกรรมใด และจะแก้ไขได้อย่างไรคะ
 
10. สามีของลูก เป็นไส้เลื่อนเช่นเดียวกับพระลูกชาย ต้องผ่าตัดถึง 2 ครั้งเป็นเพราะบุพกรรมใดคะ
 
11. คุณพ่อสามีเสียชีวิตจากการถูกไฟฟ้าช๊อตขณะซ่อมไฟฟ้า  ส่วนน้องสาวสามีโดยสารมากับรถมอเตอร์ไซด์แต่รถเสียหลักล้มลงแล้วถูกรถเมล์แซงมาทับศีรษะจนเสียชีวิต เป็นเพราะวิบากกรรมใดคะ  ขณะนี้อยู่ภพภูมิใด  ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่
 
12. ครอบครัวของลูกเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไรโดยเฉพาะพระลูกชายนั้น มีหน้าที่อย่างไรในกองทัพธรรมและในอดีตเคยเข้าถึงพระธรรมกายหรือไม่ ลูกชายคนกลางมีบุญบวชในอดีตมาบ้างหรือไม่  เขาควรเป็นกองเสบียงหรือมาอยู่ในวัดดีค่ะ   ครอบครัวของลูกอยากไปอยู่ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษด้วยกันทุกคน ความปรารถนานี้จะสำเร็จหรือไม่ค่ะ และจะต้องทำอย่างไรคะ
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. น้องสาวถูก “ฆาตกรรม”  เพราะ ...กรรมในอดีตเธอเป็นผู้ชาย เคยทำการค้ากับเพื่อนเป็นหุ้นส่วนกัน   ต่อมาก็ขัดแย้งกัน เพราะความโลภของน้องสาว จึงวางแผน “ฆ่าหุ้นส่วน”  เพื่อจะฮุบกิจการทั้งหมด จนหุ้นส่วนตาย ด้วยวิบากกรรมนี้  จึงทำให้เธอถูกฆาตกรรมในชาตินี้จ่ะ!
 
 
  • เมื่อตายใหม่ ๆ จิตขุ่นเคืองคนที่ทรยศหักหลังและฆ่าเธอ , เธอจึงมีจิตเศร้าหมอง   ดังนั้น เธอจึงหาหนทางกลับบ้านไม่ถูก ยังวนเวียนอยู่แถวที่บริเวณที่ถูกฆ่า 
  • แล้วถูกนำมาทิ้งในแม่น้ำ และไม่ได้กลับมาเมืองไทย  เพราะกำลังจิตเศร้าหมอง จิตจึงไม่มีกำลังพอที่จะมาเมืองไทยได้  
 
 
  • ดังนั้นที่น้องชายฝัน  จึงเป็นเรื่องจิตนิวรณ์จ่ะ!  
 
  • แต่ที่เธอไม่ได้ไปอบาย  ทั้งๆที่จิตยังขุ่นเคือง เพราะบุญที่เคยสร้างพระธรรมกายประจำตัวยังคุ้มอยู่
 
 
2. ต่อมาเมื่ออุทิศบุญไปให้ ก็เลยทำให้ใจเธอคลายจากความเศร้าหมอง แต่ยังมี “ความห่วง” สมบัติที่นิวซีแลนด์อยู่ จึงทำให้เธอเป็นเหมือน “ภุมมเทวา” สายยักษ์ระดับชั้นกลาง วนเวียนอยู่ที่บริเวณที่พักอาศัยเดิม 
 
 
  • ตอนนี้เธอเริ่มเข้าใจเรื่องบุญมากขึ้น แต่ยังตัดใจไม่ค่อยได้ จากการห่วงสมบัติ  
  • ได้ฝากบอกญาติ พี่น้องมาว่า ขออยู่ดูสมบัติทางนี้ก่อนจ่ะ!
 
 
3. เหตุที่เธอหันไปนับถือศาสนาอื่น เพราะเธอยังทำบุญในพระพุทธศาสนาน้อย อีกทั้งไม่ค่อยได้ศึกษาคำสอนในพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง จึงทำให้ถูกชักชวนให้คล้อยตามได้ง่าย 
 
 
  • การที่ถือเคร่งในศาสนาอื่นนานถึง 7 ปี    ก็จะมีผลทำให้เธอรับบุญที่อุทิศไปให้ได้ไม่เต็มที่    และจะทำให้เธอไปไม่สูง   อีกทั้งภพชาติต่อไป  ก็จะห่างไกลจากพระพุทธศาสนา
 
 
4. คุณพ่อทั้งๆที่ยังแข็งแรงดี   แต่ต้องจากไปด้วยโรค “นิ่วในถุงน้ำดี” และ “หูรูด ต่อมลูกหมากเสื่อม”  เพราะ กรรม “มักโกรธ”  และ “ฆ่าสัตว์ทำอาหาร”  ทั้งในอดีตและปัจจุบันตามมาส่งผล  
 
 
  • อีกทั้งหมดอายุขัยด้วย  ดังนั้นไม่ว่าท่านจะผ่าตัดหรือไม่ผ่าตัดก็ตายจ่ะ!
 
 
5. คุณแม่เป็น “โรคหัวใจโต” และ “โรคไต”  เพราะกรรมในอดีต ได้เกิดในสังคมเกษตรกรรม  ได้ใช้แรงงานสัตว์และแรงงานคนมากเกินไป  โดยไม่ค่อยให้พัก   จึงทำให้เป็นโรคหัวใจโต
 
 
  • แต่ชาตินั้นมีฐานะดี มักจะรับจำนองที่ดินบ้าง , ข้าวบ้าง โดยคิด “ดอกโหด” กรรมดังกล่าวตามมาส่งผลจ่ะ! 
 
  • เสียชีวิตด้วยเส้นเลือดในสมองแตก   เพราะ กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหาร ทั้งในอดีตและปัจจุบันตามมาส่งผลจ่ะ!
 
 
6. คุณพ่อตายแล้วก็ไปเป็น “อากาศเทวา”  ด้วยบุญที่ชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์   และให้วิทยาทาน  
 
 
  • ส่วนคุณแม่ไปเป็นเทพธิดามีวิมานทองของชั้น “ดาวดึงส์” เฟส 3  ด้วยบุญที่ทำในสาธารณะกุศล  และที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนา  
 
 
  • ทั้ง 2 ท่านได้ รับบุญที่อุทิศไปให้แล้วจ่ะ!  ก็ทำให้สภาพทุกอย่างดีขึ้นไปอีก
  • ท่านฝากขอบคุณและอนุโมทนาบุญมาจ่ะ!
 
 
7. พระลูกชายในพุทธันดรที่ผ่านมา  ได้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช ได้ออกรบและได้ฆ่าข้าศึกตายเป็นจำนวนมาก , กรรมนี้ตามมาส่งผล จึงทำให้ป่วยบ่อย ๆ
 
 
  • ส่วนที่รอดชีวิตมาได้ เพราะ ,ในภายหลังได้ออกบวชตามพระราชา จนตลอดชีวิต โดยมีผลการปฏิบัติธรรมได้ “องค์พระภายใน” และได้ทำหน้าที่ “เผยแผ่” ด้วยบุญนี้ตามมาส่งผล จึงรอดทุกครั้งจ่ะ!  
 
 
  • หากต้องการหายขาดจากโรคนี้ ก็ต้องหมั่นออกกำลังกาย, บริหารขันธ์ 5 ให้ดี , สั่งสมบุญทุกบุญให้มากๆ และหมั่นปล่อยสัตว์ปล่อยปลาบ่อย ๆ , หนักก็จะเป็นเบา , เบาก็จะหายจ่ะ!
 
8. เพื่อนรุ่นพี่ของพระลูกชาย ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาหลายรูปแบบ  เช่น  เป็น “กองเสบียง” ในบางชาติ , และเป็น “พระ” ในบางชาติ  ดังนั้น ผังนี้จึงยังไม่แน่นอน แล้วแต่เจ้าตัว จะตัดสินใจอย่างไร , แต่ก็มีบุญพอที่จะกลับมาบวชใหม่ได้ แต่ต้องใช้กำลังใจสูงจ่ะ!
 
 
9. ลูกชายคนสุดท้องป่วยเป็น “เบาหวาน” ตั้งแต่เด็ก เพราะ มีกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหาร  และฆ่าเป็นเกมกีฬา  อีกทั้ง มักโกรธ  ขี้หงุดหงิด  มักเอาแต่ใจตนเองในอดีต  ตามมาส่งผลจ่ะ! 

 
  • จะแก้ไขต้องหมั่น ทำทาน , รักษาศีล  และเจริญภาวนา , ปล่อยสัตว์ปล่อยปลาให้บ่อย ๆ   แล้วอุทิศบุญกุศลนี้ไปให้สัตว์ที่เราเคยไปเบียดเบียนเขาไว้จ่ะ!
 
 
10. สามีของลูกเป็น “ไส้เลื่อน” และต้องถูกผ่าตัดถึง 2 ครั้ง เพราะ “วจีกรรม” ในอดีตที่ชอบอุทานออกมาเป็น “ของลับ”(ของรัก) ให้ผู้อื่นเสมอ ๆ  และกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหาร ตามมาส่งผล
 
 
11. คุณพ่อสามีถูก “ไฟช๊อต” ขณะซ่อมไฟฟ้าจนเสียชีวิต เพราะ ...กรรมชอบสั่ง “ฆ่าสัตว์ใหญ่” มาทำเป็นอาหารและฆ่าขาย ในอดีตตามมาส่งผลจ่ะ!
 
 
  • ตายแล้วก็ไปเป็น “ภุมมเทวา” อยู่ที่ “หมู่บ้านภุมมเทวาที่เป็นคนจีน” แห่งหนึ่งจ่ะ!  
  • ได้รับบุญที่อุทิศ  ไปให้แล้ว  ก็ทำให้ท่านมีสภาพทุกอย่างดีขึ้นจ่ะ! 
 
  • น้องสาวสามี  ถูกรถเมล์ทับศีรษะเสียชีวิต เพราะ ...กรรมสั่งฆ่าสัตว์ใหญ่ เพื่อทำเป็นอาหารและฆ่าขายในอดีตเป็นอาจิณกรรม  ตามมาส่งผล 
 
 
  • ตายแล้วก็ไปเกิดเป็น “มนุษย์” แล้วจ่ะ!
 
 
12. ครอบครัวของลูกก็เป็น “กองเสบียง”ของหมู่คณะจ่ะ! 

 
  • พระลูกชายก็ได้บวช และได้ทำหน้าที่เผยแผ่ และเคยเข้าถึงพระธรรมกายดังกล่าว  
 
  • ลูกชายคนกลางก็ยังสนุกทางโลกอยู่  , ยังไม่น้อมมาทางบวช , ให้ระวังเรื่องการคบเพื่อน  และการผิดศีลข้อ 3 กับศีลข้อ 5 ด้วย
 
  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว  ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่   อย่าให้ตกบุญเลยแม้แต่เพียงบุญเดียว   แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์   อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ!


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม