ชีวิตที่เหมือนโดนสาป(นางงาม)


[ 14 มิ.ย. 2548 ] - [ 18269 ] LINE it!

Case study
ชีวิตที่เหมือนโดนคำสาป
(นางงาม)
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ
 
    ลูกเป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ผ่านทางจานดาวธรรมค่ะ ลูกติดจานเพราะได้รับคำแนะนำจากนางงามที่เป็นดาราในวงการ ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นเด็กในค่ายของลูกค่ะ
 
    ลูก มีอาชีพเป็นช่างเสริมสวย แต่ชีวิตก็พลิกผัน ให้ไปเป็นนักปั้นนางงาม เพื่อส่งเข้าประกวดตามเวทีต่างๆ  ลูกคร่ำหวอดในวงการนี้มานานกว่า 50 ปี สาวงามที่ลูกเคยปั้น ล้วนแล้วแต่คว้ารางวัล หรือกลายเป็นดาราในวงการบันเทิง วงการนางแบบไปแล้วหลายคน
 
    บนถนนสายนี้ ทำให้ชีวิตลูกดูฟู่ฟ่า หรูหราโด่งดัง เป็นที่นับหน้าถือตาของคนมากมาย ทำให้ลูกสามารถทำเงินได้อย่างไม่ขาดมือ ลูกได้ถูกเชื้อเชิญไปออกรายการทางทีวีหลายช่อง ได้ถ่ายโฆษณาเครื่องสำอางที่มีชื่อเสียง แต่ในทางกลับกัน บนถนนสายชีวิตอีกด้านหนึ่งของลูก กลับถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมน ลูกรู้สึกทุกข์ใจเป็นที่สุด จนสื่อมวลชนต้องลงพาดหัวในคอลัมน์สัมภาษณ์ของลูกหลายฉบับว่า “ชีวิตลูกเหมือนโดนคำสาป” เพราะโรคเวรโรคกรรม ได้คร่าชีวิตคนในครอบครัวอันเป็นที่รักที่สุดของลูก ให้ตายจากไปอย่างทรมานทีละคน...ทีละคน..
 
    ลูก และ สามี มีลูกด้วยกัน 5 คน เป็นชาย 2 คน หญิง  3 คน ครอบครัวของลูกเป็นครอบครัวที่อบอุ่น อยู่กันด้วยความรักความเข้าใจ ต่อมา สามี เริ่มล้มป่วยตอนเขาอายุได้เพียง 40 ปี โดยเริ่มมีอาการเดินเซไปเซมา จนกระทั่งหกล้มบ่อยๆ หมอบอกว่า เป็นเพราะเส้นประสาทที่กระดูกคอต่อทับกัน ทำให้เสียการทรงตัว อาการของเขาเริ่มทรุดหนักลงเรื่อยๆ กลายเป็นอัมพาตง่อยเปลี้ย ต้องนอนเฉยๆ  ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย ซึ่งขณะที่สามีของลูกล้มป่วยอย่างสาหัสอยู่นั้น งานการประกวดของลูกก็ประเดประดังเข้ามา ลูกต้องทำงานหนักมากควบคู่ไปพร้อมกับดูแลสามี จน ลูกสาวคนที่ 4 ต้องเข้ามาช่วยลูกในเรื่องงานประกวด ลูกสาวคนนี้ ตั้งแต่เธออยู่ในท้อง การเงินของลูกดีขึ้นมาก ทำอะไรก็ขึ้นไปหมด เงินทองไหลเข้าตลอด พอเขาโตขึ้นก็เป็นเด็กเรียนเก่งมาก สอบได้ทุน AFS จบปริญญาตรีในคณะที่ดี ได้งานที่ดีทำ แต่ก็เข้ามาเป็นกำลังสำคัญในการปั้นเด็กเข้าประกวดของลูกด้วย เธอเก่งและคล่องตัวมาก
 
    ในขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังไปได้สวย  อยู่ๆ เธอก็มาล้มป่วยลงด้วยโรคเดียวกับพ่อของเธอ ตอนนั้นเธออายุแค่ 29 ปีเท่านั้น หมอบอกว่าโรคนี้เกิดจากพันธุกรรม เธอเป็นโรคประสาทการทรงตัวฝ่อ ทำให้ร่างกายซูบซีดลงเรื่อยๆ พูดไม่ได้ ไม่มีแรง เป็นง่อย ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องให้อาหารทางสายยางตลอด แต่สมองส่วนความจำยังจำอะไรได้ดี ช่วงนั้นลูกต้องยอมรับว่า ทำใจได้ยากมาก เพราะคนในบ้าน   ต้องมาเป็นโรคนี้พร้อมๆกันถึง 2 คน 
 
    อาการของสามีลูกเริ่ม หนักขึ้นๆ ลูกสาวก็ช่วยตัวเองไม่ได้เลย งานก็ชุกมาก ช่วงนั้นลูกเหนื่อยมาก บางครั้งหายใจไม่ออกเพราะอาการหอบหืดกำเริบ  ลูกจึงตัดสินใจนำลูกสาวไปส่งให้พี่เลี้ยงจากสถานอบรมผู้ป่วยมืออาชีพดูแล โดยเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ก็ยอม ขอเพียงแต่ให้ดูแลลูกสาวของลูกให้ดี แต่เรื่องราวมันไม่ง่ายอย่างที่คิดค่ะ เพราะพี่เลี้ยงได้รังแกลูกสาวของลูก โดยการตี และพูดทำร้ายจิตใจเธอบ่อยๆ จนเธอเก็บกด จะต่อต้านอะไรก็ไม่ได้ เพราะพูดไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จนกระทั่งต้องแอบกัดลิ้นตัวเอง เพื่อสื่อสารให้ลูกรู้ว่า เธอต้องการบอกให้แม่รู้ว่าเธอโดนรังแกนะ และหลังจากนั้นลูกได้รู้ความจริงว่าลูกสาวโดนรังแก ลูกจึงพาเธอออกมาพักรักษาตัวที่บ้านทันทีนับแต่วันนั้น
 
    หลังจากที่สามีของลูกทนป่วยทรมานยาวนานถึง 20 ปีเต็ม เขาก็เสียชีวิตลงด้วยวัย 67 ปี  และคนที่กำลังจะจากไปคนต่อมาก็คือ ลูกสาวคนที่ 4 ที่กำลังนอนป่วยอยู่นั้นเอง เพราะเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ ทำให้เธอเป็นโรคปอดบวม และตายตามพ่อไป ด้วยวัย 39 ปี
 
    หลังจากที่โรคร้ายชนิดนี้ ได้คร่าชีวิตคนในครอบครัวลูกไปถึง 2 คน หัวใจลูกแทบสลาย แต่ก็ต้องก้มหน้าก้มตายอมรับชะตากรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ลูกก็ได้แต่ภาวนาไม่ให้โรคนี้เกิดกับใครในครอบครัวอีกเลย
 
    จากนั้นลูกได้ตั้งหลักในชีวิตใหม่อีกครั้ง โดยถ่ายทอดวิชาปั้นนางงามนี้ให้กับ ลูกสาวคนสุดท้อง เพราะลูกคนอื่นได้แต่งงานมีครอบครัวกันไปหมดแล้ว ลูกสาวคนสุดท้องของลูกนี้ เคยทำงานบริษัทเหล้าที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่ง ทำหน้าที่คิดภาษีเหล้า เธอทำได้เก่งมาก แต่ภายหลังได้ออกมาช่วยงานปั้นนางงามอย่างเต็มตัว เธอทำได้ดีจนได้ฉายาทางสังคมเหมือนลูก ชีวิตช่วงนั้นทุกอย่างกำลังรุ่ง และเป็นไปได้สวยอีกเช่นเคย แต่และแล้วประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอยอีก คือ ลูกสาวคนนี้ของลูก ก็เริ่มมีอาการเดินเซ เหมือนพ่อ และพี่สาวของเธอ ลูกเห็นภาพนี้ ลูกทำใจไม่ได้เลย ลูกอยากจะหายไปจากโลกนี้ในตอนนั้น เพราะลูกไม่คิดไม่ฝันว่า โรคนี้จะมาเกิดกับครอบครัวเราอีก  เธอมีอาการทรุดลงเรื่อยๆ ทรงตัวไม่ได้  ต้องนั่งแต่รถเข็น แขนขาลีบ ผอบซูบ พูดไม่ได้ช่วยตัวเองไม่ได้ แต่ความจำยังดีอยู่
 
    ลูกเสียเงินค่ารักษาโรคนี้ไปเป็นล้าน ๆ ใครบอกว่าหมอที่ไหนดี ก็ไปรักษา ไม่ว่าจะเสียเงินเท่าไร่ก็ยอม รักษาหมดทุกแผน จนกระทั่งรักษาแบบไสยศาสตร์ ถูกหลอกเอาเงินไปฟรีๆ 5 หมื่นก็มี  ใครว่าอะไรดี ลูกได้ซื้อมาให้ลูกทุกอย่าง ซื้อเตียงนอนแม่เหล็กเตียงละแสน ผ้าพันคอผืนละ 3,500 บาท ลูกก็ซื้อทั้งนั้น
 
    ทุกวันนี้ลูกยังยอมรับไม่ได้ กับการต้องเห็นคนที่ลูกรักจากไปที่ละคน...ทีละคน ด้วยวัยอันไม่สมควร ลูกอยากให้เราแม่ลูกตายไปพร้อมๆกัน จะได้ไม่ต้องมีฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งมานั่งเสียใจ ลูกอยากเป็นโรคร้ายนี้แทนลูกทั้งหมด แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ได้แต่ทำบุญตลอด ปล่อยสัตว์ปล่อยปลา และได้แต่หวังให้เกิดปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับเรา
 
    ทุกวันนี้ แม้ลูกจะอายุถึง 70 กว่าปีแล้ว แต่ลูกก็พยายามทำตัวเองให้แข็งแรงทั้งกายและใจให้ได้ตลอดเวลาทั้งๆที่เป็นโรคหอบ ต้องคอยฉีดยาบ่อยๆ เพราะลูกอยากมีชีวิตยืนยาวเพื่อดูแลลูกสาวคนนี้   เพราะหากไม่มีตัวลูกแล้ว เธอจะอยู่ต่อไปอย่างไร
 
ลูกขอเรียนถามคำถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ค่ะ
 
1. บุพกรรมใดลูกต้องมามีอาชีพที่เกี่ยวข้องกับนางงาม และทำไมลูกมือขึ้นในอาชีพนี้มาก คือนางงามในค่ายลูกมักจะชนะการประกวดเสมอ และบุญใดที่ทำให้ลูกมีชื่อเสียงในวงการนี้คะ อดีตชาติลูกเคยเป็นนางงามหรือเกี่ยวข้องกับนางงามอย่างไรคะ
 
2. อาชีพส่งนางงามเข้าประกวด   และตัวผู้เข้าประกวดนางงาม  จะมีวิบากกรรมเป็นบุญหรือบาปอย่างไรคะ
 
3. นางงามในค่ายของลูกที่ได้รับรางวัล (ดังมีรายชื่อที่แนบมาตอนท้าย) อดีตชาติเคยมีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับลูกมาอย่างไรคะ ทำไมลูกต้องมาส่งเสริมพวกเธอ และดูแลพวกเธอเหมือนลูกหลานคนหนึ่ง และสุดท้ายพวกเธอก็ไม่ลืมลูก คอยส่งเงิน คอยมาเยี่ยมเยียนลูกตอนลูกยากลำบากอยู่เสมอ
 
4. บุพกรรมใดที่ทำให้ สามี และลูกสาวทั้ง 2 ต้องมาเป็นโรคนี้คะ และบุพกรรมใด ลูกต้องมาอุปการะพวกเขา, ทำไมเป็นโรคนี้แล้ว ความจำของพวกเขายังดีอยู่ค่ะ, ลูกสาวคนสุดท้อง เธอจะมีสิทธิ์หายไหมคะ ลูกต้องแก้ไขอย่างไร
 
5. สามีและลูกสาวคนที่ 4 ของลูกตายแล้วไปไหนคะ มีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง   มีอะไรอยากฝากบอกไหมคะ ต้องทำบุญอะไรถึงจะช่วยพวกเขาได้คะ
 
6. บุพกรรมใดที่ทำให้ลูกสาวคนที่ 4 เรียนเก่ง  และขณะลูกท้องเธอจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด และบุพกรรมใดเธอต้องมาโดนรังแกตอนป่วย และต้องกัดลิ้นตัวเอง คะ
 
7. การที่ลูกทุกข์ใจมาก อยากป่วยแทนลูกสาว อยากเป็นผู้รับกรรมแทนลูกสาวทั้งหมด แล้วให้ลูกสาวหายสนิท จะเป็นไปได้ไหมคะ   หรือควรทำอย่างไร,   กรรมอะไรทำให้ลูกเป็นโรคหอบหืด   จะแก้ไขได้อย่างไร
 
8. ลูกและลูกสาวคนสุดท้องเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาหรือไม่อย่างไรคะ และเราทั้ง 2 ต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ต่อไปอย่างไร เพื่อให้ชีวิตมีความสุขขึ้น และให้ได้บุญมากที่สุดคะ
 
รายละเอียดการปั้นนางงาม
 
    ลูกเริ่มต้นอาชีพนี้จากการเป็นช่างเสริมสวยฝีมือดี ทำให้ลูกค้าต่างติดอกติดใจฝีมือการแต่งหน้า การทำผมของลูก จนเป็นที่เลื่องลือถึงขั้นที่ว่า “หากใครจะเข้าประกวดบนเวทีความงาม จะต้องพาตัวเองเข้ามาเสริมสวยที่ร้านของลูกเสมอ” จากการที่ชื่อเสียงของลูกโด่งดังเป็นที่ยอมรับ ทำให้บรรดาสาวงามต่างพากันมาฝากเนื้อฝากตัวให้ลูกเป็นผู้ดูแล ทำให้ร้านเสริมสวยธรรมดาๆของลูกขยับขยายกลายเป็นห้องโถงใหญ่  มีห้องพักประมาณ 10 กว่าห้อง เป็นที่อาศัยของบรรดาสาวๆ ที่เข้ามาฝากตัวกับลูก ซึ่งถ้าเป็นช่วงฤดูการประกวดก็จะมีสาวงามประมาณ 20-30 คนด้วยกันค่ะ 
 
    สาวงามที่มาฝากเนื้อฝากตัวกับลูกบางทีก็มากันเอง บางทีพ่อแม่เด็กก็เอามาฝาก แต่ก็มีบ่อยครั้งที่ลูกต้องเป็นแมวมองไปหาเด็กเอง เพื่อให้เด็กที่เข้าประกวดมีคุณภาพ เด็กในค่ายของลูก จะต้องมาพักอาศัยกินนอนกับลูก โดยจะดูแลพวกเธอทุกอย่างเหมือนลูกเหมือนหลานคนหนึ่งในบ้าน ลูกจะสอนพวกเธอตั้งแต่การฝึกเดิน การนั่ง การไหว้ การโปรยยิ้มบนเวที และสบตาคณะกรรมการ การตอบคำถาม และเทคนิคต่างๆเพื่อให้ชนะใจกรรมการให้ได้ 
 
    การทำอาชีพนี้ เพื่อให้ประสบความสำเร็จในระดับแนวหน้าได้นั้น ต้องมีใจรัก และทุ่มเทในงานสูงมาก ต้องสั่งสมประสบการณ์ ต้องมองคนเป็น เพราะการปั้นนางงามสักคน เพื่อให้ได้ตำแหน่งสูงสุดของการประกวดนั้น ไม่ง่ายเลย ต้องมีค่าใช้จ่าย ต้องมีการลงทุน ลูกต้องเริ่มต้นตั้งแต่ดูนิสัยใจคอเด็กก่อน สืบประวัติพวกเธอให้ดี ก่อนจะตัดสินใจรับตัวมาอยู่ด้วยที่บ้าน แต่บางครั้งก็มีพลาด เพราะเด็กบางคนที่รับเข้ามา นิสัยไม่ดี ใจแตกหนีเที่ยวก็มี  จึงจำเป็นต้องปล่อยให้ออกจากค่ายไปเลย แบบยอมขาดทุน ส่วนเรื่องรูปร่างหน้าตาของเด็ก ให้พวกเธอมีโครงสร้างใบหน้าที่ดี มีบุคลิกที่ดีก็พอ นอกนั้นมาเสริมแต่งเอาในภายหลังได้ไม่ยาก
 
    การปั้นนางงามสักคน ลูกต้องลงทุนใช้เงินเป็นแสนๆ ลูกต้องให้เงินกับพ่อแม่เด็กไปล่วงหน้าก่อน ทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่า ผลการประกวดจะออกมาเป็นอย่างไร เมื่อได้ตำแหน่ง แล้วค่อยเคลียร์กันในภายหลัง หากเด็กได้รางวัล ลูกจะยกรางวัลและเงินรางวัลให้เด็กทั้งหมด แต่ลูกจะได้เงินจากส่วนที่เป็นสปอนเซอร์
 
    ลูกภูมิใจในอาชีพนี้มากๆ ทำแล้วมีความสุข รู้สึกตื่นเต้นท้าทาย โดยเฉพาะเวลาที่สาวงามตอบคำถามบนเวที ตัวลูกเอง จะตื่นเต้นสุดขีดลุ้นอยู่หน้าเวทีราวกับเป็นผู้ตอบเสียเอง และหากพวกเธอได้รางวัลชนะเลิศ ลูกก็จะปลื้มและภูมิใจเป็นที่สุดเหมือนกับตัวเองได้รับค่ะ
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. ในอดีตชาติลูกเคยเป็น “หญิงงามของเมือง”  แต่ไม่เหมือนปัจจุบัน  โดยพระราชาในเมืองนั้นได้จัดให้มีการประกวดหญิงงามเพื่อกระตุ้นให้คนเดินทางมาค้าขาย   แล้วเชิญชาวต่างเมืองมาชื่นชม  โดยการนับจำนวน “พวงมาลัย” ที่เหล่า “กุลธิดา” ในยุคนั้นได้รับจากแขกผู้มาชม
 
 
  • ใครได้รับพวงมาลัยซึ่งเป็นของหลวง  ซึ่งมีราคาแพงเป็นจำนวนมาก  แล้วนำมากองเอาไว้จนท่วมตัว  ก็จะได้รับตำแหน่งเป็น “เทพธิดาแห่งเมือง” 
 
 
  • ซึ่งเปรียบเสมือน “ทูตส่งเสริมการค้า” แล้วเทพธิดาแห่งเมืองก็จะได้รับรางวัลเป็นส่วนแบ่งจากการที่หลวงขายพวงมาลัยได้ …แต่ลูกได้แค่ตำแหน่งรองลงมาจ่ะ! 
 
 
  • ต่อมาภายหลังลูกมีอายุมากขึ้น  ก็เลยหันมาหาพวก “กุลธิดา” ที่สวย ๆ   เพื่อนำมาประกวดประขันกันในงาน  คล้ายกับที่ลูกทำในปัจจุบัน นิสัยนี้จึงติดมา
 
 
  • ที่มือขึ้นในเรื่องนี้  เพราะบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนา  และบุญสงเคราะห์ญาติตามมาส่งผลจ่ะ!  แต่ลูก  ก็ไม่ได้อธิษฐานจิตอะไรเอาไว้ว่าให้มือขึ้น  ,  เมื่อบุญส่งผลทำอะไรก็มือขึ้นทั้งนั้นจ่ะ!
 
2. อาชีพประกวดนางงาม  และอาชีพส่งเสริมการประกวด  ก็จะไปกระตุ้นคนดู  ทำให้คนดูมีโอกาสเกิดความกำหนัดยินดีในกามได้ , ซึ่งก็จะทำให้มีโอกาสทำผิดศีลข้อ 3 ได้จ่ะ!
 
 
  • แล้วก็จะทำให้เรามีส่วนในวิบากกรรมศีลข้อ 3 ไปด้วยจ่ะ! (รายละเอียดก็เคยทำมินิซีรีย์มาให้ดูแล้ว)
 
 
3. นางงามในค่ายของลูกที่ได้รับรางวัลนั้น  บางคนก็เคยเป็นลูกเป็นหลานกันมา  และบางคนก็ได้เกื้อกูลกันในปัจจุบันจ่ะ!
 
 
  • ลูกมีบุญสงเคราะห์ญาติในอดีตตามมาส่งผล กอปรกับประโยชน์เกื้อกูลกันในปัจจุบัน จึงทำให้ลูกมีอัธยาศัยชอบเกื้อกูลผู้ประกวดทุกคนที่มาอยู่ในค่าย และผลบุญนั้นก็ตามมาส่งผลยามที่ลูกลำบาก ก็ทำให้บางคนเหล่านั้น  มาเกื้อกูลลูกด้วยความสมัครใจจ่ะ!
 
 
4. “โรคประสาทการทรงตัวฝ่อ” ที่ทำให้สามีและลูกสาว 2 คน เป็นนั้น  เพราะ ...กรรมในอดีต  ในชาติที่สามีรับราชการ คล้าย ๆ กับ “นายอำเภอ” ในยุคนี้  ต่างแต่ว่ามีอำนาจหน้าที่สามารถตัดสินคดีความต่างๆ ในเขตของอำเภอตนเองได้
 
 
  • ส่วนตัวลูกก็เป็นภรรยาของท่าน , ส่วนลูกสาว 2 คนที่ป่วยในปัจจุบัน  ก็เป็น “ลูกชาย” ของนายอำเภอทั้งคู่  และได้รับราชการด้วย , ดังนั้น พ่อในฐานะเป็นนายอำเภอ  จึงแต่งตั้งลูกชายทั้ง 2 คนเป็น “ปลัดซ้าย” ,  “ปลัดขวา” ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายอำเภอ
 
 
  • นายอำเภอมักจะสั่งลงโทษผู้กระทำความผิด  แต่บางครั้งก็ลงโทษผิดคนเหมือนกัน  โดยให้จับใส่ “ขื่อคา” แล้วนำเดินไปประจานรอบเมือง
 
 
  • แล้วจึงนำมา “จับมัดให้นอนติดกับหลักที่พื้น” ตากแดดตากฝนจนตาย  ซึ่งลูกชายทั้ง 2 คน ก็มีหน้าที่ควบคุมให้เป็นไปตามสั่งของนายอำเภอ 
 
 
  • ลูกชายทั้ง 2 คน  มีนิสัยเจ้าชู้  ดังนั้นวิบากกรรมกาเม  จึงทำให้ชาตินี้มาเป็นผู้หญิง   และพ่อและลูกชาย 2 คน  ก็ต้องมาป่วยด้วยโรคนี้  และค่อย ๆ ทยอยตาย , ลูกคนที่เป็นในปัจจุบันก็คงหายได้ยาก  เพราะเป็นโรคกรรม
 
 
  • ส่วนตัวลูกที่ต้องมาดูแลทุกคน เพราะ ...มีความผูกพันกัน กับพลอยยินดีในการที่นักโทษ ที่ถูกจับมัดให้นอนติดกับหลักที่พื้น  ตากแดดตากฝนจนตาย  กรรมนี้จึงตามมาส่งผลในชาตินี้จ่ะ!
 
 
  • ให้อดทนกันต่อไป  แล้วสั่งสมบุญทุกบุญให้มาก ๆ  อีกทั้งอุทิศบุญให้กับคนที่เราล่วงเกินเขาไว้
 
 
5. สามีและลูกสาวคนที่ 4 ตายใหม่ ๆ ก็ยังวนเวียนอยู่กับครอบครัวได้พักหนึ่ง  แล้วก็ไปเกิดใหม่เป็น “มนุษย์” แล้วจ่ะ!
  • โดยสามีไปเกิดเป็นผู้ชาย  และลูกสาวไปเกิดเป็นผู้หญิง คนละตระกูลจ่ะ!
  • จึงหมดภาวะที่จะรับบุญ  และไม่มีข้อความใดฝากมาจ่ะ!
 
6. ลูกสาวคนที่ 4 ที่เรียนเก่ง เพราะสั่งสมบุญ “ปัญญาบารมี” ด้านการศึกษามาในอดีต
 
 
  • ในช่วงที่ท้องลูกสาวคนนี้    ก็เป็นจังหวะบุญเก่าของลูกส่งผลพอดี    จึงทำให้จับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองจ่ะ! 
 
 
  • ที่ลูกสาวคนที่  4  ต้องถูกรังแกตอนป่วย และกัดลิ้นตัวเอง เพราะ ในชาตินั้น เวลาคุมนักโทษ มักจะร่วมซ้อมนักโทษ และใช้คำวาจาที่หยาบคายด่าไปด้วยจ่ะ!
 
 
7. ลูกไม่อาจจะสามารถป่วย หรือรับกรรมแทนทั้งหมดของลูกสาวได้ เพราะ ใครทำกรรมใดไว้  ก็ย่อมได้รับผลของกรรมนั้น ไม่มีใครรับแทน หรือไถ่บาปแทนได้จ่ะ!
 
 
  • ลูกก็ต้องดูแลลูกให้ดีที่สุด โดยเฉพาะต้องคอยพูดเรื่องบุญหรือธรรมะ ให้ลูกฟังบ่อยๆ จ่ะ!  เพราะโรคนี้ไม่หายจ่ะ!  เป็นโรคเกิดจากกรรม
 
 
  • ที่ตัวลูกเป็น “โรคหอบหืด” เพราะ ...กรรมที่ใช้แรงงานคนและสัตว์มากเกินไปในชาติที่เกิดในสังคมเกษตรกรรมจ่ะ!
 
 
8. ลูกและลูกสาวคนสุดท้อง  ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะ  มาบ้างแบบ “กองเสบียง” โดยบางชาติก็เจอกัน , บางชาติก็ไม่ได้เจอกันจ่ะ!
 
 
  • ดังนั้นชาตินี้มาเจอกันแล้ว  ก็ให้สั่งสมบุญทุกบุญ  ทั้งทาน , ศีล , ภาวนาให้มาก ๆ ปฏิบัติธรรมะให้พบพระธรรมกาย  แล้วอธิษฐานจิตตามติดไป ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ!


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม