ฉันเป็นภรรยาหรือว่าทาสี


[ 13 มิ.ย. 2548 ] - [ 18264 ] LINE it!

Case study
ฉันเป็นภรรยาหรือว่าทาสี
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง 
 
    ลูกเป็นลูกพระธัมฯ  อยู่ที่ประเทศนอร์เวย์  ปัจจุบันลูกเป็นเจ้าของร้านอาหารที่มีชื่อเสียงระดับแนวหน้าของประเทศนอร์เวย์  ถือได้ว่าประสบความสำเร็จในชีวิตทางด้านธุรกิจการงาน แต่กว่าจะได้มาถึงมีวันนี้ ลูกก็ต้องเผชิญกับชะตากรรมของชีวิตมาไม่น้อยกว่า หนังญี่ปุ่นเรื่อง “สงครามชีวิตโอชิน” เลยค่ะ
 
    ลูก เป็นชาวต่างจังหวัด มีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด 5 คน ลูกเป็นพี่สาวคนโตเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ลูกก็ตัดสินใจเข้าไปทำงานที่กรุงเทพ  เนื่องจากลูกเป็นคนหน้าตาดี  จึงมีคนมาชอบมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ นายทหารท่านหนึ่งซึ่งมีอายุมากกว่าลูกถึง 10 ปี เขาเป็นคนมีฐานะดี การศึกษาดี พูดจาไพเราะ อ่อนหวาน จนในที่สุดลูกจึงตัดสินใจแต่งงานกับเขา แต่แล้วชีวิตหลังแต่งงานของลูกก็ไม่เป็นอย่างที่คิด    สามี ที่หวังจะฝากชีวิตไว้ด้วยนั้น  เขาได้ทำร้ายลูกทั้งเตะต่อยทุบตี สร้างความเจ็บปวดอันแสนสาหัสไว้กับลูกอยู่เป็นประจำ และใช้ถ้อยคำหยาบคายด่าทอลูกอยู่เสมอ  ร้ายไปกว่านั้น เขายังแอบไปมีความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทของลูกอีกด้วย   หนำซ้ำคุณแม่ของสามียังกลั่นแกล้งตบตี และบังคับให้ลูกต้องทำงานหนักทุกวัน แถมยังขัดขวางไม่ให้ลูกได้ไปเรียนหนังสือภาคค่ำ โดยการเอารองเท้านักเรียนของลูกไปตัดจนขาด เอาชุดนักเรียนของลูกไปซ่อน  ยิ่งไปกว่านั้นคุณแม่สามียังยัดเยียด   คนรับใช้ให้เป็นภรรยาน้อยของสามีลูกอีกด้วย ลูกได้แต่ทน ทนอยู่ไปให้ได้
 
    ต่อมา สามี ได้ทุนไปเรียนต่อปริญญาโท และปริญญาเอกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาบังคับลูกให้ตามไปปรนนิบัติรับใช้ทั้งซักผ้า รีดผ้า ถูบ้านทำกับข้าวทำงานบ้านทุกอย่าง  แม้แต่ทำรายงานส่งอาจารย์ลูกก็ยังต้องช่วยเขาทำ  เมื่อไรเขาเกิดบันดาลโทสะขึ้นมา  ลูกก็จะถูกทุบ ตี ตบ เตะ อย่างทารุณ  ด้วยมือและเท้าของเขาเอง   ตัวลูกในขณะนั้นนอกจากสภาพจิตใจจะย่ำแย่แล้ว สภาพร่างกายก็ยังย่ำแย่อีกด้วย  เพราะลูกได้ล้มป่วยด้วย โรคไทรอยด์ จนต้องเข้าโรงพยาบาลผ่าตัด เจาะเอาน้ำไขสันหลังออกหลายครั้ง  จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด โชคดีที่ครั้งสุดท้ายมาเจอกับคุณหมอท่านหนึ่งได้ห้ามเอาไว้ไม่ให้ผ่าตัดดูดน้ำไขสันหลังออกอีกแล้ว มิฉะนั้นลูกไม่รอดแน่ๆ
 
    เมื่อออกจากโรงพยาบาล สามีก็ไม่ยอมให้ออกไปไหนหรือติดต่อกับใครใดๆทั้งสิ้น ลูกต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส แม้กระทั่งข่าวที่คุณแม่ของลูกได้เสียชีวิต ลูกก็ยังไม่ทราบเลยค่ะ   จนตัวเขาได้สำเร็จการศึกษาจึงพาลูกกับเมืองไทย ตลอดระยะเวลาที่อยู่อเมริกาจนมาถึงเมืองไทย ลูกต้องทนอยู่เยี่ยงทาสรับใช้สามีคนนี้มานานถึง 11 ปี    ลูกจึงคิดจะหนี…หนี...ไปให้ไกล   แต่ไม่เคยสำเร็จเลยสักครั้ง จนครั้งสุดท้ายลูกหนีจากประเทศไทยไปไกลจนถึงประเทศนอร์เวย์ได้สำเร็จ แต่ลูกไปเพียงลำพังคนเดียวไม่สามารถที่จะนำลูกชายไปด้วยได้                 
 
    สามีของลูกแค้นใจที่ลูกสามารถหนีไปได้   ลูกชายวัย 6 ขวบคนเดียวของลูก ที่อยู่กับเขา จึงถูกทารุณกรรมด้วยน้ำมือพ่อของเขาเองไม่ว่าจะเป็นการทุบ ตี ตบ เตะ เพราะแค้นที่ลูกหนีไปได้   และแม่สามีก็สอนให้ลูกชายเกลียดตัวลูก ซึ่งเป็นแม่แท้ๆ ของเขาด้วย
 
    เมื่อลูกอยู่นอร์เวย์นั้น ต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหาร ต้องทำงานหนักอดมื้อกินมื้อเก็บหอมรอมริบ  บางครั้งเสื้อผ้าที่จะใส่ก็มีน้อย ต้องใส่ตัวเดียวซ้ำๆกันหลายวัน  ลูกอดทนกัดฟันสู้กับความลำเค็ญที่เป็นอยู่อย่างหนัก เป็นระยะเวลา 10  ปีที่อยู่นอร์เวย์ จึงทำให้ลูกสามารถเก็บเงินส่งเสียน้องๆที่เมืองไทยให้ได้เรียนหนังสือกันทุกๆคน และยังทำหน้าที่เป็นทั้งแม่และพี่สาวที่ดีคอยแนะนำสั่งสอนน้องๆ ให้เป็นคนดีผ่านทางจดหมายอีกด้วยค่ะ  และลูกยังสามารถเก็บเงินเซ้งร้าน เพื่อทำธุรกิจร้านอาหารไทยในนอร์เวย์จนประสบความสำเร็จด้วยตัวเองค่ะ
 
    ต่อมา ลูกได้พา น้องชายคนหนึ่ง มาอยู่ที่นอร์เวย์ด้วย   น้องชายคนนี้ ความคิดและนิสัยแตกต่างจากพี่น้องคนอื่นๆ อย่างมาก สมัยเด็กๆ เขาเคยบวชเป็นสามเณร หลังจากลาสิกขาแล้วก็มาช่วยพ่อทำงานก่อสร้าง ในขณะเดียวกันเขาก็มีความสนใจเรื่องการชกมวย จึงเป็นนักมวยไปด้วย จนมีชื่อเสียงโด่งดัง  กอปรกับน้องชายเป็นคนมีรูปร่างหน้าตาดี ทำให้มีผู้หญิงมาติดพันเป็นจำนวนมาก พอเขาได้ผู้หญิงเหล่านั้น แล้วก็ทิ้งไปหาคนใหม่เปลี่ยนไปเรื่อยๆไม่เคยซ้ำหน้า บางคนท้องกับเขา  เขาก็ไม่รับซ้ำร้ายยังบังคับให้ไปทำแท้ง  เขาทำอยู่อย่างนี้เป็นประจำ
 
    เมื่อลูกได้พาน้องชายไปทำงานที่นอร์เวย์ ก็มีหญิงไทยในนอร์เวมาติดพันน้องชายอีกหลายต่อหลายคน ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้หญิงที่มีสามีแล้ว  ลูกเองทนเห็นภาพซึ่งไม่ดีงามไม่ไหว จึงบอกกับน้องชายไปว่า อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่มีสามีแล้ว  ควรเลือกแต่งงานกับผู้หญิงที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบันนี้ เขาได้ฟังเช่นนั้นจึงตัดสินใจกลับเมืองไทย  เพื่อไปแต่งงานกับผู้หญิงที่ลูกแนะนำไว้   แต่เหตุการณ์ที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น  คือ ได้พบศพของน้องชายนอนตายอยู่ใต้ต้นมะขามข้างบ้านในลักษณะที่เชือกรัดคออยู่ ส่วนที่ต้นมะขามก็มีเชือกที่ขาดห้อยแขวนอยู่  ทุกคนต่างสันนิษฐานว่าเหตุของการฆ่าตัวตายในครั้งนี้น่าจะเกิดจาก น้องชายไปทะเลาะกับผู้หญิงที่เขาจะแต่งงานด้วย   และมีเรื่องที่น่าขบคิดอีกเรื่องหนึ่งคือ  สามวันก่อนที่น้องชายจะตาย เขาได้ดื่มเหล้าอย่างเมามายพร้อมทั้งร้องไห้ตลอดทุกวัน แล้วได้ขี่มอเตอร์ไซด์ไปบ้านเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่ตายไปนานแล้ว ครั้นถึงบ้านนั้นก็ตะโกนบอกให้เพื่อนคนนั้นมารับด้วย
 
    จากนั้นลูกจึงกลับเมืองไทย เพื่อไปจัดงานศพให้น้องชาย แล้วจึงได้ไปหาร่างทรงที่สามารถเรียกวิญญาณใครก็ได้ให้มาเข้าทรง  ขณะนั้นคนทรงได้เรียกวิญญาณของน้องชายมาเข้าร่างแล้วเขาจึงร้องออกมาว่า “พี่ช่วยผมด้วย เขามาบอกให้ผมตาย ผมตายอย่างนี้มานานหลายชาติแล้ว” จากนั้นคุณพ่อจึงไปหาร่างทรงอีกคน เพื่อถามถึงเรื่องน้องชายของลูก ร่างทรงบอกว่า ชาติก่อนเขาเป็นคนเจ้าชู้ มักไปยุ่งกับภรรยาผู้อื่นสมอ ทำให้สามีของเขาแค้นมากจึงจับตัวไปทุบลูกอัณฑะจนตาย พอมาเกิดในชาตินี้จึงมีลูกอัณฑะเพียงข้างเดียว  ซึ่งในชาตินี้น้องชายก็มีลูกอัณฑะเพียงข้างเดียวจริงๆ ค่ะ และเมื่อสิ้นเดือนมกราคม พ.ศ.2548 ลูกได้ทำบุญสืบชะตาบ้าน มีพระอาจารย์รูปหนึ่งท่านได้บอกว่า ได้เห็นชายคนหนึ่งที่เคยตายที่นี่ ได้มายืนยิ้ม รับบุญ  เขาอยู่ที่นี่มานานแล้ว และยังไม่ได้ไปไหนเลย 
 
กราบถามคำถามดังต่อไปนี้เจ้าค่ะ
 
1. บุพกรรมใดลูกเองต้องมาเจอสามี และคุณแม่สามีที่คอยทำร้ายร่างกายและยังตบตีซ้ำยังด่าทอเหยียดหยามอยู่เป็นประจำ ลูกควรทำบุญอย่างไรที่จะไม่เจอสภาพเช่นนี้อีกคะ
 
2. บุพกรรมใดที่ทำให้ลูกเกือบเสียชีวิตจากการเจาะน้ำไขสันหลังออกแต่ก็รอดชีวิตได้ด้วยบุญใดคะ และกรรมใดที่ทำให้ลูกต้องลำบากก่อนที่จะพบความสำเร็จในชีวิต แต่ยังต้องเหนื่อยกับการทำงานเช่นเดิม  ทั้งคนรอบข้างยังนำความเดือดร้อนใจมาให้เสมอเป็นเพราะกรรมใดควรแก้ไขอย่างไรคะ
 
3. บุพกรรมใดลูกชายจึงเกิดมาพบกับครอบครัวที่แตกแยก โดนพ่อตบตีจนพูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย ลูกจะช่วยเหลือเขาได้อย่างไรคะ  ลูกและลูกชายมีกรรมร่วมกันมาอย่างไรคะ
 
4. บุพกรรมใดที่ทำให้น้องชายต้องคิดฆ่าตัวตาย ตายแล้วไปไหน เขาได้รับบุญสืบชะตาบ้านหรือไม่อย่างไรคะ ได้รับบุญสร้างองค์พระฯที่ลูกอุทิศไปให้หรือไม่อย่างไรคะ
 
5. บุพกรรมใดทำให้น้องชายคนรองมีอัณฑะข้างเดียว    เพราะในอดีตเคยถูกทุบลูกอัณฑะอย่างที่ร่างทรง
บอกหรือไม่อย่างไรคะ
 
6. บุพกรรมใดที่ลูกเองต้องมารับภาระเลี้ยงดูน้องๆทุกคน และบุญใดน้องสาวคนที่ 3 ปัจจุบันอายุ 40 กว่าปี จึงไม่คิดจะแต่งงาน เธอเคยสร้างบุญมาอย่างไรคะ
 
7. คุณแม่ของลูกตายแล้วไปไหน ลูกทำบุญสร้างพระองค์ฯและบุญต่างๆอุทิศไปให้ท่านได้รับหรือไม่ อย่างไรคะ
 
8. ลูกและญาติพี่น้อง เคยสร้างบารมีร่วมกับหมู่คณะมาหรือไม่อย่างไรคะ   ต้องสร้างบุญอย่างไรถึงจะไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิ์สัตว์ได้ดั่งใจปรารถนาคะ
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. ลูกต้องมาเจอสามีและแม่สามี  ที่คอยทำร้ายด้วยการตบตีและด่าทอ ดูถูก ดูหมิ่นเหยียดหยามอยู่เป็นประจำ  เพราะ “ผูกเวร” กันมาในอดีต
 
 
  • เรื่องมีอยู่ว่า  ในชาตินั้นตัวลูก  ได้เป็นลูกสาวเศรษฐีที่มีฐานะดีมาก  ส่วนตัวแม่สามีในชาตินี้  ก็ได้เป็น “นางทาสี”และสามีในชาตินี้ก็เป็น “ลูกนางทาสี” คือเป็นแม่-ลูกกันจ่ะ!
 
 
  • ซึ่งในชาตินั้น  ตัวลูกจะเป็นคนใจร้อน , อารมณ์ร้าย , มักจะมีนิสัยทุบตีข้าทาสในเรือนเป็นประจำ , ต่อมาตัวลูกเอง ได้เกิดไปรักชอบพอ  ชั่วครั้งชั่วคราวกับลูกนางทาสี คือ ได้เป็นสามีลับๆกัน 
 
 
  • และได้เกิดมีลูกขึ้นมา 1 คน  ระหว่างที่ตัวลูกท้อง ก็ต้องแอบย้ายไปต่างเมือง จนกระทั่งคลอดลูกแล้วก็ได้กลับมา , โดยเอาลูกชายที่คลอดแล้วมาให้นางทาสีและลูกชายนางทาสีเลี้ยง
 
 
  • มักจะคอยข่มขู่ ทุบตี แม่-ลูก เพื่อให้เก็บเป็นความลับ จน 2 คน แม่-ลูก ผูกอาฆาตด้วยความโกรธว่า “สักวันขอให้ได้ทำกลับคืนบ้าง”
 
 
  • มาในชาตินี้ , แม่นางทาสีก็ได้กลับมาเกิด  เป็นแม่สามี , ตัวลูกทาสก็มาเกิดเป็น “สามีในชาตินี้”  และตัวลูกชายก็ได้มาเกิดเป็นลูกชายในชาตินี้  และตัวลูกเองก็มาเกิดเป็นภรรยาของสามี   ที่ถูกทั้งสามีและแม่สามีทำร้าย  ด้วยการตบตีและด่าทอดังกล่าวจ่ะ!
 
 
  • ให้ลูกอโหสิกรรมให้ทั้ง 2 คน เพราะลูกรู้เหตุแห่งเวรแล้ว , “เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร” แล้วหมั่นสั่งสมบุญ  แล้วอธิษฐานให้พ้นจากวิบากกรรมนี้บ่อย ๆ จ่ะ!
 
 
2. ลูกเกือบเสียชีวิตด้วยการ “เจาะน้ำไขสันหลัง”  เพราะ...กรรมมักโกรธ  และชอบทุบตีทำร้ายข้าทาสบริวาร ดังกล่าว ในชาติที่เป็นลูกสาวเศรษฐี ได้ตามมาส่งผล จึงทำให้เป็น “ไทรอยด์” และถูกเจาะน้ำไขสันหลังจ่ะ!
 
 
  • ที่รอดมาได้ เพราะบุญที่ลูกทำไว้กับหมู่คณะในอดีต  โดยชอบเลี้ยงภัตตาหารพระ  บุญนี้จึงตามมาช่วย  และพลอยช่วยให้ประสบความสำเร็จ  ในการทำร้านอาหารในปัจจุบันนี้ด้วยจ่ะ!  
  • แต่ขาดบุญในการชวนคนทำความดีน้อย  จึงทำให้ขาดบริวารที่ดี 
 
 
  • ช่วงแรกของชีวิต วิบากกรรมส่งผล จึงลำบาก แต่ต่อมาประสบความสำเร็จในชีวิต  เพราะบุญที่ทำกับหมู่คณะดังกล่าวมาส่งผลจ่ะ!
 
 
3. ลูกชายก็มีเศษกรรมกาเมเจ้าชู้ , มักโกรธ  และทุบตี ทั้งบุตรธิดาข้าทาสบริวารในอดีตตามมาส่งผล
  • เรื่องมีอยู่ว่าชาตินั้นได้เป็นเศรษฐีมีข้าทาสบริวารมาก , เป็นคนมักโกรธ เพราะถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก  เนื่องจากเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเศรษฐี , จึงมักชอบทำร้ายลูกทาสและบริวารเสมอ 
 
 
  • ด้วยกรรมนี้  จึงได้มาเกิดเป็น   “ลูกทาส”  ในชาติที่ตัวลูกเองเป็นลูกสาวเศรษฐี  และมีสามีลับๆ ที่เป็นทาสในเรือน  จนมีลูกชายดังกล่าวจ่ะ!
 
 
  • ดังนั้นด้วยกรรมกาเมเจ้าชู้ส่วนตัว  และเคยเป็นแม่-ลูกกัน ในชาติที่เป็นลูกสาวเศรษฐีดังกล่าว จึงทำให้มาเกิดเป็นลูกชายของลูกอีก ซึ่งเป็นครอบครัวที่แตกแยกจ่ะ!
  • จะช่วยลูกชายในชาตินี้  ก็ต้องหาทางรับมาอยู่ด้วยแหละจ่ะ!
 
 
4. น้องชายคิด “ฆ่าตัวตาย”  เพราะ “กรรมกาเมเจ้าชู้” จ่ะ! ... เรื่องมีอยู่ว่า  ชาติในอดีตเป็นคนเจ้าชู้  มักทำให้ผู้หญิงตรอมใจจนฆ่าตัวตาย ด้วยวิธีการต่าง ๆ มาหลายคน วิบากกรรมนี้ตามมาส่งผล  จึงทำให้ต้องคิด “ฆ่าตัวตาย” จ่ะ!   
 
 
  • ตายแล้วที่จริงควรจะไป “ยมโลก” แต่ว่ามีบุญเคยบวชพระในอดีต และบุญที่เคยบวชเป็นสามเณรคุ้มไว้  จึงทำให้ไปเกิดเป็น “ภุมมเทวา” ชั้นล่างหรือผีบริวารของภุมมเทวาชั้นสูงอีกทีจ่ะ! 
 
 
  • ได้รับบุญที่อุทิศไปให้  ก็รู้สึกดีใจ และมีสภาพที่ดีกว่าเดิมขึ้นมาหน่อย  คือ กายผ่องใสเพิ่มขึ้น , เสื้อผ้าอาภรณ์ , อาหารทิพย์ดีขึ้นจ่ะ!
 
 
5. น้องชายคนรอง “มีอัณฑะข้างเดียว”  เพราะ ...กรรมในอดีต  เคย “ตอนสัตว์” ด้วยการทุบและตัดอัณฑะทิ้ง ตามมาส่งผลจ่ะ!
 
 
6. ลูกต้องมารับภาระเลี้ยงดูน้องทุกคน  เพราะ ...ในอดีตน้องแต่ละคน มักจะถูกลูกชวนมาทำบุญโดย “ไทยธรรมเป็นของลูก” ส่วนตัวน้องเป็นคนช่วยถวาย  จึงทำให้น้องต้องอาศัยบุญของลูกอยู่ในปัจจุบันจ่ะ!  
 
 
  • ดังนั้นให้ลูกปลื้มใจว่า  ลูกไม่ต้องไปพึ่งใคร เพราะทำบุญมาด้วยตัวเอง  กับให้ปลื้มใจที่ได้ทำบุญสงเคราะห์ญาติในปัจจุบันจ่ะ!
 
 
  • น้องสาวคนที่ 3 อายุ 40 ปีแล้ว  ก็ยังไม่คิดแต่งงาน  เพราะ...ปัจจุบันและอดีตก็ชอบเป็น “อิสระ” จ่ะ!  ไม่ชอบมีเครื่องกังวลใจ, ไม่ใช่เพราะทำบุญแล้วอธิษฐานมา  หรือเพราะเห็นทุกข์โทษภัยในการครองเรือน , แต่ปัจจุบันชอบเป็นอิสระส่วนตัวอย่างนี้จ่ะ!
 
 
  • ลูกก็ไม่ต้องกังวลว่าทำไมเธอไม่แต่งงานเสียที  ให้ตั้งใจทำงานแล้วเป็นเศรษฐีผู้ใจบุญดีกว่าจ่ะ!
 
 
7. คุณแม่ตายแล้วก็ไปเป็น “ภุมมเทวา”  ตอนแรกก็ลำบาก เพราะตอนมีชีวิตอยู่ทำบุญเอาไว้น้อย  ต่อมาได้รับบุญที่อุทิศไปให้จึงทำให้ท่านมีชีวิตที่สบายขึ้นในทุกด้าน  โดยเป็น “ภุมมเทวา” ระดับชั้นกลางจ่ะ!
 
 
8. ลูกและพี่น้อง  ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง”  ในพุทธันดรที่ผ่านมา เป็น “กุลธิดา” มีฐานะ ได้เป็นกองเสบียง ให้หมู่คณะมาจ่ะ!
 
 
  • ให้ลูกหมั่นสั่งสมบุญทุกบุญ ทั้งทาน , ศีล , ภาวนา ให้มาก ๆ อย่าได้ขาดเลยและอย่าให้ตกบุญเลย  แล้วอธิษฐานจิตตามติดไป “ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์” อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ!
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม