ช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์ กลับใจมาซ่อมชีวิต


[ 28 มิ.ย. 2554 ] - [ 18261 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2554
ช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์ กลับใจมาซ่อมชีวิต

 
 
 
พลิกชีวิตด้วยการบวช
ตอน ช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์ กลับใจมาซ่อมชีวิต
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
กราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ
 
        กระผม พระหนู สุภาสโก อายุ 47 ปี บวชโครงการเจ็ดพันรูปเจ็ดพันตำบล ณ วัดพระธรรมกาย ระเบียง 4 ปัจจุบันเตรียมเป็นหัวหน้าศูนย์อบรมวัดเขาน้อย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลวงพ่อครับ กระผมไม่ใช่สาวขอนแก่นแต่เป็นหนุ่มขอนแก่น ก็เพราะเป็นหนุ่มนี่แหละครับ จึงมาบวชเป็นพระได้ แต่ก่อนนั้นกระผมเป็นคนจนมากๆ เนื่องจากโยมพ่อกับโยมแม่มีลูกมากถึง 8 คน และเพราะมีลูกมากนี้เอง โยมพ่อต้องหาเงินมากขึ้น จึงบอกกับโยมแม่ว่าจะไปหางานทำที่ภาคใต้ แต่พอไปแล้ว ท่านก็ไม่กลับมาอีกเลย ทำให้โยมแม่ต้องเป็นผู้เลี้ยงดูลูกเพียงลำพังถึง 8 คน
 
พระหนู สุภาสโก
 
พระหนู สุภาสโก
 
        แต่เนื่องจากโยมแม่เป็นคนพิการ เพราะข้อพับแขนทั้งสองข้างแทบจะงอไม่ได้ จึงทำนาได้ไม่เหมือนคนปกติ แต่โยมแม่ก็ต้องฝืนทำ เพราะหากไม่ทำพวกเราทุกคนก็อดตาย กระผมจึงแก้ปัญหาด้วยการเข้าวัดตั้งแต่เด็ก เพื่อไปขอข้าวก้นบาตรกับพระภิกษุแถวบ้าน เพื่อมากินกันในครอบครัว เมื่อเอามาแล้ว กระผมก็ต้องเสียสละให้น้องกินก่อน บางครั้งอาหารไม่พอ กระผมต้องเสียสละให้น้อง ส่วนกระผมก็ดื่มน้ำแก้หิวแทน ครอบครัวของกระผมจึงมีชีวิตที่อดมื้อกินมื้อ จนกระทั่งกระผมอายุได้ 16 ปี ญาติก็ชวนมาทำงานในอู่ซ่อมมอเตอร์ไซค์ที่กรุงเทพฯ ซึ่งอาชีพซ่อมรถนั้นไม่ใช่ง่ายนะครับ เพราะเราต้องตรวจหาสาเหตุการเสียให้เจอ ซึ่งถ้าหาไม่เจอก็จะตกอยู่ในภาวะเครียด พอเครียด กระผมก็แก้ปัญหาด้วยการเริ่มสูบบุหรี่คลายเครียด จากวันละไม่กี่มวน กลายเป็นวันละ 4-5 ซอง และหลังจากเลิกงานแล้ว ก็จะออกไปกินจิ้มจุ่ม ลาบ น้ำตก และเหล้า 1 แบน กับเพื่อนคนอีสานบ้านเดียวกัน
 
        ต่อมา กระผมก็เริ่มดื่มหนักขึ้นๆ จนได้ฉายาว่า “ไอ้ขี้เหล้า” แต่แม้จะเป็นขี้เหล้า กระผมก็ “อยากรวย” จึงออกมาเปิดอู่ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์เป็นของตัวเองอยู่แถวๆเขตบางซื่อ ช่วงแรกๆก็ดีครับ แต่หลังๆก็แย่ เพราะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้ไม่มีลูกค้า ส่วนพวกลูกค้าที่เขาเอารถมาทิ้งไว้ให้ซ่อมก็ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อม ทำให้ทุนหายกำไรหด จนกระผมเครียดหนัก และหาทางออกด้วยการดื่มเหล้าทั้งวันทั้งคืน ต่อเนื่องถึง 2-3 เดือน จนร่างกายซีดผอม สุขภาพย่ำแย่ เกิดอาการตาค้าง นอนไม่ได้ กระผมจึงคิดวิธีแก้ปัญหาใหม่ โดยคิดที่จะฆ่าตัวตาย พอเมาเหล้าได้ที่ก็ซิ่งมอเตอร์ไซค์ปาดหน้ารถเก๋งที่ขับมาด้วยความเร็ว หวังจะให้เขาชนกระผมให้ตาย แต่ที่ไหนได้กระผมไม่ตาย กระผมจึงคิดใหม่ว่าจะไปเอาปืนที่เพื่อนฝากไว้ ยิงตัวตาย แต่ก่อนจะยิงตัวตาย ก็นึกถึงแต่หน้าของโยมแม่ คิดว่า “ถ้าเราตายไปแล้ว ท่านจะเสียใจมากขนาดไหน” พอคิดได้อย่างนั้น จึงล้มเลิกการฆ่าตัวตาย แล้วปิดกิจการซ่อมมอเตอร์ไซค์ กลับไปหาโยมแม่ที่จังหวัดขอนแก่น
 
        จากนั้น กระผมก็เปิดอู่ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์เล็กๆแถวบ้าน แต่ก็วนเข้าอีหรอบเดิมอีกครับ คือ “เจ๊ง” รายได้ไม่พอกับรายจ่าย กระผมจึงตัดสินใจเข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯอีกครั้ง ซึ่งก็ไม่ก้าวหน้าอีกแล้วครับ แถมพอมีภรรยา เธอก็หนีกระผมไป กระผมจึงกลับมาพึ่งเหล้าทั้งกลางวันกลางคืนอีกจนสุขภาพแย่สุดๆ ปอดก็ไม่ดี ไอทั้งวันทั้งคืน นอนไม่ได้ แล้วก็วนกลับมาหาโยมแม่ที่จังหวัดขอนแก่นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กระผมก็บอกโยมแม่ว่า กระผมจะ “บวชเหล้า” ซึ่งแปลว่า “สาบานว่าจะเลิกเหล้า” พอโยมแม่ได้ยิน ก็ไม่เข้าใจว่าพูดอะไรบวชๆ ท่านจึงถามกระผมว่า “อยากบวชหรือ” กระผมงงๆครับ จึงตอบไปว่า “บวชก็บวช” โยมแม่ดีใจมาก ท่านพากระผมมาบวชในโครงการของวัดพระธรรมกาย
 
พระหนู สุภาสโก
 
พระหนู สุภาสโก
 
        เมื่อบวชแล้ว กระผมรู้สึกชอบชีวิตนักบวชมาก ได้ศึกษาธรรมะที่กระผมไม่เคยรู้จากที่ไหนมาก่อน ได้รู้ถึงโทษภัยของการดื่มเหล้าว่า “ต้องไปตกมหานรกขุม 5” พอรู้อย่างนี้ กระผมกลัวสุดๆเลยครับ คิดขึ้นมาทันทีว่า “หากเราไม่มาบวช ก็ต้องลงไปที่ขุมนี้” ดังนั้น ระหว่างบวช กระผมจึงตั้งใจฝึกฝนตนเองให้เป็นพระแท้ และเมื่อกระผมได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่สวนพนาวัฒน์ จังหวัดเชียงใหม่ กระผมก็ได้สัมผัสถึงชีวิตที่สงบสุขสุดๆ แบบที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน กล่าวคือ ในขณะนั่งสมาธิ จิตใจกระผมสงบนิ่งมาก นิ่งจนใจเบา เพราะกระผมนึกอย่างที่หลวงพ่อสอนว่า “วางใจเบาๆเหมือนขนนกลอยลงมาแตะผิวน้ำอย่างช้าๆ” พอทำอย่างนี้ ใจกระผมก็โล่งเบา เข้าสู่ภาวะปลอดความคิดไปนานถึง 10 นาที เหมือนร่างกายหายไปเลยครับ แล้วอยู่ๆในท้องก็ปรากฏเป็นแสงสว่างขึ้น ราวกับมีดวงตะวันอยู่ภายใน ขนาดโตเท่าฟองไข่ไก่ สว่างแวบๆ
 
        แม้กระผมนั่งสมาธิในตอนกลางคืน แต่ในท้องของกระผมก็สว่างเหมือนตอนกลางวัน มีความสุขแบบอิ่มๆ จนไม่รู้สึกหิวไปหลายวันเลยครับ และนี่แหละครับ คือ เหตุผลสำคัญที่กระผมขอบวชต่อไปเรื่อยๆ อีกทั้งยังอยากจะช่วยหลวงพ่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนา เพราะยังมีมนุษย์ที่ยังไม่รู้ ยังเมาเหล้าเมาชีวิตอีกมาก ซึ่งกระผมมีความตั้งใจที่จะพลิกชีวิตของเขาเหล่านั้นให้ได้ เหมือนที่หลวงพ่อพลิกชีวิตของกระผม ฉุดกระผมขึ้นมาจากอบายครับ
 
        สุดท้ายนี้ กระผมขอให้โครงการบวชจงเจริญครับ เพราะโครงการนี้แหละ จะเข้ามาพลิกฟื้นและฟื้นฟูศีลธรรมโลกอย่างแท้จริงครับ ช่วยกันตามคนมาบวชให้มากๆนะครับ
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
 
พระหนู สุภาสโก
 
อ่านรายละเอียด...
 
รับชมวีดีโอ
ดีเจ อนุรุทธิ์ (ดีเจดรีมสเตชั่น) ชวนบวชพระแสนเข้าพรรษา

รับชมคลิปวิดีโอดีเจ อนุรุทธิ์ ชวนบวชพระแสนเข้าพรรษา 2554
ชมวิดีโอดีเจ อนุรุทธิ์ ชวนบวชพระแสนเข้าพรรษา 2554  MP3 ธรรมะดีเจ อนุรุทธิ์ ชวนบวชพระแสนเข้าพรรษา 2554   Download ธรรมะดีเจ อนุรุทธิ์ ชวนบวชพระแสนเข้าพรรษา 2554


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ทนทุกข์ทรมานมาข้ามภพข้ามชาติ ตอนที่ 5ทนทุกข์ทรมานมาข้ามภพข้ามชาติ ตอนที่ 5

เรื่องของคนชอบชนไก่ ตอนที่ 5เรื่องของคนชอบชนไก่ ตอนที่ 5

เยาวชนพีซเรฟโวลูชั่น ตอนที่ 7เยาวชนพีซเรฟโวลูชั่น ตอนที่ 7



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน