พลิกวัดร้างให้เป็นวัดรุ่งด้วยมือพระพี่เลี้ยง


[ 11 ก.ค. 2554 ] - [ 18265 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2554
พลิกวัดร้างให้เป็นวัดรุ่งด้วยมือพระพี่เลี้ยง

 
 
 
พลิกชีวิตด้วยบุญบวช
ตอน พลิกวัดร้างให้เป็นวัดรุ่งด้วยมือพระพี่เลี้ยง
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
กราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ
 
        กระผม พระสุเทพ มหพฺพโล อายุ 31 ปี บวชในโครงการบวชพระหนึ่งแสนรูป ครั้งแรก (49 วัน) ในปี พ.ศ.2553 ณ ศูนย์อบรมวัดป่าเขากระเจียว จังหวัดบุรีรัมย์ ปัจจุบันเป็นพระพี่เลี้ยง ณ ศูนย์อบรมวัดสุวรรณวนาราม อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ หลวงพ่อครับ กระผมเป็นคนดีครับ อีกทั้งกระผมยังเป็นชาวบุรีรัมย์ที่เกิดในครอบครัวชาวไร่ชาวนา ใช้หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน มีสถานที่ทำงานที่โอ่โถงกว้างใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตา มีสายลมพัดโปรยปราย โดยไม่ต้องติดเครื่องปรับอากาศ แถมยังมีเสียงนกร้องเป็นดนตรีขับขาน ซึ่งก็คือ ท้องนานั่นเองครับ และยามหิวก็ไม่ต้องขับรถไปซื้อสเต็กกินให้เสียสตางค์ เพราะเก็บผักจับปลากินก็เพียงพอ นี่แหละครับชีวิตชาวนาอย่างกระผม
 
พระสุเทพ มหพฺพโล
 
พระสุเทพ มหพฺพโล
 
        กระผมใช้ชีวิตแบบนี้อย่างผาสุก จนเมื่ออายุ 21 ปี กระผมก็บวชตามประเพณีให้พ่อแม่ 1 พรรษา พอครบก็ลาสิกขา ต่อมาก็แต่งงานกับสาวงามประจำหมู่บ้าน จนมีลูกด้วยกัน 1 คน แต่ชีวิตครอบครัวไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด ด้วยความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน เธอตัดสินใจขอแยกทางกลับไปอยู่กับพ่อแม่ โดยทิ้งลูกสาวไว้ให้ดูต่างหน้า 1 คน จึงทำให้กระผมเข้าใจความเป็นจริงของชีวิตมากขึ้น ความรู้สึกอยากจะบวชอีกสักครั้งก็บังเกิดขึ้น พอดีโยมพี่สาวที่อยู่ประเทศเยอรมัน แจ้งข่าวให้กระผมทราบว่า “วัดพระธรรมกาย จะมีการบวชฟรี 1 แสนรูป” พอได้ยินกระผมก็สนใจ แต่ก็ยังไม่ตัดสินใจบวชนะครับ เพราะเป็นห่วงลูกสาววัย 6 ขวบที่ยังเล็กอยู่ แต่โยมพี่สาวก็เหมือนรู้ใจกระผม ชิงช่วงพูดขึ้นมาว่า “ลูกสาวที่ยังเล็ก น้องไม่ต้องห่วง พี่จะย้ายครอบครัวของน้องชายอีกคน มาอยู่ดูแลให้ อีกทั้งจะได้คอยดูแลพ่อกับแม่ให้ด้วย”
 
        เมื่อเป็นเช่นนั้น กระผมจึงปลอดกังวลครับ แล้วมาบวชดังที่ตั้งใจไว้ พอบวชแล้ว กระผมก็ตั้งใจฝึกฝนอบรมตนเองมาโดยตลอด พอใกล้จบโครงการ ตอนแรกตั้งใจว่าจะสึก แต่พอดีมีผู้นำบุญท่านหนึ่งบอกกระผมว่า “หลวงพี่อย่าเพิ่งสึกเลย อยู่รับบุญต่อไปก่อนเถอะเจ้าค่ะ” กระผมจึงตอบตกลง แล้วได้ไปอบรมต่อที่เขาแก้วเสด็จ และไปนั่งสมาธิที่สวนพนาวัฒน์ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งการได้ไปนั่งสมาธิที่นี่วิเศษมากๆ ประดุจเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของกระผมเลยก็ว่าได้ เพราะกระผมพบความสุขมากอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อนเลยในชีวิต กล่าวคือ ขณะที่กระผมนั่งทำตัวสบายๆ ทำใจให้ว่างๆ วางใจเบาๆนิ่งๆไปเรื่อยๆ ประมาณ 5 นาที อยู่ๆองค์พระแก้วใส ขนาดเท่ากำปั้นก็ปรากฏในกลางท้องของกระผม ทำให้ใจกระผมเบาสบาย รู้สึกอิ่มเอิบมีความสุขสงบอย่างอธิบายไม่ถูก กระผมเกิดอาการอย่างนี้ต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลานาน 3-4 วัน เป็นความสุขเกินจะบรรยายครับ ทำให้กระผมรู้สึกว่า กระผมตัดสินใจไม่ผิดเลยที่ยอมบวชต่อ และเป็นสุขในเพศสมณะนี้เหลือเกิน กระผมขอสารภาพว่ากระผมติดใจศูนย์กลางกายแล้วครับ
 
พระสุเทพ มหพฺพโล
 
พระสุเทพ มหพฺพโล
 
        จนกระทั่งได้มารับบุญเป็นพระพี่เลี้ยง และต่อมาพระอาจารย์หัวหน้าศูนย์ฯก็มีคำสั่งให้กระผมไปทำวัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง นั่นก็คือ “วัดสุวรรณวนาราม” ที่อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งร้างมานานแล้ว และในวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2553 ที่ผ่านมา กระผมและพระภิกษุ 3 รูป ได้ไปที่วัดแห่งนี้ เมื่อกระผมไปถึง กระผมก็เห็นแค่เสาโบสถ์ 2 ต้น ซึ่งโครงสร้างอื่นๆได้ชำรุดทรุดโทรม ปรักหักพังลง รกร้างไร้การบูรณะ ไร้พระภิกษุ และไร้ผู้คนดูแล จนกระผมรู้สึกใจหายมากเลยครับ แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกว่า “นี่เรากำลังจะได้มาเป็นเจ้าของบุญใหญ่ พัฒนาวัดร้างแห่งนี้ให้รุ่งเรืองสุดๆหรือนี่”
 
 เสาโบสถ์  2 ต้น ที่กระผมไปเจอในตอนแรกที่มาที่วัดนี้
 
เสาโบสถ์  2 ต้น ที่กระผมไปเจอในตอนแรกที่มาที่วัดนี้
 
        เมื่อพวกกระผมมาถึงวัดร้างแห่งนี้ กระผมสังเกตเห็นอากัปกิริยาของชาวบ้านว่า พวกเขาดีใจกันมากครับ จากนั้นเราก็ได้ไปคุยกับชาวบ้านและเด็กดีวีสตาร์ ชักชวนให้มาช่วยกันถางหญ้าที่รกร้าง ปรับพื้นที่ให้เรียบ และช่วยกันขุดหาใบเสมาใต้ดินจนเจอครับ ซึ่งชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า วัดร้างแห่งนี้ร้างมานานกว่า 100 ปีแล้ว เพราะวัดนี้สร้างขึ้นก่อนที่จะมาตั้งหมู่บ้านแห่งนี้เสียอีก
 
ชาวบ้านและเด็กดีวีสตาร์มาช่วยพัฒนาวัดร้างให้รุ่งเรือง
 
ชาวบ้านและเด็กดีวีสตาร์มาช่วยพัฒนาวัดร้างให้รุ่งเรือง
 
ใบเสมาใต้ดินที่ขุดเจอ
 
ใบเสมาใต้ดินที่ขุดเจอ
 
        ทุกวันนี้ เวลาพระบิณฑบาต ชาวบ้านก็ออกมาใส่บาตรกันอย่างมีความสุข และต่างรวมตัวกันสวดมนต์ทำวัตรเย็นทุกวันไม่ขาดเลย และเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2554 ที่ผ่านมา ได้มีพิธีอัญเชิญพระประธาน ซึ่งเป็นพระธรรมกายองค์ใหญ่จากพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ มาประดิษฐาน เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนที่นี่ อีกทั้งเมื่อชาวบ้านทราบว่าจะจัดบวชพระแสนรูปเข้าพรรษา ณ อดีตวัดร้างแห่งนี้เป็นครั้งแรก จึงทำให้ชาวตื่นตัวกันมาก ต่างส่งลูกหลานเข้ามาบวชด้วยความปีติยินดีถึง 35 คน และได้บอกบุญช่วยกันสร้างศาลาอเนกประสงค์ เพื่อไว้เป็นศาลาปฏิบัติธรรมในโครงการบวชพระแสนรูปเข้าพรรษา รุ่นล่าสุด นี้ด้วยครับ
 
พลิกวัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง
 
พระประธานที่พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ได้มอบให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน
 
ชาวบ้านตื่นตัวส่งลูกหลานมาบวชพระเข้าพรรษาในปีนี้
 
ชาวบ้านตื่นตัวส่งลูกหลานมาบวชพระเข้าพรรษาในปีนี้
 
ศาลาอเนกประสงค์ที่กำลังก่อสร้าง
 
ศาลาอเนกประสงค์ที่กำลังก่อสร้าง
 
        หลวงพ่อครับ กระผมขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่ออย่างสูงสุดจริงๆครับ เพราะหลวงพ่อ คือ “ผู้ให้โอกาส” ทำให้กระผมได้บุญใหญ่ไปกับหลวงพ่อด้วย หลวงพ่อให้โอกาสกระผมมาบวชเป็นพระ เพราะถ้ากระผมเป็นชาวนาธรรมดาๆคนหนึ่ง ก็ไม่มีโอกาสสร้างบารมีแบบนี้หรอกครับ กระผมภูมิใจสุดๆ แบบพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยครับ ที่ได้มาเป็นพระลูกชายของหลวงพ่อ และได้พัฒนาวัดร้างจริงๆให้กลายเป็นวัดรุ่งจริงๆ ถึงแม้ว่ากระผมจะไม่ใช่ซูเปอร์แมน (Superman) แต่กระผมก็ภูมิใจที่เป็นซูเปอร์มั๊งค์ (Super-monk) ผู้พลิกฟื้นวัดร้างให้เป็นวัดรุ่งครับ
 
กราบคารวะด้วยความเคารพอย่างสูง
 
พระสุเทพ มหพฺพโล
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ทนทุกข์ทรมานมาข้ามภพข้ามชาติ ตอนที่ 13ทนทุกข์ทรมานมาข้ามภพข้ามชาติ ตอนที่ 13

การตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิตการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิต

พระเดชพระคุณหลวงปู่ช่วยให้กระผมได้บวชต่อพระเดชพระคุณหลวงปู่ช่วยให้กระผมได้บวชต่อ



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน