อานิสงส์ถวายข้าวตัง


[ 17 ก.ค. 2554 ] - [ 18280 ] LINE it!

อานิสงส์ถวายข้าวตัง
 
อานิสงส์ถวายข้าวตัง
 
     สมบัติในโลกนี้ บังเกิดขึ้นมาก็เป็นเพียงเครื่องอาศัยสำหรับเอาไว้ใช้สร้างบารมี ไม่ใช่มีไว้เพื่อยึดติด เพราะทรัพย์หยาบๆ ในโลกนี้ ไม่สามารถที่จะนำติดตัวไปได้  มีเพียงทรัพย์ละเอียดคือบุญเท่านั้น ที่จะติดตามตัวเราไปได้ทุกหนทุกแห่งเหมือนเงาตามตัว เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว เราไม่ควรยึดมั่นถือมั่นในสิ่งเหล่านี้ ให้นำสิ่งเหล่านี้มาเป็นอุปกรณ์หรือเครื่องอำนวยความสะดวกในการสร้างบารมี เราจะได้มุ่งไปแสวงหาสิ่งที่เป็นสาระแก่นสารของชีวิต คือการสร้างบารมีเพื่อให้บรรลุมรรคผลนิพพาน
 
มีวาระพระบาลีที่ปรากฏอยู่ใน อาจามทายิกาวิมานความว่า
 
“นิมฺมานรติโน นาม     สนฺติ เทวา มหิทฺธิกา
ตตฺถ สา สุขิตา นารี   โมทิตาจามทายิกา
 
     หญิงผู้ยากไร้ มีจิตเลื่อมใส ได้ถวายข้าวตังแก่เราผู้เที่ยวบิณฑบาต  ด้วยอานุภาพแห่งบุญนั้น ครั้นละจากอัตภาพนี้ไป ได้บังเกิดเป็นเทวดาผู้มีฤทธิ์มาก  ชั้นนิมมานรดี เพียงการถวายข้าวตังเป็นทานก็เข้าถึงสุขอันเป็นทิพย์ในเทวโลก”
 
     พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “เมื่อมีจิตเลื่อมใสแล้ว ไทยธรรมไม่ชื่อว่า  เศร้าหมองเลย” หมายถึงว่า เมื่อเกิดความศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม และตัดใจถวายทานได้ ตัดความตระหนี่ออกจากใจอย่างหมดสิ้น มหากุศลอันยิ่งใหญ่ หรือผลบุญอันไพบูลย์  ก็จะบังเกิดขึ้นเป็นอสงไขยอัปปมาณัง ใจที่เลื่อมใสในพระรัตนตรัยเป็นต้นทางแห่งบุญกุศล เหมือนต้นนํ้าเป็นบ่อเกิดของความชุ่มเย็นแก่สรรพชีวิต ดังนั้นเส้นทางแห่งบุญจึงมีแต่ความสดชื่นเบิกบาน ชุ่มเย็นใจอยู่ตลอดเวลา
 
     หัวใจของนักสร้างบารมีนี้ เบ่งบานกว้างขวางไม่มีขอบเขต คิดแต่สิ่งที่ดีๆ เป็นบุญเป็นกุศล และสิ่งที่คิดถึงเป็นอันดับแรกก็คือ ทำอย่างไรบารมีของเราจะเพิ่มพูนขึ้นทุกวันทุกคืน เพศภาวะความเป็นอยู่ไม่ใช่ข้อแม้ ข้ออ้างหรือเงื่อนไข  ที่จะทำให้เราพลาดจากการสร้างบุญบารมี แต่จะเปลี่ยนความคิดในทางตรงกันข้ามว่า แม้จะอยู่ในสถานะเช่นไร เราจะไม่ว่างเว้นจากการสร้างบารมี หากเราคิดได้อย่างนี้ทุกวัน  แม้ชีวิตจะลำบากสักแค่ไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคในการสร้างบารมีเลย เหมือนเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาแล้วในสมัยพุทธกาล
 
     * ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่พระเวฬุวันมหาวิหาร ในกรุงราชคฤห์ ได้มีครอบครัวหนึ่งเป็นอหิวาตกโรค  สมัยนั้นยังไม่มียาใดๆ รักษาโรคนี้ได้ ครอบครัวใดประสบกับโรคร้ายชนิดนี้ ต้องอพยพหลบหนีไปเพื่อให้รอดพ้นจากโรคร้าย คนของครอบครัวนั้นก็เหมือนกัน ต่างประสบมรณภัยไปตามๆกัน เหลือรอดเพียงผู้หญิงคนเดียวเท่านั้นที่หลบหนีออกไปได้ทัน
 
     เธอได้ทิ้งทุกอย่าง ตั้งแต่ทรัพย์สมบัติ บ้านเรือนและของมีค่ามากมายแล้วรีบหนีไปเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด หลังจากหนีไป เธอได้เข้าไปขออาศัยบ้านของคนโน้นทีคนนี้ เปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อยๆ  จนกระทั่งวันหนึ่ง ได้เข้าไปขออาหารในบ้านหลังหนึ่ง  คนบ้านนั้นเห็นเธอแล้วเกิดความสงสารจึงให้อาศัยอยู่ด้วย และให้ข้าวต้มและข้าวตังที่เหลือก้นหม้อสงเคราะห์เธอ เธออยู่สุขสบายด้วยทรัพย์สมบัติมากมาย ต้องมาตกอับเพราะวิบากกรรม ได้แต่อาศัยข้าวตังกินกันตายไปวันๆ เท่านั้น
 
     ในสมัยนั้น พระมหากัสสปะเถรผู้เป็นพระอรหันตสาวก ได้เข้านิโรธสมาบัติ ๗ วัน  ครั้นออกจากนิโรธสมาบัติ ท่านตรวจดูว่า วันนี้จะโปรดใครดี ก็เห็นหญิงยากไร้ผู้นั้นเข้ามาในญาณทัสสนะ และเห็นว่าชีวิตของเธอใกล้จะดับเต็มทีแล้ว เพราะกรรมเก่าของนางกำลังจะตามมาทัน  เมื่อกรรมเก่าให้ผลจะนำหญิงนั้นไปสู่อบายภูมิทันที  พระเถรเจ้าเห็นเหตุการณ์นี้แล้วก็คิดว่า “วันนี้เราจะโปรดหญิงนี้ ช่วยให้เธอรอดพ้นจากอบายภูมิ  เมื่อเราไปยังสถานที่นั้นแล้ว เธอจะถวายข้าวตังก้นหม้อที่ตัวเองจะรับประทานให้แก่เรา เพราะบุญนั้นจะส่งผลให้เธอรอดพ้นจากอบายภูมิ และได้เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์”
 
     เมื่อพระเถระดำริอย่างนี้แล้ว ในเวลาเช้าจึงถือบาตรและจีวร เดินมุ่งหน้าไปยังสถานที่อยู่ของหญิงผู้ยากไร้นั้น  ครั้งนั้น ท้าวสักกะผู้เป็นราชาแห่งดาวดึงส์พิภพทรงทราบถึงการออกจากนิโรธสมาบัติของพระเถระ  ท่านปรารถนาจะได้บุญ จึงแปลงร่างเป็นคนธรรมดา น้อมอาหารทิพย์มากมายถวายแด่พระเถระ แต่พระเถระรู้ถึงการกระทำของท้าวสักกะ  จึงกล่าวห้ามว่า “มหาบพิตร พระองค์เองก็เป็นผู้ที่มีบุญมากอยู่แล้ว อย่าตัดรอนบุญของคนอื่นเลย” แล้วท่านก็ไม่รับบาตรท้าวสักกะ แต่ไปปรากฏกายอยู่ตรงหน้าหญิงนั้นทันที
 
     เมื่อหญิงผู้ตกยากมองเห็นพระเถระยืนถือบาตรอยู่ตรงหน้า เธอมองดูสภาพของตัวเองก็ไม่เห็นสิ่งของอันประณีตที่จะน้อมถวายพระเถระได้  จึงคิดว่า “พระเถระอุตส่าห์มาเป็นเนื้อนาบุญให้เราถึงที่นี่ แต่เราก็ไม่มีของกินหรือของเคี้ยวที่ประณีตเหมาะสมกับพระเถระ แม้ตัวของเราเองก็มีเพียงนํ้าข้าวและข้าวตังอันจืดชืดไม่มีรสชาติ ภาชนะที่ใส่อาหารก็สกปรกไม่สมควรแก่ท่าน  เราไม่สามารถจะเอาของที่ไม่สมควรถวายแด่พระเถระได้แน่ๆ”  จึงกล่าวกับพระเถระว่า “นิมนต์พระคุณเจ้าไปโปรดสัตว์ข้างหน้าเถิด”
 
     แม้พระมหากัสสปะเถระได้ยินเธอพูดเช่นนั้น ท่านก็ไม่ขยับกายไปไหน เพราะท่านมาที่นี่เพื่อหวังจะอนุเคราะห์เธอโดยเฉพาะ  มหาชนที่อยู่ในละแวกนั้น เห็นเหตุการณ์นั้น ต่างพากันกระวีกระวาดน้อมอาหารที่ประณีตมาถวายพระเถระ แต่พระเถระก็ไม่รับ เพียงยืนนิ่งด้วยอาการดุษฎี หญิงผู้ยากไร้เห็นอาการของพระเถระนั้นก็คิดว่า “สงสัยวันนี้พระเถระคงตั้งใจมาโปรดเรา ทั้งเนื้อทั้งตัวของเราก็ไม่เหลือทรัพย์สมบัติอะไรแล้ว ทรัพย์สมบัติภายนอกเมื่อวิบัติบังเกิดขึ้นก็กลับกลายเป็นอื่น เราไม่สามารถที่จะเอามาใช้สอยได้ แต่วันนี้เราจะเอาข้าวตังก้นหม้อซึ่งเป็นอาหารดีที่สุดที่เรามีอยู่ น้อมถวายทำบุญกับท่าน เพื่อเปลี่ยนของหยาบๆ เป็นทรัพย์ละเอียดติดตัวเราไปในภพเบื้องหน้า”
 
     ถึงเธอจะยากไร้ด้วยทรัพย์แต่ก็ไม่จนความคิด คิดดังนี้แล้วหัวใจเธอพองโตด้วยมหาปีติ เพราะความยากไร้ไม่ใช่อุปสรรคของการสร้างบารมี  เธอยากไร้เพียงทรัพย์  แต่จิตใจของเธอไม่ได้ขัดสนเพราะความตระหนี่เลย  เธอได้น้อมถวายอาหารคือข้าวตังก้นหม้อแด่พระเถระ  พระเถระคิดว่า เราจะทำให้ใจหญิงนี้เกิดมหาปีติในบุญเพิ่มขึ้น ท่านจึงนั่งลงฉันในที่อันเหมาะสม  ฉันเสร็จก็อนุโมทนาบุญต่อเธอแล้วก็จากไป มหาปีติอันใหญ่หลวงได้บังเกิดขึ้นแก่หญิงนั้นไม่มีประมาณ แล้วในยามต้นของวันนั้นเอง  นางก็ได้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหันด้วยโรคปัจจุบันทันด่วน ได้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นนิมมานรดี
 
     ท้าวสักกะตรวจดูที่บังเกิดของหญิงนั้นไม่เห็นเธอในภพดาวดึงส์ จึงเข้าไปถามพระเถระว่า “พระคุณเจ้า หญิงที่ใส่บาตรท่านในวันนี้ ตอนนี้ตายแล้วไปบังเกิดที่ไหน”  พระเถระตอบว่า “มหาบพิตร ตอนนี้หญิงผู้ที่เคยยากไร้นั้น ได้ไปบังเกิดอยู่บนสวรรค์ชั้นนิมมานรดี มีมหาสมบัติอันเป็นทิพย์ที่ละเอียดประณีตเกินกว่าเทวดาทั้งหลาย วิมานของเธอมีรัศมีสว่างไสวรุ่งเรืองยิ่งนัก สว่างยิ่งกว่ามณฑลสุริยะที่เรียงร้อยเป็นหมื่นเป็นพันดวง แม้ในสมัยที่เธอเป็นมนุษย์ชีวิตเธอแสนจะขัดสน แต่หัวใจเธอไม่ขัดสนในการสร้างบุญเลย บุญได้เปลี่ยนเธอให้เป็นผู้ที่มียศใหญ่มีอธิปไตย ตอนนี้ได้เสวยสุขอันไม่มีประมาณอยู่บนวิมานนั้นทีเดียว”  ท้าวสักกะได้ฟังถ้อยคำของพระเถระ เกิดความอัศจรรย์ใจยิ่งนักในผลบุญที่บังเกิดขึ้นแก่เธออย่างไม่มีประมาณ ได้กล่าวชื่นชมการกระทำของหญิงผู้ยากไร้นานัปการ
 
     เราจะเห็นว่า คนยากไร้แต่ใจไม่ขัดสน ได้ทุ่มเททำบุญโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน แม้อดอยากไม่มีจะกิน แต่ก็ยอมอดเพื่อจะได้ไม่ต้องอดอีกในวันข้างหน้า  และจะมีสมบัติใช้อย่างเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ เพราะผลแห่งบุญจะส่งผลให้เป็นผู้ที่สมบูรณ์ด้วยมหาสมบัติอันไม่มีประมาณ ใครก็ตามหากมีใจที่เลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ตั้งใจเอาบุญทุกๆ อย่างโดยไม่คิดวิตกกังวล ทุ่มเททำอย่างสุดกำลังความสามารถ ก็จะประสบกับผลบุญอย่างเกินควรเกินคาด จะสมบูรณ์ไปด้วยมหาสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่องกันไปทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม ฉะนั้นขอให้ทุกคนตั้งใจเอาบุญกันให้เต็มที่ เอามหาสมบัติจักรพรรดิกันให้ได้ทุกๆ คน

พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
 
* มก. เล่ม ๔๘ หน้า ๑๗๑
 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
อานิสงส์ถวายผ้าครึ่งท่อนอานิสงส์ถวายผ้าครึ่งท่อน

อานิสงส์ถวายตั่งอานิสงส์ถวายตั่ง

อานิสงส์ถวายงาอานิสงส์ถวายงา



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ธรรมะเพื่อประชาชน