ผมจะสู้เพื่อกอบกู้พระพุทธศาสนา


[ 17 ส.ค. 2554 ] - [ 18264 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2554
ผมจะสู้เพื่อกอบกู้พระพุทธศาสนา

 
 
 
พลิกชีวิตพระธรรมทายาท (รุ่นเข้าพรรษา) ด้วยบุญบวช
ตอน ผมจะสู้เพื่อกอบกู้พระพุทธศาสนา
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
กราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
        กระผม พระนบ ธมฺมปาโล อายุ 49 ปี ปัจจุบันเป็นพระธรรมทายาท อยู่ที่ศูนย์อบรมท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ ขอรายงานตัวครับ หลวงพ่อครับ “ชีวิตต้องสู้” คือ คำนิยามชีวิตของกระผมก่อนที่จะมาบวชครับ อันตัวกระผมนั้นเกิดที่จังหวัดอุทัยธานี กระผมเกิดในครอบครัวที่มีฐานะยากจนมาก มีพี่น้องร่วมอุทรด้วยกัน 5 คนครับ ส่วนตัวกระผมเป็นลูกคนที่สอง ครอบครัวของเราเรียกได้ว่า “ยากจนชนิดปากกัดตีนถีบเลยทีเดียว” กล่าวคือ แม่ของกระผมมีอาชีพรับจ้างทั่วๆไป ส่วนพ่อของกระผมมีอาชีพถีบสามล้อครับ รายได้ของบ้านเราจึงมีแค่พอใช้พอจ่ายไปวันๆ ด้วยเหตุนี้ กระผมจึงต้องช่วยพ่อกับแม่หารายได้พิเศษตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นป.3 ตอนนั้นกระผมอายุประมาณ 9 ขวบครับ โดยกระผมได้ทำงานรับจ้างทุกสิ่งแบกจริงทุกอย่างที่ขวางหน้าเลยครับ กล่าวคือ ทั้งรับจ้างแบกน้ำ, ตักน้ำ, กวาดใต้ถุนบ้าน, ทำนา และเป็นเด็กเลี้ยงวัว บางครั้งพอโรงเรียนเลิกแล้ว กระผมก็จะไปทำงานในโรงหนังเป็นเด็กเก็บตั๋ว และทำความสะอาดอีกด้วยครับ ด้วยความที่บ้านเราจน พ่อกับแม่จึงไม่มีเงินส่งให้กระผมเรียนต่อ กระผมจึงเรียนจบแค่ ป.4 ครับ ถึงจะจนเงินแต่กระผมก็ไม่เคยจะจนใจนะครับ เพราะหัวใจของกระผมมันร้องว่า “สู้โว้ย” ตลอดเวลา
 
พระนบ ธมฺมปาโล, พลิกชีวิตด้วยบุญบวช
 
พระนบ ธมฺมปาโล
 
        ตอนนั้น กระผมได้ทำงานรับจ้างไปเรื่อยๆ จนเข้ามาเป็นจับกังในกรุงเทพฯ ซึ่งสมัยนั้นได้ค่าแรงวันละ 50 บาท กระผมก็อดทนทำครับ เก็บเงินได้เท่าไหร่ กระผมก็จะส่งเงินกลับไปให้ที่บ้านอยู่เสมอครับ จนกระทั่งได้ข่าวว่าพ่อของกระผมล้มป่วยเป็นมะเร็งในทางเดินอาหาร กระผมจึงคิดว่าอยากจะกลับบ้านไปเยี่ยมท่าน แต่ก็โชคร้ายจริงๆครับ กระผมมาโดนรถชนเสียก่อน ตอนนั้นกระผมเจ็บหนักมาก ชนิดที่ใครเห็นก็ต้องบอกว่าอาการน่าเป็นห่วงครับ เพราะขาข้างซ้ายของกระผมหัก 3ท่อน, หัวเข่าข้างขวากระดูกแตกหมด, กระดูกสะโพกเคลื่อนมาอยู่ที่บั้นเอว, ซี่โครงด้านซ้ายก็หักเกือบทั้งหมดด้วย หลวงพ่อครับ เวลานั้นกระผมคิดว่า “ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร  เราจะตายไม่ได้” เพราะใจของกระผมอยากกลับไปหาพ่อมากครับ
 
        กระผมต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเกือบ 1 เดือนเต็มเลยครับ และทันทีที่คุณหมออนุญาตให้กลับบ้าน กระผมก็รีบพาตัวเองกลับไปหาพ่อทันที ทั้งๆที่ตอนนั้นกระผมยังเดินไม่ถนัดเลยครับ ยังต้องใช้ไม้เท้าคอยค้ำยันตลอดเวลาที่เดินไปไหนมาไหน แต่กระผมเองก็รู้สึกดีใจที่ได้กลับไปดูแลพ่อ เพราะไม่นานท่านก็ได้ตายจากกระผมไปจริงๆ และช่วงนั้นเองครับที่ทำให้กระผมเริ่มเห็นสัจธรรมของชีวิตว่า “ไม่มีอะไรคงที่ ไม่มีอะไรแน่นอน แม้แต่ตัวเราเอง” กระผมคิดไปก็หางานใหม่ทำไปด้วย แล้วก็ไปได้งานเป็นลูกจ้างเลี้ยงวัวอยู่กับพี่นุชและพี่รวย สองสามีภรรยา ซึ่งต่อมาพวกเขาได้ชวนกระผมให้เข้ามาบวชในโครงการบวชพระแสนรูปรุ่นเข้าพรรษาครับ
 
        ตอนที่พวกเขามาชวนกระผมบวช แค่ได้ฟังเป้าหมายของโครงการว่า “บวชเพื่อกอบกู้พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป” กระผมก็รู้สึกว่า...ใช่เลย โดนใจกระผมเลย กระผมจึงรีบกรอกใบสมัครทันทีครับ ตั้งแต่วินาทีแรกที่กระผมได้กรอกใบสมัคร กระผมก็รู้สึกปลื้มใจและภูมิใจในตัวเองมากที่จะได้เป็นพระหนึ่งในแสนที่จะช่วยกอบกู้พระพุทธศาสนา อันเป็นงานที่ทรงคุณค่าและยิ่งใหญ่ระดับประเทศ และพอได้เข้ามาอบรม กระผมก็ยิ่งรู้สึกดีใจและภูมิใจเป็นสองเท่าที่กระผมได้มีโอกาสฝึกตัวตามพระธรรมวินัยในพระพุทธศาสนาทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้ฝึกนั่งสมาธิ อันเป็นแก่นแท้ตามหลักธรรมของพระพุทธองค์
 
พระนบ ธมฺมปาโล, พลิกชีวิตด้วยบุญบวช
 
พระนบ ธมฺมปาโล
 
        หลวงพ่อครับ กระผมขอสารภาพว่าตอนที่กระผมนั่งสมาธิแรกๆ กระผมจะรู้สึกฟุ้งซ่านรำคาญใจมากครับ กระผมจะเห็นแต่ภาพธรรมชาติ, ภูเขา, ลำธาร หรือไม่ก็หมู่บ้านครับ แต่พอกระผมได้ยินหลวงพ่อเล่าถึงประสบการณ์ของพระรูปอื่นๆที่ท่านเห็นดวงแก้ว, เห็นองค์พระ แล้วมีความสุข กระผมจึงอยากจะนั่งได้อย่างนั้นบ้าง โดยกระผมจะคอยฟังว่าแต่ละท่านนั่งและทำใจกันอย่างไร แล้วกระผมก็ลองทำตามบ้างครับ กล่าวคือ ก่อนที่กระผมจะนั่งสมาธิทุกครั้ง กระผมจะทำใจสบายๆโดยมองไปที่องค์พระแก้วใสที่อยู่บนโต๊ะหมู่บุชาข้างหน้าห้อง แล้วกระผมก็นึกอาราธนาน้อมท่านให้มาที่กลางท้องของกระผมครับ จากนั้นกระผมจะภาวนา “สัมมาอะระหัง” ไปเรื่อยๆ แล้วสักพักกระผมก็เห็นองค์พระลอยมาหาจริงๆครับ องค์พระมีลักษณะเป็นแก้วใสๆสว่างๆทั้งองค์ สวยงามมาก ทีแรกที่กระผมเห็น องค์พระจะมีขนาดเท่ากำปั้นได้ครับ โดยท่านนั่งขัดสมาธิหันหน้าออกไปทางเดียวกับตัวกระผม แต่พอมองท่านไปนานๆเข้า องค์พระก็ค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นจนเท่าตัวกระผมเลยครับ ครั้งแรกที่กระผมเห็นองค์พระ กระผมดีใจมากจนเก็บความดีใจเอาไว้ไม่อยู่ จึงต้องเอาไปเล่าให้พระอาจารย์ฟัง ซึ่งพระอาจารย์ได้สอนให้กระผมสงบจิตสงบใจ และมององค์พระไปเฉยๆครับ
 
ภาพวาดประสบการณ์ภายในของพระนบ ธมฺมปาโล, พลิกชีวิตด้วยบุญบวช
 
ภาพวาดประสบการณ์ภายในของพระนบ ธมฺมปาโล
 
        หลวงพ่อครับ ตอนนี้กระผมเห็นองค์พระทุกๆรอบครับ เวลามีองค์พระ กระผมจะรู้สึกว่าตัวของเราเบาฟ่อง กระผมมีความสุขมากจนไม่อยากออกจากสมาธิเลยครับ เรียกว่า “อยากจะนั่งสมาธิทั้งวัน ไม่เบื่อเลย” และเดี๋ยวนี้ไม่ว่ากระผมจะทำอะไรหรือเดินไปไหนมาไหน ใจของกระผมจะเกาะเกี่ยวอยู่ที่ศูนย์กลางกายตลอดเวลาครับ กระผมขอกราบเรียนว่า “โครงการของหลวงพ่อเป็นโครงการที่มีคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง ถือเป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ และยังทำให้กระผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่โชคดีมากที่ได้มาบวชเป็นลูกพระพุทธเจ้า เป็นพระหนึ่งในแสนรูปที่จะกอบกู้พระพุทธศาสนาให้สืบต่อไป” สุดท้ายนี้ กระผมไม่มีอะไรมากครับ กระผมเพียงอยากจะกราบเรียนหลวงพ่อว่า “กระผมจะตั้งใจที่จะเป็นเนื้อนาบุญให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ”
 
กราบคารวะด้วยความเคารพอย่างสูง
 
พระนบ ธมฺมปาโล
 
บทความที่เกี่ยวข้องกับผมจะสู้เพื่อกอบกู้พระพุทธศาสนา
 
รับชมวีดีโอ
ไฮไลท์พิธีบรรพชา โครงการบวชพระแสนรูป ครั้งที่ 4


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
จะเป็นอย่างไร เมื่อตายแล้ว ตอนที่ 5จะเป็นอย่างไร เมื่อตายแล้ว ตอนที่ 5

รวยเป็นล้านภายในไม่กี่เดือนรวยเป็นล้านภายในไม่กี่เดือน

ลมหายใจสุดท้ายของนักสร้างบารมีลมหายใจสุดท้ายของนักสร้างบารมี



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน