เมื่อญาติหรือคนที่เรารักป่วยหนักควรดูแลอย่างไร


[ 5 เม.ย. 2555 ] - [ 18275 ] LINE it!

หลวงพ่อตอบปัญหา
 
 
 
 
 
 
โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
 
 

คำถาม: เมื่อญาติหรือคนรักป่วยหนัก ควรดูแลอย่างไร?

 
คำตอบ: การดูแลคนไข้ต้องแบ่งเป็น 2 เรื่องด้วยกัน คือ
 
    1. ดูแลรักษาโรคทางกาย ทางนี้ต้องพยายามหาแพทย์ที่มีความรู้ความสามารถดีที่สุด มาให้การดูแลรักษาให้เต็มที่ เท่าที่ฐานะและสภาพแวดล้อมจะอำนวยให้
 
    2. ดูแลรักษาใจ คนใกล้ชิดจะต้องช่วยกันประคองรักษาใจของคนไข้ ให้ผ่องใสตลอดเวลา จะได้มีกำลังใจที่จะอยู่ผจญกับความร้ายแรงของโรค ไม่ท้อแท้ เบื่อหน่าย หรือสิ้นหวังในชีวิตเสียก่อน สิ่งที่ผู้ดูแลต้องทำเป็นการให้กำลังใจคนไข้ คือ
 
คนใกล้ชิดจะต้องช่วยกันประคองรักษาใจของคนไข้ให้ผ่องใสตลอดเวลา
คนใกล้ชิดจะต้องช่วยกันประคองรักษาใจของคนไข้ให้ผ่องใสตลอดเวลา
 
        2.1 เรื่องร้อนใจใดๆ ต้องป้องกัน อย่าให้คนไข้ได้ยิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเสียหายของทรัพย์สิน เรื่องเดือดร้อนของลูกหลาน หรือเรื่องแสลงใจใดๆ ก็ตาม ต้องป้องกันให้เต็มที่
 
        2.2 โน้มน้าวใจคนไข้ให้มีจิตใจแช่อิ่มอยู่ในบุญ ด้วยการเอ่ยถึงความดีที่คนไข้เคยทำไว้ เช่น พูดชวนให้นึกถึงบุญที่เคยบวชพระ เคยทอดกฐิน ทอดผ้าป่า สร้างสาธารณประโยชน์ต่างๆ ตลอดจนบุญที่เคยให้ความช่วยเหลือผู้อื่น
 
        2.3 ชักจูงคนไข้ให้สร้างบุญกุศลใหม่ให้เต็มตามความสามารถของเขา ตั้งแต่ชวนให้ทำทาน เช่น ให้ตักบาตรเป็นประจำทุกวัน แม้คนไข้ลุกขึ้นมาไม่ได้ ก็อาจนิมนต์พระให้ไปรับบาตรถึงในบ้าน ในห้องนอน หรือถ้าไม่สะดวก อาจนำข้าวปลาอาหารนั้นมาให้คนไข้จบอธิษฐานก่อน แล้วให้คนใดคนหนึ่งไปใส่บาตรแทนก็ได้ เมื่อตักบาตรเสร็จก็มาบอกให้คนไข้ทราบด้วย จะได้เพิ่มความปลื้มปีติขึ้นอีกส่วนหนึ่ง
 
        2.4 ชักชวนคนไข้ให้รักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัด แม้แต่การบี้มด ตบยุง ก็อย่าให้ทำ
 
        2.5 ชักชวนคนไข้กำหนดใจให้เป็นสมาธิ ซึ่งนับว่าเป็นประการสำคัญอย่างยิ่ง อาจนำเทปสวดมนต์ หรือเทปธรรมะของพระสงฆ์ที่คนไข้เคารพบูชามาเปิดให้ฟัง หรืออ่านหนังสือธรรมให้คนไข้ฟัง ถ้าทำได้อย่างนี้เป็นประจำแล้ว หากคนไข้ยังมีบุญอยู่ก็อาจหายได้ ด้วยอำนาจบุญเก่ารวมกับบุญใหม่ที่ทำ แต่ถ้าคนไข้หมดบุญถึงคราวจะต้องตาย ก็จะไปดี ไม่ตกนรกแน่นอน เพราะก่อนตายจิตใจผ่องใสอยู่ตลอดเวลา
 
ผู้ดูแลจะต้องอยู่ในบุญ และใช้อำนาจใจอธิษฐานให้บุญที่เราทำมาดีแล้วช่วยคุ้มครองคนไข้ด้วย
ผู้ดูแลจะต้องอยู่ในบุญ และใช้อำนาจใจอธิษฐานให้บุญที่เราทำมาดีแล้วช่วยคุ้มครองคนไข้ด้วย
 
        การที่จะสามารถโน้มน้าวชักจูงคนไข้ให้ทำอย่างนี้ได้ ผู้ดูแลจะต้องอยู่ในบุญ และใช้อำนาจใจอธิษฐานให้บุญที่เราทำมาดีแล้วช่วยคุ้มครองคนไข้ด้วย ซึ่งจะทำให้เกิดผลดีแก่การรักษาคนไข้ยิ่งๆ ขึ้นไป
 

คำถาม: หลวงพ่อคะ ดิฉันมาวัดเป็นประจำ อีกทั้งยังทำบุญให้ทานอยู่เสมอ แต่ความดีและผลบุญไม่เห็นส่งผลเลย มีสามีก็ขี้เหล้า มีลูกก็สอนยาก ที่เป็นอย่างนี้เพราะอะไรคะ?

 
คำตอบ: ถ้าตอบตามประสาพระ แล้วก็พูดตรงๆ ไม่เอาความไพเราะ ก็ต้องบอกว่าเพราะเรามันผิดเองพลาดเองตั้งแต่ว่า พระท่านสอนนักสอนหนาว่าอยู่คนเดียวไปเถอะจะสบาย ก็ไม่เชื่อ ดื้อไปมีสามีจนได้ตอนจะมีก็ดูคนไม่เป็น ไปเลือกเอาคนขี้เหล้ามา มันก็ผิดซ้ำสองอย่างนี้แหละ
 
มีลูกสอนยาก
มีลูกสอนยาก
 
        ถามว่าทำไมมีลูกสอนยาก? ตอบว่า ก็ไปคว้าเอาคนอย่างนั้นมาเป็นพ่อของลูก แล้วจะได้ลูกฉลาดมาจากไหนพ่อมันดื้อๆ ด้านๆ ใครห้ามก็ไม่ฟัง จนเป็นขี้เมาประจำตำบล แบบนี้ลูกจะไปไหนพ้น ก็ต้องดื้อเหมือนพ่อเหมือนแม่ คนที่ฉลาดหน่อยเมื่อพลาดไปแล้ว เขาจะรีบสอนลูกตั้งแต่ยังเล็กอยู่ ถ้าขนาบไว้ตั้งแต่เริ่มรู้เดียงสา สอนไปขนาบไปเรื่อยๆ ดื้ออย่างไรก็พอเอาอยู่ แต่ถ้าปล่อยให้ดื้อจนโต จะยิ่งสอนยาก
 
        ชีวิตการครองเรือนมันไม่ง่ายนัก ถ้าผิดตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งจบ ชีวิตก็จะเป็นอย่างนี้แหละ คุณผู้ที่ยังโสดจำไว้นะ ผู้ชายไม่เจ้าชู้ ไม่มีหรอก ที่นั่งอยู่นั่นน่ะ เจ้าชู้ทั้งนั้นแหละ ผู้ชายไม่เจ้าชู้ ไม่ขี้เหล้าหายาก เพราะฉะนั้นอยู่คนเดียวไปเถอะ สบายดี
 
มีสามีขี้เหล้า
มีสามีขี้เหล้า
 
        ปัญหาของคุณโยม ถ้าอธิบายตามกฎแห่งกรรมก็ต้องบอกว่า การได้คู่ชีวิตขี้เหล้านั้นเป็นเพราะในอดีตชาติ เราเคยอนุโมทนาบาปเอาไว้ เห็นคนกินเหล้าก็ไม่ห้ามปราม กลับหากับแกล้มเหล้าอร่อยๆ มาปรนเปรอเสียอีก เท่ากับเชียร์ให้เขากินเหล้า บาปส่งผลลงล็อคพอดี ชาตินี้เลยต้องมาทนอยู่กับสามีขี้เมา ดีไม่ดีหลวงพ่อเดาว่าตอนรักกันใหม่ๆ เขากินเหล้า เราคงหากับแกล้มมาปรนเปรอเขาอีกนั่นแหละเพราะฉะนั้นไม่ใช่กรรมเก่าหรอก กรรมใหม่ในชาตินี้ทั้งนั้น ส่วนลูกที่ไม่ฉลาด ว่ายากสอนยาก เขาก็มาเกิดในเส้นทางเดียวกับเรา คนที่มีกรรมเสมอกันมัก ได้เกิดมาเป็นพ่อ-แม่-ลูกกัน เรียกว่ากรรมเป็นเครื่องจำแนกเผ่าพันธุ์ ไงล่ะ
 
มีสามีก็ขี้เหล้า มีลูกก็สอนยาก
มีสามีก็ขี้เหล้า มีลูกก็สอนยาก
 
        พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า “สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งที่อาศัย กรรมย่อมจำแนกหมู่สัตว์ให้เลว และประณีตได้”
 
ทำอย่างไรสามีจึงจะเลิกเหล้าได้คะ?
 
        มันยากนะ เราอย่าเผลอไปกินเหล้ากับเขาเข้าก็แล้วกัน แล้วเราก็สวดมนต์ภาวนาไปเยอะๆ พอเขาจวนตายก็เลิกเองแหละ ตอนนี้เขายอมให้เรามาวัดก็ดีถมไปแล้ว ระวังอย่าไปจู้จี้นัก เดี๋ยวเขาไม่ให้มาวัดอีก เผลอๆ จะเจ็บตัวฟรีๆ ด้วย ตอนนี้ยังมาวัดได้ รีบๆ มานะ มีโอกาสทำบุญทำทานได้ให้รีบทำเสีย
 
ลูกที่ดื้อๆ ว่ายากสอนยาก ก็หาวิธีชวนมาวัดพร้อมกับเราให้ได้
ลูกที่ดื้อๆ ว่ายากสอนยาก ก็หาวิธีชวนมาวัดพร้อมกับเราให้ได้
 
        ลูกที่ดื้อๆ ว่ายากสอนยาก ก็หาวิธีชวนมาวัดพร้อมกับเราให้ได้ ให้ลูกคุ้นกับวัดกับพระเสียตั้งแต่ยังเด็กๆ ถ้าปล่อยจนเขาโตแล้วไม่รู้จะยอมฟังหรือเปล่า ถ้ายังเล็กยังพอเชื่อฟัง ก็จับสวดมนต์นั่งสมาธิพร้อมกับเราไปเลย อบรมลูกให้ดี อบรมตัวเองให้ดี ปล่อยพ่อเจ้าประคุณขี้เมาไว้ก่อน ทำอย่างไรได้ล่ะ ก็ไปเลือกมาเองนี่


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
จะทำอย่างไรดีเมื่อลูกติดรายการโทรทัศน์มากจะทำอย่างไรดีเมื่อลูกติดรายการโทรทัศน์มาก

ทำอย่างไรให้เมืองไทยสะอาดทำอย่างไรให้เมืองไทยสะอาด

ปัญหาสามีเจ้าชู้จะแก้อย่างไรปัญหาสามีเจ้าชู้จะแก้อย่างไร



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

หลวงพ่อตอบปัญหา