ทิพยสถานสำหรับผู้มีบุญ


[ 11 พ.ค. 2555 ] - [ 18295 ] LINE it!

ทิพยสถานสำหรับผู้มีบุญ
 
 
 
     กฏแห่งกรรม เป็นกฏสากลของโลกที่มีมาก่อนกฏหมายใดๆ ทั้งสิ้น  เพราะเป็นกฏธรรมชาติ ที่ไม่มีใครบัญญัติขึ้นมา แต่เป็นผลที่เกิดจากการกระทำของแต่ละคน ถ้าเราทำดีก็จะได้รับอานิสงส์แห่งความดี ทำความชั่วก็มีวิบากอันเผ็ดร้อนเป็นผล คนทำกรรมดีเมื่อละโลกไปแล้ว บุญก็จะส่งผลให้ไปเสวยสุขในสุคติโลกสวรรค์ แม้เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์อีก ก็จะบริบูรณ์ด้วยมนุษย์สมบัติ มีแก้วแหวนเงินทอง เครื่องใช้ไม้สอยครบครันไม่ขาดตกบกพร่อง เพราะอำนาจแห่งมหาทานบารมีส่งผล หรือจะเป็นผู้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ไข้ ก็ด้วยอำนาจแห่งศีลที่รักษาเอาไว้อย่างดีแล้ว หรือมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด รู้แจ้งแทงตลอดในศาสตร์ทั้งปวง ก็ด้วยอำนาจแห่งสมาธิที่ได้ฝึกฝนใจให้หยุดนิ่ง ทำสมาธิภาวนามาข้ามภพข้ามชาตินั่นเอง
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ปาณาติปาตสูตร ว่า
 
     "จตูหิ ภิกฺขเว ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย กตเมหิ จตูหิ ปาณาติปาตี โหติ อทินฺนาทายี โหติ กาเมสุ มิจฺฉาจารี โหติ มุสาวาที โหติ อิเมหิ โข ภิกฺขเว จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค
 
     ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ ย่อมเกิดในสวรรค์ เหมือนถูกเชิญมาเกิด ธรรม ๔ ประการคือ เป็นผู้งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ เว้นจากการลักทรัพย์ เว้นจากการประพฤติผิดในกาม เว้นจากการพูดเท็จ บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการนี้แล ย่อมบังเกิดในสวรรค์เหมือนถูกเชิญมาเกิด"
 
     เรื่องนรกสวรรค์ เป็นเรื่องปกติที่มีสอนอยู่ในพระพุทธศาสนา เพราะพระพุทธศาสนาสอนเรื่องกฏแห่งกรรมว่า ถ้าทำดีก็ได้ไปสุคติภูมิ ทำบาปอกุศลก็มีอบาย ทุคติ วินิบาต นรกเป็นที่ไป การศึกษาเรื่องนรกสวรรค์เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง สามารถพิสูจน์ได้จริงด้วยวิชชาธรรมกาย หรือรอพิสูจน์ตอนละโลกไปแล้ว การจะไปบังเกิดในสุคติสวรรค์ก็มิใช่เป็นเรื่องยากเย็น เหลือวิสัยอะไร ถ้าเราสั่งสมบุญเอาไว้มากๆ จิตใจผ่องใส ละโลกไปแล้ว สุคติภูมิย่อมเป็นที่ไป สมบัติอันเป็นทิพย์ก็จะบังเกิดขึ้นมารองรับผู้มีบุญ เพื่อรอคอยผู้มีบุญจะมาเสวยทิพยสมบัติเหล่านั้นได้
 
     การจะได้ไปบังเกิดบนสวรรค์นั้น ต้องรู้วิธีการไปเกิด ซึ่งวิธีการก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร พระพุทธองค์ทรงแนะวิธีการเอาไว้ง่ายๆ ว่า ให้ละเว้นจากบาปอกุศล เว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่รังแกเบียดเบียนสัตว์อื่น ไม่ลักขโมย ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ เพราะทรัพย์สมบัติใดที่ได้มาโดยทุจริต ทรัพย์สมบัตินั้นก็เป็นของร้อน อยู่กับเราได้ไม่นาน ไม่ช้าก็ต้องมีอันวิบัติไป ทรัพย์สิ่งของมีค่าของใคร ใครก็หวงแหน จึงไม่ควรไปขโมยของเขา ควรหาทรัพย์มาโดยสุจริต
 
     นอกจากนี้ต้องเป็นคนไม่ประพฤติผิดในกาม ให้ยินดีเฉพาะคู่ครองของตน และต้องเป็นคนมีวาจาสัตย์ ไม่พูดเท็จโกหกหลอกลวงคนอื่น กระทั่งพูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อไร้สาระก็ควรเว้นเสีย เพราะชาวสวรรค์เขาไม่ทำกรรมกิเลส ๔ อย่างเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเทพบุตรเทพธิดา ต่างมีศีลกันเป็นปกติ ฉะนั้น เราต้องรู้ว่าจะเข้าไปเป็นสหายแห่งเทพ ก็ต้องประพฤติตนเหมือนชาวสวรรค์ ต้องรู้จักให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากหรือเหลือวิสัย เพราะปกติเราก็ทำกันอยู่แล้ว แต่คนส่วนใหญ่ยังประมาทอยู่ จึงไม่ได้วางแผนผังชีวิตหลังความตาย
 
     ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความรู้ขั้นพื้นๆ เท่านั้น เพราะสวรรค์แต่ละชั้นมีความละเอียดที่แตกต่างกันมาก เขาวัดกันที่กำลังบุญ ถ้าบุญมากวิมานก็ใหญ่โตมโหฬารสวยงาม มีรัศมีกายสว่างรุ่งโรจน์ สวรรค์แต่ละชั้นมีความแตกต่างกัน ตั้งแต่อายุ วรรณะ สุข ยศ  ถ้าหากว่ามีบุญมากเราก็เลือกเกิดได้ จะไปอยู่สวรรค์ชั้นไหนก็เลือกเอา ตั้งแต่ชั้นจาตุมหาราชิกา ชั้นดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดี และปรนิมมิตวสวัตดี
 
     * สวรรค์ ๖ ชั้นเหล่านี้ มีไว้รองรับผู้มีบุญทุกคน เลือกเกิดกันได้เลย เหมือนมหาเศรษฐีผู้มีสมบัติมาก อยากจะอยู่บนปราสาท อยู่ในคฤหาสน์ใหญ่โตมีข้าทาสบริวารมากมายก็ทำได้ ชาวสวรรค์เขาก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน มีบริวารที่บังเกิดขึ้นด้วยอานุภาพบุญ อย่างสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาซึ่งเป็นสวรรค์ชั้นแรก มีท้าวจาตุมหาราชทั้ง ๔ คอยดูแลรักษา คือท้าวธตรัฐ มีคนธรรพ์เป็นบริวาร อยู่ทางทิศตะวันออกของเขาพระสุเมร ท้าววิรุฬหก ปกครองพวกกุมภัณฑ์ อยู่ทางทิศใต้ ท้าววิรูปักษ์จะปกครองพวกนาคทุกชนิด นาคกี่ตระกูลอยู่ในอาณัติของท้าววิรูปักษ์ทั้งหมด และท้าวกุเวร หรือที่เราคุ้นกันว่าท้าวเวสสวัณ จะคอยดูแลพวกยักษ์ทุกจำพวก อยู่ทางทิศเหนือของเขาพระสุเมร
 
     กำหนดอายุของสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชประมาณ ๕๐๐ ปีทิพย์ วันหนึ่งคืนหนึ่งของเขาเท่ากับ ๕๐ ปีในเมืองมนุษย์ ฉะนั้น ถ้า ๕๐๐ ปีทิพย์ของเขา ก็เกือบ ๙ ล้านปีมนุษย์  ครั้นพระเจ้าพิมพิสารสวรรคตแล้ว ท่านพอใจมาบังเกิดในสวรรค์ชั้นนี้ เพราะเคยเสวยทิพยสมบัติชั้นนี้มานานถึง ๗ ครั้ง อันที่จริงท่านจะไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นสูงๆ ก็ได้ แต่เพราะความพอใจในชั้นนี้ ท่านถึงเลือกมาเกิดในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกานี่แหละ
 
     ที่สูงขึ้นไปอีก คือสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีท้าวสักกเทวราชเป็นผู้ปกครอง มีปราสาทไพชยนต์ ๑๐๐ ชั้น สูงถึง ๑ โยชน์ แต่ละชั้นมีเทพธิดานางฟ้ามากมาย มีสวนนันทวัน สวนจิตรลดา ซึ่งบังเกิดขึ้นด้วยบุญญานุภาพทั้งนั้น และยังเป็นที่ประดิษฐานพระจุฬามณี ซึ่งในสมัยที่พระพุทธองค์เสด็จออกผนวช ได้ทรงอธิษฐานว่า ถ้าจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้า พอตัดมวยผมแล้วโยนขึ้นไปในอากาศ ก็ขออย่าให้พระเกศเมาฬีนี้ตกลงมาบนพื้นดิน ด้วยอานุภาพบุญที่พระองค์ได้สั่งสมไว้ดีแล้ว พระอินทร์ก็ได้นำไปบรรจุไว้ที่จุฬามณีเจดีย์ ซึ่งยังเป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วอีกด้วย
 
     ทุกวันพระ ๑๔ คํ่า ๑๕ คํ่า ชาวสวรรค์จะพากันหาดอกไม้ของหอมมาบูชาพระจุฬามณีแห่งนี้เป็นประจำ เพราะเขารักบุญกันมาก จะมีการไปฟังธรรมจากพระอินทร์ หรือจากสมณเทพบุตรที่มาจากชั้นดุสิต เขาจะรวมกันที่สุธรรมาเทวสภาซึ่งสูง ๕๐๐ โยชน์ แล้วประกาศความดีของชาวโลกที่ทำความดีกันในวันนั้น โดยเหล่าเทวดาชั้นต่างๆ จะลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อตรวจดูว่า มีใครให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา บำรุงบิดามารดาบ้าง ฉะนั้น ใครทำความดีในวันนั้น ชาวสวรรค์เขาจะอนุโมทนาสาธุการ  
 
     เพราะฉะนั้น อย่าไปคิดว่าการทำความดีหรือความชั่วของเรา จะไม่มีใครรับรู้ ท่านถึงใช้คำอยู่ประโยคหนึ่งว่า นตฺถิ โลเก รโห นาม ขึ้นชื่อว่าความลับ ไม่มีในโลก แม้ไม่มีใครรู้ อย่างน้อยตัวเราเองก็รู้ เราจะอยู่ในสายตาชาวสวรรค์ตลอดเวลา ถ้าอยากให้เขาอนุโมทนา ก็ให้ทำความดีไว้มากๆ ทำไปจนตลอดอายุขัย ก่อนหลับตาลาโลกก็จะมีทูตสวรรค์นำราชรถมารับ และเชื้อเชิญให้ไปเป็นสหายแห่งเทวดา
 
     ในสวรรค์ชั้นนี้ยังมีเทพบุตรที่สามารถนิรมิตกายให้เป็นช้างเอราวัณสูงถึง ๑๕๐ โยชน์ เป็นช้างคู่บุญของพระอินทร์สวยงามมาก มีต้นไม้สวรรค์ ชื่อปาริฉัตตกะ หรือต้นปาริชาต สูง ๑๐๐ โยชน์ เวลาออกดอกแต่ละครั้ง กลิ่นจะหอมฟุ้งขจรขจายไปทั่วสวรรค์ พระบรมศาสดาของเรา หลังจากที่ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์แล้ว ได้เสด็จไปจำพรรษาที่สวรรค์ชั้นนี้ พระองค์ทรงเทศน์เรื่องพระอภิธรรมโปรดเทพบุตรพุทธมารดาและชาวสวรรค์ ให้ได้บรรลุธรรมาภิสมัยกันมากมายนับไม่ถ้วน
 
     ในสมัยพุทธกาล ทั้งพระบรมศาสดาและพระอรหันต์สาวกหลายๆ ท่าน เช่น พระมหาโมคคัลลานะ ท่านจะไปสวรรค์ชั้นนี้เป็นประจำ แล้วนำเอาเรื่องราวของชาวสวรรค์ มาเล่าให้กับเหล่าพุทธบริษัทฟัง จะได้รักในการสั่งสมบุญบารมีมากยิ่งขึ้น พระโมคคัลลานะท่านมีฤทธิ์มาก เมื่อไปสำรวจดูตามวิมานต่างๆ ก็จะคอยสอบถามถึงบุพกรรมของเทพบุตรเทพธิดา ว่าทำบุญอะไรไว้ ถึงมีวิมานสว่างไสว มีสมบัติมากมาย ทำให้มนุษย์อยากทำความดีตาม ในสมัยนั้นจึงมีผู้ทำความดีแล้วไปบังเกิดในสุคติสวรรค์กันมาก
 
     หลวงพ่อขอเล่าเกี่ยวกับสวรรค์เท่านี้ก่อน โอกาสหน้าจะได้นำมาถ่ายทอดให้พวกเราได้เรียนรู้กันอีก ขอให้ทุกๆ ท่านตั้งใจสั่งสมบุญกุศลกันให้เต็มที่ ทำตามที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ว่า ให้ละชั่วทุกชนิด และสั่งสมความดีอยู่เป็นประจำสมํ่าเสมอ ด้วยการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ทำใจให้ผ่องใส ฝึกฝนใจให้หยุดนิ่ง ตั้งใจปฏิบัติให้เข้าถึงพระธรรมกายกัน เราจะได้ไปศึกษาวิชชาธรรมกาย ไปรู้ไปเห็นภพภูมิอันเป็นทิพย์เหล่านี้ ตลอดจนถึงภพอันวิเศษคือพระนิพพาน อาศัยธรรมกายไปตรวจดูก็จะรู้เห็นได้หมด  เพราะมีดวงตาเห็นได้รอบทิศ รู้แจ้งเห็นแจ้งตลอดหมดทั้งนิพพาน ภพสาม โลกันต์ หลวงพ่ออยากให้ทุกท่านเป็นนักพิสูจน์ทดลองค้นคว้า เพื่อไปรู้ไปเห็นเรื่องราวเหล่านี้ให้ได้ด้วยตัวเอง เราจะได้เกิดความภาคภูมิใจ และมีกำลังใจสั่งสมบุญบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ดังนั้น ให้หมั่นทำใจให้หยุดนิ่งกันตลอดเวลา และทำให้ถูกวิธี ปรับปรุงกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเข้าถึงพระธรรมกายกันทุกๆ คน


พระธรรมเทศนาโดย: พระเทพญาณมหามุนี
 
นามเดิม พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
 
* ธรรมปริทรรศน์ / อริยอุโปสถสูตร

 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
จอมเทพอสูรจอมเทพอสูร

ท้าวสักกะจอมเทพท้าวสักกะจอมเทพ

ท้าวสักกะจอมเทพท้าวสักกะจอมเทพ



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ธรรมะเพื่อประชาชน