ชาวนาขายก้อนหิน


[ 22 ม.ค. 2556 ] - [ 18263 ] LINE it!

มังกรสอนใจ 12
บทความให้กำลังใจในการดำเนินชีวิต
 
ชาวนาขายก้อนหิน
 
     มีชาวนาคนหนึ่ง อาศัยอยู่ที่เชิงเขาสูงเสียดฟ้า เต็มไปด้วยหน้าผาสูงชัน ไม่เคยมีใครขึ้นไปถึงยอดเขาได้ อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่ชาวนาคนนั้นกำลังตัดฟืนอยู่ที่หลังเขา เขาได้พบทางเล็ก ๆ สายหนึ่งโดยบังเอิญด้วยความสนใจเขาจึงได้เลาะเลียบไปตามทางนั้น ซึ่งคดเคี้ยวไปมาค่อย ๆ ปีนขึ้นไปอยู่นานมาก ในที่สุดก็ถึงยอดเขา
 

          เจ้าของร้านอัญมณีเห็นหินเหล่าน้้นแล้ว กลับยิ้มอย่างเย็นชา พลางบอกกับเขาว่า "หิน 2 กระสอบใหญ่นี้ ฉันให้ราคาแก 1 เหรียญเอาไหม"

     คาดไม่ถึง...
     ....บนยอดเขากับเป็นที่ราบ โล่ง ทุ่งหญ้าเขียวขจี มีดอกไม้ป่าที่ไม่รู้จักชื่อบานสะพรั่งอยู่เต็มไปหมด บรรยากาศสงบสงัดและทัศนียภาพงดงามยิ่งนัก เขาเดินต่อไปได้อีกครู่หนึ่งก็พบสระน้ำแห่งหนึ่ง น้ำใสมาก สามารถมองเห็นปลาว่ายไปมาได้อย่างชัดเจน ที่ริมสระมีหินจำนวนมากส่งประกายระยิบระยับ มีสีสันต่าง ๆ งดงาม ชาวนาคนนั้นเคยได้ยินคนเล่าถึงอัญมณี แต่ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเพชรนิลจินดาต่าง ๆ มีลักษณะอย่างไร เขาคาดคะเนว่า หินที่งดงามเหล่านี้คงจะเป็นอัญมณีเป็นแน่ ในที่สุดก็เลือกเอาหินที่สวยที่สุดก้อนหนึ่งนำกลับบ้าน

     วันรุ่งขึ้น เขาเข้าไปในเมือง หาจนเจอร้านอัญมณีแห่งหนึ่ง ได้นำหินก้อนนั้นให้เจ้าของร้านดู เจ้าของร้านอัญมณีรับหินก้อนนั้นไปพินิพิจารณาดูอย่างละเอียด แล้วบอกเขาว่า
 
     "นี่เป็นอัญมณีที่ล้ำค่าหายากชนิดหนึ่ง แกขายให้ฉันก็แล้วกัน ฉันให้ราคา 1 หมื่นเหรียญ"
 
     ชาวนาได้ยินคำพูดนั้นแล้วรู้สึกดีใจมาก แต่แสดงท่าทางทำเป็นเฉย ๆ ไม่ตื่นเต้น ตอบไปว่า
 
      "ตอนนี้ฉันยังไม่อาจตัดสินใจได้ว่าจะขายหรือไม่ พรุ่งนี้เราค่อยคุยกันอีกทีก็แล้วกัน"
พอชาวนานั้นกลับถึงบ้าน ก็รีบระดมทุกคนในครอบครัว ขึ้นเขาไปขนก้อนหินหลากสีเหล่านั้นลงมา ชวยกันขนตลอดวัน ขนหินเหล่านั้นได้มา 2 กระสอบใหญ่
 
     เขาใช้เกวียนขนหิน 2 กระสอบนั้นเข้าไปในเมือง กระหยิ่มใจว่าคราวนี้จะต้องร่ำรวยมหาศาลแน่นอน แต่พอเจ้าของร้านอัญมณีเห็นหินเหล่าน้้นแล้ว กลับยิ้มอย่างเย็นชา พลางบอกกับเขาว่า
 
     "หิน 2 กระสอบใหญ่นี้ ฉันให้ราคาแก 1 เหรียญเอาไหม"
 
ท่านสาธุชนทั้งหลาย...

      "สิ่งดีที่มากเกินก็อาจทำให้ดูด้อยค่า" โดยทั่วไปคนเราตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ด้วยองค์ประกอบสำคัญ 2 ประการ คือ ด้วยเหตุผลและด้วยอารมณ์ และคนจำนวนไม่น้อยเลยที่องค์ประกอบด้านอารมณ์ความพอใจ มีอิทธิพลเหนือกว่าองค์ประกอบด้านเหตุผล เหมือนอาหารแม้มีสารอาหารครบถ้วยบริบูรณ์ แต่ถ้าไม่อร่อยก็ไม่ค่อยมีใครอยากรับประทาน ตรงกันข้าม อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอประมาณ แต่มีรสชาติอร่อย ผู้คนกลับนิยมชมชอบ เมื่อเราทราบอย่างนี้แล้ว ในการติดต่อสัมพันธ์กับคนทั้งหลาย เราจึงต้องคำนึงถึงอารมณ์ของอีกฝ่ายหนึ่งให้มาก ๆ ด้วย จะคิดแต่เพียงว่าเราถูก เรามีเหตุผลเพียงเท่านั้นไม่ได้ ต้องมีศิลปะในการนำเสนอ รู้จักหวะจะโคนรู้กาลเทศะ เราจะประสบความสำเร็จในการงาน บางครั้งเรื่องดี ๆ แต่เสนอมากไป พูดมากไป อาจถูกแปลเจตนาผิด หวังดีเลยกลายเป็นร้าย หรือถูกมองเป็นของไร่ค่าไปได้ เหมือนชายชาวนาในเรื่องนี้เป็นต้น

โดย พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ M.D., Ph.D.

 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ผู้เฒ่าซ่ายเสียม้าผู้เฒ่าซ่ายเสียม้า

ส้มกิ๊กกลายเป็นส้มจื่อส้มกิ๊กกลายเป็นส้มจื่อ

ปัญหาเรื่องพระอาทิตย์ปัญหาเรื่องพระอาทิตย์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ธรรมะสอนใจ